ตอนที่ 14-8 รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
สเตอตันยืนนิ่งอยู่ในกลางอากาศ แม้ว่าการสู้รบรอบตัวของเขาจะรุนแรง แต่เขาก็เป็นเหมือนศิลาในท่ามกลางคลื่น ไม่มีใครสามารถทำให้เขาขยับได้แม้แต่น้อย
สเตอตันมองดูทุกอย่าง อย่างเย็นชา
นักรบและสมาชิกเผ่าตายไป แต่เขาไม่สนใจแม้แต่น้อย
“ได้เวลาแล้ว!” สเตอตันพึมพำเบาๆ
“มาเริ่มกันเลย!” เสียงแหบแห้งดังขึ้นทันที คนทั้งสามคนพุ่งพุ่งออกมาทันทีจากภายในกลุ่มกองทัพมังกรดำที่สวมชุดนักรบสีดำ ร่างคนชุดดำทั้งสามร่างเคลื่อนไหวแทบจะพร้อมกันกับสเตอตันบุกเข้หาหัวหน้าฝ่ายศัตรูทั้งสองคน
นักรบสมิงและบุรุษผอมผมทองหัวเราะลั่นทั้งสองคน
“สเตอตันมีลูกไม้ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อจริงๆ เพียงแต่ข้าไม่คาดเลยว่าเขาจะมีถึงสามร่าง” บุรุษผมทองคร็อธมันพูดเสียบเบา
“โชคดี เราเองก็มีการเตรียมตัวไว้เช่นกัน” นักรบสมิง (หัวเสือ) พูดอย่างเย็นชา
บุรุษชุดทองชื่อคล็อธมันหรี่ตารัศมีแช่แข็งยิงออกมาจากพวกเขา พร้อมกับเสียงคำรามเบาๆ “ฆ่า!” ขณะที่เสียงดังขึ้น บุรุษชุดเทาสองคนก็บุกออกมาจากภายในกองทัพของพวกเขา บุรุษชุดเทาทั้งสองนี้และผู้นำของกองกำลังอีกสองบุกตะลุยเข้าหาศัตรูของพวกเขา
บุรุษชุดดำสามคนและสเตอตัน!
บุรุษชุดเทาสองคน คล็อธมันและราเชล!
สี่ต่อสี่คน!
“เจ้าเชิญอสูรมาด้วยงั้นหรือ?!” สเตอตันพูดเสียงเย็นชา
“เจ้าช่างรวยจริงๆ เจ้าเชิญมาได้ถึงสาม” คล็อธมันแค่นเสียงหัวเราะ
ทั้งสองฝ่ายต่างพูดใส่กัน ฝ่ายละสี่รวมแล้วแปดคน คนทั้งแปดนี้เป็นเทพชั้นสูงกันหมด และเทพชั้นสูงผู้กลายเป็นเทพโดยผ่านพลังตนเอง แต่ละคนจะมีพลังพิเศษของตน และพวกเขาเริ่มสู้กันอย่างดุเดือด
“บึ้ม!”
มิติสั่นสะท้านและคลื่นที่น่ากลัวจากพลังระเบิดกระจายไปทั่วทุกที่
“อะไรกัน?” หลายคนจ้องมองด้วยความประหลาดใจ
สู้กันตัวต่อตัว สี่คู่สู้กันในอากาศอย่างดุเดือดทำให้พื้นที่และมิติสั่นสะเทือนอย่างน่าสะพรึงกลัวกระจายไปทั่วทุกทิศ
ร่างของคนผู้หนึ่งเปลี่ยนไปจนไม่เห็นอะไร...
อีกคนกลายเป็นอสูรธาตุขนาดมหึมา...
และอีกผู้หนึ่งเปลี่ยนไปเป็นรูปร่างคล้ายกระบี่...
การสู้รบระหว่างเทพชั้นสูงรุนแรงเกินคาด นักสู้สี่คู่ต่างต่อสู้กันและกัน และไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ แม้แต่พวกนักรบระดับเทพแท้ของทั้งสองฝ่ายซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่ต่างหยุดชะงักเหมือนมีการตกลงร่วมกัน ทำให้ความรุนแรงในการสู้รบลดลงมากมาย
“ทุกคนรู้กันโดยอัตโนมัติจริงๆ” ลินลี่ย์มองดูฉากภาพนี้
เพียงแต่เมื่อครู่นี้ผู้นำของทั้งสองฝ่ายเอาแต่มองดู ขณะที่นักรบเหล่านั้นสู้กันเอง แต่ตอนนี้ผู้นำของทั้งสองฝ่ายสู้กัน พวกนักรบก็หยุดบ้างราวกับว่ามีความเข้าใจกันอย่างประหลาด
เดเลียหัวเราะอย่างปกติ “เป็นธรรมดา ไม่มีใครต้องการตาย! ตอนนี้ ระดับหัวหน้ากำลังสู้กันเองไม่ว่าหัวหน้าฝ่ายไหนรอดก็จะได้รับชัยชนะไป สำหรับนักรบเหล่านี้ไม่มีความแตกต่างกันมากนักไม่ว่าใครเป็นหัวหน้า
ลินลี่ย์มองดูเทพชั้นสูงสี่คู่กำลังสู้รบกันในอากาศ
เขาต้องยอมรับว่าพลังของเทพชั้นสูงเหนือกว่าเทพแท้มากนัก!
“อย่างน้อยเทพชั้นสูงก็มีความเชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุอย่างหนึ่ง” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ “เพียงแต่มีความแตกต่างในระดับของการหลอมรวม”
เทพชั้นสูงที่อ่อนแอจะไม่หลอมรวมเคล็ดลับความรู้ได้เลย
เทพชั้นสูงที่แข็งแกร่งกลับตรงกันข้ามอาจหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สองเคล็ดหรือสามเคล็ดหรือมากกว่าเทพที่ทรงพลังคนอื่น
“ตายไปสอง” ลินลี่ย์เงยหน้ามองดูการสู้รบขณะพูดเบาๆ
เทพชั้นสูงทั้งแปดที่สู้รบกันอยู่มีการบาดเจ็บล้มตายไปสองคนแล้วนั่นคือบุรุษผมทองคล็อธมันและบุรุษชุดดำ เพียงแค่นั้นระหว่างการสู้รบสี่ต่อสี่ คล็อธมันสู้กับบุรุษชุดดำนั้น
คล็อธมันบาดเจ็บสาหัสได้ตอบโต้จนฆ่าบุรุษชุดดำได้
แต่ขณะนั้นเองสเตอตันกลายเป็นสองร่างแยกศักดิ์สิทธิ์เข้าโจมตีและสังหารคล็อธมันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าคล็อธมันจะมีร่างแยกหนึ่งเป็นของตนเอง ร่างแยกของเขาก็มีแต่เพียงสีทอง และถูกทำลายไปเช่นกัน
“สเตอตัน!” หน้าของนักรบสมิงเปลี่ยนไป “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าร่างแยกธาตุลมของเจ้าจะถึงขั้นเทพระดับสูงด้วย”
“ฮึ่ม!” สเตอตันแค่นเสียง “คนแรกคล็อธมัน ต่อไปเป็นเจ้า”
สำหรับคนอย่างพวกเขาปกติพวกเขาจะไม่เลือกหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะเป็นเทพโดยผ่านการฝึกฝนเท่านั้น
“เป็นอย่างนั้นหรือ?”
ประกายเย็นชาฉายวาบผ่านนัยน์ตาของมนุษย์สมิง ทันใดนั้นมีร่างบินออกมาจากร่างของเขาเองเช่นกัน ร่างนี้กระโจนเข้าหาศัตรูของเขา บุรุษชุดดำอีกคนหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่หมายความว่านักรบสมิงผู้นี้และร่างเงารวมพลังกันสู้ศัตรูของพวกเขา
“ร่างแยกเทพชั้นสูง!” บุรุษชุดยาวดำตกใจถอยทันที
สเตอตันสีหน้าเปลี่ยน ขณะที่มองนักรบสมิง เขาพูดขึ้น “ราเชล, เจ้าเองก็ปกปิดไว้ได้ดีเช่นกัน!”
“ก็ยังไม่ดีเท่าเจ้า”ร่างเงาเสียงแข็ง นั่นเป็นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สายธาตุมืดของนักรบสมิงราเชล
เมื่อมองดูในระยะไกล ลินลี่ย์ต้องลอบถอนหายใจอย่างทึ่ง “ราเชลนักรบสมิงที่ดูเหมือนจะบุ่มบ่ามและโง่กว่าไม่ได้มีปัญญาน้อยและน่ากลัวน้อยกว่าสเตอตันเลย” ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจว่าบางทีสเตอตันและราเชลคงมีความลับบางอย่างเป็นแรงจูงใจให้ผลักดันบริวารของพวกเขาให้ต่อสู้สู้กันเอง
ในขณะนั้นเอง...
“ลอร์ดแบร์ตี ท่านตั้งใจจะรอไปถึงไหน?” สเตอตันส่งข้อความสำนึกเทพของเขา
ทันใดนั้น ในกลางอากาศ เงาสีดำเปลี่ยนไปเป็นชายชราชุดเงินผมขาว บุรุษชราชุดเงินนี้ควงแส้ยาวในมือและเขาโจมตีนักรบสมิงและบุรุษชุดเทาอย่างสบายๆ
“ควั่บ!” แส้ยาวสะบัดเต้นทำให้มิติอากาศบิดเบี้ยว
หนึ่งในบุรุษชุดเทาแค่นเสียงเย็นชาหอกในมือของเขาแทงออก และเมื่อหอกผ่านไปที่ใด จะเกิดเพลิงสีดำขึ้น
แส้ยาวและหอกยาวปะทะกัน
“หืม” ชายชราชุดเงินแค่นเสียง
“อ๊า!!!” ตลอดทั้งร่างของบุรุษชุดเทาเริ่มสั่น เขาส่งเสียงครางไม่กี่ครั้งและจากนั้นก็หยุดเคลื่อนไหวร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ฉากภาพเช่นนี้ทำให้คนที่เห็นรู้สึกกลัว ทุกคนเห็นประจักษ์พลังของบุรุษชุดเทา เขาเป็นเทพชั้นสูงผู้ทรงพลังอย่างแน่นอน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของชายชราชุดเงินเขากลับพ่ายแพ้ภายในท่าเดียว
“เป็นแบร์ตีแห่งปราสาทอสรพิษเขียว!” หน้าของนักรบสมิงราเชลเปลี่ยนไปทันที เขามองดูสเตอตันอย่างเหลือเชื่อ “สเตอตัน เจ้า....” เขาไม่คาดเลยว่าหัวหน้าเผ่ามังกรดำสเตอตันจะขอความช่วยเหลือจากปราสาทอสรพิษเขียว
“แบร์ตี?” บุรุษชุดเทาที่โชคดีรอดชีวิตมีสีหน้าตกใจอย่างหนัก
ชื่อเสียงของแบร์ตีเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งแคว้นไนท์บลาส และเขาเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมาก อย่างน้อยที่สุดเขาไม่ใช่คนที่ใครจะต่อต้านได้
“หนี!”
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยนักรบสมิงและบุรุษชุดเทาเปลี่ยนเป็นเงาสีเทาหนีไปด้วยความเร็วสูง
ถ้าเทพชั้นสูงผู้ทรงพลงต้องการหนีเทพชั้นสูงอื่นคงไม่สามารถฆ่าเขาได้เป็นธรรมดา
“ฮึ่ม” ชายชราชุดเงินแค่นเสียง จากนั้นมองดูสเตอตันที่อยู่ใกล้ๆ
สเตอตันมีรอยยิ้มบนใบหน้าทันที
“เจ้าจัดการที่นี่ต่อไป ข้าจะกลับเดี๋ยวนี้” แบร์ตีพูดจากนั้นเขาปล่อยพลังระเบิดและกลายเป็นกลุ่มแสงดำขนาดใหญ่และหายไป
สเตอตันมองดูคนรอบๆ ที่ประหลาดใจ เขาพูดด้วยเสียงใสกังวาน “นักรบเผ่าหมาป่าทองและเผ่าพยัคฆ์หิมะ ตอนนี้พวกเจ้ามีทางเลือกให้ร่วมกับเผ่ามังกรดำของเรา แต่แน่นอนว่าพวกเจ้าสามารถเลือกต่อต้านได้ ถ้าพวกเจ้าต้องการจะต่อต้าน...” สเตอตันหัวเราะเย็นชา
นักรบทั้งสองเผ่าพันธุ์มองหน้ากันเอง
ตอนนี้คล็อธมันตาย เผ่าหมาป่าทองจบสิ้นแล้ว พลังของเผ่าพยัคฆ์หิมะตกลงไปมากเช่นกัน
“และแน่นอนว่าครอบครัวพวกเจ้าและสหายของพวกเจ้าสามารถร่วมเป็นเผ่ามังกรดำได้เช่นกัน” สเตอตันหัวเราะลั่น “เผ่ามังกรดำของเราจะนำพวกเจ้าไปสู่ความมั่งคั่งมากขึ้นและจะให้ความปลอดภัยกับพวกเจ้าเหมือนแต่ก่อน ถ้าพวกเจ้าตกลงเข้าร่วมกับเผ่าเราอย่างนั้นจงเก็บอาวุธของพวกเจ้าซะ”
นักรบระดับเทพแท้เหล่านั้นมองหน้ากันเอง บางคนเป็นเทพแท้ของเผ่าหมาป่าทองต่างก็เก็บอาวุธ หัวหน้าเผ่าของพวกเขาตายแล้ว เป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องยอมแพ้
ที่สำคัญคือ เมื่อไม่มีการปกป้องจากเผ่า ชีวิตของพวกเขาจะยากลำบาก
หลังจากมีสองสามคนเริ่มยอมแพ้ คนอื่นๆก็เริ่มยอมแพ้และเลือกเข้าร่วมกับเผ่ามังกรดำเช่นกัน สำหรับพวกเขา สถานะของผู้นำไม่มีอะไรต่างกันมาก
“เขาเป็นคนฆ่าพี่ชายข้า!” เคนท์ขึ้นเสียงเบาขณะที่เขาจ้องมองคนผู้หนึ่งแต่ไกล
นักรบที่ยอมแพ้เหล่านั้นยังมีความเป็นปฏิปักษ์กับผู้รอดชีวิตของเผ่ามังกรดำหลายคน แต่เมื่อสเตอตันปรากฏตัวขึ้นเท่านั้นก็ข่มขู่คุกคามจนไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าในอนาคต เผ่ามังกรดำจะมีการต่อสู้ภายในน้อยครั้ง
“ฮึ่ม” สเตอตันใช้หางตาชำเลืองมองเมื่อเห็นความเกลียดชังในสายตาของคนในเผ่าของเขาบางคน เขาหัวเราะเบาๆ
เขาไม่สนใจว่าจะมีคนในเผ่าตายสักสองสามคนหรือไม่
นี่คือแดนนรก การเอาตัวรอดของผู้เหมาะสมที่สุดเป็นกฎธรรมชาติของที่นี้อยู่แล้ว
ในพริบตาผ่านไปเกือบครึ่งปี การสู้รบครึ่งปีที่แล้วทำให้ประชากรของเผ่ามังกรดำเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนใหญ่เป็นเผ่าหมาป่าทองเข้าร่วม ประชากรของเผ่ามังกรดำจึงเพิ่มขึ้นเกือบถึงสามหมื่นคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนนักรบระดับเทพแท้เพิ่มขึ้นเกือบสามพันคน
สเตอตันต้องการล้างเผ่าพยัคฆ์หิมะ ตั้งแต่นั้นมาเขาพบว่าเผ่าพยัคฆ์หิมะได้ย้ายออกไปจากที่ตั้งเดิม เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าเผ่ามนุษย์สมิงราเชลคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าสเตอตันจะต้องตามล้างแค้นเมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถต้านทานได้ เขาจึงนำคนของเขาย้ายไปที่อื่น
ในที่พักของลินลี่ย์
“เคนท์! ถ้าเจ้าต้องการจะล้างแค้นทางเลือกของเจ้ามีเพียงประการเดียวก็คืออดทน พลังในปัจจุบันของเจ้ายังด้อยกว่าศัตรูของเจ้าห่างไกลนัก ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเจ้าเป็นศัตรูของเขา เจ้าต้องฝึกฝนอย่างสงบ คงจะมีสักวันที่เจ้าจะมีโอกาสได้แก้แค้น” ลินลี่ย์แนะนำ
ตลอดเวลามานี้เคนท์ต้องการจะล้างแค้นให้พี่ชายของเขา แต่ศัตรูของเขาเป็นระดับเทพแท้ ที่สำคัญ พลังของเคนท์ยังด้อยกว่าคู่ต่อสู้ของเขาอยู่มาก
“ข้ารู้, ลินลี่ย์” หน้าของเคนท์หมอง แต่เขาพยักหน้า
“บึ้ม!”
เสียงสั่นสะเทือนดังมาจากด้านนอก
ลินลี่ย์รำพึง “ดูเหมือนจะมีการต่อสู้ข้างนอกอีกแล้ว”
เดเลียที่อยู่ใกล้ๆ ถอนหายใจกล่าว “สมาชิกหลายพันคนของเผ่ามังกรดำตายไปเนื่องจากสงครามสู้รบกันครั้งนั้น สมาชิกครอบครัวและสหายของพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แน่นอนพวกเขาต้องการล้างแค้น! โชคดีที่การสู้รบวุ่นวายจนคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าบุคคลที่พวกเขารัก มิฉะนั้นในเผ่าคงตกอยู่ในสภาพวุ่นวาย”
ลินลี่ย์พยักหน้าเห็นด้วย
“ใครจะสนใจเล่าว่าวุ่นวายหรือไม่?” บีบีหัวเราะอย่างเย็นชา “ตราบใดที่พวกเขาไม่รบกวนเรา ถ้าพวกเขาวุ่นวายกับเรา ใครก็ตามที่โผล่หน้าเข้ามา เราจะฆ่าแน่นอน!”
“เคนท์ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าช่วยเจ้าล้างแค้นได้” บีบีพูดอย่างใจกว้าง
“ไม่จำเป็น” สายตาของเคนท์เยือกเย็น “จะต้องมีสักวันที่ข้าล้างแค้นด้วยตัวเอง ลินลี่ย์, บีบี ข้าจะไม่รบกวนพวกเจ้าอีกต่อไปแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน” หลังจากประสบการณ์ครั้งนี้เคนท์ไม่ร่าเริงเหมือนในอดีตอีกต่อไป
หลังจากเคนท์แยกจากไปไม่นาน ก็มีอีกคนหนึ่งเข้ามา เป็นร่างของคนที่คุ้นเคย บัฟเฟ็ต
“ลินลี่ย์ เจ้าต้องการไปเมืองรอยัลวิงไม่ใช่หรือ? พรุ่งนี้เผ่ามังกรดำของเราจะส่งคนกลุ่มหนึ่งขึ้นอสูรโลหะเข้าเมือง ถ้าเจ้าต้องการไป พวกเจ้าแต่ละคนต้องเตรียมค่าโดยสารไว้คนละห้าศิลาดำ” บัฟเฟ็ตเตือนพวกเขาขณะหัวเราะ
“จริงเหรอ?” บีบีเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน
ลินลี่ย์และเดเลียก็ดีใจเช่นกัน
พวกเขารอคอยวันนี้มานานแล้ว
“ท่านบัฟเฟ็ต ขอบคุณท่านจริงๆ” ลินลี่ย์รู้สึกซาบซึ้งในหัวใจในที่สุดเขาก็ต้องจากเผ่ามังกรดำไปจนได้
บัฟเฟ็ตถอนหายใจยาว จากนั้นหัวเราะ “ลินลี่ย์,ความจริงเมื่อครั้งล่าสุดที่เจ้าปฏิเสธเข้าร่วมกองทัพ ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าไม่ต้องการอยู่ในเผ่ามังกรดำ ความจริงการจากไปก็ดีเหมือนกัน”บัฟเฟ็ตแนะนำ “แต่ลินลี่ย์,เมืองรอยัลวิงไม่ใช่สถานที่ซึ่งใครๆ จะพักอยู่ได้ เจ้าต้องทำการเตรียมตัวไว้บ้าง”
“ได้, ข้าเข้าใจ” ตอนนี้ลินลี่ย์กำลังอารมณ์ดีมาก
เช้าตรู่วันต่อมา ลินลี่ย์เดเลียและบีบีไปอำลาเพื่อนบ้านสองสามคนที่พวกเขารู้จักในเผ่ามังกรดำก่อน
“เคนท์, ไม่ว่ายังไง อย่าใจร้อนเด็ดขาด” ลินลี่ย์แนะนำ
“ลินลี่ย์! ในแดนนรกมีอาณาเขตกว้างไกลไม่สิ้นสุด เมืองรอยัลวิงเป็นหนึ่งในสิบเมืองของแคว้นไนท์บลาส เผ่ามังกรดำเป็นแค่เพียงที่เล็กๆ ที่นั่นคือเมืองใหญ่! เจ้าต้องพยายามให้หนักเพื่อหยั่งเท้ายืนหยัดในเมืองรอยัลวิงให้ได้ นั่นไม่ใช่งานง่ายๆ เลย” เคนท์ค่อนข้างจะสนับสนุนลินลี่ย์
ลินลี่ย์หัวเราะ
“ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องเล็กน้อยเท่านี้หยุดข้าไม่ได้” บีบีถูจมูกหัวเราะอย่างดีใจ
“อสูรโลหะมาถึงแล้ว” เดเลียพูดขึ้นทันที
เมื่อลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นเขาเห็นว่าเหนือปราสาทดำของสเตอตัน อสูรโลหะอยู่ที่นั่นมันแปลงร่างเป็นมังกรดำขณะที่บินโฉบอยู่ในอากาศ คนจำนวนหนึ่งที่กระจายอยู่ทั่วเผ่ามังกรดำเริ่มบินขึ้นไปหามัน ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีอำลาเพื่อนบ้านจากนั้นบินขึ้นไปที่อสูรโลหะเช่นกัน
“ลาก่อน, เผ่ามังกรดำ” ลินลี่ย์ก้มหน้ามองดูเผ่ามังกรดำและภูเขาที่ตั้งเผ่าเริ่มหายลับตาไป
นี่คือสถานที่แรกที่ลินลี่ย์ได้ปักหลักตั้งตัวเมื่อมาถึงแดนนรก ในอนาคตเขาอาจไม่ได้กลับมาที่สถานที่นี้อีก