ตอนที่ 13-33 โกรธแค้นไม่คลาย
“ย่อยประกายศักดิ์สิทธิ์?” บุรุษศีรษะโล้นและบุรุษชุดขาวทั้งสองเป็นระดับเทพแท้ลงมาจากอากาศ เบอร์เกสถลึงตามองบีบี “ประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้ดีกันว่าแข็งเหลือเชื่อและยังแข็งยิ่งกว่าสมบัติเทพเป็นหมื่นเท่า!”
ในพิภพจองจำเกบาโดส เมื่อยอดฝีมือเข้าร่วมสู้รบ ไม่ว่าจะเป็นการรบระดับใดก็ตาม ประกายเทพจะไม่มีทางถูกทำลาย ในแง่ของความแข็งมีแนวโน้มว่าแม้แต่กระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์ก็ยังมิอาจเทียบได้กับประกายศักดิ์สิทธิ์
“ตามทฤษฎี ประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่มีทางถูกทำลายได้” บุรุษชุดขาวพยักหน้าด้วยเช่นกัน
“ถูกแล้ว, ประกายศักดิ์สิทธิ์ทนทานจริงๆแม้ว่าฟันของข้าจะแหลมคมจริงๆ แต่ข้าก็ยังไม่สามารถแทะหรือเคี้ยวได้” บีบีลูบจมูกถอนหายใจ
“เจ้าต้องการเคี้ยวเล่นหรือ?” แม้แต่ลินลี่ย์ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ยังต้องการดุว่าบีบี อย่างไรก็ตามสายตาของบีบีมีแววกระบิดกระบวนทำให้ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “บีบี, เจ้าตัวร้าย ยิ่งโตก็ยิ่งกระบิดกระบวน ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าไปเลียนแบบใครมา”
บีบีลอบถอนหายใจ “ข้าไม่สามารถแทะและเคี้ยวมันด้วยฟันข้าได้ ดังนั้นข้าได้แต่กลืนลงท้องและปล่อยให้มันถูกย่อยเท่านั้นเอง”
“ย่อย” เบอร์เกสและอีกสองคนรู้สึกว่าเหลือเชื่อเกินไป
“ทำไมจะไม่ได้เล่า? ข้าเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็รู้” บีบีตั้งใจเชิดหน้า “ในพิภพนับไม่ถ้วนแห่งจักรวาลทั้งหมด ข้าเป็นเพียงหนูกินเทพตัวที่สองที่มีอยู่ ยังมีน้อยกว่านาคราช และอสูรกลืนสวรรค์ในจักรวาลอื่นๆเสียอีกท่านก็รู้ พวกเขายังไม่หายากและมีค่าเท่าเราเหล่าหนูกินเทพด้วยซ้ำ”
ลินลี่ย์หัวเราะในใจ “บีบีได้ยินได้ฟังมาจากลอร์ดเบรุตว่าดินแดนอื่นมีนาคราชและอสูรกลืนสวรรค์”
พญาราชสีห์อสูรกลืนสวรรค์และนาคราชอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้เป็นเพียงพวกหนึ่งที่อยู่ในทวีปยูลาน
แต่ยังมีอีกมากมายในดินแดนอื่นอีกหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ไดลินและทารอสไม่เคยไปดินแดนอื่นเป็นธรรมดาที่พวกเขาย่อมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินอื่น
“ลินลี่ย์ บีบี ไปกันเถอะ ไปยังที่พักของเรากันก่อน น้องสามกำลังรอพวกเจ้า” บุรุษชุดขาวยิ้ม
“ท่านลีย์ลิน?”
ในเมื่อเป็นท่านลีย์ลินผู้ลึกลับเชิญเขา ลินลี่ย์และบีบีจึงไม่ปฏิเสธแน่นอน พวกเขาติดตามเบอร์เกสและบุรุษชุดขาวไปทันทีบินไปที่คฤหาสน์ธาตุดิน
ในหุบเขาที่ลินลี่ย์ใช้ฝึก
ก้อนหินที่มุมของหุบเขาพลันหายไปทันทีกลายเป็นลีย์ลินผู้อยู่ในชุดแดงเข้ม ลีย์ลินมองดูทางทิศตะวันออก ตาของเขามองทะลุกำแพงได้จริงๆ เขายิ้มที่มุมปาก “ฮึ่ม..ดูเหมือนกับว่าเทพชั้นสูงนั้นยังไม่ถึงกับคลั่ง เขายังจะไม่มาล้างแค้นทันที”
“แต่ระดับความก้าวหน้าของลินลี่ย์เกินที่เราคาดไปมาก” ลีย์ลินถอนหายใจชมเชย “กระบี่ยาวสีม่วงน่าจะเป็นอาวุธเทพชั้นสูง รังสีอำมหิตน่ากลัวที่แฝงอยู่ในนั้นแข็งแกร่งมาก ใครจะรู้ว่ามียอดฝีมือกี่คนต้องมาตายภายใต้กระบี่นั้น”
“อย่างไรก็ตามจะดีที่สุด ถ้าไม่ทะนงตัวเกินไป”
ลีย์ลินขมวดคิ้ว “ถ้าเทพชั้นสูงนั้นโจมตีทันที...ความแตกต่างระหว่างลินลี่ย์และเทพชั้นสูงยังห่างกันมากมาย ต่อให้ข้าต้องการจะช่วยเขา ก็คงทำได้ไม่ทันการณ์ จะดีที่สุดก็ต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ!”
ลีย์ลินสามารถตรวจสอบการมาถึงภูเขาฆ้องทองแดงของแอนราสได้ง่าย
แต่ถ้าเป็นซาดิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าซาดิสต์ซ่อนกลิ่นอายของเขาเอง เว้นแต่ลีย์ลินใช้สัมผัสเทพค้นหาหรือใช้ความสามารถอย่างอื่นค้นหา เขาจะไม่สามารถตรวจสอบพบเจอซาดิสต์ได้รวดเร็วเลย
“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องระมัดระวังชั่วระยะหนึ่ง” ลีย์ลินหัวเราะและจากนั้นแก่นธาตุดินรอบตัวเขาสั่นเล็กน้อย ลีย์ลินหายไปในอากาศที่เบาบางทันที
ขณะที่ลินลี่ย์และคนอื่นๆบินไปที่คฤหาสน์ที่สร้างจากแก่นธาตุดินนี้เอง ลีย์ลินก็มารออยู่ที่คฤหาสน์อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อลินลี่ย์และคนอื่นๆ มาถึงที่คฤหาสน์พวกเขาเห็นลีย์ลินนั่งจิบเหล้าอย่างสบายใจ
“น้องสาม! ลินลี่ย์กับบีบีมาถึงแล้ว เจ้าต้องการให้เขาทำอะไร?” เบอร์เกสพูดเสียงดัง
ลีย์ลินวางจอกเหล้าและยิ้มขณะมองดูลินลี่ย์กับบีบี “พวกเจ้าทั้งสองนั่งก่อน”
ลินลี่ย์มีความสงสัยอยู่เต็มหัวใจ “ลีย์ลินต้องการอะไรจากเรา?”
“ในช่วงเวลาที่จะมาถึงนี้จะดีที่สุดสำหรับเจ้าก็คืออยู่ในบ้านของข้าก่อน ถ้าเจ้าจำเป็นต้องฝึก, ลินลี่ย์ อย่างนั้นจงฝึกที่ลานว่าง” ลีย์ลินประกาศความตั้งใจของเขา
ลินลี่ย์กับบีบีอดประหลาดใจไม่ได้
“ท่านลีย์ลิน, อยู่ในบ้านของท่านน่ะหรือ?” ลินลี่ย์ค่อนข้างงง
ลีย์ลินหัวเราะลั่น “เป็นอะไรไป? บ้านข้ามีอะไรผิดปกติหรือไง? หรือว่าเจ้ากลัวว่าจะทำบ้านข้าเสียหาย? ไม่ต้องกังวล ผนังของบ้านข้าไม่บอบบางขนาดนั้น ต่อให้เจ้าทำเสียหาย ข้าก็ซ่อมได้ง่ายๆ”
“นั่นไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ลินลี่ย์รีบกล่าว “แต่เนื่องจากท่านขอให้เราอยู่ด้วย ท่านลีย์ลิน อย่างนั้นบีบีและข้าปรากฏตัวคงจะต้องรบกวนท่านสักระยะ”
สำหรับเจ้าภูเขาฆ้องทองแดงลีย์ลินนี้ ลินลี่ย์กับบีบีทั้งคู่รู้สึกให้ความเคารพ ที่สำคัญคือเขาเป็นผู้ทรงพลัง
ประการที่สองคือ ความจริงเขาปฏิบัติต่อทั้งสองคนเป็นอย่างดี
ที่สำคัญคือ ตามที่แซ็ทกล่าวไว้ว่าปกติเมื่อใดก็ตามที่ลีย์ลินให้คำแนะนำผู้ใดก็ตาม ใครจะมาขอคำแนะนำเป็นครั้งที่สองในช่วงเวลาสิบปีไม่ได้
“ลินลี่ย์,ข้าเห็นเจ้าต่อสู้กับเทพแท้นั้นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว สำหรับเจ้าสามารถพัฒนาพลังโจมตีทางวิญญาณด้วยการเต้นของชีพจรโลกในช่วงเวลาสั้นๆอย่างนั้นนับว่าน่าประทับใจมาก” ลีย์ลินพูดยกย่อง
“ความจริง ข้าไม่เชี่ยวชาญพลังโจมตีนี้เท่าใดนัก” ลินลี่ย์รู้สึกว่าเขาค่อนข้างโชคดี “ตอนนั้นเป็นช่วงอันตราย ข้าไม่มีทางเลือก ดังนั้นข้าจึงใช้ทั้งกระบี่เลือดม่วงและดาบหนักอดาแมนเทียมพร้อมกัน โชคสำหรับข้าพลังโจมตีของดาบหนักอดาแมนเทียมประสบผลสำเร็จ มิฉะนั้นข้าคงไม่สามารถฆ่าเทพแท้นั้นได้”
ลีย์ลินพยักหน้าจากนั้นพูดอย่างจริงจัง “ลินลี่ย์!มีบางเรื่องที่ข้าต้องเตือนเจ้าไว้”
“ท่านลีย์ลินเชิญบอก” ลินลี่ย์ตั้งใจฟัง
ลีย์ลินพยักหน้า “ลินลี่ย์! บอกตามตรงนะว่าเมื่อเจ้าใช้กระบี่เลือดม่วงโจมตีด้วยพลังวิญญาณ พลังยังต่ำมาก ทั้งหมดที่เจ้าทำก็คือประยุกต์ใส่พลังจิตเข้าไปง่ายๆ ส่งผ่านกระบี่เลือดม่วงและใช้โจมตีวิญญาณคู่ต่อสู้ ลักษณะเฉพาะที่ดีของการโจมตีครั้งนี้ก็คือเจ้ารวมเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งดนตรีเข้าไปด้วย”
“ข้าขอเจ้าก็แล้วกันในช่วงเวลาสำคัญเมื่อต้องจัดการกับศัตรูที่ทรงพลัง อย่าใช้พลังโจมตีประเภทนี้อีก เกี่ยวกับพลังโจมตีวิญญาณ พลังโจมตีนี้ยังด้อยกว่าการที่เจ้าใช้พลังการเต้นของชีพจรโลกเสียอีก แตกต่างกันอย่างมากมาย”
“พลังค่อนข้างต่ำ” ลินลี่ย์รู้ดีเช่นกัน
ลำนำแห่งสายลม แม้ว่าจะเป็นพลังจิตโจมตี แต่ความจริงไม่เชื่อมโยงกับความเข้าใจในกฎธรรมชาติระดับลึกอะไรเลย ก็แค่เติมพลังจิตลงไปในกระบี่เลือดม่วงและกระตุ้นให้กระบี่เลือดม่วงปล่อยพลังโจมตี
เป็นเช่นนั้น
เมื่อเคล็ดลำนำแห่งสายลมปะทะกับพลังสลายวิญญาณ เงากระบี่เลือดม่วงที่สร้างขึ้นโดย ‘ลำนำแห่งสายลมก็ถูกกำจัดทันที พลังของมันด้อยกว่าห่างไกล
เมื่อลินลี่ย์พัฒนาจังหวะชีพจรโลก – กระบี่คลื่นสลาย เขาพบว่าพลังโจมตีวิญญาณซึ่งแฝงด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับในนั้นมีความน่ากลัวสูงอย่างน่าประหลาด
อาจกล่าวได้ว่า ‘ลำนำของสายลม’ ไม่มีอะไร มากไปกว่าค้อนที่สร้างจากพลังจิตและหวดใส่วิญญาณของคู่ต่อสู้
อย่างไรก็ตาม จังหวะชีพจรโลก –กระบี่คลื่นสลายทำให้พลังจิตของเขาส่งผ่านจังหวะชีพจรโลกและปลดปล่อยระลอกคลื่นพลังวิญญาณเป็นล้านๆทันที ระลอกพลังวิญญาณนับไม่ถ้วนจะสร้างกลุ่มรูปแบบที่สมบูรณ์กลายเป็นเงากระบี่ลวงตา! เงากระบี่ลวงตาเมื่อโจมตีวิญญาณจะปล่อยคลื่นระลอกกระบี่อีกนับไม่ถ้วนการเสริมพลังกันนับไม่ถ้วนของระลอกกระบี่จะซ้อนส่งเสริมกันจนถึงขีดสุด
คล้ายกับกระดาษขาวบาง ต่อให้ท่านม้วนเป็นก้านไว้ ถ้าท่านใช้แรงมากไป ท่านอาจทำพังด้วย อย่างไรก็ตามถ้าท่านตัดกระดาษซ้อนเป็นร้อยชั้นและสานไว้เข้าด้วยกัน อย่างนั้นความทนทานก็จะเพิ่มเป็นร้อยเท่าสามารถรับน้ำหนักได้หลายร้อยกิโลกรัม
ผลของการถักสานเคล็ดความรู้ลึกลับจังหวะชีพจรโลกย่อมดีกว่าการถักสานความรู้ธรรมดาเป็นร้อยเท่า
“พลังโจมตีวิญญาณลำนำแห่งสายลมค่อนข้างมีระดับที่ต่ำ หลังจากหลอมรวมกับเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งกฎธรรมชาติจะช่วยให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น” ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้
ลีย์ลินหัวเราะ “ถ้าเจ้าใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมของเจ้าโจมตีหอกของเทพนั้น อย่างนั้นพลังโจมตีวิญญาณของเจ้าก็คงจะไร้ผล! พลังของการโจมตีวิญญาณของเขาเทียบเท่ากับของเจ้า”
ลีย์ลินใช้ประสบการณ์ของเขาและตัดสินก็สามารถประเมินเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย
“โอว?’ลินลี่ย์นึกย้อนไปถึงเงาหอกสีแดงจาง เงาหอกทรงพลังมากจริงๆ ”ถ้าข้าไม่มีสมบัติมหาเทพชำรุดที่ใช้ป้องกันวิญญาณนั้นมีแนวโน้มว่าข้าคงไม่สามารถต้านรับพลังโจมตีวิญญาณระดับนั้นได้”
“ลินลี่ย์,มีบางเรื่องที่ข้าประหลาดใจ”
ลีย์ลินขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูลินลี่ย์ “พลังไม้ตายโจมตีวิญญาณที่เทพแท้ใช้ออก..วิญญาณพวกเทพส่วนใหญ่จะไม่สามารถต้านรับได้เท่ากับเจ้า เจ้าไม่ได้รับผลกระทบอะไรได้ยังไง?”
ข้อสงสัยนี้ทำให้ลีย์ลินอึ้งไปชั่วขณะ
“นี่...” ลินลี่ย์ไม่รู้จะพูดอะไร
หรือว่าเขาควรบอกลีย์ลินว่าเขามีสมบัติมหาเทพชำรุดที่ใช้ปกป้องวิญญาณดี? สมบัติมหาเทพ แม้จะเป็นของชำรุด แต่ก็เพียงพอทำให้เทพชั้นสูงถึงกับตาแดงด้วยแรงปรารถนาได้
“ฮ่าฮ่า, ข้าเสียมารยาทไปหน่อย” ลีย์ลินหัวเราะลั่น “ข้าไม่ควรถามคำถามอย่างนี้, ลินลี่ย์,ตอนนี้จงพักอาศัยอยู่แถวๆ นี้ก่อน ถ้าเจ้ามีปัญหาในการฝึก เจ้ามาถามข้าได้”
“ขอรับ” ลินลี่ย์คำนับ
“เจ้าจำเป็นต้องเชี่ยวชาญด้านพลังโจมตีวิญญาณของจังหวะเต้นชีพจรโลกให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้” ลีย์ลินหัวเราะ
ดังนั้นลินลี่ย์และบีบีจึงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์และฝึกฝนอย่างเงียบสงบ บางครั้งเมื่อสับสนลีย์ลินจะทำตัวอย่างช่วยอธิบายให้ลินลี่ย์ บางครั้งลินลี่ย์ก็เข้าใจได้ทันที ถ้าเขาไม่เข้าใจ ลีย์ลินจะให้ลินลี่ย์คิดช้าๆ ด้วยตัวเอง
ทั้งหมดที่ลีย์ลินสามารถทำได้เกี่ยวกับการฝึกก็คือให้คำแนะนำเป็นครั้งคราว
การฝึกของลินลี่ย์ผ่านไปอย่างมีความสุขหลายวันและสงบสุข แต่ในจักรวรรดิโรฮอลต์ เทพชั้นสูงซาดิสต์มีอารมณ์ไม่ดีอยู่หลายวัน
ภายในลานว่าง ซาดิสต์นั่งทานอาหารค่ำกับเทพแท้อีกสองคน เพียงแต่สีหน้าของซาดิสต์ดูหงุดหงิดและเทพแท้ทั้งสองไม่กล้าส่งเสียง
“ปัง!”
ซาดิสต์กระแทกแก้วเหล้าบนโต๊ะ จากนั้นลุกขึ้นและเดินออกมาห้องนั่งเล่น เพราะซาดิสต์ใช้กำลังมากไปเล็กน้อยแก้วเหล้าจึงแหลกละเอียด
เทพทั้งสองมองหน้ากันและกัน
“แดนนี่, ตั้งแต่แอนราสตายไป ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ลอร์ดซาดิสต์อารมณ์ไม่ดีเสียเลย เราจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี?” บุรุษวัยกลางคนผมสั้นหงอกกล่าว
พวกเขารู้สึกท้อแท้เช่นกัน
ถ้าซาดิสต์อารมณ์ไม่ดีขุ่นมัวอยู่อย่างนั้น ชีวิตของพวกเขาคงจะไม่สะดวกสบาย ที่สำคัญคือพวกเขาจะต้องอยู่ในดินแดนยูลานไปอีกเกือบพันปีถ้าพวกเขาจะต้องใช้เวลาพันปีในสภาพหงุดหงิดอย่างนั้นก็คงน่าสมเพช
“ใช่แล้ว เรื่องนี้ต้องได้รับการคลี่คลาย ข้าจะไปคุยเรื่องนี้กับลุง” เด็กหนุ่มแดนนี่กล่าว แดนนี่เป็นหลานของซาดิสต์ดังนั้นจึงรู้สึกว่าเขาควรจัดการเรื่องนี้
ซาดิสต์อยู่ในชุดชนชั้นสูง ชุดยาวสีม่วง เขายืนอยู่ในสวนดอกไม้ที่งดงามอารมณ์ไม่ดีแม้ว่าดอกไม้จะงดงามก็ตาม
“ลินลี่ย์ผู้นี้เป็นเพียงเทียมเทพ แค่จะฆ่าเขา แอนราสถึงกับต้องตาย และตอนนี้ข้าก็ยังไปจัดการเขาไม่ได้” หัวใจของซาดิสต์เต็มไปด้วยความโกรธ
เขาสามารถฆ่าลินลี่ย์ได้แน่นอน และบางทีเบรุตอาจหาไม่พบ
แต่ถ้าเบรุตค้นพบ อย่างนั้นเขาซาดิสต์ก็จะไม่สามารถเข้าไปในสุสานเทพเจ้าได้
“สุสานเทพเจ้าเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า” ซาดิสต์ยังคงเตือนตนเอง เพื่อให้ได้เข้าสุสานเทพเจ้า เขาต้องเลือกเก็บซ่อนความตั้งใจไปกำจัดลินลี่ย์ แต่เขาก็ยังโกรธและไม่พอใจ ที่สำคัญลินลี่ย์เป็นเพียงเทียมเทพซาดิสต์จะไม่ระบายความโกรธในใจของเขาได้ยังไง?
น่าคลั่งใจนัก!
“ท่านลุง”เสียงหนึ่งดังขึ้น
ซาดิสต์ชำเลือมอง ใจเย็นไว้ เขากล่าว “โอว, แดนนี่ มีอะไรหรือ?”
“ท่านลุง, ในช่วงหนึ่งเดือนนี้ข้าเห็นว่าท่านมักจะอารมณ์ไม่ดี แอนราสตายและเรื่องผ่านไปแล้ว นอกจากนี้เขาเป็นเพียงเทพแท้คนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องนั้นมากนักก็ได้” แดนนี้กล่าว
ซาดิสต์แค่นเสียงแต่ไม่พูดอะไร
เขาไม่สนใจเรื่องเทพ สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ใจก็คือเขาประสบความพ่ายแพ้ แต่ก็ทำได้แค่ทน แทนที่จะได้ระบายความโกรธ ถ้าเขาโกรธยอดฝีมือนั่นคือสิ่งเดียวที่จะทำ แต่ในกรณีนี้เขาโกรธพวกเทียมเทพ
เขาจะสงบใจได้ยังไง?
เขาต้องการฆ่าเขา แต่จะเป็นยังไง ถ้าเบรุตพบเข้า? แล้วไง?
หงุดหงิด และข่มความโกรธ!