ตอนที่แล้วตอนที่ 13-32 ดินและลม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-34 ความมืดและเปลวไฟ

ตอนที่ 13-33 โกรธแค้นไม่คลาย


“ย่อยประกายศักดิ์สิทธิ์?”  บุรุษศีรษะโล้นและบุรุษชุดขาวทั้งสองเป็นระดับเทพแท้ลงมาจากอากาศ เบอร์เกสถลึงตามองบีบี “ประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้ดีกันว่าแข็งเหลือเชื่อและยังแข็งยิ่งกว่าสมบัติเทพเป็นหมื่นเท่า!”

ในพิภพจองจำเกบาโดส เมื่อยอดฝีมือเข้าร่วมสู้รบ  ไม่ว่าจะเป็นการรบระดับใดก็ตาม  ประกายเทพจะไม่มีทางถูกทำลาย ในแง่ของความแข็งมีแนวโน้มว่าแม้แต่กระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์ก็ยังมิอาจเทียบได้กับประกายศักดิ์สิทธิ์

“ตามทฤษฎี ประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่มีทางถูกทำลายได้”  บุรุษชุดขาวพยักหน้าด้วยเช่นกัน

“ถูกแล้ว, ประกายศักดิ์สิทธิ์ทนทานจริงๆแม้ว่าฟันของข้าจะแหลมคมจริงๆ แต่ข้าก็ยังไม่สามารถแทะหรือเคี้ยวได้” บีบีลูบจมูกถอนหายใจ

“เจ้าต้องการเคี้ยวเล่นหรือ?”  แม้แต่ลินลี่ย์ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ยังต้องการดุว่าบีบี  อย่างไรก็ตามสายตาของบีบีมีแววกระบิดกระบวนทำให้ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “บีบี, เจ้าตัวร้าย ยิ่งโตก็ยิ่งกระบิดกระบวน ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าไปเลียนแบบใครมา”

บีบีลอบถอนหายใจ “ข้าไม่สามารถแทะและเคี้ยวมันด้วยฟันข้าได้ ดังนั้นข้าได้แต่กลืนลงท้องและปล่อยให้มันถูกย่อยเท่านั้นเอง”

“ย่อย” เบอร์เกสและอีกสองคนรู้สึกว่าเหลือเชื่อเกินไป

“ทำไมจะไม่ได้เล่า? ข้าเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ ท่านก็รู้” บีบีตั้งใจเชิดหน้า “ในพิภพนับไม่ถ้วนแห่งจักรวาลทั้งหมด ข้าเป็นเพียงหนูกินเทพตัวที่สองที่มีอยู่  ยังมีน้อยกว่านาคราช และอสูรกลืนสวรรค์ในจักรวาลอื่นๆเสียอีกท่านก็รู้ พวกเขายังไม่หายากและมีค่าเท่าเราเหล่าหนูกินเทพด้วยซ้ำ”

ลินลี่ย์หัวเราะในใจ “บีบีได้ยินได้ฟังมาจากลอร์ดเบรุตว่าดินแดนอื่นมีนาคราชและอสูรกลืนสวรรค์”

พญาราชสีห์อสูรกลืนสวรรค์และนาคราชอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้เป็นเพียงพวกหนึ่งที่อยู่ในทวีปยูลาน

แต่ยังมีอีกมากมายในดินแดนอื่นอีกหลายแห่ง  อย่างไรก็ตาม ไดลินและทารอสไม่เคยไปดินแดนอื่นเป็นธรรมดาที่พวกเขาย่อมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินอื่น

“ลินลี่ย์ บีบี ไปกันเถอะ ไปยังที่พักของเรากันก่อน  น้องสามกำลังรอพวกเจ้า”  บุรุษชุดขาวยิ้ม

“ท่านลีย์ลิน?”

ในเมื่อเป็นท่านลีย์ลินผู้ลึกลับเชิญเขา  ลินลี่ย์และบีบีจึงไม่ปฏิเสธแน่นอน พวกเขาติดตามเบอร์เกสและบุรุษชุดขาวไปทันทีบินไปที่คฤหาสน์ธาตุดิน

ในหุบเขาที่ลินลี่ย์ใช้ฝึก

ก้อนหินที่มุมของหุบเขาพลันหายไปทันทีกลายเป็นลีย์ลินผู้อยู่ในชุดแดงเข้ม ลีย์ลินมองดูทางทิศตะวันออก ตาของเขามองทะลุกำแพงได้จริงๆ เขายิ้มที่มุมปาก  “ฮึ่ม..ดูเหมือนกับว่าเทพชั้นสูงนั้นยังไม่ถึงกับคลั่ง เขายังจะไม่มาล้างแค้นทันที”

“แต่ระดับความก้าวหน้าของลินลี่ย์เกินที่เราคาดไปมาก”  ลีย์ลินถอนหายใจชมเชย  “กระบี่ยาวสีม่วงน่าจะเป็นอาวุธเทพชั้นสูง  รังสีอำมหิตน่ากลัวที่แฝงอยู่ในนั้นแข็งแกร่งมาก  ใครจะรู้ว่ามียอดฝีมือกี่คนต้องมาตายภายใต้กระบี่นั้น”

“อย่างไรก็ตามจะดีที่สุด ถ้าไม่ทะนงตัวเกินไป”

ลีย์ลินขมวดคิ้ว “ถ้าเทพชั้นสูงนั้นโจมตีทันที...ความแตกต่างระหว่างลินลี่ย์และเทพชั้นสูงยังห่างกันมากมาย  ต่อให้ข้าต้องการจะช่วยเขา  ก็คงทำได้ไม่ทันการณ์  จะดีที่สุดก็ต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ!”

ลีย์ลินสามารถตรวจสอบการมาถึงภูเขาฆ้องทองแดงของแอนราสได้ง่าย

แต่ถ้าเป็นซาดิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าซาดิสต์ซ่อนกลิ่นอายของเขาเอง  เว้นแต่ลีย์ลินใช้สัมผัสเทพค้นหาหรือใช้ความสามารถอย่างอื่นค้นหา เขาจะไม่สามารถตรวจสอบพบเจอซาดิสต์ได้รวดเร็วเลย

“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องระมัดระวังชั่วระยะหนึ่ง”  ลีย์ลินหัวเราะและจากนั้นแก่นธาตุดินรอบตัวเขาสั่นเล็กน้อย ลีย์ลินหายไปในอากาศที่เบาบางทันที

ขณะที่ลินลี่ย์และคนอื่นๆบินไปที่คฤหาสน์ที่สร้างจากแก่นธาตุดินนี้เอง ลีย์ลินก็มารออยู่ที่คฤหาสน์อยู่ก่อนแล้ว

เมื่อลินลี่ย์และคนอื่นๆ มาถึงที่คฤหาสน์พวกเขาเห็นลีย์ลินนั่งจิบเหล้าอย่างสบายใจ

“น้องสาม!  ลินลี่ย์กับบีบีมาถึงแล้ว  เจ้าต้องการให้เขาทำอะไร?”  เบอร์เกสพูดเสียงดัง

ลีย์ลินวางจอกเหล้าและยิ้มขณะมองดูลินลี่ย์กับบีบี  “พวกเจ้าทั้งสองนั่งก่อน”

ลินลี่ย์มีความสงสัยอยู่เต็มหัวใจ  “ลีย์ลินต้องการอะไรจากเรา?”

“ในช่วงเวลาที่จะมาถึงนี้จะดีที่สุดสำหรับเจ้าก็คืออยู่ในบ้านของข้าก่อน ถ้าเจ้าจำเป็นต้องฝึก, ลินลี่ย์ อย่างนั้นจงฝึกที่ลานว่าง”  ลีย์ลินประกาศความตั้งใจของเขา

ลินลี่ย์กับบีบีอดประหลาดใจไม่ได้

“ท่านลีย์ลิน, อยู่ในบ้านของท่านน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์ค่อนข้างงง

ลีย์ลินหัวเราะลั่น “เป็นอะไรไป? บ้านข้ามีอะไรผิดปกติหรือไง? หรือว่าเจ้ากลัวว่าจะทำบ้านข้าเสียหาย? ไม่ต้องกังวล ผนังของบ้านข้าไม่บอบบางขนาดนั้น ต่อให้เจ้าทำเสียหาย ข้าก็ซ่อมได้ง่ายๆ”

“นั่นไม่ได้หมายความอย่างนั้น”  ลินลี่ย์รีบกล่าว  “แต่เนื่องจากท่านขอให้เราอยู่ด้วย  ท่านลีย์ลิน อย่างนั้นบีบีและข้าปรากฏตัวคงจะต้องรบกวนท่านสักระยะ”

สำหรับเจ้าภูเขาฆ้องทองแดงลีย์ลินนี้  ลินลี่ย์กับบีบีทั้งคู่รู้สึกให้ความเคารพ  ที่สำคัญคือเขาเป็นผู้ทรงพลัง

ประการที่สองคือ ความจริงเขาปฏิบัติต่อทั้งสองคนเป็นอย่างดี

ที่สำคัญคือ ตามที่แซ็ทกล่าวไว้ว่าปกติเมื่อใดก็ตามที่ลีย์ลินให้คำแนะนำผู้ใดก็ตาม ใครจะมาขอคำแนะนำเป็นครั้งที่สองในช่วงเวลาสิบปีไม่ได้

“ลินลี่ย์,ข้าเห็นเจ้าต่อสู้กับเทพแท้นั้นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว  สำหรับเจ้าสามารถพัฒนาพลังโจมตีทางวิญญาณด้วยการเต้นของชีพจรโลกในช่วงเวลาสั้นๆอย่างนั้นนับว่าน่าประทับใจมาก” ลีย์ลินพูดยกย่อง

“ความจริง ข้าไม่เชี่ยวชาญพลังโจมตีนี้เท่าใดนัก”  ลินลี่ย์รู้สึกว่าเขาค่อนข้างโชคดี  “ตอนนั้นเป็นช่วงอันตราย  ข้าไม่มีทางเลือก ดังนั้นข้าจึงใช้ทั้งกระบี่เลือดม่วงและดาบหนักอดาแมนเทียมพร้อมกัน  โชคสำหรับข้าพลังโจมตีของดาบหนักอดาแมนเทียมประสบผลสำเร็จ มิฉะนั้นข้าคงไม่สามารถฆ่าเทพแท้นั้นได้”

ลีย์ลินพยักหน้าจากนั้นพูดอย่างจริงจัง  “ลินลี่ย์!มีบางเรื่องที่ข้าต้องเตือนเจ้าไว้”

“ท่านลีย์ลินเชิญบอก”  ลินลี่ย์ตั้งใจฟัง

ลีย์ลินพยักหน้า “ลินลี่ย์! บอกตามตรงนะว่าเมื่อเจ้าใช้กระบี่เลือดม่วงโจมตีด้วยพลังวิญญาณ  พลังยังต่ำมาก ทั้งหมดที่เจ้าทำก็คือประยุกต์ใส่พลังจิตเข้าไปง่ายๆ ส่งผ่านกระบี่เลือดม่วงและใช้โจมตีวิญญาณคู่ต่อสู้  ลักษณะเฉพาะที่ดีของการโจมตีครั้งนี้ก็คือเจ้ารวมเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งดนตรีเข้าไปด้วย”

“ข้าขอเจ้าก็แล้วกันในช่วงเวลาสำคัญเมื่อต้องจัดการกับศัตรูที่ทรงพลัง  อย่าใช้พลังโจมตีประเภทนี้อีก  เกี่ยวกับพลังโจมตีวิญญาณ  พลังโจมตีนี้ยังด้อยกว่าการที่เจ้าใช้พลังการเต้นของชีพจรโลกเสียอีก  แตกต่างกันอย่างมากมาย”

“พลังค่อนข้างต่ำ” ลินลี่ย์รู้ดีเช่นกัน

ลำนำแห่งสายลม แม้ว่าจะเป็นพลังจิตโจมตี แต่ความจริงไม่เชื่อมโยงกับความเข้าใจในกฎธรรมชาติระดับลึกอะไรเลย ก็แค่เติมพลังจิตลงไปในกระบี่เลือดม่วงและกระตุ้นให้กระบี่เลือดม่วงปล่อยพลังโจมตี

เป็นเช่นนั้น

เมื่อเคล็ดลำนำแห่งสายลมปะทะกับพลังสลายวิญญาณ  เงากระบี่เลือดม่วงที่สร้างขึ้นโดย ‘ลำนำแห่งสายลมก็ถูกกำจัดทันที พลังของมันด้อยกว่าห่างไกล

เมื่อลินลี่ย์พัฒนาจังหวะชีพจรโลก – กระบี่คลื่นสลาย เขาพบว่าพลังโจมตีวิญญาณซึ่งแฝงด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับในนั้นมีความน่ากลัวสูงอย่างน่าประหลาด

อาจกล่าวได้ว่า ‘ลำนำของสายลม’ ไม่มีอะไร มากไปกว่าค้อนที่สร้างจากพลังจิตและหวดใส่วิญญาณของคู่ต่อสู้

อย่างไรก็ตาม จังหวะชีพจรโลก –กระบี่คลื่นสลายทำให้พลังจิตของเขาส่งผ่านจังหวะชีพจรโลกและปลดปล่อยระลอกคลื่นพลังวิญญาณเป็นล้านๆทันที ระลอกพลังวิญญาณนับไม่ถ้วนจะสร้างกลุ่มรูปแบบที่สมบูรณ์กลายเป็นเงากระบี่ลวงตา! เงากระบี่ลวงตาเมื่อโจมตีวิญญาณจะปล่อยคลื่นระลอกกระบี่อีกนับไม่ถ้วนการเสริมพลังกันนับไม่ถ้วนของระลอกกระบี่จะซ้อนส่งเสริมกันจนถึงขีดสุด

คล้ายกับกระดาษขาวบาง ต่อให้ท่านม้วนเป็นก้านไว้ ถ้าท่านใช้แรงมากไป  ท่านอาจทำพังด้วย  อย่างไรก็ตามถ้าท่านตัดกระดาษซ้อนเป็นร้อยชั้นและสานไว้เข้าด้วยกัน อย่างนั้นความทนทานก็จะเพิ่มเป็นร้อยเท่าสามารถรับน้ำหนักได้หลายร้อยกิโลกรัม

ผลของการถักสานเคล็ดความรู้ลึกลับจังหวะชีพจรโลกย่อมดีกว่าการถักสานความรู้ธรรมดาเป็นร้อยเท่า

“พลังโจมตีวิญญาณลำนำแห่งสายลมค่อนข้างมีระดับที่ต่ำ หลังจากหลอมรวมกับเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งกฎธรรมชาติจะช่วยให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น”  ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้

ลีย์ลินหัวเราะ “ถ้าเจ้าใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมของเจ้าโจมตีหอกของเทพนั้น  อย่างนั้นพลังโจมตีวิญญาณของเจ้าก็คงจะไร้ผล!  พลังของการโจมตีวิญญาณของเขาเทียบเท่ากับของเจ้า”

ลีย์ลินใช้ประสบการณ์ของเขาและตัดสินก็สามารถประเมินเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย

“โอว?’ลินลี่ย์นึกย้อนไปถึงเงาหอกสีแดงจาง เงาหอกทรงพลังมากจริงๆ ”ถ้าข้าไม่มีสมบัติมหาเทพชำรุดที่ใช้ป้องกันวิญญาณนั้นมีแนวโน้มว่าข้าคงไม่สามารถต้านรับพลังโจมตีวิญญาณระดับนั้นได้”

“ลินลี่ย์,มีบางเรื่องที่ข้าประหลาดใจ”

ลีย์ลินขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูลินลี่ย์  “พลังไม้ตายโจมตีวิญญาณที่เทพแท้ใช้ออก..วิญญาณพวกเทพส่วนใหญ่จะไม่สามารถต้านรับได้เท่ากับเจ้า  เจ้าไม่ได้รับผลกระทบอะไรได้ยังไง?”

ข้อสงสัยนี้ทำให้ลีย์ลินอึ้งไปชั่วขณะ

“นี่...” ลินลี่ย์ไม่รู้จะพูดอะไร

หรือว่าเขาควรบอกลีย์ลินว่าเขามีสมบัติมหาเทพชำรุดที่ใช้ปกป้องวิญญาณดี?  สมบัติมหาเทพ แม้จะเป็นของชำรุด แต่ก็เพียงพอทำให้เทพชั้นสูงถึงกับตาแดงด้วยแรงปรารถนาได้

“ฮ่าฮ่า, ข้าเสียมารยาทไปหน่อย”  ลีย์ลินหัวเราะลั่น  “ข้าไม่ควรถามคำถามอย่างนี้, ลินลี่ย์,ตอนนี้จงพักอาศัยอยู่แถวๆ นี้ก่อน ถ้าเจ้ามีปัญหาในการฝึก เจ้ามาถามข้าได้”

“ขอรับ” ลินลี่ย์คำนับ

“เจ้าจำเป็นต้องเชี่ยวชาญด้านพลังโจมตีวิญญาณของจังหวะเต้นชีพจรโลกให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้”  ลีย์ลินหัวเราะ

ดังนั้นลินลี่ย์และบีบีจึงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์และฝึกฝนอย่างเงียบสงบ  บางครั้งเมื่อสับสนลีย์ลินจะทำตัวอย่างช่วยอธิบายให้ลินลี่ย์ บางครั้งลินลี่ย์ก็เข้าใจได้ทันที ถ้าเขาไม่เข้าใจ ลีย์ลินจะให้ลินลี่ย์คิดช้าๆ ด้วยตัวเอง

ทั้งหมดที่ลีย์ลินสามารถทำได้เกี่ยวกับการฝึกก็คือให้คำแนะนำเป็นครั้งคราว

การฝึกของลินลี่ย์ผ่านไปอย่างมีความสุขหลายวันและสงบสุข  แต่ในจักรวรรดิโรฮอลต์  เทพชั้นสูงซาดิสต์มีอารมณ์ไม่ดีอยู่หลายวัน

ภายในลานว่าง ซาดิสต์นั่งทานอาหารค่ำกับเทพแท้อีกสองคน  เพียงแต่สีหน้าของซาดิสต์ดูหงุดหงิดและเทพแท้ทั้งสองไม่กล้าส่งเสียง

“ปัง!”

ซาดิสต์กระแทกแก้วเหล้าบนโต๊ะ  จากนั้นลุกขึ้นและเดินออกมาห้องนั่งเล่น เพราะซาดิสต์ใช้กำลังมากไปเล็กน้อยแก้วเหล้าจึงแหลกละเอียด

เทพทั้งสองมองหน้ากันและกัน

“แดนนี่, ตั้งแต่แอนราสตายไป ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ลอร์ดซาดิสต์อารมณ์ไม่ดีเสียเลย เราจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี?” บุรุษวัยกลางคนผมสั้นหงอกกล่าว

พวกเขารู้สึกท้อแท้เช่นกัน

ถ้าซาดิสต์อารมณ์ไม่ดีขุ่นมัวอยู่อย่างนั้น   ชีวิตของพวกเขาคงจะไม่สะดวกสบาย ที่สำคัญคือพวกเขาจะต้องอยู่ในดินแดนยูลานไปอีกเกือบพันปีถ้าพวกเขาจะต้องใช้เวลาพันปีในสภาพหงุดหงิดอย่างนั้นก็คงน่าสมเพช

“ใช่แล้ว เรื่องนี้ต้องได้รับการคลี่คลาย  ข้าจะไปคุยเรื่องนี้กับลุง”  เด็กหนุ่มแดนนี่กล่าว  แดนนี่เป็นหลานของซาดิสต์ดังนั้นจึงรู้สึกว่าเขาควรจัดการเรื่องนี้

ซาดิสต์อยู่ในชุดชนชั้นสูง ชุดยาวสีม่วง  เขายืนอยู่ในสวนดอกไม้ที่งดงามอารมณ์ไม่ดีแม้ว่าดอกไม้จะงดงามก็ตาม

“ลินลี่ย์ผู้นี้เป็นเพียงเทียมเทพ  แค่จะฆ่าเขา แอนราสถึงกับต้องตาย  และตอนนี้ข้าก็ยังไปจัดการเขาไม่ได้”  หัวใจของซาดิสต์เต็มไปด้วยความโกรธ

เขาสามารถฆ่าลินลี่ย์ได้แน่นอน  และบางทีเบรุตอาจหาไม่พบ

แต่ถ้าเบรุตค้นพบ อย่างนั้นเขาซาดิสต์ก็จะไม่สามารถเข้าไปในสุสานเทพเจ้าได้

“สุสานเทพเจ้าเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า”  ซาดิสต์ยังคงเตือนตนเอง  เพื่อให้ได้เข้าสุสานเทพเจ้า  เขาต้องเลือกเก็บซ่อนความตั้งใจไปกำจัดลินลี่ย์  แต่เขาก็ยังโกรธและไม่พอใจ  ที่สำคัญลินลี่ย์เป็นเพียงเทียมเทพซาดิสต์จะไม่ระบายความโกรธในใจของเขาได้ยังไง?

น่าคลั่งใจนัก!

“ท่านลุง”เสียงหนึ่งดังขึ้น

ซาดิสต์ชำเลือมอง ใจเย็นไว้ เขากล่าว “โอว, แดนนี่ มีอะไรหรือ?”

“ท่านลุง, ในช่วงหนึ่งเดือนนี้ข้าเห็นว่าท่านมักจะอารมณ์ไม่ดี  แอนราสตายและเรื่องผ่านไปแล้ว นอกจากนี้เขาเป็นเพียงเทพแท้คนหนึ่ง  ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องนั้นมากนักก็ได้”  แดนนี้กล่าว

ซาดิสต์แค่นเสียงแต่ไม่พูดอะไร

เขาไม่สนใจเรื่องเทพ สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ใจก็คือเขาประสบความพ่ายแพ้  แต่ก็ทำได้แค่ทน  แทนที่จะได้ระบายความโกรธ  ถ้าเขาโกรธยอดฝีมือนั่นคือสิ่งเดียวที่จะทำ แต่ในกรณีนี้เขาโกรธพวกเทียมเทพ

เขาจะสงบใจได้ยังไง?

เขาต้องการฆ่าเขา แต่จะเป็นยังไง  ถ้าเบรุตพบเข้า?  แล้วไง?

หงุดหงิด และข่มความโกรธ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด