ตอนที่ 14-6 ตาแดงด้วยความละโมบ
“ทรงพลังขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ในใจของลินลี่ย์เขาประหลาดใจและสะท้านใจในพลังอำนาจของอสูรเจ็ดดาวเหล่านี้ “ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง พลังของอสูรเจ็ดดาวน่าจะทรงพลังที่สุดในบรรดาเทพชั้นสูง ข้าสงสัยจริงว่าเบรุตจะมีพลังเท่ากับอสูรเจ็ดดาวหรือไม่” ลินลี่ย์นึกปรารภกับตนเอง
“โอวจริงสิ, ข้ามานี่เพื่อคุยปรึกษาเรื่องบางอย่างเราวกเข้าเรื่องอสูรได้ยังไงกันนี่?” บัฟเฟ็ตรีบกล่าว “ลินลี่ย์!เหตุผลที่ข้ามาที่นี่วันนี้เป็นเพราะข้าอยากถามอะไรบางอย่างกับพวกเจ้าทั้งสามคน”
“โอว, ท่านบัฟเฟ็ตเชิญถามได้เลย” ลินลี่ย์กล่าว
“อยากจะถามเรา?” บีบีลูบคางจ้องมองบัฟเฟ็ต
บัฟเฟ็ตยิ้มพลางกล่าว “บอกตามตรง, เป็นเจ้าทั้งสองคน” เขาชี้มาที่บีบีและเดเลีย
“โอว?” เดเลียค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน
“มีอะไรหรือผู้เฒ่า? รีบบอก” บีบีกระตุ้น
บัฟเฟ็ตกล่าว “ในเผ่ามังกรดำของเรา พวกที่เป็นเทพแท้ส่วนใหญ่จะกลายเป็นสมาชิกกองทัพองครักษ์ของเรา เจ้าทั้งสองคนเป็นระดับเทพแท้แล้ว ข้าสงสัยว่าพวกเจ้าสนใจจะเข้าร่วมกองทัพเผ่ามังกรดำไหม? ถ้าเจ้าเข้าร่วมกับกองทัพ ในทุกหมื่นปี หัวหน้าเผ่าจะมอบเงินตอบแทนให้เจ้า นี่คือชีวิตที่ดีกว่างานเลี้ยงมังกรดำเจอร์ราร์ดมาก ถ้าเจ้าเลี้ยงมังกรเหล่านั้นเจ้าจะต้องอยู่กับพวกมันเสมอ เป็นงานที่เหนื่อยมาก”
“นี่...?” บีบีลังเลและมองดูลินลี่ย์
เดเลียหัวเราะและกล่าว “ท่านบัฟเฟ็ต, เราเพิ่งมาถึงที่เผ่ามังกรดำมีหลายอย่างที่เรายังไม่คุ้นเคย ดังนั้นเราจะไม่รีบเข้าร่วมกับกองทัพของเผ่าแน่”
“เจ้าจะไม่สามารถทำเงินได้เร็วเท่ากับทำงานผ่านกองทัพ” บัฟเฟ็ตรีบกล่าว “ข้าขอให้เจ้ารับไว้พิจารณาอีกครั้ง”
“ท่านบัฟเฟ็ตเราค่อยคุยเรื่องนี้อีกครั้งในอนาคต” ลินลี่ย์กล่าว
เขาตั้งใจไว้นานแล้วว่าเมื่อมีโอกาสพวกเขาจะไปยังทวีปบลัดริจ แล้วพวกเขาจะอยู่ประจำที่เผ่ามังกรดำได้ยังไง? ได้รับเงินตอบแทนทุกหมื่นปี? สำหรับเทพอื่น หมื่นปีอาจไม่ถือว่าเป็นเวลาที่นานแต่สำหรับลินลี่ย์ไม่มีทางที่เขาจะยอมรอนานขนาดนั้น
“ข้าแค่มาแจ้งให้พวกเจ้ารู้” บัฟเฟ็ตไม่ใส่ใจ
“ท่านบัฟเฟ็ต” ลินลี่ย์รีบถาม “ข้าขอถามท่านได้ไหม มีคนในเผ่าไปเมืองรอยัลวิงบ่อยมากแค่ไหน?” พูดอย่างเปรีบเทียบที่เมืองรอยัลวิงจะต้องมีกองกำลังที่ทรงพลังปรากฏ เขาอาจหาทางเดินทางไปทวีปบลัดริจได้
“ไปเมืองรอยัลวิง?” บัฟเฟ็ตตกใจ “โอว, เผ่าของเราไม่ได้ไปที่นั่นตรงตามตารางนัก เราต้องโดยสารสัตว์โลหะบินไปที่นั่น อาจต้องใช้ช่วงเวลารอสั้นๆ ไม่กี่ปีหรืออาจต้องใช้เวลาหลายพันปีระหว่างเดินทางเที่ยวก็ได้”
ลินลี่ย์รู้สึกใจแกว่งอย่างช่วยไม่ได้
หลายพันปี? เขาต้องรอนานขนาดนั้นเชียวหรือ?
บัฟเฟ็ตหัวเราะทันทีและกล่าว“โอว! ข้าเพิ่งจำได้ว่าในช่วงเวลาอีกครึ่งปีดูเหมือนทางเผ่าจะมีการเดินทางไปเหมืองรอยัลวิงนะ”
“อย่างไรก็ตามสมาชิกของเผ่าจะต้องจ่ายห้าศิลาดำ ถ้าพวกเขาต้องการโดยสารสัตว์อสูรโลหะ” บัฟเฟ็ตเตือนลินลี่ย์และอีกสองคน เขาสามารถบอกได้ว่ากลุ่มของลินลี่ย์ต้องการมุ่งหน้าไปเมืองรอยัลวิงอย่างแท้จริง
ความจริงทุกคนที่เพิ่งมาถึงแดนนรกจะมีความสนใจไปเยี่ยมเยียนเมืองใหญ่ๆในแดนนรกกันทั้งนั้น
“ขอบคุณ, ท่านบัฟเฟ็ต” ลินลี่ย์รู้สึกยินดีในหัวใจ อีกแค่ครึ่งปี
หลังจากบัฟเฟ็ตออกไปแล้วกลุ่มของลินลี่ย์เริ่มดื่มและฉลองกันอย่างมีความสุขในห้องรับแขกของเขา ในแดนนรกเหล้าเป็นของเลิศหรู แน่นอนว่าเมืองรอยัลวิงคงมีเหล้าชั้นเลิศ แต่ราคาก็คงสูงมากอย่างน่าประหลาดใจ ราคาของเหล้าดีๆอาจเทียบได้กับประกายเทพแท้เลยทีเดียว
“พวกเราแต่ละคนจะต้องจ่ายค่าโดยสารสัตว์อสูรโลหะคนละห้าศิลาดำ!” บีบีสบถเบาๆ “ใจดำเป็นบ้า”
“เราสามคนรวมแล้วสิบห้าศิลาดำ” เดเลียมองดูลินลี่ย์ “ดูเหมือนว่าคงต้องขายสมบัติเทพบางส่วน”
ลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้มีทั้งสมบัติเทพชั้นสูงสมบัติเทพแท้และสมบัติชั้นเทียมเทพ แม้ว่าจะน่าประหลาดใจมากกว่า เขามีกระทั่งประกายเทพชั้นสูง ลำพังประกายเทพชั้นสูงก็เพียงพอให้ลินลี่ย์กลายเป็นเศรษฐีอยู่ในแดนนรกได้แล้ว อย่างไรก็ตาม....กลุ่มของลินลี่ย์รู้ว่าพวกเขาไม่อาจเปิดเผยได้ว่าพวกเขามีสมบัติมากมายเพียงไหน
ในเผ่ามังกรดำถ้าคนอื่นรู้ว่าพวกเขามีประกายเทพชั้นสูง มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาคงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันรุ่งขึ้น
“เอาอย่างนี้เป็นไง ข้ามีสมบัติเทียมเทพอยู่สี่ชิ้นกับตัวเอง ข้าจะไปปราสาทหัวหน้าเผ่าก่อนและขายสมบัติเทียมเทพทั้งสี่ชิ้นนั้น” ลินลี่ย์ตัดสินใจ “แม้ว่าจะต้องเสียของออกไปบ้าง แต่ไม่มีทางเลือกอื่น”
ในเผ่าที่นี่สมบัติเทียมเทพจะขายได้ราคาเพียงห้าศิลาดำ แต่ถ้าเขาไปเมืองรอยัลวิง เขาสามารถขายได้ถึงเจ็ดศิลาดำ ขณะที่ร้านค้าของรอยัลวิงกลับขายในตลาดด้วยราคาสิบศิลาดำ สมบัติเทพราคาถูก ไม่ค่อยคุ้มค่ามากนัก
เนื่องจากเขาตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงลงมือทำทันที
หลังจากดื่มแล้วกลุ่มของลินลี่ย์ก็มุ่งหน้าตรงไปที่ปราสาทดำบนยอดเขา บนกำแพงของปราสาทดำนี้มีเทพแท้ยืนรักษาการณ์เกินกว่าสิบ พวกเขาจ้องลงมาที่กลุ่มของลินลี่ย์แต่ไม่พูดอะไร
เผ่ามังกรดำมีประชากรเพียงสองหมื่น ทุกคนรู้จักกันดี
“ลินลี่ย์, เจ้ามาแล้วหรือ?” ใครบางคนออกมาจากข้างในประตูปราสาท เป็นบัฟเฟ็ต
“ท่านบัฟเฟ็ตเรามาขายสมบัติเทียมเทพสักสองสามชิ้น” ลินลี่ย์กล่าวบัฟเฟ็ตพยักหน้าเข้าใจ “โอว, งั้นมากับข้าได้เลย” ขณะกล่าวบัฟเฟ็ตนำพวกเขาเข้าไปในปราสาททางด้านประตูข้าง
ภายในปราสาทยังมีปราสาทเล็กอื่นๆ อีก
“ปราสาทในเป็นที่ซึ่งเจ้าปกครองเผ่าอาศัยอยู่ ปราสาทนอกเป็นที่ให้นักรบประจำเผ่าได้อยู่อาศัย” บัฟเฟ็ตอธิบาย “ในอนาคต, ถ้าเจ้าต้องการขายอะไรก็แค่ตรงมาที่ประตูด้านข้างและตรงไปที่ร้านนั้น พูดง่ายๆ สมาชิกของเผ่าสามารถมาที่ปราสาทชั้นนอกเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ พวกทหารจะไม่ห้ามเจ้า”
ภายในปราสาทดำนักรบประจำเผ่าสามารถเห็นได้อยู่ทั่วทุกที่
“แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นเทพชั้นสูง” บีบีถอนหายใจชมเชย
ลินลี่ย์กวาดสายตาผ่านคนเหล่านั้นเช่นกัน เขารู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นนักรบประจำเผ่ามังกรดำทั้งหมด ถ้าเผ่าอื่นมารุกราน พวกเขาจะต้องอาศัยนักรบเหล่านี้โจมตีตอบโต้และคอยป้องกัน
“เข้าไปสิ” บัฟเฟ็ตชี้ไปที่ร้านข้างหน้าพวกเขา
ลินลี่ย์และพวกทั้งสองเข้าไปในร้านประจำเผ่า มีบุรุษวัยกลางคนผมดำกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่คนเดียวบนพื้นเมื่อกลุ่มของลินลี่ย์เข้ามา บุรุษผมดำลืมตาเขาทันที และใช้สายตาเย็นชากวาดมองพวกเขา เขาพูดขึ้นอย่างสงบ “มีอะไร?”
ลินลี่ย์ตกใจ นี่เป็นมารยาทของคนค้าขายที่มีต่อลูกค้าหรือนี่?
“พวกเขามาขายสมบัติเทพ” บัฟเฟ็ตเดินเข้ามาจากด้านนอกเช่นกัน
“โอว! งั้นเอาสมบัติออกมา” บุรุษวัยกลางคนผมดำพูด
แค่เพียงพลิกมือลินลี่ย์ก็ดึงสมบัติเทียมเทพออกมาสี่ชิ้นสมบัติเทียมเทพสี่ชิ้นนี้ไม่มีประโยชน์ต่อเขาแต่อย่างใด บุรุษผมดำวัยกลางคนชำเลืองมองดูจากนั้นพูดอย่างสงบ “สมบัติเทียมเทพสี่ชิ้น เป็นอาวุธทั้งหมด ไม่มีอะไรพิเศษ ชิ้นละห้าศิลาดำรวมทั้งหมดยี่สิบศิลาดำ!”
แค่เพียงพลิกมืออย่างคล่องแคล่วบุรุษผมดำวางศิลาดำสองแท่งยาว แถวละสิบศิลาดำ “รับศิลาดำไปและทิ้งสมบัติเทพไว้”
“หือ?” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ มีศิลาดำแท่งยาวจริงด้วยหรือนี่? อย่างไรก็ตาม ในแง่ขนาดปรากฏว่าศิลาดำยาวมีขนาดเท่ากับเบี้ยศิลาดำสิบเบี้ย แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ แต่ลินลี่ย์ก็ยังวางสมบัติชั้นเทียมเทพสี่ชิ้นไว้ขณะที่รับศิลาดำแท่งยาวสองแท่งที่บุรุษนั้นโยนให้
หลังจากแลกได้ศิลาดำยี่สิบเบี้ยแล้ว กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงอาศัยอยู่ภายในเผ่ามังกรดำอยู่เงียบๆ ต่อไปปกติพวกเขาจะใช้เวลาสำหรับฝึกฝนเงียบๆรอเวลาเดินทางไปเมืองรอยัลวิงในช่วงครึ่งปีอย่างสงบ
เทือกเขาของเผ่ามังกรดำมีกินอาณาบริเวณถึงหนึ่งพันกิโลเมตร มังกรดำหลายพันตัวมีปรากฏให้เห็นบินเข้าบินออกที่ภูเขาอยู่ตลอดเวลา สมาชิกทุกคนของเผ่ามังกรดำอยู่อาศัยที่นี่กันอย่างสงบสุข อย่างไรก็ตามห่างออกไปจากภูเขาพันกิโลเมตร...
เสือโคร่งดำดุร้ายตัวหนึ่งตัวขนาดเท่าภูเขาพร้อมด้วยหมาป่าทองซึ่งขนาดพอกันกำลังมุ่งหน้าสู่เผ่ามังกรดำพร้อมกัน ทั้งสองนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โตมหึมาและบินด้วยความเร็วอย่างน่าตกตะลึงก่อให้เกิดระเบิดกำแพงความเร็วเสียงขณะบิน
“บึ้ม....”
พันกิโลเมตรเดินทางได้อย่างรวดเร็วแน่
ครึ่งความสูงของภูเขาในที่พักอาศัยของลินลี่ย์ ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิฝึกชีพจรโลกและแก่นธาตุดินและทำการหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับอย่างเงียบสงบ ตอนนี้ร่างดั้งเดิมและร่างแยกธาตุดินของเขากำลังเพ่งสมาธิถึงกฎธาตุดินหวังว่าจะสามารถเข้าถึงระดับการหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งสองได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
“ศัตรูโจมตี!”
“ศัตรู..โจมตี!”
เสียงกึกก้องแสบแก้วหูดังไปทั่วเผ่ามังกรดำ แม้ว่าลินลี่ย์จะอยู่ในระหว่างการฝึกก็ยังตกใจตื่นตัวทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” เดเลียมาจากในห้องของนางขณะที่บีบีพุ่งเข้ามาจากด้านนอก เห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมาก “โหว, พี่ใหญ่, ข้างนอกมีตัวประหลาดขนาดใหญ่ผิดปกติสองตัว จากนั้นข้าถึงได้รู้ว่าข้างหลังเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองมีพวกเทพจำนวนมากมาย อย่างน้อยก็หลายพันคน”
“ศัตรูโจมตี?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว “พวกเขาน่าจะเป็นศัตรูของเผ่า”
ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นบ้าง เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้บุกรุก สิ่งที่น่ากลัวก็คือ...ศัตรูเอาชนะเผ่ามังกรดำได้ อย่างนั้นจะมีการเข่นฆ่าสังหารหมู่ นั่นทำให้หลายอย่างอันตราย นี่ไม่น่าเป็นไปได้ ที่สำคัญประกายศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นความมั่งคั่งรูปแบบหนึ่ง
บางทีศัตรูต้องการเข่นฆ่าล้างเผ่ามังกรดำทั้งหมดก็ได้!
“ออกไปดูกัน!” ลินลี่ย์พูดทันที “ถ้าสถานการณ์ดูแย่เราจะจากไปทันที” ลินลี่ย์ขีดจำกัดความสามารถของตนเอง
ลินลี่ย์และอีกสองคนบินออกไปทันที หลังจากบินออกมาจากที่อยู่ พวกเขาพบว่าท้องฟ้าเหนือภูเขาเต็มไปด้วยผู้คน สมาชิกแทบทุกคนของเผ่ามังกรดำต่างบินออกมา ตอนนี้กองทัพมังกรดำปรากฏออกมาเผชิญหน้ากับกองกำลังศัตรู
ลินลี่ย์กับอีกสองคนเข้าไปรวมอยู่กับกลุ่มผู้คน
“ลินลี่ย์, เจ้ามาแล้ว” เคนท์เพื่อบ้านเขาทักทายพวกเขาเมื่อเขาเห็นพวกลินลี่ย์บินมาสมทบ
“นี่คือกองทัพเผ่ามังกรดำของเรา พวกเขาดูเหมือนจะน่ากลัวมาก” ลินลี่ย์ถอนหายใจชื่นชม เมื่อแหงนหน้ามองพวกเขามีนักรบเกินกว่าพันคนสวมชุดเครื่องแบบนักรบสีดำเหมือนกันยืนอยู่พร้อมเพรียงกัน รังสีฆ่าฟันของเทพแท้จำนวนพันคนเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่องเพียงพอทำให้ลินลี่ย์หัวใจสั่นสะท้าน
เคนท์พูดอย่างภูมิใจ “ใช่แล้ว, ดูทางนั้นสิ บุรุษผมทองนั้น คือพี่ชายของข้าเอง!”
“ราเชล, ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่เจ้าก็ยังเข้าร่วมกับวายร้ายหมาป่า ข้า, สเตอร์ตันดูเหมือนว่ายังจำได้ว่าข้าปฏิบัติกับเจ้าเป็นอย่างดี!” ในท่ามกลางกองทัพมังกรดำ มีร่างหนึ่งทรงพลังสูงอย่างน้อยสองเมตรคำรามเสียงดังลั่น “เป็นไปได้หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่าหมาป่าจอมวายร้ายนี้เป็นคนแบบไหน? ถ้าวันนี้เจ้ายอมเปลี่ยนใจ ข้ายินดีจะให้เบี้ยหนึ่งล้านศิลาดำให้เป็นของขวัญเจ้า เจ้าจะว่ายังไง?”
ลินลี่ย์เลิกคิ้ว “หัวหน้าสเตอร์ตัน?”
ลินลี่ย์มองขึ้นไปทันที สเตอร์ตันมีร่างสูงใหญ่กำยำ และเขาสวมชุดดำยืนอยู่ในกลางอากาศหนักแน่นไม่หวั่นไหวราวกับภูผา
“ฮ่าฮ่า, น่าขันนัก! อย่างน้อยนิสัยของคล็อธมันยังดีกว่าเจ้า นอกจากนี้, หนึ่งล้านศิลาดำน่ะหรือ? ถ้าเจ้ายินดีให้มังกรดำเจอร์ราร์ดข้าครึ่งหนึ่งนั่นก็คงไม่เลว” ในกองทัพฝ่ายตรงข้ามีคนผู้หนึ่งสูงอย่างน้อยสามเมตรใบหน้าเต็มไปด้วยเคราดูเหมือนพยัคฆ์ มนุษย์ศีรษะพยัคฆ์ไม่เห็นแก่หน้าของหัวหน้าเผ่ามังกรดำสเตอร์ตันแม้แต่น้อย
อีกคนหนึ่งเป็นคนผอมสวมชุดยาวสีทองหัวเราะอย่างชั่วร้าย “สเตอร์ตัน, เจ้าครอบครองการค้าขายมังกรดำเจอร์ราร์ดเหล่านั้นมาเป็นเวลานานแล้วเจ้าไม่รู้สึกว่าใจดำเกินไปหน่อยหรือ? ถ้าเจ้ายินดีจะแบ่งมังกรดำเจอร์ราร์ดเหล่านั้นเป็นสามส่วนสามส่วนโดยพวกเราแบ่งเท่ากัน อย่างนั้นวันนี้คนที่ข้านำมาก็จะยอมจากไปทันทีพร้อมกับราเชล เจ้าจะว่ายังไง?”
“ฮึ่ม!” เสียงแค่นเย็นชาดังขึ้น สเตอร์ตันกวาดสายตาเย็นชา “ข้าซื้อมังกรเจอร์ราร์ดเหล่านี้ในอดีตเมื่อตอนนั้นข้าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกมัน ทำไมข้าจะต้องให้พวกมันแก่เจ้าด้วย?”
ลินลี่ย์อยู่ในท่ามกลางสมาชิกอื่นของเผ่ามังกรดำรู้สึกว่าหัวใจของเขาเย็นเฉียบ “ดูเหมือนว่าศัตรูหาพันธมิตรสองเผ่าอื่นมาร่วมด้วยนี่จะต้องเป็นปัญหาแน่นอน
“ฮ่าฮ่า...” นักรบหัวพยัคฆ์ ราเชลหัวเราะลั่น “คล็อธมัน! อย่าเสียเวลากับสเตอร์ตันอีกต่อไปเลย ฆ่าเขาซะเราจะได้แบ่งมังกรเจอร์ราร์ดกัน”
บุรุษผมทองร่าผอมหัวเราะเย็นชา “พี่ราเชล, ท่านพูดได้ดี”
“บัดซบเอ๊ย!” หน้าของสเตอร์ตันพลันดุร้าย เขาส่งสัมผัสเทพออกไปกลุ่มแรกเริ่มโจมตีพลังวิญญาณ!”
สมาชิกเกือบแปดร้อยคนของเผ่ามังกรดำกวัดแกว่งอาวุธในมือต่อเนื่องทันที ภาพเงาลวงตาพุ่งออกมาจากอาวุธเป็นกลุ่มมากมายหนาแน่น
“ฆ่า!” ผู้นำของกองกำลังฝ่ายศัตรูทั้งสองตะโกนเช่นกัน และสมาชิกหนึ่งพันจากสามพันคนฝ่ายศัตรูเริ่มโจมตีด้วยพลังโจมตีวิญญาณอย่างหนักเช่นกัน
ภาพหลอนลวงตามากมายปะทะกันในอากาศระหว่างกองทัพทั้งสองพอภาพหนึ่งหายก็มีอีกภาพหนึ่งเพิ่มยิงโจมตีกองกำลังฝ่ายศัตรู
“โอวสวรรค์! ถ้าคนเป็นหมื่นใช้พลังวิญญาณโจมตีพร้อมกัน เป็นไปได้ว่าต่อให้เป็นเทพชั้นสูงก็ต้องถึงวาระสิ้นสุดเป็นแน่” ลินลี่ย์จ้องมองปากอ้าตาค้าง