ตอนที่ 433 คำตอบที่ทรงพลัง
ติง!
เสียงดังชัดเมื่อรังสีดาบเงินฟ้าที่ถูกน้ำแข็งเงินคลุมไว้เหมือนกับแก้วสีเงินฟ้าจะแตกออกเป็นชิ้นๆ
อาเฮ่อสั่นและพุ่งถอยหลังราวกับใส่สเก็ตน้ำแข็ง พื้นข้างล่างทิ้งรอยเส้นตรงไว้
ป้องกันได้
มุมปากอาเฮ่อมีรอยเลือดขณะที่ประกายตื่นเต้นปรากฏอยู่ในดวงตาที่สงบของเขา นักสู้ระดับเซียนผู้แข็งแกร่ง พลังโจมตีที่ทรงพลังนั้นเขากับหลิงซิ่วป้องกันไว้ได้จริงๆ! ฝันที่ไม่อาจเป็นจริงเหล่านั้นดูเหมือนจะใกล้เข้ามาในบัดนี้แล้ว
ขอบคุณกระบี่กระเรียน!
อาเฮ่อจับกระบี่ของเขาแน่นกว่าเดิม เขารู้สึกถึงไฟต่อสู้ของเขาจากด้ามกระบี่ได้ไม่ไกลออกไป หลิงซิ่วที่เพิ่งกระเด็นออกไปกลับขึ้นมานั่งบนฟลามิงโกต่อ
“เจ้ายังไหวไหม?”อาเฮ่อถามขณะที่เขาจ้องมองเส้าเต๋อ
“ยังไม่ตายหรอกน่า” หลิงซิ่วบ้วนโลหิตที่เต็มปากออกอย่างไม่ใส่ใจนัก เขาจ้องมองเส้าเต๋อสีหน้าของเข้มข้นและดุร้าย “ระดับเซียนไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คาดไว้”
ฝ่ามือเขาเละปอกเปิกแต่เขายังจับหอกเงินไว้แน่น รอยเลือดของเขาสะท้อนเป็นประกายอยู่บนหอกเงิน เมื่อหอกเงินหลุดมือก่อนนั้นมันทิ้งรอยเสียดสีอย่างรุนแรงบนฝ่ามือของเขา
เส้าเต๋อตกอยู่ในความรู้สึกที่เหลือเชื่อ การโจมตีก่อนนั้นของเขา เขาทำอย่างสุดกำลังแต่...
นั่นเป็นเพราะเขาสู้กับถังเทียนและใช้ปราณแท้ออกไปมากหรือ?
เส้าเต๋อสีหน้าไร้ความรู้สึก แต่ภายในใจของเขาไม่ได้รู้สึกสงบ พลังน้ำแข็งเงินจากเมื่อครู่นั้นเกือบแช่แข็งรังสีดาบของเขาได้หรือจะเป็นท่าฟันจากอาเฮ่อก็สามารถทำลายรังสีดาบได้หรือ?
น้ำแข็งเงิน...ทันใดนั้นมีคำที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในสมองของเขา “พาหนะน้ำแข็งเงิน!”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าวิชาหอกของหลิงซิ่วจะเกี่ยวข้องกับพาหนะน้ำแข็งเงินก็ตาม แต่เมื่อเห็นน้ำแข็งเงินปรากฏขึ้นโดยตรงเขาก็ยังตกใจ
ในฐานะนักสู้ระดับเซียน เขารู้มากกว่านักสู้ธรรมดา ยิ่งกว่านั้น ยังรู้จักพาหนะน้ำแข็งเงินดี
กองพาหนะน้ำแข็งเงินเป็นหนึ่งในสิบสองตำหนักสุริยุปราคา นั่นคือมรดกดั้งเดิมของกลุ่มดาวแกะ
เส้าเต๋อมีแรงปรารถนาลุกโชนทันใด เขาไม่สนใจเรื่องการเมือง แต่กลับหลงใหลวิทยายุทธอย่างลึกซึ้ง เขาใช้ชีวิตสันโดษในภูเขามาหลายปี ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือความก้าวหน้าในวิทยายุทธของเขา
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านมาหลายปีนี้ เขาไม่มีความคืบหน้าใดๆ
เมื่อเขารู้ว่าหลิงซิ่วอาจเป็นผู้ถือครองมรดกที่แท้จริง เขารู้สึกกระสับกระส่ายมรดกวิชาที่เก่าแก่และทรงพลังเช่นนั้น ทุกคนจะได้รับประโยชน์อย่างมากมาย แม้ว่าแค่มองเพียงครั้งเดียว
สายตาของเส้าเต๋อจับตามองดูหลิงซิ่วโดยไม่รู้ตัว
หลิงซิ่วรู้สึกว่าสายตาของเส้าเต๋าจ้องมองดูเขา แต่เขาไม่กลัว งั้นเส้าเต๋อเน้นโจมตีที่เราหรือ?
ยอดเยี่ยมมาก!
ดวงตาสีส้มของหลิงซิ่วเหมือนมีเพลิงลุกโชนทันใด ฟลามิงโกพ่นพลังออกทิ้งรอยไฟเป็นทางข้างหลัง ร่างหมอบต่ำสีขาวและผมสีเงินยาวปลิวไสวในอากาศ
สายลมแรงปะทะผ่านใบหน้าเขาฝ่ามือที่หลุดลอกจับหอกไว้แน่น
หอกเงินในมือเขายกขึ้นสูงอีกครั้งและตั้งตรง
หัวหอกมีกระพรวนลมเขาแกะแนบอยู่กระพรวนเหล่านั้นดังเป็นจังหวะพร้อมกับลมหายใจ
รังสีเงินฟ้าฉายออกมาอีกครั้งและฟันตรงเข้ามาทันที
หลิงซิ่วไม่กลัวยังคงประจำอยู่บนหลังของฟลามิงโก เขามองดูขึงขังขณะถลึงตามอง ดูเหมือนเขาตั้งใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
กระพรวนลมเป็นเหมือนสายลม หอกเงินเป็นเหมือนดวงดาวและเด็กหนุ่มเป็นเหมือนไฟ
ปลายหอกบดใส่รังสีดาบโดยตรงน้ำแข็งเงินแผ่กระจายครอบคลุม หลิงซิ่วดุร้ายจับหอกเงินแน่นพลังที่รุนแรงทำให้เขาปลิวกระเด็นอีกครั้ง
ลมหวีดหวิวดังอยู่ในหู หลิงซิ่วกัดฟันแน่จับหอกเงินแน่นอย่างสุดกำลัง ต่อให้เขาเป็นระดับเซียน หอกจะไม่มีทางหลุดมืออีกครั้ง
เลือดกระเซ็นทั่วฟ้า
เงาร่างดำที่คล่องแคล่วเบาเหมือนขนนกใช้กระบี่โจมตี
ติง!
รังสีดาบแตกเป็นเสี่ยงอีกครั้ง
อาเฮ่อกระเด็นอีกครั้ง เขารู้สึกหวานวูบในลำคอและกระอักโลหิตออกมาอย่างควบคุมมิได้ ในใจเขามีแต่ความภูมิใจ
เฮ้อ.. เราป้องกันได้อีกครั้ง
ถังเทียนนั่งอยู่บนพื้นมุ่งมั่นกับความคิดของเขาโดยไม่รู้สถานการณ์ปัจจุบัน
เขาสามารถป้องกันพลังระดับเซียนได้ผลเช่นนั้นเกินกว่าถังเทียนจะคาดได้ ด้วยวิทยายุทธพื้นฐาน เขาจะล้มนักสู้ระดับเซียนได้อย่างไร?
ระดับเซียนเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ต้องสงสัย พวกเขามีปราณแท้มากมาย เข้าใจในวิทยายุทธมากเป็นพิเศษและมีสนามพลังวิญญาณเป็นของตนเอง
พวกเขามีวิธีการที่มากมายและยิ่งใหญ่ สนามพลังวิญญาณเป็นตัวแทนความเข้าใจเรื่องการต่อสู้และวิทยายุทธของพวกเขา ยิ่งพวกเขาเข้าใจวิทยายุทธลึกซึ้งมากขึ้น สนามพลังวิญญาณก็จะแข็งแกร่ง พวกระดับเซียนที่ดีที่สุดซึ่งเป็นตำนานก็ยังสามารถมีโลกที่สมบูรณ์ในสนามพลังวิญญาณ
การฝึกฝนและความเข้าใจในวิทยายุทธของพวกเขาสามารถทำได้ในโลกที่พวกเขาสร้างขึ้นมีการควบคุมอย่างเต็มที่
ดินแดนของสนามพลังวิญญาณเป็นตัวแทนดินแดนของนักสู้ระดับเซียน สำหรับระดับเซียนความแตกต่างเป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่งและอ่อนแอ แต่สำหรับพวกระดับเซียนและพวกที่ไม่ใช่ระดับเซียนพวกเขาแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากฝ่ายหนึ่งไม่มี
การสะสมพลังปราณแท้มีขีดจำกัดของมัน เพราะยังเป็นรองระดับเซียนอยู่ครึ่งขั้น แต่เมื่อมีการต่อสู้พวกเขาจะไม่สามารถรับมือพวกระดับเซียนได้แม้แต่น้อย เพราะขอบเขตของพวกเขาแตกต่างกันมากเกิน ซึ่งกำหนดให้พวกเขาต้องแพ้การต่อสู้ในที่สุด
เมื่อพวกเขากลายเป็นระดับเซียนกันหมด ไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องของปราณแท้ ดังนั้นพวกเขาสามารถแข่งพลังของสนามพลังวิญญาณของพวกเขาได้ และพลังของสนามพลังวิญญาณพวกเขาเป็นเขตแดนที่ต่างกัน
ด้วยเขตแดนสนามพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง ทุกอย่างจะอยู่ในการควบคุมของพวกเขา นี่ฟังดูเหมือนเป็นนามธรรม แต่มันหมายถึงการสะสมข้อได้เปรียบ ภายใต้สภาพแวดล้อมเดียวกัน ด้วยความสามารถที่เหมือนกันนักสู้ที่อยู่ในขอบเขตที่สูงกว่าจะสามารถพบจุดอ่อนในคู่ต่อสู้ และเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อให้เขาได้เปรียบ ความแตกต่างที่เป็นนามธรรมนี้ทำให้เขาได้เปรียบเล็กน้อย แต่เนื่องจากมันสะสมไปตามเวลา เขาจะสามารถควบคุมให้เป็นไปตามต้องการได้
มันเป็นเหตุให้นักสู้ระดับเซียนมีขอบเขตที่สูงขึ้น สามารถควบคุมจังหวะการต่อสู้ได้ง่ายมากขึ้น
ถังเทียนคิดอย่างนั้นเช่นกัน ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ในอดีตของเขา เขาเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
อย่างไรก็ตาม หลังจากสู้มันทำให้เขารู้สึกเป็นอย่างอื่น เขามีพลังดวงดาวที่แข็งแกร่งในร่างกาย เส้าเต๋อมีแต่ปราณแท้เช่นกัน แต่เขามีความได้เปรียบเหนือเขาเล็กน้อย แต่ในวิธีอื่น เขาจะแพ้ในที่สุดอย่างชัดเจน
ถ้าตามบรรทัดฐานเขาควรจะเสียเปรียบอย่างหนัก
ถังเทียนคิดก่อนหน้านั้นว่าเขาต้องการสนุกกับการต่อสู้ การได้พบกับนักสู้ระดับเซียนที่หาได้ยากอย่างนั้นเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยาก แน่นอนว่าเขาต้องการสนุกขณะที่เขาทำได้ นอกจากนี้เขายังสงสัยเช่นกัน ว่านักสู้ระดับเซียนจะแข็งแกร่งขนาดไหน
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาต่อสู้ ถังเทียนก็ตระหนักได้ทันทีว่า เขาสามารถเอาชนะเหนือเส้าเต๋อได้
หลังจากที่ความดีใจและความตื่นเต้นจางหายไป ถังเทียนคิดถึงปัญหาที่สำคัญทันที เขาจะเอาชนะนักสู้ระดับเซียนได้อย่างไร?
แม้ว่าถังเทียนจะรู้ว่าการข่มเช่นนั้นไม่ใช่สุดท้าย แต่มันก็กระตุ้นให้เขาทำเช่นนั้น
เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ เขาถูกดึงดูดความสนใจ ขณะที่เขารู้คำตอบเรื่องนี้ทำให้เขาตกใจสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น แล้วจะเอาชนะนักสู้ระดับเซียนได้อย่างไร?
ระหว่างที่ข่มเขาได้อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราข่มนักสู้ระดับเซียนได้?
เขามีความคิดบางอย่างแต่ไม่ชัดเจน เขาเกรงว่าความคิดเหล่านี้จะหายไปในเวลาต่อมาซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาขอให้หยุดเพื่อขบปัญหานี้จริงจัง ไม่มีใครเคยเดินตามเส้นทางนี้ของเขา เขาต้องค้นหาหลายอย่างด้วยตนเอง ถ้าเขาสามารถคิดสิ่งที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญได้ วิทยายุทธของเขาจะต้องก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดแน่นอน
ถังเทียนระลึกถึงรายละเอียดการต่อสู้โดยดึงรายละเอียดทีละนิดๆ เขารู้ตัวว่าเขาไม่ฉลาดเหมือนกับอาเฮ่อ แน่นอนเขาตัดสินใจคิดรายละเอียดช้าๆ
เขาแค่โจมตีสุ่มสี่สุ่มห้า ใช่แล้ว สุ่มสี่สุ่มห้า ละเลยสิ่งที่เป็นวิทยายุทธมาใช้กับเส้าเต๋อ
มันมั่วโดยสิ้นเชิง..
อืมม..ทำไมเส้าเต๋อไม่โต้ตอบกลับ? เขาทำอะไรในตอนนั้น? ทำไมไม่โต้ตอบ? โอว..เขาป้องกันการโจมตีของเรา แต่ทำไมเขาไม่โต้ตอบหลังจากป้องกันแล้ว? โอว เพราะเราโจมตีอีกครั้ง จากนั้นเขาจึงต้องป้องกันอีกครั้ง แล้วจากนั้นเล่า? ก็ยังไม่โต้ตอบ เนื่องจากเราโจมตีอีกครั้ง...
โอว,เป็นแบบนี้นี่เอง...
ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจ เส้าเต๋อไม่มีเวลาได้ตอบโต้ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุให้เขาตอบโต้ไม่ได้
ดูเหมือนถังเทียนจะพบกับจุดสำคัญแล้ว ไม่มีเวลาได้ตอบโต้ เนื่องจากเขาเร็วเกินกว่าจะตอบโต้ สำหรับขอบเขตที่เส้าเต๋อไม่มีเวลาตั้งตัว
ใช่แล้ว เรากดดันเส้าเต๋อได้เนื่องจากเราโจมตีได้เร็วกว่า!
เรามีจุดอ่อนมากมาย แต่เวลาฉวยโอกาสจากข้อบกพร่องที่เส้าเต๋อจำเป็นต้องใช้กลับไม่มี และแน่นอนเขาไม่สามารถโต้ตอบได้ ดังนั้นแน่ใจได้ว่าเขาไม่มีเวลา ข้าจำเป็นต้องโจมตีให้รวดเร็วพอจนถึงจุดที่เขาไม่มีเวลาคิด
ใช่แน่ๆ
ถังเทียนตื่นเต้นคำถามที่ลึกซึ้งเช่นนั้น เขาคิดมันออกด้วยตัวเอง น่าประทับใจจริงๆ
อย่างนั้นข้าก็โจมตีได้ไวจริงๆ...
ถังเทียนรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย เขารวดเร็วพอจนทำให้นักสู้ชั้นเซียนรู้สึกกดดันเอ...ทำไมเราถึงได้ไวนัก? โอว.. เราใช้วิทยายุทธพื้นฐาน นั่นคือเหตุผล นั่นคือเหตุผลวิทยายุทธพื้นฐานคือสิ่งที่เราคุ้นเคยอย่างลึกซึ้ง แน่นอนเขาจึงสามารถใช้ได้ไวโดยวิทยายุทธอื่นไม่มีทางได้ผลสำเร็จเช่นนี้
ถังเทียนตื่นเต้นจนถึงบัดนี้ เขาค่อยแน่ใจกับสิ่งที่เขาทำได้ น่าประทับใจมาก เขาเลือกเส้นทางได้ถูกต้อง
นอกจากความตื่นเต้นแล้ว ความคิดที่กล้าหาญผุดขึ้นมาในใจของเขา
ถ้าเขาสามารถรักษาระดับความเร็วของเขาไว้ได้ ก็หมายความว่าเขาก็ยังกดดันเส้าเต๋อได้ต่อไปหรือไม่? ไม่ ถ้าเขาสามารถทำได้ไวขึ้น จนถึงขอบเขตที่เส้าเต๋อไม่สามารถทนได้มันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่?
ความคิดนี้ทำให้ถังเทียนมีความสุข
เอาชนะนักสู้ชั้นเซียน นั่นคงจะเป็นเรื่องใหญ่
ในที่สุดเขาก็เข้าใจเส้นทางที่เขาเลือก เขารวบรวมเคล็ดต่อสู้ระดับสูงเข้ารวมในวิทยายุทธพื้นฐาน ทำให้วิทยายุทธพื้นฐานของเขาใช้ได้ไว
ใช่แล้วนั่นแหละคือเหตุผล!
เนื่องจากเขาไม่ใช่คนฉลาดเท่าคนอื่น เขาไม่สามารถเข้าใจข้อบกพร่องได้ ดังนั้นเขาควรมุ่งเน้นพลังโจมตีของเขาไม่สนใจคนอื่น
โจมตีให้รวดเร็ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี!
ความสงสัยของเขาได้รับคำตอบ พลังดวงดาวในตัวเขาปั่นป่วนอยู่ในภายในเขาลุกขึ้นยืนทันที เขาต้องการเขาก็สามารถกู่ร้องอย่างสุดเสียงได้
เสียงดังฉับพลันหยุดความคิดเขาทันที
เขาลุกขึ้นยืน