ตอนที่แล้วตอนที่ 82 กลิ่น (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 84 ปราสาท (อ่านฟรี)

ตอนที่ 83 สุดตรอกช่างปั่นฝ้าย (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 83 สุดตรอกช่างปั่นฝ้าย

หลังจากรวมตัวพวกเขาไปที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตอนนี้เป็นเวลาทำงานจึงไม่มีคนอยู่ที่นั่น และเด็กๆ ต่างก็วุ่นวายกับการเรียนด้วย วันหยุดคริสต์มาสของพวกเขายังไม่เริ่มต้น

แม็กนัสหยิบไม้กวาดสองอันออกมาจากกระเป๋าขยายพื้นที่ของเขา บ๊อบบี้ไม่รู้วิธีบิน ดังนั้นมันจึงเสี่ยงสำหรับเขา

“แล้วเราจะไปที่ไหนก่อนดีล่ะ” บ๊อบบี้ถาม

"ไปรับสมาชิกคนที่สามของโต๊ะกลม เซเวอรัส สเนป” รักนาร์ตอบเขา

แม็กนัสขึ้นไปบนไม้กวาดของเขาและเรียกบ็อบบี้ให้นั่งข้างหลังเขา "มา นั่งจับดีๆ นะ เราจะบินไปที่นั่น"

"อะไรนะ? แล้วคนจะไม่เห็นเราเหรอ?” บ๊อบบี้ถาม

แม็กนัสหยิบไม้กายสิทธิ์ของเขาออกมาและหัวเราะเบาๆ “เวทมนตร์ไง เจ้าหนู เวทมนตร์ เร็วเข้ารีบขึ้นไปนั่งได้แล้ว”

บ๊อบบี้นั่งซ้อนข้างหลังเขาอย่างตื่นเต้น ไม้กวาดลงคาถาให้รู้สึกสบายตัวและไม่เหมือนไม้กวาดที่ไว้กวาดทั่วไป ดังนั้น บ๊อบบี้จึงไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนแท่งไม้ด้วยซ้ำ

จากนั้นแมกนัสก็ร่ายคาถาใส่ตัวเองและไม้กวาดของรักนาร์ เพื่อไม่ให้ใครเห็นพวกมันบินได้ มันเป็นคาถาที่เรียบง่ายที่พ่อมดส่วนใหญ่ใช้

“เฮ้ แม็ก การใช้เวทมนตร์นอกโรงเรียนผิดกฎพ่อมดที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่ใช่หรอ? พวกคนในกระทรวงจะไม่พบร่องรอยหรือ?” รักนาร์ถาม

แม็กนัสยักไหล่ "ฉันก็ไม่รู้ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครมาตามฉันเลย ฉันไม่คิดว่าฉันมีร่องรอย"

"ชิ... โชคดีจัง" รักนาร์พึมพำ

"โอเค จับไว้ให้แน่นนะบ๊อบบี้ ฉันไม่อยากให้เพื่อนตัวอ้วนของฉันตกลงไป และ... นายก็คงรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น" แม็กนัสเตือนให้เขาค่อยๆ เขยิบออกไป

เท้าของพวกเขาลอยออกจากพื้นอย่างช้าๆ บ๊อบบี้อุทานด้วยความตื่นเต้นเมื่อความรู้สึกสนุกสนานแล่นขึ้นมาในท้องของเขา ต้นไม้รอบๆ พวกมันเริ่มเล็กลงและเห็นตึกรามบ้านช่องต่างๆ ในระยะไกลก็ชัดเจนขึ้น

จากนั้นแม็กนัสก็เร่งความเร็ว *ฟิ้ว*

"วู้……….ฮู้………!" บ๊อบบี้ตะโกนก้องด้วยความมันส์

"ฮ่าฮ่า ฉันว่าแล้วนายต้องชอบ เอาล่ะ เร่งความเร็วหน่อย" แม็กนัสเร่งเต็มที่

บ๊อบบี้มองไปรอบๆ กับทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไป มันดีกว่าการเดินทางบนเครื่องบินเยอะ คุณไม่สามารถรู้สึกถึงอากาศจากหน้าต่างบานเล็กๆ นั้นโดยไม่ตาย

บ้านของสเนปอยู่บนถนนที่เรียกว่าสุดตรอกช่างปั่นฝ้ายมันอยู่ในโค้กเวิร์ธ เมืองใหญ่ สเนปบอกเขาว่าสถานที่นั้นมืดมนและเก่ามาก และไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก

แต่เมื่อแม็กนัสเข้าไปใกล้ เขาก็รู้ว่าสิ่งที่สเนปพูดนั้นเบากว่าความเป็นจริงเยอะเลย สถานที่นั้นไม่เพียงแค่มืดมนเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ตายแล้วด้วย

บ๊อบบี้ตัวสั่นสะท้านเมื่อเห็นบริเวณนั้น “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ในประเทศของเรา อย่างกับที่นี่ติดอยู่ในยุคสงครามโลก”

สถานที่นั้นถูกปกคลุมด้วยหมอกเย็นที่ลอยอยู่เหนือแม่น้ำสกปรกที่ขนาบระหว่างตลิ่งที่รกและเต็มไปด้วยขยะ ปล่องไฟขนาดมหึมา ซากของโรงสีที่ไม่ได้ใช้แล้ว ถูกทิ้งไว้ เงามืดและเป็นลางร้าย ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงกระซิบของผืนน้ำสีดำและไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตนอกจากสุนัขจิ้งจอกผอมแห้งที่มุดลงริมตลิ่งแล้วจ่อจมูกด้วยความหวังที่จะสัมผัสถุงห่อมันฝรั่งทอดในพงหญ้าสูง

เป็นเมืองที่มีถนนหลายสายก่อด้วยอิฐ ระเบียง บ้าน มันตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำที่สกปรกซึ่งริมฝั่งเต็มไปด้วยขยะ มีโรงสีร้างที่มีปล่องไฟสูงในเมืองนี้ เป็นย่านที่ยากจนข้นแค้น

รักนาร์รู้สึกถึงความอึมครึมของบริเวณนั้น "ไม่น่าแปลกใจเลยที่สเนปจะอีโมตอนเราพบเขา สถานที่นี้อาจทำให้คนใจดีเสียสติได้ บ้านของเขาอยู่ที่ไหนน่ะ?"

แม็กนัสจำสิ่งที่สเนปพูดได้ "เขาบอกว่าเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังสุดท้ายบนถนน สุดตรอกช่างปั่นฝ้าย"

ดังนั้นพวกเขาจึงลงจอดในตรอก สถานที่นี้ถูกทิ้งร้างถึง 90 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่มีใครเห็นพวกเขาปรากฏตัวอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นพวกเขาก็เดินไปตามถนน

พวกเขายืนเคียงข้างกัน มองข้ามถนนไปยังแถวบ้านอิฐทรุดโทรม หน้าต่างบานทึบและมืดบอดในความมืด บ้านทุกหลังก็ไม่ต่างกัน

“เอาล่ะ เราถึงที่สุดแล้ว งั้นบ้านซ้ายหรือขวาล่ะ?” บ๊อบบี้ถาม

แม็กนัสยักไหล่และสูดหายใจเข้ายาวๆ "สเนป บ้านนายหลังไหน?"

เพื่อตอบสนองต่อเสียงที่ก้องหูของเขา เสียงช้อนส้อมหล่นลงมาจากบ้านทางด้านซ้ายของพวกเขา ครู่ต่อมาก็เริ่มมีเสียงดังราวกับว่ามีคนกำลังต่อสู้กัน

แต่ในขณะเดียวกัน หน้าต่างบ้านทางด้านขวาก็เปิดออก และชายชราคนหนึ่งก็แอบมองออกมา

ห๊าาาา? ใครมาตะโกนน่ะ? เช้าแล้วเหร๊อ?”

รักนาร์หัวเราะเบาๆ “เปล่าครับ ผู้เฒ่า กลับไปนอนเถอะ

“เฮ้ แล้วถ้าเขาต้องไปทำงานล่ะ?” บ็อบบี้หยุดรักนาร์

แม็กนัสยิ้ม “แล้ววันนี้เขาจะพบเซอร์ไพรส์ที่หน้าประตูบ้าน”

แม็กนัสวางห่อเงินเล็กๆ ไว้ที่ประตูเพราะไปรบกวนชายชราจากนิทรา จากนั้นจึงเดินไปที่บ้านของสเนป พวกเขามาถึงประตูและเคาะต่อไป

*ก๊อกก๊อก*

"เซฟ...เปิดหน่อย" แม็กนัสตะโกน

ไม่นานเสียงประตูก็เปิดออก แต่ไม่ใช่เซเวอรัส แต่เป็นชายชราในชุดสกปรก

"ไปให้พ้น ไป๊" ชายคนนั้นก็เหวใส่พวกเขาทันที

แม็กนัสไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว "อา เกิดอะไรขึ้นกับนายน่ะเซฟ? ล่าสุดที่ฉันเห็นนาย นายยังเป็นเด็กน้อย ตอนนี้กลายเป็นตาแก่ อ้วน ลงพุง และไร้ประโยชน์อย่างนี้ได้ไง”

"แกพูดอะไร ไม่รู้จักเคารพผ-..."

แม็กนัสไม่ปล่อยให้เขาพูดอะไรอีก เพราะไม้กายสิทธิ์ของเขาจ่ออยู่ที่คอของชายคนนั้น “คุณคงรู้ว่านี่คืออะไรใช่ไหม?”

“ฮ่าฮ่า คิดว่าฉันจะกลัวหร๊อ? แกไม่สามารถใช้กับฉันได้เพราะแกยังไม่บรรลุนิติภาวะ ฉันรู้เว้ย” นายสเนปพูดยิ้มๆ

"โลโลมอเตอร์ วิบบลีย์"

ทันทีที่แม็กนัสพูดจบ นายสเนปก็ล้มลงกับพื้น คาถานี้คือคาถาขาปุยนุ่น ใช้เพื่อทำให้ขาเปรี้ย

ด้วยความตกใจและหวาดกลัว นายสเนปจ้องเขม็งไปที่แม็กนัส

แม็กนัสชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่เขาด้วยความขยะแขยง “คุณไม่ได้เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเวทมนตร์หรือโลกเวทมนตร์อย่างชัดเจน เซฟอาจทำให้กระดูกของคุณแตกได้ถ้าเขาต้องการ ด้วยยาพิเศษเพียงหยดเดียวในเครื่องดื่มของคุณ แต่คุณยังเป็นญาติทางสายเลือดอยู่ อย่างไรก็ตาม ผมไม่สนใจว่าคุณจะเป็นใคร สำหรับผมแล้ว คุณคือคนต่ำต้อยที่น่าสมเพชที่ทุบตีครอบครัวตัวเอง และผมไม่เคยเคารพคนอย่างคุณเลย ดังนั้นคุณควรหุบปากของคุณไว้ตราบเท่าที่ผมอยู่ที่นี่หรือไม่มีใครพูดกับคุณ ชัดเจนใช่ไหม?”

คุณสเนปพยักหน้า แม็กนัสจึงเข้าไปในบ้าน

ทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็พบเซเวอรัสยืนมองอยู่ที่ประตูห้องอย่างโง่เขลา

“ทำอะไรน่ะเซฟ” แม็กนัสถาม

“ไม่มีอะไร...ฉันเพิ่งตื่น แต่... ฉันเพิ่งเห็นว่าเขากลับมาที่นี่ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่ของฉันจะปล่อยให้เขาเข้ามาในบ้าน ผู้หญิงที่น่าสมเพชที่ตัดสินใจเลือกผิดในทุกจุดเปลี่ยนของชีวิต” เซเวอรัสพึมพำ

“เขาบอกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วนะ เซฟ” เสียงผู้หญิงดังมาจากในห้อง

แม็กนัส, รักนาร์ และ บ็อบบี้ แทรกตัวเข้ามา คุณนายสเนปรออยู่ แต่ใบหน้าของเธอมีรอยฟกช้ำ

“แล้วแม่ก็เชื่อเขาหรอ? เป็นแบบนั้นสินะ? แม่ต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือเปล่า? ผมเริ่มจะเชื่อว่าแม่สนุกกับความทรมานนี้แล้วสินะ?” เซเวอรัสพูด

แม็กนัสควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว “อา ใจเย็นๆ เซฟ นี่คือเหตุผลที่ฉันตั้งให้นายเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลพรินซ์ ไม่ใช่เธอ เราสามารถจัดการกับคุณสเนปได้อย่างถาวร ตอนนี้รับยาเพื่อสุขภาพและรักษาแม่ของนายก่อนเถอะ”

เซเวอรัสเยาะเย้ยแม่ของเขาและไปที่ห้องของเขาเพื่อรับยา

ไอลีนรีบลุกขึ้นเมื่อเห็นแม็กนัส เธอรู้สึกละอายใจแต่ก็ผิวเผินมากเช่นกันมันเกิดจากการใช้เวลามากมายในฐานะเหยื่อการถูกทำร้ายร่างกาย

"อ่า แม็กนัส... ให้ฉันทำอาหารให้เธอ ฉันได้ยินมาว่าเธอชอบแพนเค้ก" เธอพูด

แม็กนัสไม่ได้คุยกับเธอมากนัก เขาเพียงแค่พยักหน้า เขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับเธออย่างไร เธอมีแผลเป็นทางจิตใจมากพอๆ กับทางร่างกาย

เขาจะไม่หยาบคายกับเธอแม้ว่าเขาจะรู้สึกโมโหเธอนิดหน่อยก็ตาม

หลังจากนั้นแม็กนัสก็กลับไปหานายสเนป ตอนนี้เขาคลานไปที่ที่นั่งแล้ว

เขาหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เขา “เซ็นต์ใบหย่าซะ แล้วรับเงิน 1 ล้านปอนด์ไป ถ้าไม่เซ็นต์ไอจะขยี่ยูให้แหลกกก… แล้วไม่ให้เงินด้วย”

“นั่นเป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของข้อตกลง” รักนาร์กล่าวเสริม

โทไบอัส สเนป เป็นพนักงานไปรษณีย์ที่เกษียณแล้ว เขาไม่ได้อยู่ในวัยเกษียณ แต่เขาถูกไล่ออกเนื่องจากติดเหล้า แต่โชคดีที่เขามีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญและนั่นคือสิ่งที่เลี้ยงครอบครัว

ตอนนี้เขามองไปที่เจ้าเด็กบ้าที่อยู่ข้างหน้าเขา

"เงินอยู่ไหนล่ะ?" เขาถาม

แม็กนัสพยักหน้าไปทางบ็อบบี้ เขาเดินไปข้างหน้าและเปิดกระเป๋าเดินทางที่นำออกมาจากกระเป๋าขยายพื้นที่ของแม็กนัส

ดวงตาของโทไบอัสเป็นประกายเมื่อเห็นเงินและเขารีบเซ็นเอกสาร จากนั้นเขาก็พุ่งไปที่กระเป๋าเดินทางแล้วหยิบมันขึ้นมา

“ดี ตอนนี้ผมอยากเห็นคุณหายไปจากบ้านหลังนี้ภายใน 5 นาที หากคุณกลับมาหรือพยายามติดต่อลูกชายหรือภรรยาเก่าของคุณอีกครั้ง คุณจะโดนคำสาปที่มันเลวร้ายกว่านี้มาก เข้าใจใช่ไหม?” แม็กนัสสั่ง

ตอนนี้โทไบอัสขาเป็นปกติแล้ว เขาจึงวิ่งเข้าไปในห้องเอาของที่มีไม่เยอะนัก จากนั้นเขาก็พุ่งออกไป

เมื่อไปแล้ว สเนปก็มาหาแม็กนัส "ทำไมนายให้เงินเขาเยอะจัง มันเสียเปล่า"

แม็กนัสยิ้มให้เขา “นั่นไม่ใช่เงินของฉันสักหน่อย และจะดีกว่าถ้านายไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา แม่นายสามารถไปที่บ้านใหม่ที่ฉันเพิ่งซื้อให้นายได้แล้ว นายค่อยจ่ายคืนให้ฉันหลังจากนายเริ่มมีรายได้ นายควรไปขนพวกกระเป๋าสัมพาระของนายแล้วมากับฉันเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง

สเนปพยักหน้าและบอกบางสิ่งกับแม่ของเขา แล้วก็ออกมาพร้อมกับแม็กนัส

พวกเขาออกไปก็เห็นถนนที่มืดมนเหมือนเดิม

แม็กนัสถอนหายใจ "รู้อะไรไหม ฉันจะซื้อที่นี่"

“นายอยากซื้อบ้านของฉันไหม” เซเวอรัสสงสัย

"ไม่ ฉันต้องการซื้อเมืองนี้ เอาล่ะ ไปที่ปราสาทของฉันกันเถอะ" แม็กนัสตื่นเต้นกับมัน เสียงตะโกนของเขาทำให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้นทันที

*แอ๊ดด*

"อา... เช้าแล้วเหรอ" ก็คนเดิมนั่นแหละ

คราวนี้แม็กนัสตอบว่า “คร้าบ ตอนนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว โอ้ มีคนทิ้งของไว้ที่ประตูบ้านคุณด้วยล่ะ”

“ฉันได้รับจดหมายหรอ? ฉันเนี่ยนะได้รับจดหมาย? ว้าว… 10 ปีแล้วนะ” ชายชราดูตื่นเต้นมากและปิดหน้าต่างเพื่อลงไปชั้นล่าง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ แม็กนัสก็ถอนหายใจด้วยความกังวล "ฉันหวังว่าเขาคงจะไม่หัวใจวายเมื่อเห็นซองเงินนะ ไปกันเถอะทุกคน"

_____________________________

แถมฟรี หายไปนาน

สุดตรอกช่างปั่นฝ้าย

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด