ตอนที่แล้วตอนที่ 79 จดหมายถึงราชินี (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 81 ค่าชดเชย (อ่านฟรี)

ตอนที่ 80 เผชิญหน้ากับครอบครัว (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 80 เผชิญหน้ากับครอบครัว

♫ ทวิงเกิ้ล ทวิงเกิ้ล ลิตเติ้ลสตาร์...♫

โทรทัศน์กำลังเล่นเพลงเด็ก ตัวที่อยากดูจริงคือ ดั๊กกับซัมเมอร์ ทั้งคู่ถูกแต่งชุดนางฟ้าตัวน้อยน่ารักและกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข

*แปะ* *แปะ*

เกรซก็ปรบมือให้กับพวกเขาเช่นกัน แชดเองก็ยังถูกบังคับให้สวมชุดนางฟ้า แต่เขาขี้เกียจเต้น

"แคว๊กก"

"ฮู้กววว..."

แม็กนัสยิ้มหลังจากเห็นการแลกเปลี่ยน เกรซสังเกตเห็นเขาและพูดว่า “ทำไมลูกไม่บอกแม่ล่ะจ๊ะว่ามีนกฮูกสองตัวอยู่ในห้อง”

รอยยิ้มจากใบหน้าของแม็กนัสหายไป "อา คื่อ... แม่จ๋า... ดั๊กไม่ใช่นกฮูกนะฮะ เขาเป็นลูกมังกรต่างหาก"

-_-

♫ ไลก์ อะ ไดมอนด์อินสกาย

ทวิงเกิ้ล ทวิงเกิ้ล ลิตเติ้ลสตาร์

ฮาว ไอ วันเดอร์ ว็อท ยู อาร์ ♫

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาดูแปลกๆ นะจ๊ะ” เกรซอุทาน

มีมังกรด้วยเหรอ!” จู่ๆ บ๊อบบี้ก็ตะโกนด้วยความตื่นเต้นและวิ่งไปหาดั๊กที่กำลังโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง

บ๊อบบี้อุ้มดั๊กขึ้นมากอดเหมือนตุ๊กตาหมี ดั๊กก็กำหมัดให้กอด แต่แล้วก็รำคาญ

"แคว๊กกกก"

“บ็อบบี้ ปล่อยเร็ว” รักนาร์เตือนเขา

"ราาาาาาาา..."

อ๊าาาาาา...” บ็อบบี้ร้องเมื่อเสื้อของเขาถูกดั๊กเผา

"บอกแล้ว… นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการกอดมังกรถึงไม่ควรทำ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันยังเป็นทารก" แม็กนัสพูดและช่วยบ็อบบี้ดับไฟ

นั่นมันเจ๋งโคตร...” บ๊อบบี้ไม่หวั่นที่จะถูกเผาเลย

“โตขึ้นเขาจะตัวใหญ่ขนาดไหน” เขาถามต่อและพยายามจับดั๊กอีกครั้ง แต่ดั๊กกลับวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเกรซเหมือนลูกแมวที่ตื่นตระหนก

“อืม มันคงใหญ่พอที่จะกลืนบ้านทั้งหลังในคำเดียว” แม็กนัสตอบ

"จริงเหรอจ๊ะ? แต่เขาดูน่ารักจัง แล้วก็... ตัวเล็กด้วย..." เกรซพูดขณะพินิจพิเคราะห์ดั๊กอย่างใกล้ชิด

"แน่นอนว่าการเติบโตของมันจะต้องบ้าคลั่งแน่ฮะ ส่วนซัมเมอร์ก็จะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เธอเป็นนกฮูกที่โตเต็มวัยแล้ว" แม็กนัสเปิดเผย

"จ้า จ้า ซัมเมอร์สวยที่สุดเลยเนอะ" เกรซประติดประต่อสัตว์ทุกตัวราวกับพวกมันเป็นลูกของเธอเอง พวกเขารู้สึกถึงความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างเกรซกับแม็กนัสเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงชอบเธอไม่ต่างจากเจ้าของ

“แม็กนัส… ถ้าดั๊กโตขึ้นต้องให้ฉันขี่หลังสักครั้งนะ” บ๊อบบี้ร้องขอ

แม็กนัสตกลง "แน่นอน ฉันสัญญา เราทุกคนจะไปปิกนิกบนหลังของเขา"

“แล้วลูกพบเขาที่ไหนล่ะจ๊ะ? พวกมันเป็นสัตว์ร้ายที่อันตรายมากไม่ใช่หรือจ๊ะ?” จู่ๆ เกรซก็ถามขึ้นมา

แม็กนัสพยักหน้า “ฮะ พวกมันเป็นสัตว์อันตรายระดับ 5 เป็นตัวที่อันตรายที่สุด แต่มังกรนั้นแตกต่างออกไป พวกมันเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก ดังนั้นการสร้างความผูกพันกับพวกมันจึงง่ายกว่า”

~โดยเฉพาะสำหรับผมนะ~ เขาพึมพำกับตัวเอง

“พ่ออยู่ไหนหรอฮะ?” เขาถาม

“เขาออกไปทำงานจ่ะ เดี๋ยวตอนเย็นจะกลับมา” เกรซตอบกลับ

แม็กนัสถอนหายใจและเผชิญหน้ากับเธอ “แม่ฮะ คิดยังไงกับผมหรอฮะ? ผมแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ หรือเปล่า”

"แน่นอน ที่รัก ลูกฉลาดและใจดีมากๆ" เกรซกล่าวว่า

“ถ้าอย่างนั้นแม่ควรรู้ว่าแม่ไม่สามารถซ่อนมันจากผมได้ตลอดเวลา แม่กับพ่อไม่มีงานทำเลยออกไปสัมภาษณ์งานกันไม่ใช่หรอฮะ… จริงไหมฮะ?” เขาพูดในที่สุด

เกรซปล่อยดั๊กกับซัมเมอร์ไปเล่นที่อื่นและมองไปที่แม็กนัส ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า แม็กนัสพูดถูก เธอกับอดัมรู้จักเขาดีที่สุด แต่พวกเขาก็หวังว่าจะปิดบังเรื่องนี้ได้ บางทีพวกเขาอาจจะสิ้นหวังและละอายใจเล็กน้อยในฐานะพ่อแม่

"แม็กที่รักจ๊ะ...เราจะอยากบอกกับลูกว่า...แม่ขอโท-..."

ก่อนที่เธอจะทันพูดอะไร แม็กนัสก็พูดขึ้นว่า "ผมขอโทษฮะ แม่จ๋า เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะผมเอง"

คำพูดติดค้างอยู่ในปากของเกรซ เธอคิดว่าเธอจำเป็นต้องบอกแม็กนัสและพยายามอย่าทำให้เขาโกรธ

"อะไรนะ? ลูกกำลังพูดเรื่องอะไรที่รัก? จะเป็นความผิดลูกได้ไงจ๊ะ? อย่าโทษตัวเองในสิ่งที่ไม่ได้ทำสิ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน

“ผมรู้ว่าผมพูดอะไรฮะแม่ รอพ่ออีกหน่อย ผมจะบอกพ่อกับแม่พร้อมกัน” แม็กนัสยืนกราน

“ตอนนี้ลูกกำลังทำให้แม่กลัวนะ” เกรซพึมพำ

"เอ่อ... ฉันควรจะไปที่อื่นก่อนนะแม็ก" บ๊อบบี้เปล่งเสียง

“ไปไหนเล่า? นายก็รู้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่ อีกอย่างรักนาร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย และฉันก็ต้องการคนคอยจับตาดูดั๊กด้วย” แม็กนัสหยุดเขา

เมื่อได้ยินคำเขา บ๊อบบี้เริ่มเพ่งไปที่ดั๊ก ดั๊กรู้สึกถึงการจ้องมอง มันวิ่งหนีไปซ่อนข้างหลังแชด

แม็กนัสรอจนถึงเย็นเพื่อให้พ่อของเขากลับมา แล้วในที่สุด เย็นวันนั้น อดัมก็กลับมา เขายังคงมีใบหน้าที่เศร้าหมอง เขาน่าจะถูกปฏิเสธมาอีกแล้ว

แต่ทันทีที่เขาเห็นแม็กนัส เขาก็ฝืนยิ้มกับตัวเอง ถึงกับชะงักเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของเกรซ

“ที่รัก เขารู้แล้ว ลูกบอกว่ามันเกิดขึ้นเพราะเขา” เกรซเผย

อดัมรู้สึกสับสนและตกใจ เขาหันไปหาแม็กนัสแล้วถามว่า "หะ... ยังไง?"

แม็กนัสสูดลมหายใจยาว “เอาล่ะฮะ เพื่อให้พ่อแม่เข้าใจทุกอย่าง พ่อแม่น่าจะรู้นะฮะว่าหนังสืออนุญาตคืออะไร…”

"... ผมได้รับมรดกแห่งพ่อมดเมอร์ลิน เอมรีสผู้ยิ่งใหญ่ และราชามังกร อาเธอร์ เพนดราก้อน เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นในคืนที่ผมหลงทาง ต้นไม้ที่ผมพูดถึงในวันนั้นถูกปลูกโดยเมอร์ลินจริงๆ เพื่อรอผู้สืบทอดที่สมบูรณ์แบบ แล้วมันก็เลือกผม... ตอนนี้ ผมคือผู้มีสิทธิสูงสุดและแท้จริงที่สุดในราชบัลลังก์แห่งอังกฤษ... ทีนี้ราชวงศ์ได้รู้ เพราะคำสาปที่ทิ้งไว้โดยเมอร์ลิน..." แม็กนัสพูดทุกอย่างเกี่ยวกับสายเลือดของเขาและบอกพวกเขาว่าทำไมมันถึงเป็นความจริง

“ผมยังได้รับมรดกทั้งหมดของพวกเขา พร้อมด้วยราชบัลลังก์และปราสาท ห้องใต้ดินนิรภัยของพวกเขา ห้องนิรภัยเหล่านั้นมีความมั่งคั่งขนาดที่พ่อแม่ไม่ต้องทำงานอีกเลย แล้วสามารถใช้ชีวิตในโรงแรมระดับ 5 ดาวได้อย่างง่ายดายตลอดชีวิตของพ่อกับแม่

แล้วเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ มาจากพระสวามีของราชินี เจ้าชายอะไรนั่น นี่เลยเป็นสาเหตุที่พ่อแม่ไม่สามารถหางานในบริษัทเอกชนได้เช่นกัน แต่... ตอนนี้ผมได้แก้ไขทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องกังวลไปฮะ... มากับผมสิฮะ ผมจะพาพ่อแม่ไปพบกับอาเธอร์กับเมอร์ลิน"

เกรซและอดัมพูดไม่ออก

...

พระราชวังบัคกิ้งแฮม

มู้ดดี้ทิ้งจดหมายไว้ในมือพ่อบ้านของราชวงศ์ เขาจะมอบให้กับราชินีโดยตรง มู้ดดี้เกลียดการทำแบบนี้ แต่เขาต้องสร้างความบันเทิงให้กับแม็กนัสเพราะบุญคุณช่วยชีวิตเขาวันนั้นในตรอกไดแอกอน

แม็กนัสสามารถปล่อยให้เขาเผชิญกับคำสาปพิฆาตได้ถ้าเด็กนั่นต้องการ และเขาคงจะตายในวันนั้น แต่แม็กนัสยืนหยัดและช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจะไม่มีวันลืมการกระทำที่กล้าหาญเช่นนี้ เขาต้องการให้อนาคตของอังกฤษอยู่ในมือของคนอย่างแม็กนัส และพอใจที่จะให้จดหมายฉบับนี้

ขณะนั้น พระราชินีประทับอยู่กับพระสวามีซึ่งเป็นเจ้าชายในราชสำนัก เธอกำลังคุยเรื่องแม็กนัสอยู่ แล้วจดหมายก็มาถึงในเวลาเดียวกัน

เธอมองไปที่ตราประทับขี้ผึ้งและขมวดคิ้ว มันเป็นพระราชลัญจกร แต่แทนที่จะมีตัวอักษร E กลับมีตัวอักษร M เธอใช้ที่เปิดจดหมายทันทีและอ่านมันเงียบๆ

*โคร้ม*

เธอล้มลงกับพื้น ใบหน้าของเธอขาวซีดด้วยความตกใจ เธอมองไปที่สามีของ เธอด้วยความโกรธ "ฉันบอกคุณแล้วไง!...คุณทำอะไรกับครอบครัวของเขา

"คุณพูดว่าอะไรนะ ผม..." เจ้าชายรู้สึกสับสน เขาหยิบจดหมายมาอ่านด้วย ในไม่ช้าเขาก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน

"แต่ผมไม่ได้ทำอะไรมากเกินไปนะ...แค่...กดดันนิดหน่อย..."

"คุณทำอะไรลงไปพูดมา... เดี๋ยวนี้!" ดวงตาของราชินีแดงก่ำด้วยความโกรธ

"ผมสั่ง MI6 เข้าไปจัดการ และ... ทำให้พวกนั้นไม่สามารถหางานได้ทุกที่..." เขาเผย

*เปรี้ยง* เธอทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ

“ฉันสั่งไว้แล้วชัดเจนว่าห้ามทำอะไรโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากฉัน… คุณได้ทำลายครอบครัวนี้แล้ว คุณไม่เคยสำนึกขึ้นเลยใช่ไหม? ดูเหมือนว่าเหรียญกล้าหาญบ้าบอทั้งหมดนี้ทำให้คุณยโสเกินไป ตอนนี้ฉันต้องสะสางเรื่องให้คุณ”

เธอกำลังเดือดดาล

"ใจเย็นๆ ที่รัก ระดับน้ำตาลในเลือด-..."

"อ๊าาา... ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น คุณทำลายความสัมพันธ์ของเรากับเขาก่อนที่เราจะสร้างมันขึ้นมาด้วยซ้ำ ฉันมีแผนอยู่แล้ว! ฉันจะเสนองานที่น่าทึ่งให้พวกเขา ทำให้พ่อแม่ของเขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อราชวงศ์ แต่ตอนนี้พวกเขาคงเกลียดเราไปแล้ว

ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก ออกไป๊!

เธอตัวสั่นด้วยความโกรธและความกลัว เส้นเลือดปูดออกมาที่ขมับของเธอ วันนี้เธอรู้สึกแย่ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไม เธอเกือบจะตายทั้งตระกูลเพราะการกระทำของสามี

เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้แต่กลั้นน้ำตาไว้และลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ตรงหน้าโต๊ะของเธอคือกรอบรูป ภาพพระองค์เองตอนทรงพระเยาว์...กับพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดา

เธอถือรูปถ่ายไว้ในมือและลูบไล้ ในที่สุด น้ำตาก็ร่วงหล่นบนกรอบกระจก “หนูจะทำยังไงดีคะป๊ะป๋า? เขาจะให้อภัยเราได้ไหม? หนูคงไม่เป็นแบบนี้ถ้าหนูอยู่กับเขา...แต่...”

*สูดอากาศ*

[อันที่จริงเหล่าราชวงศ์ไม่มีอำนาจขนาดควบคุมทหาร ตำรวจ หรือ MI6 ได้อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาจะมีเหล่าเบี้ยที่มีอำนาจให้พวกเขาใช้อยู่ เหล่าพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลก็ทราบเรื่องนี้ดีแต่ทำเมินเพราะเป็นเรื่องของราชสำนัก]

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด