ตอนที่ 446 สุดยอดไข่หมี
เมื่ออาเฮ่อกลับจากเดินทางมาที่วังพญาหมี เขารู้สึกประหลาดใจ
วังที่งามสง่าหายไปเต็มไปด้วยเหล่านักสู้ทุกที่ ทุกคนกำลังปราบพื้นที่อย่างขะมักเขม้น
“องค์ชายอาเฮ่อ!”
เมื่อเห็นอาเฮ่อนักสู้ชาวหมาป่าที่วุ่นวายกันทุกคนยืนตรงทักทายเขา
“พวกเจ้าทุกคนกำลังทำอะไร?” อาเฮ่อถามอย่างประหลาดใจ
“รื้อวังฝ่าบาทขอให้ปราบพื้นที่ทั่ววัง ปราบพื้นที่ทั่วเมืองหลวงและสั่งพลเมืองทั้งหมดให้ย้ายออกไป องค์ชายอาเฮ่อมาถึงทันเวลากำลังคนของเราตอนนี้ไม่เพียงพอเลย” นักสู้คนหนึ่งรายงานเขาอย่างมีความสุข
เกิดอะไรขึ้นกับจอมงี่เง่าถังอีก? อาเฮ่อพึมพำ วังพญาหมีสร้างจากเลือดเหงื่อและน้ำตาของเยี่ยนหย่งเลี่ยให้ความรู้สึกสง่างามและมีทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองหลวงก็มีประสบการณ์ใช้งานมาหลายปี สามารถเป็นที่อยู่ปัจจุบันได้ ทำไมถังเทียนจึงต้องทำลายทุกอย่าง?
อาเฮ่อรู้สึกว่าแปลก แต่เขาไม่ตื่นเต้น
เขาเข้าใจถังเทียน แม้ว่าจอมห้าวถังจะแปลกคนอยู่บ้าง แต่เขาค่อนข้างประหยัดและไม่หว่านเหรียญดาวพร่ำเพรื่อแน่นอน การใช้จ่ายมีมากมาย สามารถตัดสินใจทำเช่นนั้นต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่
อาเฮ่อเดินเลาะเศษซากวังและหาตัวถังเทียนพบได้โดยเร็ว
เมื่อเห็นอาเฮ่อถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย เขาลุกพรวดพราดและกวักมือเรียก “เสี่ยวเฮ่อ!”
ชิ้ง,สายตาทุกคู่หันมามองอาเฮ่อ
อาเฮ่อหยุดอยู่กับที่พยายามอดกลั้นความรู้สึกเหมือนกระบี่เสียดแทงใจ เขาทำหน้าเมินเฉยขณะก้าวเดิน“ลงมือเคลื่อนไหวรุนแรงอย่างนี้ หมายความว่ายังไง?”
“ฮ่าฮ่า! คือว่า.. นี่คือแผนเขย่าโลกของหนุ่มชาวฟ้า!” ถังเทียนตอบอย่างมีความสุข
อาเฮ่อไม่สนใจเขา สายตาของเขาจับอยู่ที่หลงโส่วจิงที่ตัวซีดเหมือนคนอมโรคและพูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านคือ?”
“ข้าหลงโส่วจิง” หลงโส่วจิงทักทาย “คารวะองค์ชายอาเฮ่อ”
ดรุณีที่อยู่ข้างตัวเขาทักทายตามด้วยเสียงแหลมสูงของนาง“คารวะพี่อาเฮ่อ ข้าหลงจื๋อจือ!”
สีหน้าของนักสู้รอบตัวหลงโส่วจิงมีท่าทีเคารพ บุรุษหนุ่มชุดดำก็คือองค์ชายอาเฮ่อที่ร่ำลือกัน มีข่าวลืออยู่ภายนอกว่าอาเฮ่อใช้อำนาจของกลุ่มดาวคนธนู ข่าวลือนี้ไม่เคยยืนยันโดยราชินี แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ราชินีไม่เคยแต่งตั้งผู้สืบทอดกลุ่มดาวคนธนูทำให้ข่าวลือดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
อาเฮ่อยิ้ม“คารวะองค์ชายโส่วจิง ท่านหญิงจื๋อจือ”
“เสี่ยวจื๋อจือเจ้ามองดูเหมือนแอปเปิ้ลนะ ทำไมเจ้าถึงเรียกว่าเสี่ยวจื่อจือล่ะ (ส้ม)”ถังเทียนมองด้วยความสงสัย
เส้นเลือดปรากฏอยู่บนหน้าผากของเสี่ยวจื๋อจือ นางพยายามอดกลั้น เสี่ยวจื๋อจือต้องเติบใหญ่ ข้าจะไม่ยอมให้พี่โส่วจิงลำบาก...
หลิงซิ่วมองดูถังเทียนอย่างไม่พอใจ “พูดเป็นเด็กไปได้”
ถังเทียนหันหน้ามามองด้วยความประหลาดใจ “งั้นบอกข้ามา นางเหมือนแอปเปิ้ลหรือส้มจีน?”
หลิงซิ่วชำเลืองมองดูจากนั้นตอบ “แอปเปิ้ล”
งี่เง่าทั้งคู่...
อาเฮ่อมองดูเสี่ยวจื๋อจือเริ่มเบะปากน้ำตาคลอเบ้าตานาง เขารีบพูดปลอบโยนทันที “เสี่ยวจื๋อจือน่ารักงดงามจริงๆ!”
“จริงเหรอ?” เสี่ยวจื๋อจือเงยหน้าทันที ใบหน้านางมีแววคาดหวังและเอียงอายเล็กน้อย
“แน่นอน!” อาเฮ่อเอาขวัญชิ้นเล็กให้นางเป็นการปลอบขวัญ “นี่คือกระเรียนน้อย เป็นของขวัญให้เสี่ยวจื๋อจือ สาวน้อยน่ารักอย่างเสี่ยวจื๋อจือเหมาะจะสวมเอาไว้”
เสี่ยวจื๋อจือรับไว้อย่างมีความสุข “ขอบคุณพี่อาเฮ่อ”
หลงโส่วจิงยิ้มดูเหมือนคนพวกนี้ไม่ยากจะสนทนาโต้ตอบ
“ผู้ดีจอมปลอม!” ถังเทียนมองค้อน
“ดัดจริต” หลิงซิ่วถ่มน้ำลาย
อาเฮ่ออดมองไม่ได้ เขาไม่รู้จะรับมือถังเทียนยังไงดังนั้นจึงได้แต่กระแอม “แล้วเจ้ามีแผนจะเขย่าโลกยังไง?”
ตามคาดถังเทียนหัวเราะเสียงดังลั่น มีสีหน้าภาคภูมิใจ เขากล่าว “โส่วจิน (ผ้าเช็ดหน้า) อธิบายให้เสี่ยวเฮ่อฟังหน่อย”
โส่วจิน (ผ้าเช็ดหน้า).. รู้สึกเห็นใจอาเฮ่อ.. เป็นไปตามคาด เนื่องจากเขาผู้คนถูกข่มเหงนั่นเอง
หลงโส่วจิงได้แต่เพียงพูด “นี่เป็นการค้นพบโดยอาจารย์เหลียงฟง อาจารย์เหลียงฟงพบว่าพลังดวงดาวทั่วทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่ไหลเวียนผ่านตัวฝ่าบาท”
นัยน์ตาอาเฮ่อเป็นประกายราศีกลิ่นอายที่ไม่อาจอธิบายได้แผ่กระจายออกมาทำให้ใจของนักสู้รอบๆมีปฏิกิริยารู้สึกเยือกเย็น
แม้แต่เหลียงฟงผู้เป็นนักสู้ระดับเซียนก็อดกรอกตาไม่ได้ เร็วๆ นี้เขาได้พบกับคนที่บุคลิกประหลาดผิดธรรมดามากมายเกินไปทำให้ทั้งชีวิตของเขากลายเป็นเรื่องตลก
แม้ว่าหลงโส่วจิงจะประหลาดใจแต่เขาก็ไม่ได้รับผลกระทบมาก และกล่าว “หลังจากศึกษาดูเราจึงค่อยตระหนักว่ายิ่งเราใกล้ท่านเจ้าดวงดาว ความเข้มข้นของพลังดวงดาวก็สูงยิ่งขึ้น มีท่านเจ้าดวงดาวเป็นศูนย์กลาง พลังดวงดาวที่สูงที่สุดจะอยู่ในระยะหนึ่งลี้และปัจจุบันนี้หนาแน่นถึงร้อยละยี่สิบเก้า หลังจากนั้น พอเกินกว่าหนึ่งลี้ ความหนาแน่นจะตกลงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันนี้พลังดวงดาวของกลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่ที่ร้อยละสิบห้า นั่นก็มีความหมายว่าเมื่อมีท่านเจ้ากลุ่มดาวเป็นศูนย์กลาง ในรัศมีพื้นที่สิบสี่ลี้ค่าพลังดวงดาวจะมีระดับสูง”
อาเฮ่อฟังอย่างสงบและไม่ได้ขัดจังหวะ
หลงโส่วจิงอธิบายต่อ “สำหรับนักสู้ระดับเซียนหรือนักสู้ที่อีกครึ่งก้าวจะเข้าสู่ระดับเซียนความหนาแน่นของพลังดวงดาวไม่มีความหมายต่อพวกเขา เนื่องจากปราณแท้ของพวกเขาใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว แต่สำหรับนักสู้ระดับต่ำจะช่วยลดระยะเวลาการฝึกของพวกเขาได้อย่างมาก ดังนั้นฝ่าบาทตัดสินใจสร้างพื้นที่การฝึกฝนใหม่”
อาเฮ่อผงกศีรษะ แต่เขายังสับสน “แต่เจ้าไม่เห็นต้องรื้อวังเลย”
ถังเทียนหงุดหงิด “แน่นอนเราต้องทำ มันคือพลังดวงดาวที่เข้มข้น แผ่นดินทุกตารางนิ้วมีค่า! เราไม่อาจเสียส่วนใดไปในวังที่เป็นอุปสรรคเหล่านั้น นอกจากนี้เจ้าพวกบ้าจากในเมืองกำลังต่อต้านข้า พวกเขากำลังยุยงส่อเสียดอยู่ในที่ลับหลัง ข้าต้องให้โส่วจินรับมือพวกเขาทุกคน ข้าอาจให้ผลประโยชน์ดีๆแบบนั้นกับพวกเขาได้ ดังนั้นข้าต้องให้พวกเขาย้ายออกไปทั้งหมดก่อน”
อาเฮ่อสงสัย “เจ้าวางแผนจะทำอะไรกับพื้นที่วัง?”
ถังเทียนมีสีหน้ากระหยิ่มอย่างเห็นได้ชัดเจน “ข้ากำลังจะสร้างไข่ใบใหญ่มากๆและสร้างเสาที่แข็งแรงทนทานอยู่ในนั้นซึ่งจะสร้างให้มีความสูงมาก หลังจากนั้นข้าจะขึงเชือกที่แข็งแรงไว้มากมายทุกระดับชั้นเท่าที่ข้าจะทำได้ หลังจากนั้นทุกคนก็สามารถนั่งบนเชือกและฝึกฝนได้ โอวข้ามีแผนที่จะขุดลงไปด้วยเช่นกัน เชือกมากก็ยิ่งดี จะได้ไม่เปลืองเนื้อที่ ทุกคนที่อยู่ข้างในจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่”
อาเฮ่อฟังอย่างตื่นตกใจ ในใจเขามีภาพเสาใหญ่โตมโหฬารสูงขึ้นไปในท้องฟ้าและมีเชือกหนาแน่นเหมือนกับใยแมงมุมยืดขยายออกไปสิบสี่ลี้ เหมือนกับว่าเชือกทุกเส้นใช้แขวนตากเนื้อ โอ๊ะไม่ใช่ นั่งเต็มไปด้วยนักสู้..
ฉากภาพนั้น ช่างดูน่ากลัวจริงๆ!
อาเฮ่อกล้าประกันได้เลยว่ากลุ่มดาวใดๆพยายามสอดแนม และมาเห็นฉากภาพที่น่ากลัวนั้น พวกเขาคงไม่อาจรวบรวมความกล้าเข้ามาหาเรื่องกับกลุ่มดาวหมีใหญ่แน่นอน
นักสู้ที่เป็นเหมือนฝูงตั๊กแตน
อาเฮ่อสั่นไปทั้งตัว
อาเฮ่อพาคนมาล้านคนและไม่มีใครแก่เกินหรือเด็กเกินไปหรืออ่อนแอเกินไปทุกคนเป็นคนรุ่นหนุ่มแข็งแรงที่สุด
ความเร็วของแผนไข่หมีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะมันคือพื้นที่ฝึกฝนและมีรูปร่างเหมือนกับไข่ ถังเทียนตัดสินใจเรียกว่าไข่หมี
ใครก็ตามที่ได้ยินชื่อนี้ต่างตีสีหน้าประหลาด
หมีไม่เคยวางไข่ซะที่ไหนใครๆก็น่าจะรู้กันดี...
วันที่ไข่หมีสร้างสำเร็จทุกคนยังคงถูกคุกคามโดยสิ่งก่อสร้างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ราวกับว่าพวกเขาอยู่ภายในไข่ใบยักษ์ เสาบรอนซ์ที่หนาแน่นแข็งแรงตั้งตระหง่านอยู่ในใจกลางไข่ เชือกจำนวนมากมายขึงแผ่ขยายเหมือนกับใยแมงมุมฝังเข้าไปในภายในของผนัง จุดใดก็ตามที่เชือกโยงเข้ามาที่ทางเข้า ดังนั้นพวกนักสู้มีทางเดียวคือก้าวไปบนเชือกด้วยการใช้วิชาตัวเบาของตนเอง
ทุกระยะสั้นๆจะมีเครื่องหมายบ่งบอกนักสู้ให้ทราบถึงระดับความหนาแน่นของพลัง
อาเดรียนตกใจอยู่นานสิ่งก่อสร้างที่อยู่ข้างหน้าเขานั้น นั่นเป็นสิ่งมหัศจรรย์
เชือกทุกเส้นมีความยาวที่แตกต่างกัน ยาวที่สุดก็สิบสี่ลี้ซึ่งก็คือเจ็ดกิโลเมตรสั้นที่สุดก็คือหกลี้หรือราวสามกิโลเมตรและบนเชือกจะมีพื้นที่ราวเมตรครึ่งเป็นระยะห่างระหว่างคน นั่นก็หมายความว่าบนเชือกยาวที่สุดสามารถรองรับนักสู้ได้สี่พันคน เชือกสั้นที่สุดสามารถรับนักสู้ได้พันห้าร้อยคน
ไข่หมีจุคนได้มากที่สุดในครั้งเดียวก็คือห้าแสนสองหมื่นคน
นั่นคือสถานที่ฝึกฝนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ปัจจุบันนี้ความเข้มข้นพลังดวงดาวของไข่หมีมากถึงระดับร้อยละสามสิบเอ็ดแล้ว ตัวเลขที่น่ากลัวนี้ใกล้เคียงมากกับความหนาแน่นพลังดวงดาวจากกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์ของหนึ่งในสิบตำหนักระนาบกลาง เพราะความคงอยู่ของพลังระดับนี้ กลุ่มดาวเซกซ์แทนส์จึงสามารถอาศัยพลังงานดวงดาวที่มีความหนาแน่นร้อยละสามสิบสามกลายเป็นสถานที่ฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นกลุ่มดาวสำหรับการฝึกฝนของสวรรค์วิถี
สถานที่ปกติของกลุ่มดาวหมีใหญ่จะมีความหนาแน่นของพลังดวงดาวถึงร้อยละสิบเจ็ดเกินกว่าในยุคของเยี่ยนหย่งเลี่ยและยังคงเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ถังเทียนไม่ได้ฮุบกลุ่มดาวมังกร ถ้าเขายึดและผนวกสมบัติเซียนของกลุ่มดาวมังกรอย่างนั้นพลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่จะพุ่งทะยานอีกครั้ง
อาเดรียนไม่รู้ว่าทำไมถังเทียนจึงไม่ยึดกลุ่มดาวมังกรซะ แต่ภาพที่อยู่ต่อหน้าของเขาก็ทิ้งความประทับใจอย่างลึกซึ้งไว้แล้ว
นักสู้ชาวหมาป่าก็คือกระสุนมนุษย์ แต่กระสุนมนุษย์จำนวนล้านคนก็คือจำนวนที่น่ากลัว เคลื่อนย้ายกระสุนมนุษย์จำนวนล้านคนเป็นเรื่องที่มิอาจปกปิดกันได้ จากกลุ่มดาวหมาป่าสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่พวกเขาจำเป็นต้องผ่านกลุ่มดาวอันโดรเมดา เมื่อกลุ่มนักสู้หมาป่าจำนวนล้านคนหลั่งไหลเข้ามาในกลุ่มดาวอันโดรเมดาจึงทำให้เกิดเรื่องฮือฮาและตื่นเต้นครั้งใหญ่
กลุ่มดาวรอบๆกลุ่มดาวอันโดรเมดาที่แต่เดิมยึดครองประตูดวงดาวเมื่อเห็นคลื่นมนุษย์ชาวหมาป่า ทั้งหมดพากันตกใจกลัวพากันถอนถอยกำลังออกทั้งหมด
ในเพียงเวลาคืนเดียวกลุ่มดาวอันโดรเมาซึ่งเปลี่ยนแปลงไปเกินจะรับได้ ก็ฟื้นฟูอยู่ในสภาพปกติ
ฉากภาพที่เกิดขึ้นทำให้อารมณ์ความรู้สึกของแอนเดรียนาซับซ้อน นางเลือกส่งนักสู้ชาวอันโดรเมดาที่มีศักยภาพสองสามคนและส่งไปกลุ่มดาวหมีใหญ่
และอาเดรียนกลายเป็นอธิการบดีของเหล่านักสู้หมาป่าหนึ่งล้านคนไปในทันที
อธิการบดีสถาบันยุทธไข่หมี
อาเดรียนมีฉายาว่าพรานนักล่าและเป็นคนที่นำสถาบันที่ไร้ชื่อเสียงในกลุ่มดาวนายพรานจนกลายเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งด้วยตนเอง แต่เมื่อเพิ่มนักเรียนล้านคนขึ้นมาในอาชีพเขา เขาไม่เคยมีมากมายขนาดนั้น
ใจของอาเดรียนยุ่งเหยิงซับซ้อน ไม่ใช่เพราะงานท้าทาย แต่เขายังเป็นเพียงเชลยคนหนึ่ง...
เขาไม่สามารถเข้าใจความคิดถังเทียนแม้แต่น้อย
เขาโง่ขนาดไหนถึงขนาดมอบคนล้านคนให้กับเชลย?
เขาไม่กลัวว่าข้าจะลงมือทำอะไรหรือ?
เขาส่ายหัวโยนเรื่องคลางแคลงใจทิ้งไปจากใจ ไม่ว่าถังเทียนจะคิดยังไงเขาก็ไม่ยอมยกเลิกความคิดของเขาเช่นกันบางทีเขาอาจคิดหาวิธีช่วยกลุ่มดาวนายพรานก็ได้ การลุยเดี่ยวฆ่าตอบโต้ในวิธีของเขาไม่ได้ช่วยอะไร อยู่ที่นี่เขาอาจคิดหาวิธีที่ส่งผลต่อถังเทียนและมีอิทธิพลต่อกลุ่มดาวหมีใหญ่ นั่นคงจะช่วยกลุ่มดาวนายพรานได้มากขึ้น
ถึงตอนนั้น...พวกเจ้าทุกคน ต้องทนต่ออีกนิด
เขาหันหน้าไปมองที่ตำแหน่งกลุ่มดาวนายพรานคร่ำครวญในใจ