วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0130
บทที่ 40 เมืองสุสาน (2)
* * *
รู้ตัวอีกที ฝูงผีที่ล้อมทุกคนอันตรธานหาย เหลือแค่กลุ่มของคังซอนฮูและยักษ์
ยักษ์กำลังคุกเข่ากุมหัวตัวสั่น มองไม่เห็นใบหน้าที่ถูกผ้าขี้ริ้วบดบัง
เห็นเพียงแขนขาอันผอมซูบที่ปกปิดศีรษะ บ่งบอกชัดเจนว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เก่าแก่เพียงใด
ชาโซฮีได้สติขณะเหม่อมองอากาศ
ดูเหมือนภาพหลอนที่ทั้งใหญ่และตระการตา จะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่
คงเป็นภาพหลอนจริงๆ
คังซอนฮูคือมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม แต่มนุษย์ก็คือมนุษย์วันยังค่ำ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่เหาะเหินเดินอากาศหรือฆ่าคนด้วยสายตา
แต่ในวินาทีนี้ ชาโซฮีเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
คังซอนฮูเป็นมนุษย์เหมือนตนจริงหรือ?
ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นตัวตนที่สูงส่งกว่านั้น?
ลำพังความช่วยเหลือจากสหายคนพิเศษ มนุษย์คนหนึ่งจะทำให้ยักษ์ที่เฝ้าสุสานโบราณคุกเข่าตัวสั่นได้เชียว?
เธอพูดไม่ออก
เพื่อนที่เคยสนิทกันมากตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน
ความกลัวท่วมท้นหน้าอกกะทันหัน ลมหายใจถี่ขึ้น ราวกับคนที่เพิ่งหยุดวิ่งหลังจากสับเต็มฝีเท้า
เธอไม่ได้กลัวยักษ์อัปลักษณ์ แต่กลัวว่าจะวางตัวแบบเดิมต่อหน้าเพื่อนเก่าไม่ได้
แต่ไหนแต่ไร ทุกครั้งที่เห็นคังซอนฮูกลับจากการเดินทางไกล ชาโซฮีจะดีใจโดยไม่คิดอะไรมาก
แม้จะเคยฟังประสบการณ์ในวงเหล้า แต่ก็เหมือนนั่งฟังเรื่องเล่าในตำนานอย่างสนุกสนาน
ทว่า เมื่อเห็นสถานะและความสำเร็จของคังซอนฮูกับตาตัวเอง เรื่องเล่าที่เคยได้ยินมา ทยอยเป็นรูปเป็นร่างในความทรงจำ
นั่นไม่ใช่แค่ตำนานเก่าแก่ แต่เป็นเหตุการณ์จริงในต่างโลก เป็นประสบการณ์ขณะคังซอนฮูจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์
วินาทีนี้ คังซอนฮูพิสูจน์ให้เห็นว่าทั้งหมดคือความจริง โดยการใช้กายามนุษย์ ทำให้ผู้เฝ้าสุสานโบราณยอมจำนน
“…ซอนฮู?”
คังซอนฮูแหงนมองผู้เฝ้าสุสานเป็นเวลานาน
พลั่วที่อีกฝ่ายทำหลุดมือ ตกกระแทกตึกจนฝุ่นตลบ
ยักษ์เปิดปากพูดก่อน
「ท…ทำไมเผ่าพันธุ์ที่ถูกทอดทิ้ง… ถึงมีหลักฐานคำสาบานของราชันยักษ์…」
คังซอนฮูก้มมองหัวใจ
“หัวใจดวงนี้คือหลักฐานคำสาบาน?”
“แล้วเจ้าคิดว่ามันคืออะไร!”
“…ดีโอเน่ไม่เคยเล่าให้ฟัง”
“ที่เจ้าเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่ใช่เพราะรู้จักอำนาจของมันหรอกหรือ?”
หงึก
“ฉันแค่เชื่อ แต่ไม่มีอะไรรองรับ”
แม้จะไม่มีอะไรรองรับ แต่คังซอนฮูเชื่อใจดีโอเน่หลังจากได้พูดคุยกับเธอ
ลิลี่เริ่มเข้าใจหลักในการดำรงชีวิตของชายหนุ่มมากขึ้น
— หากผู้ใดพานพบมนุษย์ผมดำผู้ครอบครองหัวใจข้า จงเปิดทางให้เขา
— มิเช่นนั้น ข้าขอสาบานไว้ ณ ที่นี้ว่า หอกของราชันยักษ์จะผงาดขึ้นอีกครั้ง
ดีโอเน่ยืมท้องฟ้าเพื่อตะโกนไปถึงยักษ์ทั่วโลก แม้แต่ยักษ์ที่อาศัยในสุสานซึ่งปราศจากท้องฟ้า ก็มิอาจหลีกหนีจากถ้อยคำนี้
คังซอนฮูผุดความสงสัย
“…นายชื่ออะไร”
「ผ…ผู้เฝ้าสุสาน ผู้เฝ้าสุสานไร้นาม」
ยักษ์ตอบคำถามคังซอนฮูอย่างว่าง่าย ถ้อยคำมีเสียงหายใจปนเกินกว่าครึ่ง บ่งบอกชัดเจนว่ามันกำลังหวาดผวาแค่ไหน
“ไม่มีชื่อ?”
「ข…ข้าไม่มีสิทธิ์… ได้รับนามจากองค์ราชา」
คังซอนฮูพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเรียกนายว่าผู้เฝ้าสุสาน… เสียงของดีโอเน่ไม่มีทางส่งมาถึงที่นี่แน่ ทำไมนายถึงหยุด?”
「เพราะเจตจำนงของราชา」
ชายหนุ่มไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้เฝ้าสุสานพูด
เจตจำนงของราชาเกี่ยวอะไรด้วย?
「เจตจำนงของราชาก็คือ… เสียงคำรามของราชาที่สั่นสะเทือนไปถึงวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องได้ยินด้วยหู… พวกเราทุกคนต้องเชื่อฟัง」
คังซอนฮูครุ่นคิด
หลังจากไตร่ตรองเกี่ยวกับกองทัพผีเมื่อครู่ ชายหนุ่มเกร็งมือข้างที่ถือชิ้นส่วนหัวใจดีโอเน่และพูด
“พาฉันไปยังจุดที่สำคัญที่สุดของสุสาน”
「……」
“ในเมื่อราชามอบหน้าที่ผู้เฝ้าสุสานให้ นายก็ต้องทำตาม… เคยเป็นส่วนหนึ่งของยุคทองไม่ใช่รึไง”
「……」
ค่อนข้างผิดคาด สายตาคังซอนฮูที่เงยหน้าจ้องผู้เฝ้าสุสานที่กำลังสั่นกลัว เต็มไปด้วยความโกรธ
“ละอายใจหรือ?”
ยักษ์หยิบพลั่วและค่อยๆ พยุงตัวยืน
แม้แต่คนธรรมดาอย่างชาโซฮีและจินซอยอน ก็ยังรับรู้ความเศร้าจากแผ่นหลังยักษ์ที่เชื่อฟังคังซอนฮู
คังซอนฮูกำลังตำหนิตัวตนขนาดมหึมานั่น
ผู้เฝ้าสุสานนำทางไปยังใจกลางเมือง
ระยะทางค่อนข้างไกล ต้องเดินเท้าเกือบชั่วโมง ระหว่างทางเต็มไปด้วยหลุมศพหินที่มีร่องรอยถูกขุดคุ้ย
“นายกำลังโมโห?”
จินซอยอนที่ผ่อนคลายลงหลายส่วน ถามขณะเดินตาม
“…ไม่แน่ใจเหมือนกัน ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น”
“ทำไมล่ะ? ฉันอยากฟังเหตุผล”
คังซอนฮูเงยหน้ามองแผ่นหลังยักษ์
“…ยักษ์ตัวนี้ได้รับคำสั่งให้เฝ้าสุสาน แต่กลับขุดคุ้ยหลุมศพเพื่อกินวิญญาณ”
“ที่พวกผีเล่าให้ฟังไง”
ซอจีอาช่วยเสริม
คังซอนฮูเว้นวรรคเล็กน้อยก่อนจะเล่าต่อ
“…ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ฉันเคยเจอผู้คนจากยุคทองไม่น้อย ส่วนใหญ่สูญเสียความหวัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองจนถึงที่สุด… อันที่จริง คนไม่ทำหน้าที่ก็ไม่ผิด ถ้าความสามารถไม่ถึงก็ไม่ควรฝืนทำต่อ”
ทว่า ไม่เพียงผู้เฝ้าสุสานจะไม่ทำหน้าที่ แต่ยังขุดคุ้ยกินวิญญาณในตอนที่ราชาไม่อยู่
“…แบบนี้มันผิด”
ฉากตรงหน้าทำให้ลิลี่ตื้นตัน
เพราะมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเคยไม่เชื่อในชะตากรรม เริ่มเข้าใจความสำคัญของชะตากรรม
ระหว่างนั้น ผู้เฝ้าสุสานนำทางมาถึงใจกลางเมือง
ที่นี่มีหลุมศพขนาดมหึมา ป้ายหลุมศพสูงประหนึ่งตึกระฟ้าเมื่อมองจากระยะไกล
หลุมศพแห่งนี้ถูกขุดไปแล้ว เผยให้เห็นช่องว่างด้านล่างชัดเจน
“…สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้”
ทันทีที่เห็น จินซอยอนนึกถึงภาพสุสานของมหาจักรพรรดิ
เป็นการเปรียบเปรยที่เหมาะกับฉากตรงหน้า
มิติขนาดใหญ่ที่ลึกไม่ต่ำกว่ายี่สิบเมตร ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เต็มไปด้วยหุ่นมนุษย์ที่ปั้นจากดิน
คังซอนฮูอ่านข้อความบนป้ายหลุมศพ
“เราจะหลับใหลอยู่ที่นี่จนกว่ายุคสมัยเสื่อมโทรมจะสิ้นสุด และทองคำถูกฟื้นฟู”
เพื่อไม่ให้หลงลืมสง่าราศีที่เคยเต็มเปี่ยมในสายลม เราขอปฏิเสธความตาย
ตามพระประสงค์ขององค์ราชา เราจักหลับใหลอยู่ที่นี่
แม้พระองค์จะหายไป เราสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อราชาตลอดไป
「…แด่ราชาองค์ก่อน เพื่อราชาองค์ถัดไป」
ทันใดนั้น ผีสีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นในร่างคล้ายผู้บัญชาการทหาร และคุกเข่าคำนับคังซอนฮู
「ขอบคุณที่ช่วยปกป้องสุสานของเรา」
“…พวกนายคือ… กองทัพของราชา?”
ผีส่ายหน้า
「เราคือกองทัพที่ติดตามผู้ที่จะกลายเป็นราชาในอนาคต มิใช่กองทัพของราชาองค์ก่อน」
“…”
เสียงพูดของผีดังกังวาน
ซอจีอาที่ยืนมองจากข้างหลังเปิดปาก
“ชายคนนี้ช่วยพวกเจ้าไว้ใช่ไหม”
ผีพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น พวกเจ้าก็ต้องกลายเป็นกำลังให้เขา? นั่นคือกฎของโลก”
ผีส่ายหน้า
「เรารับใช้เพียงผู้ที่จะกลายเป็นราชา」
“ถ้าไม่ใช่ราชา พวกเจ้าจะไม่เชื่อฟัง? แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ปกครอง?”
「หากเรายอมรับว่าใครคือราชา เราจะทำตามคำสั่งของผู้นั้น」
แม้ผีจะไม่มีสีหน้า แต่ทุกคนก็สัมผัสถึงความตั้งใจอันแน่วแน่
คังซอนฮูยืนฟังพลางครุ่นคิด ไม่นานก็ยิ้ม
“…น่าสนุกดีนะ ที่นี่เจ๋งจริงๆ”
ทุกคนเริ่มตระหนัก
ถึงความจริงที่ว่า คังซอนฮูเอาแต่มองไปรอบๆ มาได้สักพักแล้ว
คังซอนฮูพูดกับผู้เฝ้าสุสานที่ยืนนิ่งในท่าค้ำพลั่ว
“…นับแต่นี้เป็นต้นไป จงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี คราวหน้าที่ฉันกลับมา หวังว่าจะไม่เห็นนายก่อปัญหา”
「…」
ผู้เฝ้าสุสานค่อยๆ ก้มศีรษะ
ดูเหมือนจะยังตกใจเรื่องที่มนุษย์มีหลักฐานคำสาบานของราชันยักษ์
หลังจากนั้น ทุกคนรวมถึงจินซอยอนเริ่มคาดหวัง
คังซอนฮูจะทำอะไรต่อ?
สิ่งที่เขาทำคือการเดินชมรอบสุสาน พลางหยิบสมบัติบางชิ้นเก็บใส่กระเป๋า
ชายหนุ่มอยากรู้ว่าหลุมศพทำจากวัสดุอะไร และหินย้อยเหล่านี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือไม่
ลิลี่ชินกับภาพนี้แล้ว แต่มันแปลกตาสำหรับคนอื่น
ไม่นานทุกคนก็เริ่มคุ้นเคยกับแนวทางการผจญภัยของคังซอนฮู
หลังรอดพ้นจากวิกฤติยักษ์ สุสานแห่งนี้คือลานผจญภัยแสนสนุก
จนกระทั่งทุกคนออกจากสุสานและขึ้นลิฟต์
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากใช้เวลาสำรวจสักสองสามวัน… ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีของแบบนี้อยู่ใต้เบสแคมป์”
จินซอยอนพยักหน้าในสภาพกึ่งเหม่อ
สุสานอยู่ใกล้มากจนไม่ต่างอะไรกับไปจ่ายตลาด ชายหนุ่มจึงไม่รีบร้อน และทุกคนเริ่มชินกับท่าทีสบายๆ นี้แล้ว
เช่นเคย คังซอนฮูกลับสำนักงาน จัดกระเป๋าและทบทวนเนื้อหาการสำรวจ
“วิญญาณที่ถูกทิ้งไว้เพื่อฟื้นฟูเมือง…”
ถ้าจะให้เปรียบก็คง กองทหารดินเหนียว
แต่เป็นทหารดินเหนียวที่มีวิญญาณจริงๆ
คังซอนฮูนั่งบนเก้าอี้ไม้ในลานกว้าง ดำดิ่งอยู่กับความคิดพลางจ้องหน้าปัดเข็มชี้ทองคำ
ปลายเข็มยังชี้ขึ้นฟ้าเหมือนเดิม
เป้าหมายถัดไปคือการมุ่งหน้าตามทิศของเข็ม
“เจ้าจะทำยังไงต่อ”
ลิลี่ถามเป็นนัย
“ไม่รู้เหมือนกัน มันชี้ไปบนฟ้าเลยนะ ฉันจะทำอะไรได้? ให้จองจีฮุนช่วยเตรียมเฮลิคอปเตอร์?”
“เฮลิ…ก็อบ?”
ลิลี่เอียงคอ
เฮลิคอปเตอร์คืออะไร เราควรอธิบายยังไง?
จะว่าไป สำหรับปลายทางคราวนี้ ลำพังเฮลิคอปเตอร์ก็อาจไปไม่ถึง
ครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มเพิ่งตระหนักว่าส่วนปลายของเข็มชี้ต่างไปจากทุกที
“มันสั่นมากไปไหม”
เมื่อไม่กี่วันก่อน ปลายเข็มแทบจะไม่ขยับ แต่ตอนนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้น
ขณะสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลง
แสงสว่างส่องลงมาจากท้องฟ้า ลิลี่และคังซอนฮูลุกขึ้นนั่งพร้อมกัน
“ตะวันตก…”
ลำแสงเส้นใหญ่บนท้องฟ้าฝั่งตะวันตกกำลังพุ่งลงพื้น สว่างจ้ายิ่งกว่าพระอาทิตย์ดวงแรก
ทุกคนทราบทันทีว่านี่คือดาวตก แต่ดาวตกในต่างโลกมักหมายถึงดารากร
“…ดารากรไม่ได้ร่วงหล่นแบบนี้”
ขณะลิลี่พูดจบ
โครม——!
ดาวตกกระแทกพื้น
เกิดเสียงดังกังวาน
แสงแดดที่ส่องผ่านเส้นขอบฟ้าถูกบดบังจนเกิดเงา
ลิลี่และคังซอนฮูรีบมองไปทางตะวันตก
มีลมกระโชกพัดสวนมาจนต้นไม้สั่นรุนแรง เมฆบนฟ้าไหลเร็วขึ้น
“…ขนนก”
แม้จะอยู่ไกลลิบ แต่ทั้งสองก็เห็นชัดเจนว่า มีขนนกปักอยู่ด้านหลังภูเขา
ขนนกยาวยิ่งกว่าความสูงภูเขาเสียอีก
มันแผ่แสงออโรร่าสีน้ำเงินเข้มอมม่วง
สีเดียวกับท้องฟ้ายามราตรีในต่างโลก
______________________
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)
ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:
https://www.facebook.com/bjknovel/
หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel