ตอนที่ 432 สนามพลังวิญญาณของเส้าเต๋อ
เส้าเต๋อยืนมองงุนงงหลังจากถังเทียนตะโกนให้หยุด
“ข้าไม่อยากสู้อีกต่อไปแล้ว ข้าคิดถึงปัญหาได้ข้อหนึ่ง ต้องการใช้เวลาขบคิดท่านสู้กับเสี่ยวเฮ่อและเสี่ยวซิ่วซิ่วไปสักครู่ก่อนรอให้ข้าคิดออกแล้วค่อยกลับมาสู้ต่อ คนไหนก็ได้สู้แทนข้าไปก่อน?” ถังเทียนพูดเสียงดังเดินห่างออกไปสองสามก้าวและนั่งลงกับพื้น จากนั้นไม่สนใจเส้าเต๋ออีกเลย
เส้าเต๋อมองถังเทียนอย่างว่างเปล่างงงวยเขายังนึกหาคำพูดที่สมบูรณ์ไม่ออก
เดี๋ยวก่อน เจ้าเด็กนี่เพิ่งจะพูดอะไรออกมา....
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็เข้าใจในที่สุด ทันใดนั้นเขาถลึงตาใส่ หยุดต่อสู้เหรอ? เรากำลังเดิมพันชีวิตแบบนี้ก็ทำได้ด้วยเหรอ? ข้ากำลังเตรียมจะตอบโต้? ข้า ข้า ข้า.. นักสู้ระดับเซียนถูกเมินเฉย?
เส้าเต๋อแทบระเบิดเพราะเด็กหนุ่ม เขาต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยมีการต่อสู้ที่ไร้สาระและน่ารำคาญเหมือนครั้งนี้ นี่ยิ่งทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้น
ไม่เคยเลยสักครั้ง
หลิงซิ่วกับอาเฮ่อตกตะลึงกับการกระทำของถังเทียนเช่นกัน แต่พวกเขารู้จักถังเทียนดี ดังนั้นหลังจากพิจารณาบางอย่างดูเหมือนเจ้าบ้านี่คงทำตัวประมาณนี้
พวกเขาสบายใจทันที
แต่.....
อาเฮ่อแก้มกระตุก เขาพึมพำ “นี่มันไม่ถูก เราไม่ให้เกียรติเขาเกินไปแล้ว เขาคือนักสู้ระดับเซียนนะ”
หลิงซิ่วพึมพำเช่นกัน “แล้วไงเล่า? ปล่อยค้างเติ่งไว้อย่างนี้ยิ่งเป็นการไม่ให้เกียรติมากกว่า
อาเฮ่อพยักหน้า “นั่นก็จริง”
หลิงซิ่วกล่าว “มาสู้กันเถอะ เราจะสนุกกันก่อนจากนั้นค่อยว่ากัน เราจะไม่มีโอกาสได้สู้เมื่อเจ้าบ้านี่ได้สติกลับมา”
แม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะแค่กระซิบกันแต่เส้าเต๋อมีโสตประสาทแหลมคม เขาได้ยินทุกคำที่พวกเขาพูดชัดเจน เขาดูฉุนเฉียวเตรียมระเบิดอารมณ์โกรธ เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
สนุกนักหรือ...
เขามีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดเจ้าเด็กวายร้ายทั้งสามคนในวันนี้ให้ได้ ภาพของเด็กหนุ่มทั้งสามทำให้รังสีฆ่าฟันท่วมเต็มหัวใจของเขา แม้แต่อาเฮ่อผู้ที่เขาเห็นว่าเป็นชายหนุ่มที่มีความเคารพก็ยังพลอยทำตัวน่ารังเกียจตามไปด้วย
เขาสูดหายใจลึก รักษาความเยือกเย็น ตาของเขายังคงเยือกเย็น
ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูว่าพวกเจ้าควรจะให้เกียรตินักสู้ชั้นเซียนยังไง
โทนสีฟ้าใสเริ่มกระจายออกจากใต้เท้าของเส้าเต๋อ ขณะที่พื้นที่รอบๆ มืดมิดในพริบตาบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปมาก
ยอดฝีมือระดับเซียนสิ่งที่ทรงพลังที่สุดก็คือพวกเขาล้วนมีสนามพลังวิญญาณเป็นของตนเองทั้งนั้น
“ยินดีต้อนรับสู่สนามพลังวิญญาณของข้า ทะเลสาบดาบเย็น”
เสียงของเส้าเต๋อเหมือนสายลมที่พัดผ่าน หลิงซิ่วและอาเฮ่อต่างตกใจเนื่องจากพวกเขาพบว่าตนเองยืนอยู่เหนือทะเลสาบสีฟ้า ทะเลสาบสีฟ้าชัดใสเหมือนอัญมณีมีระลอกคลื่นเป็นชั้นๆ เหมือนกับสายลมพัด มีปลาหลากสีสันแหวกว่ายอย่างเพลิดเพลินใจ แม้แต่ต้นไม้น้ำที่ใต้ทะเลสาบก็มองเห็นได้ชัด
อาเฮ่อกางนิ้วอย่างเงียบงัน ลมพัดแผ่วพริ้วนุ่มนวล
งั้นนี่ก็คือสนามพลังวิญญาณ นี่คือสิ่งที่ทำให้นักสู้ชั้นเซียนทรงพลังที่สุด นักสู้ชั้นเซียนทุกคนจะมีสนามพลังวิญญาณเฉพาะของตนเอง
ประกายแสงปรากฏขึ้นในดวงตาอาเฮ่อความสงสัยของเขาทั้งหมดได้รับคำตอบในทันใด เส้นทางวิถีกระบี่ของเขา ส่วนที่ซับซ้อนและผิดทางถูกกวาดแยกออกไป ในปัจจุบันนี้เขายังไม่สามารถสร้างสนามพลังวิญญาณของตนเองได้ แต่เขารู้ว่าถ้าเขามีความพยายามสักวันหนึ่งเขาจะสร้างสนามพลังวิญญาณที่เป็นของเขาเองได้
รอยยิ้มเลือนรางที่มีความสุขใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
ดวงตาของหลิงซิ่วเป็นประกาย เขาได้กลิ่นที่คุ้นเคย ก่อนหน้านั้นเขาสงสัยว่าเป็นกลิ่นอะไรที่เลือนลางอยู่ในวิชาหอกของเขา แต่ตอนนี้เขาเข้าใจในที่สุดแล้วว่ามันคือกลิ่นของสนามพลังวิญญาณ
เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกดีใจ
เหมือนกับว่าเขารู้อย่างกะทันหันว่าเป้าหมายที่เขามักไล่ตามเสมออยู่ไม่ห่างเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ทันได้สังเกตเขาก้าวหน้ามาถึงระดับที่เขาเองไม่กล้านึกฝันมาก่อน
สนามพลังวิญญาณที่สำเร็จแล้ว มันจะดูเหมือนอะไร? ข้าแทบไม่อาจรอได้จริงๆ
ถังเทียนนั่งนิ่ง แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า บางครั้งเขาก็ขมวดคิ้ว บางครั้งก็แกล้งทำ เขาทำสีหน้าแปลกประหลาดต่างๆ
เขาไม่รู้ตัวโดยสิ้นเชิงว่าเกิดอะไรรอบตัวเขา
ทะเลสาบสี่ฟ้า น้ำก็คงผิดปกติ แม้แต่สายลมในอากาศก็ทำให้คนรู้สึกสงบ
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะต้องเปิดสนามพลังวิญญาณของข้าอีกครั้งหนึ่ง และเปิดเพื่อเด็กสามคนอย่างพวกเจ้า” เส้าเต๋อดูเหมือนมีความเสียใจ “ดูเหมือนข้าไม่ได้ก้าวหน้ามากนักในหลายปีมานี้”
เส้าเต๋อพึมพำอย่างเฉยเมย ไม่สุขไม่เศร้าเขาพูดราวกับว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน
“ดาบของข้าซึ่งพักอยู่ในทะเลสาบนี้มานานสิบปีในที่สุดก็จะได้เห็นแสงตะวันอีกครั้งในวันนี้ หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”
หลิงซิ่วกำหอกเงินแน่นโดยไม่รู้ตัว เส้าเต๋อดูเหมือนไม่ได้มีความคุกคามแม้แต่น้อย เขาดูเหมือนไม่อันตรายและใจดี แต่หลิงซิ่วยังคงเฝ้าระวังเขา
คนที่อยู่ต่อหน้าข้าผู้นี้ จะอันตรายมากยิ่งขึ้น
ตาของอาเฮ่อเป็นประกายหลายครั้ง เขารู้มากกว่าหลิงซิ่ว แน่นอนเขามีความเข้าใจลึกซึ้งในความเปลี่ยนแปลงของเส้าเต๋อถ้าเส้าเต๋อถูกกล่าวว่าเป็นอมตะเหมือนเมื่อก่อนด้วยอารมณ์เล็กน้อย จากนั้นเส้าเต๋อแทบจะไม่มีสัญญาณใดๆที่เป็นของมนุษย์อยู่ในตัวของเขา
นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงอันตราย
ภายใต้เท้าของเส้าเต๋อ รังสีเงินปรากฏจากทะเลสาบ มันคือฝูงปลาเล็กมีเกล็ดเงินครอบคลุมจำนวนของมันเพิ่มมากอย่างน่าประหลาดและฝูงปลามองดูเหมือนสัตว์ประหลาดสีเงินกำลังแหวกว่าย
ครึ่ก ครึ่ก
พวกมันปรากฏอยู่เหนือผิวน้ำ เกล็ดของพวกมันเป็นประกายแวววาวจนทำให้ผู้คนต้องหรี่ตา
แผละ แผละ แผละ!
เหมือนกับฝนสีเงินตกลงมาอย่างหนักปลาเงินหลายตัวกระโดดออกมาจากทะเลสาบตรงเข้าหาเส้าเต๋อ เมื่อปลาเงินแต่ละตัวกระโดดออกมาจากน้ำพวกมันจะเปลี่ยนเป็นเกล็ดเงินและเกล็ดเงินนับหมื่นรวมตัวเข้าด้วยกัน
ปรากฏเป็นดาบเงินอยู่ต่อหน้าของเส้าเต่อ
ดาบเงินยาวเจ็ดฟุตปกคลุมด้วยเกล็ด ตัวดาบโค้งแต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือไม่มีด้ามจับ แทบจะทันทีเส้าเต๋อใช้มือกำเบาๆสายน้ำสีน้ำเงินไหลออกมาจากผิว มันตกลงที่ท้ายดาบและหล่อตัวกลายเป็นด้าม
ด้ามดาบเหมือนกับเพชรสีน้ำเงินตัวดาบฉายแสงสีเงินเป็นประกาย ลวดลายเป็นเหมือนเกล็ดปกคลุมไปทั้งหมดมันดูละเอียดอ่อนไร้ที่ติ
มือที่มีนิ้วเรียวยาวกำรอบด้ามดาบสีฟ้าโปร่งใสและสะบัดขึ้น
ทันใดนั้นหลิงซิ่วกับอาเฮ่อทั้งสองคนขนลุกทั่วตัว
ในห้วงเป็นตาย หลิงซิ่วสงบจิตใจ ฟลามิงโกที่อยู่ใต้ตัวเขายึดแน่นออกมาจากในท้องฟ้า หลิงซิ่วนั่งอยู่บนหลังของฟลามิงโก ปราณแท้ในร่างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ความเข้มข้นของพลังมากเป็นประวัติการณ์ ฟลามิงโกเร่งความเร็วเต็มที่แรงเสียดทานระหว่างนิ้วและหอกของเขาทำให้หอกของเขาหมุน
ทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่ในความควบคุมของเขา
หอกเงินหมุนด้วยความเร็วที่น่าทึ่งและแทงออกไป จากนั้นหลิงรู้สึกเหมือนกับว่าตลอดทั้งโลกตกอยู่ในความเงียบเขาไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
เนื่องจากเป็นครั้งแรกในชีวิตของอาเฮ่อที่เขาอยู่ใกล้ความตายมากแม้ว่าเขาจะรู้ชัดว่าคู่ต่อสู้เพิ่งจะเงื้อดาบและยังไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น จู่ๆดูเหมือนโลกของเขาตกอยู่ในความมืดมิด ลางสังหรณ์ร้ายเริ่มแผ่ขยายอยู่ในใจเขา
เขาคิดถึงบิดา ความเสียใจของมารดา ความเดียวดายในช่วงชีวิตที่เป็นเด็ก
ความเศร้า ความเดียวดาย ความล้มเหลวและความผิดหวังถาโถมเข้าใส่เขา
ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าความเพียรมากมายที่เขาทุ่มเทมาหลายปีช่างไร้ความหมายเฮ้อ.. แต่เขาปรารถนาจะแบกรับทุกอย่างเขาปรารถนาจะเติมเต็มความฝันของบิดาของเขาที่ยังไม่เต็ม เขาต้องการพิสูจน์ตัวเขาเองต่อโลกว่าเขาคือบุตรของบิดามิใช่หลานชายของราชินี
เหมือนกับว่ามีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจที่ยังเตือนเขาอยู่ ลืมไปซะ หลังจากการฟันครั้งนี้แล้วโลกของเจ้าจะจบลง ทั้งหมดนี้ไม่มีความหมายต่อเจ้า เจ้าถูกกำหนดแล้วว่าต้องไร้ประโยชน์
ความเศร้าและความว่างเปล่าเต็มอยู่บนใบหน้าของอาเฮ่อ ขณะเขายอมรับความพ่ายแพ้
ฉับพลันนั้นเองเขารู้สึกแสบร้อนในฝ่ามือเหมือนกับว่ากำลังกำอยู่บนท่อนเหล็กร้อน
เขามองลงมาโดยไม่รู้ตัว กระบี่กระเรียนในมือของเขา สั่นรุนแรง พลังที่อ่อนโยนและอ่อนหยุ่นกระจายจากด้ามกระบี่เข้าไปในร่างของอาเฮ่อ
มีเสียงร้องของนกกระเรียนชัดและก้องดังลงมาจากฟ้าก้องในใจของอาเฮ่อ
อาเฮ่อสั่นและมองดูกระบี่กระเรียนในมือตน มันเปล่งรัศมีแพรวพราว มันสั่นทันที มันมีความปรารถนาแรงกล้าต้องการต่อสู้
ภาพที่ชัดเจนของอาเฮ่อกลับคืนมาอีกครั้ง
ถูกแล้ว เจ้ายังคงต้องการสู้เคียงข้างข้า
เจ้าปรารถนาจะให้การต่อสู้นี้ยาวนานออกไปใช่ไหม?
ครั้งหนึ่งเจ้าก็คือกระบี่ระดับเซียนเช่นกัน...
ยุครุ่งเรืองของเจ้า คงต้องงดงามอย่างแน่นอน!
ราวกับว่ากระบี่จะอ่านความคิดของอาเฮ่อได้รัศมีของกระบี่กระเรียนที่เปล่งออกมาสว่างขึ้น แก่กล้าขึ้น กระบี่ส่งเสียงครางสร้างระลอกคลื่นบนทะเลสาบ
เส้าเต๋อประหลาดใจเขาคาดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองคนจะบรรลุความก้าวหน้าพร้อมกัน แต่ช่วงเวลาอย่างนี้ เขาอยู่ในช่วงที่มีระดับพลังสูงสุด อย่าว่าแต่ทั้งสองคนนี้มีความก้าวหน้าเลย ต่อให้เป็นนักสู้ระดับเซียนคนอื่นอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่กลัว
เขาจะไม่ทนต่อพฤติกรรมเลวร้ายใดๆ ในสนามพลังวิญญาณของเขา
รังสีดาบเป็นประกายวูบวาบ
รังสีเงินตัดกับสีฟ้าพร้อมกับรังสีดาบปะทะกับหอกเงินของหลิงซิ่วเงียบๆ
ชิ้ง!
เสียงของพลังโจมตีดังขึ้นราวกับว่ามาจากใจของหลิงซิ่ว พลังที่แข็งแกร่งรุนแรงปะทุออกมาจากปลายหอกเขาจับตัวหอกแทนขึ้น มีรอยถลอกและลอกที่รุนแรงระหว่างฝ่ามือกับหอกเนื้อถูกทำลาย ผิวปอกเปิก ปราณแท้ที่น่ากลัวทะลักเข้ามาในเส้นชีพจรของเขา หลิงซิ่วแค่นเสียงและยิ้ม
ข้าจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร? ต่อให้เจ้าเป็นเซียนดาบก็ตาม!
เขาเบิกตากว้างในท่ามกลางพลังที่ปั่นป่วนและคำรามลั่นทันทีรวบรวมพลังทั่วตัว มือที่บาดเจ็บของเขามีพลังทันที หอกสั่นสะท้าน
กระพรวนลมเขาแกะกระเด้งขึ้นมากระแทกใส่รังสีดาบ
รังสีดาบเงินฟ้าติดเชื้อน้ำแข็งเงินเป็นชั้นๆทำให้นัยน์ตาของเส้าเต๋อเบิกกว้าง น้ำแข็งเงินนี่...
พลังมหาศาลที่ให้หลิงซิ่วและฟลามิงโกกระเด็นไปด้านข้าง
วิชากระบวนท่ากระบี่กระเรียนฟ้าผุดขึ้นมาในใจเขา อาเฮ่อตั้งใจมองดูและภูมิใจกับกระบี่ของเขาชุดดำยาวของเขากระพือพัดพลิ้วทั้งที่ไม่มีลม เขาเข้าถึงระดับพลังสูงสุด
พร้อมกับแรงสั่นถี่จากตัวกระบี่อาเฮ่อเลื่อนตัวตรงเข้าหารังสีเงินฟ้าที่ให้ความรู้สึกถึงความตาย ขณะที่เขาแทงกระบี่ออก
เสียงร้องของกระเรียนดังและชัดดังขึ้นมาจากกระบี่ทันที
เขาเป็นเหมือนกระเรียนดำคล่องแคล่ว และเข้าโจมตีเหมือนสายฟ้า