ตอนที่ 14-10 สามปราสาทแห่งเมืองรอยัลวิง
เมื่อได้ยินจำนวนทั้งสองเหล่านี้ลินลี่ย์คำนวณในใจทันทีและเขาอดสะท้านใจไม่ได้
เส้นรอบอาณาเขตพันล้านกิโลเมตรหมายความว่าในเรื่องขนาดมีขนาดเป็นล้านล้านเท่าของพื้นที่พันกิโลเมตร! แม้เมื่อสิบเมืองรวมกันในเรื่องขนาดก็มีขนาดแสนล้านกิโลเมตรของขนาดรวมแคว้นไนท์บลาส! ร้อยล้านล้าน! ความแตกต่างขนาดนี้น่าตกใจเหลือเกิน
“เฉพาะชนชั้นนำของแดนนรกเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างพื้นที่ของตนเองในเมืองรอยัลวิงได้!” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง
เด็กหนุ่มผมเขียวดีบาลาถอนหายใจ “ถ้าในเวลาทั้งชีวิตของข้า ข้าสามารถกลายเป็นพลเมืองของเมืองรอยัลวิงได้ข้าก็พอใจแล้ว น่าเสียดาย, มันเป็นเรื่องยากมาก” ดีบาลาไม่มีความมั่นใจในตนเองเพียงพอ
จะได้เป็นพลเมืองของเมืองหนึ่งในแดนนรกเป็นเรื่องที่คุ้มค่าควรแก่การภูมิใจ
ลินลี่ย์เพิ่งเข้ามาในแดนนรก แม้ว่าเขาสามารถรู้สึกได้ถึงบางอย่างจากหนึ่งในจำนวนล้านล้านได้แต่เขายังไม่ได้อยู่ที่นี่ยาวนานพอ ดังนั้นความรู้สึกของเขาจึงไม่กล้าแข็งพอ
เมื่อแยกออกจากเผ่ามังกรดำ จำนวนการโจมตีของโจรที่พวกเขาเผชิญไม่มากนัก ทั้งนี้เป็นเพราะกองกำลังโจรทั้งหมดที่ก่อตั้งในบริเวณนี้มาเป็นเวลาช่วงหนึ่งจะรู้เรื่องชนเผ่าท้องที่...และพวกเขารู้ว่าเผ่ามังกรดำที่อสูรโลหะกำลังรับใช้ขนส่งอยู่นั้นเป็นเช่นไร
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังเผชิญพบกับพวกโจรที่ต้องการจะหยุดพวกเขา
พ่อบ้านเอ็ดมอนด์และนักสู้อสูรสองคนไม่ใส่ใจกับพวกโจรเหล่านี้ ทั้งหมดที่พวกเขาทำก็คือปรากฏใบหน้าขู่ขวัญพวกโจรให้ตกใจ
วันที่สิบหกที่พวกเขาออกจากเผ่ามังกรดำ ผู้โดยสารที่อยู่ห้องโดยสารหลังของอสูรโลหะก็ตื่นเต้นขึ้น เมื่อมองผ่านโลหะใสออกไป พวกเขาสามารถเห็นเค้าเมืองขนาดใหญ่ที่สร้างจากแผ่นหินยักษ์สีม่วง
เมืองสีม่วงคือเมืองที่เปล่งกลิ่นอายโบราณสูงส่ง
เมืองรอยัลวิง! หนึ่งในสิบเมืองใหญ่ของแคว้นไนท์บลาส!
“นี่คือเมืองไนท์บลาสหรือนี่?” ตาของบีบีฉายประกาย
ลินลี่ย์กับเดเลียสองคนมองดูเมืองขนาดมหึมาด้วยความตื่นเต้นเหมือนกันเมืองที่มีอาณาบริเวณถึงพันกิโลเมตร นี่คือสิ่งที่ไม่มีอยู่ในทวีปยูลาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหินซึ่งใช้สร้างเมืองของแดนนรกสร้างขึ้นจากวัสดุที่แข็งพอๆกับอดาแมนเทียม
“ในที่สุดเราก็มาถึง!” ลินลี่ย์พึมพำกับตนเอง
และจากนั้นหลายๆ คนภายในอสูรโลหะบินออกมา คนของเผ่ามังกรดำรวมตัวกันในกลางอากาศ และพ่อบ้านแอ็ดมอนด์กวาดสายตาของเขาผ่านทุกคนขณะพูดเสียงดัง “ทุกคน! จำเอาไว้ให้ดีอสูรโลหะของเผ่าเราจะกลับเผ่ามังกรดำเราหลังจากพระอาทิตย์สีเลือดตกและพระจันทร์ม่วงขึ้นสำหรับจุดรวมตัวของพวกเราอยู่ที่นี่ ถ้ามีใครพลาดเวลาไป เราจะจากไปทันทีเราจะไม่รอพวกเจ้า”
ทุกคนเข้าใจกติกานี้ดี
“ดีแล้วทุกคน เตรียมตัวจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเมืองด้วย” เอ็ดมอนด์กล่าวจากนั้นนำกลุ่มคนบินตรงไปที่ประตูเมืองรอยัลวิง
ลินลี่ย์เดเลียและบีบีกำลังมองดูเมืองของแดนนรกเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็น พวกเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องใหม่และน่าสนใจ ขณะที่ติดตามคนในเผ่าบินไป พวกเขาจ้องมองดูเมืองหินสีม่วงที่เด่นสง่าและโบราณ
“มีผู้คนมากมายนัก!” บีบีหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้นขณะที่เขาจ้องมองรอบๆ ตน
มีคนมากมายเกินไปที่ต้องการเข้าเมือง พวกเขามาจากทุกสารทิศและต่อแถวยาวอยู่นอกเมือง ไม่มีใครกล้าเร่งเข้าไปในเมืองนี้อย่างบุ่มบ่าม แม้แต่พ่อบ้านเอ็ดมอนด์ก็ยังต้องเข้าแถวรอจ่ายค่าธรรมเนียมเหมือนคนธรรมดา
“หือ?” ทันใดนั้นบีบีจ้องดูประตูเมืองด้วยความตกใจ “คนชุดดำสองคนเข้าเมืองโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม”
“อสูร!” ลินลี่ย์พบคำตอบนี้เช่นกัน
อสูรทั้งสองเดินเคียงไหล่กันโดยไม่ต้องต่อแถวเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียม พวกเขามุ่งตรงเข้าไปในเมืองรอยัลวิง และทหารที่เฝ้าประตูเมืองรอยัลวิงไม่ได้ห้ามพวกเขาแต่อย่างใด
“ทหารกองทัพเรดบุด, ทหารประจำแคว้นและอสูร คนสามประเภทเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเมือง” ดีบาลาเด็กหนุ่มผมเขียวอธิบายจากด้านหลังของลินลี่ย์ “พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษบางอย่าง ดังนั้นถึงได้มีหลายคนต้องการเข้าร่วมกองทัพเรดบุดกลายเป็นอสูรหรือเป็นทหารประจำแคว้น โชคไม่ดี กองทัพเรดบุด, อสูรและทหารประจำแคว้นมีการคัดตัวที่เข้มงวดกวดขันยิ่งนัก”
ในไม่ช้าก็ถึงรอบของกลุ่มลินลี่ย์
แต่ละคนจ่ายคนละหนึ่งศิลาดำและแล้วกลุ่มของลินลี่ย์ก็ได้เข้าเมืองรอยัลวิง
ระหว่างสู้รบเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ลินลี่ย์ได้ฆ่าเทพแท้สามตนซึ่งแต่ละคนก็มีแหวนมิติเก็บของซึ่งมีมูลของราคาเกือบพันศิลาดำและยังมีของอื่นอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่ลินลี่ย์ไม่รู้จัก นั่นก็คือหินอาซูริช
มันมีลักษณะรูปแบบเดียวกับศิลาดำ อย่างไรก็ตามกลิ่นอายที่แฝงอยู่ในหินอาซูริชจะกล้าแข็งมากกว่าศิลาดำ
ลินลี่ย์คาดเดาว่า...หินอาซูริชซึ่งมีขนาดเท่ากับศิลาดำน่าจะเป็นสกุลเงินชนิดหนึ่ง เพียงแต่ นี่เป็นแค่การคาดเดาลินลี่ย์ไม่รีบร้อนถามใคร ที่สำคัญทั้งสามคนมีแหวนมิติของเทพแท้ทั้งสาม ถ้ารวมกันแล้วจะมีหินอาซูริชอยู่ยี่สิบสามสิบชิ้น
เมืองรอยัลวิง
กลุ่มของดีบาลาและลินลี่ย์สามคนเดินเข้าไปในเมืองรอยัลวิงพร้อมกัน ขณะที่เดินอยู่ในถนนกว้าง พวกเขาจ้องมองสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่โดยรอบ อาคารเหล่านี้มีกลิ่นอายที่หรูหราเก่าแก่ ทุกๆ สิ่งก่อสร้างจะถูกก่อสร้างในแบบที่เหมือนเป็นงานประติมากรรม
“แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถึงกับเป็นระดับปรมาจารย์ แต่ก็คงไม่ห่างกันมากนัก” ลินลี่ย์มีคุณสมบัติพอจะตัดสินเรื่องนี้ได้โดยธรรมชาติ
เนื่องจากความรู้แจ้งในกฎธาตุที่ลึกซึ้งของเขาลินลี่ย์ในฐานะศิษย์สำนักสิ่วตรงก็นับได้ว่าเป็นประติมากรผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง
“รูปสลักเหล่านี้แปลกมาก พวกมันดูเจริญหูเจริญตามาก” บีบีตาเป็นประกาย
“แน่นอน” ลินลี่ย์ถอนหายใจ “ข้าไม่คาดเลยว่าโครงสร้างรูปสลักยักษ์เหล่านี้จะสร้างอย่างระมัดระวังขนาดนั้น รายละเอียดขนาดนั้น สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ต้องมีค่ามากมายนัก”
ดีบาลาแค่นเสียง“ฮึ่ม, มูลค่าน่ะหรือ? แน่นอน แพงมากอยู่แล้ว! แผ่นดินแต่ละนิ้วในเมืองรอยัลวิงราคาแพงสุดกู่ ราคาสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ก็ต้องสูงอย่างน่าประหลาดเป็นธรรมดา เมื่อจะสร้างอาคารเหล่านี้พวกเขาจะเชื้อเชิญเทพผู้ชำนาญการพิเศษมาสร้างอาคารเหล่านี้เชียวนะ ราคาทุกๆ อาคาร...ข้ายังนึกไม่ออกเลยว่าข้าจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจึงจะหาเบี้ยศิลาดำพอซื้อหาได้”
ลินลี่ย์มองท่าทีในดวงตาของดีบาลา
ลินลี่ย์เข้าใจว่าราคาสิ่งก่อสร้างมหาศาลคงเกินความคาดคิดของดีบาลาไปมากมาย จนเขาไม่กล้าคิดเรื่องราคา ทั้งหมดที่เขาทำได้คือพูดงึมงำไม่กี่คำ
ขณะที่พวกเขายังคงเดินหน้าต่อไป ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจแล้วว่าเมืองรอยัลวิงคึกคักมากขนาดไหน
“เมืองรอยัลวิงมีอายุมาหลายพันล้านปีนับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว” ดีบาลาอธิบายกับลินลี่ย์ “แม้ว่าอาคารเหล่านี้จะไม่ได้รับความเสียหาย แต่ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะรู้สึกได้ถึงราศีที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ของมัน มีรอยแตกร้าวเล็กๆ ปรากฏให้เห็นในช่วงหลายปีผ่านมาแล้ว”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ความจริงเขารู้สึกได้ จำนวนปีซึ่งเมืองรอยัลวิงดำรงคงอยู่ผ่านมาได้นั้นมากจนน่าประหลาดใจแน่นอน
“บางทีมีเพียงแร่ของแดนนรกทำให้เมืองตั้งอยู่ได้เป็นเวลานานมากก็ได้” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง แร่ที่ถูกใช้สร้างอาคารเมืองนี้แต่เดิมอาจจะเคยใช้สร้างเป็นอาวุธ! ดังนั้นจึงมีความคงทนอยู่ได้นานเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตามสมบัติเทพโดยเฉพาะที่สร้างขึ้นรุ่นใหม่จะมีราคาถูกมากในแดนนรก
“มีร้านเสื้อผ้าอยู่ที่นี่ด้วยหรือนี่?” เดเลียตาเป็นประกายนางเห็นร้านข้างหน้าหรูหราสวยงามสร้างขึ้นจากหินสีขาวบริสุทธิ์ ลินลี่ย์หันไปดูเช่นกัน เขาเห็นร้านนี้แกะสลักมาจากหินสีขาวดุจน้ำนมขนาดใหญ่
เนื่อจากความทนทานของหินในแดนนรก ใครๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่าอาคารอย่างนั้นจะต้องมีราคามากเพียงไหน
“เป็นชุดที่สวยจริงๆ!”เดเลียมองผ่านกระจกใสเห็นชุดอยู่จำนวนหนึ่ง นางอดให้ความสนใจไม่ได้สตรีมักให้ความสนใจกับเสื้อผ้าเครื่องแต่กายเป็นพิเศษ
ดีบาลาหัวเราะเบาๆ “ราคาและค่าใช้จ่ายในเมืองรอยัลวิงนี้สูงลิ่วน่ากลัว เทพธรรมดาอย่างเราที่อาศัยอยู่ในชนเผ่าไม่มีปัญญาซื้อหาได้ ตัวอย่างเช่น ชุดที่อยู่ตรงนั้น...” ดีบาลาชี้ไปที่ชุดสีม่วงที่จัดแสดง
“มีความเป็นไปได้มากว่าวัสดุที่ใช้ตัดเย็บชุดจะมาจากทวีปอื่นอย่างเช่นทวีปบลัดริจ! หรืออาจจะมาจากดินแดนแห่งชีวิต หรือยมโลก หรือบางทีอาจมาจากแดนสวรรค์” ดีบาลาถอนหายใจ
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ถึงกับจ้องมองปากอ้าค้าง
ชุดๆ เดียวอาจใช้วัสดุที่มาจากดินแดนอื่น?
“ไม่ว่าวัสดุจะราคาเท่าใด...ชุดปกติก็มีราคาอย่างน้อยร้อยศิลาดำ ขณะที่ชุดเหล่านั้นที่สร้างจากวัสดุมีราคามากกว่าอีกเล็กน้อยอาจมีราคาพันศิลาดำ ถ้าวัสดุเหล่านั้นมาจากดินแดนอื่นซึ่งหาได้ยากและมีค่ามาก ราคาของชุดอาจมีราคาหลายล้านศิลาดำก็ได้!”
เดเลียก็ตกใจเช่นกัน!
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
เป็นไปได้ยังไงที่ว่านี่คือคำจำกัดความของ ‘เสื้อผ้า’? ชุดเพียงชุดเดียวราคาเทียบได้กับประกายเทพชั้นสูง! นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถมีได้แน่นอน
“แต่แน่นอนว่าชุดเหล่านี้จะมีผลพิเศษบางอย่างด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นในแง่ของความสามารถในการป้องกัน ชุดเหล่านี้จะเทียบได้กับบรรดาสมบัติเทพแน่นอน” จากนั้นดีบาลาหัวเราะต่อ “แต่ว่าแน่นอนข้าเพียงแต่ได้ยินอื่นพูดถึงชุดราคาล้านศิลาดำ แต่ข้าไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง”
ทุกคนที่เข้าไปในเมืองมีเป้าหมายเดียวกัน ซื้อและขายของ ที่สำคัญอาจเป็นไปได้ว่าสมาชิกเผ่าที่ยากจนมาเพื่อวัตถุประสงค์ใช้เงินเพื่อบริการที่นี่ในเมืองรอยัลวิง? พวกเขาไม่มีเงินทุนนี่
กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงเดินหน้าไปต่อโดยคำแนะนำของดีบาลา เขาได้แนะนำสถานบันเทิงทุกที่ในแดนนรก
ตัวอย่างเช่นเหล้า จะทำเหล้าดีๆ เขาอาจเชิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล้าผู้วิเคราะห์เรื่องเหล้ามาหลายร้อยล้านปี คนผู้ใช้วิธีพิเศษสร้างเหล้าใช้วัสดุที่มีค่ามากบางอย่างซึ่งอาจจะหามาได้เฉพาะจากที่อันตรายเท่านั้น
ความจริงน้ำลายของมังกรดำเจอร์ราร์ดหลังจากกลั่นออกมาแล้วถือว่าเป็นวัสดุที่มีค่าที่นำมาใช้ปรุงอาหารได้
อาหารและเหล้าเหล่านี้เกินกว่าจะเทียบได้ในแดนโลกธาตุในแง่รสชาติ
การกินอาหารที่ดีที่สุดในแดนนรกก็ต้องได้จากอาหารที่เลิศหรูที่สุด อย่างไรก็ตาม....ราคาก็สูงลิ่วตามไปด้วย แม้แต่อาหารธรรมดาก็มีราคาร้อยเหรียญศิลาดำ ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่าประกายเทียมเทพจะขายได้ราคาราวๆ ร้อยศิลาดำ ดังนั้นจึงมีสถานบันเทิงมากมาย แต่ราคาในสถานบันเทิงนั้นก็ขู่ขวัญคนส่วนใหญ่เช่นกัน
กลุ่มของลินลี่ย์เดินตามสมาชิกเผ่าคนอื่นมาถึงพื้นที่ซึ่งคึกคักที่สุดของเมืองรอยัลวิง
“ปราสาทสามหลังนั่น!” ตาของลินลี่ย์เต็มไปด้วยอาการตกใจ จากทางด้านซ้ายในระยะห่างออกไป เขาสามารถเห็นปราสาทใหญ่มหึมาสร้างขึ้นจากทรายดำ พวกเทพมีพลังสายตาที่ดีมากอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าปราสาทนี้สร้างขึ้นจากเม็ดทรายดำนับไม่ถ้วนสิ่งที่แปลกประหลาดก็คือทรายดำนั้นไหลอย่างต่อเนื่อง
แต่ตัวปราสาทไม่มีการขยับ
ด้านขวาของลินลี่ย์ในที่ไกลมีปราสาทโบราณสร้างขึ้นจากหินม่วง ที่ยอดของปราสาทมีดอกไม้สลักอย่างงดงาม ดอกไม้นี้ดูคุ้นเคยมาก เป็นตราเครื่องหมายของกองทัพเรดบุด ดอกเรดบุด!
และข้างหน้าลินลี่ย์....
มีปราสาทสีม่วงดูเก่าแก่ มีความสูงเกินกว่าร้อยเมตร เพียงแต่สีม่วงของปราสาทสีม่วงนี้เข้มจัด จนแทบจะเป็นสีดำ!ปราสาทนี้มีการแกะสลักขนาดใหญ่ สลักเป็นรูปใบหน้า ใบหน้าที่ดูเหมือนเลือนรางแต่มีดวงตาชั่วร้ายดูสดุดตามาก
“นี่คือปราสาททรายดำ!” ดีบาลาชี้ไปที่ปราสาทเก่าที่สร้างจากทรายดำ “ธุรกิจการค้าใดๆ สามารถไปตกลงกันที่นั่นเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจการค้าขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ที่นั่นเป็นที่ลับมาก มีการแข่งขันที่น่าสนใจมากมาย ผู้น้อยอย่างเราไม่ไปที่นั่นเป็นดีที่สุด”
จากนั้นดีบาลาชี้ไปที่ปราสาทเรดบุด “ที่นั่นคือปราสาทเรดบุด ส่วนใหญ่เป็นที่ประกอบการของชนชั้นสูง พวกเขาจะยอมรับของของเราด้วยราคา 70% ของราคาขายพวกเขา เมื่อเราเอาของไปขายที่นั่น แม้ว่าเราจะเสียเปรียบบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีเรื่องยุ่งยากอะไร”
“แล้วปราสาทนั้นเล่า?” ลินลี่ย์ชี้ไปที่ปราสาทที่ดูมีกลิ่นอายชั่วร้ายซึ่งอยู่ตรงด้านหน้าพวกเขา
เพราะเหตุผลบางอย่างดวงตาแดงที่ชั่วร้ายใบหน้าที่แกะสลักเลือนรางทำให้หัวใจของลินลี่ย์เต้นเร็ว แม้ว่าจะเป็นแค่รูปแกะสลักก็ตาม
“นั่นคือปราสาทอสูร!” ดีบาลากล่าว “ถ้าเจ้าต้องการเป็นอสูร เจ้าสามารถไปที่นั่นได้ จ่ายค่าธรรมเนียม จากนั้นเข้าร่วมการทดสอบ พวกอสูรโดยทั่วไปก็จะไปกันที่ปราสาทอสูร จริงสิ ลินลี่ย์ ไปปราสาทเรดบุดกันเถอะ เราเอาของไปขายที่นั่นเป็นดีที่สุดปราสาททรายดำเป็นสถานที่ซับซ้อน พ่อบ้านเอ็ดมอนด์ก็ยังเข้าไปที่ปราสาทเรดบุด”
นี่คือการเดินทางมาเมืองรอยัลวิงครั้งแรกของลินลี่ย์ เป็นธรรมดาว่าเขาไม่ต้องการไปปราสาททรายดำ
ที่สำคัญแม้แต่เทพชั้นสูงอย่างเอ็ดมอนด์ก็ยังไปปราสาทเรดบุดที่ปลอดภัยมากกว่า
“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์พาบีบีและเดเลียตามคนอื่นๆ มุ่งหน้าสู่ปราสาทเรดบุดด้วยเช่นกัน