Chapter 48 : ดุดัน
โจวเฉินและคนอื่นๆไม่ได้ออกสำรวจป่าต่อเพราะพวกเขาไม่อยากจะออกห่างจากแหล่งน้ำที่พึ่งหาเจออย่างยากลำบากอย่างทะเลสาบซักเท่าไหร่นัก
ต้นไม้ปิศาจสู้กับมอนสเตอร์น้ำในทะเลสาบอยู่ซักพักก็เลิกลากันและย้อนกลับไปยังอาณาเขตของตนเอง อาณาบริเวณกลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน เมื่อโจวเฉินและคนอื่นๆย้อนกลับมายังทะเลสาบพวกเขาก็พบว่าต้นไม้ปิศาจไม่ได้เข้าโจมตีพวกเขาแต่อย่างใด
แน่นอนว่ากระทั่งตัวชายหนุ่มกางเกงในเองก็ไม่กล้าเข้าไปในป่าเพื่อทดสอบว่าต้นไม้ปิศาจกลุ่มเมื่อครู่จะยังดุร้ายอยู่หรือเปล่าเหมือนกัน
“กองไฟของเราถูกพวกมอนสเตอร์ระยำพวกนั้นทำลายไปแล้ว คงต้องสร้างกันใหม่”
หญิงสาวผมหางม้าขมวดคิ้วมุ่นขณะที่สายตาเองก็จ้องมองไปที่ด้านข้างทะเลสาบซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาก่อกองไฟเอาไว้ ตอนนี้มันกลับกลายเป็นหลุมโคลนขนาดย่อมๆไปแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแหละ”
ชายหนุ่มกางเกงในไม่สนใจเรื่องกองไฟเท่าไหร่นักจึงเอ่ยออกมาอย่างสบายๆ
“พวกเราควรจะก่อกองกันไฟในป่าไม่งั้นถ้าฝนตกลงมาที่ลงมือทำกันมาจะเสียเปล่าซะเปล่าๆ”
โจวเฉินคิดอยู่ซักพักและรู้สึกว่าการก่อกองไฟข้างๆทะเลสาบไม่ใชเรื่องดีเลย
“ตกลงถ้างั้นก็ไปหาที่ว่างในป่าเพื่อก่อกองไฟกันเถอะ เวลาอยู่ข้างทะเลสาบแล้วโดนลมพัดใส่มันหนาวจริงๆนั่นแหละ”
ชายหนุ่มชุดทหารเห็นด้วยกับข้อเสนอของแม็กกี้โดยไม่คัดค้าน
“ปัญหาเรื่องน้ำและไฟก็ถือว่าถูกแก้ไขแล้ว ตอนนี้หลักๆเลยก็คือเราขาดแคลนอาหาร แม้ว่าหกวันจะไม่ทำให้หิวตายแต่ก็น่าจะทำให้แรงกายลดลงไปไม่น้อยจนยากจะเอาตัวรอดจากการโจมตีจากพวกมอนสเตอร์”
ชายหนุ่มกางเกงในลูบคางแล้วเอ่ยขึ้น
“ฉันขอแนะนำให้ทุกๆคนเวลาที่ออกไปเก็บฟืนก็ให้เก็บรวบรวมพวกผลไม้ป่าติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ฉันจะเป็นคนช่วยลองดูเองว่าพวกมันกินได้หรือเปล่า”
“เข้าใจแล้ว”
ชายหนุ่มชุดทหารพยักหน้ารับทันทีเมื่อได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่มกางเกงใน ในบทสนทนาเมื่อครู่เขาก็ได้รับรู้แล้วว่าพรสวรรค์พิเศษของชายหนุ่มกางเกงในก็คือตัวเขาไม่กลัวสิ่งที่เป็นพิษจึงเหมาะที่สุดแล้วที่จะรับหน้าที่เป็นหนูทดลองผลไม้เป็นคนแรก
หนึ่งชั่วโมงให้หลังคนทั้งสี่ก็เข้ามาก่อกองไฟกันในป่าที่อยู่ข้างๆทะเลสาบและจับกลุ่มกันพูดกันขณะกินผลไม้ป่าที่เก็บมาได้
จำนวนของผลไม้ป่าที่พวกเขาพบมีจำกัดและแต่ละคนก็ได้มาเพียงแค่คนละสิบลูกเท่านั้น
“ไม่หิวหรือไงนายน่ะ? ทำไมยังไม่กินอีก?”
หญิงสาวผมหางม้าเห็นว่าโจวเฉินจัดการเก็บผลไม้ที่ได้มาลงไปในช่องเก็บของและไม่กินเลยซักลูกเจ้าหล่อนจึงอดถามออกมาไม่ได้
“หิวนิดหน่อยแต่อยากจะเก็บไว้กินตอนที่หิวมากๆมากกว่า”
โจวเฉินตอบกลับเสียงเรียบ
“ฮี่ๆนายกลัวว่ามันมีพิษสิท่า? ฉันกินไปหลายลูกแล้วยังไม่เป็นอะไรเลย นายนี่ขี้ระแวงจริงๆ”
หญิงสาวรู้ดีว่าโจวเฉินกังวลเรื่องอะไรและรู้สึกพูดไม่ออกอยู่บ้างเหมือนกัน
“ฉันว่าฉันรู้สึกร้อนขึ้นมานิดหน่อยแล้วล่ะ...”
ยังไงก็ตามโจวเฉินกลับเมินอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิงและเลือกจะถอดหน้ากากและปลดกระดุมชุดพรางกายในทะเลทรายแทน จากนั้นเขาก็พับแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นผิวส่วนใหญ่บนร่างกาย
“นายร้อน?!”
หญิงสาวยิ่งรู้สึกพูดไม่ออกขึ้นไปอีกเมื่อเห็นการกระทำของโจวเฉิน
“นายนี่แปลกคนจริงๆแต่รูปร่างกับหน้าตาของนายก็ถือว่าโอเค คิดว่าที่สวมหน้ากาเพราะไม่กล้าสู้หน้าคนอื่นซะอีก”
โจวเฉินเมินคำกล่าวไร้สาระของอีกฝ่ายและยิ้มให้เพียงเท่านั้น
สิ่งที่หญิงสาวไม่ทราบก็คือโจวเฉินทำเช่นนี้ก็เพราะอยากจะผิวหนังส่วนใหญ่บนร่างกายของเขาต้องแสงไฟเพื่อที่เขาจะได้ยืนยันว่าแสงจากแสงไฟสามารถกระตุ้นการทำงานของสกิลแปลงพลังงานแสงได้รึเปล่า
หลังจากนั้นซักพักเขาก็ได้คำตอบ
‘ดูเหมือนจะได้ รู้สึกได้เลยว่าความหิวไม่เพิ่มขึ้นแล้ว’
เขารู้สึกว่าพลังงานฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อยจึงยืนยันได้แล้วว่าสกิลติดตัวใหม่อย่างแปลงพลังงานแสงนั้นกำลังส่งผลอยู่
‘การผิงไฟเทียบได้กับการกินอาหาร แม้ว่าจะกินได้ทีละนิดแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรกินเลยล่ะนะ’
โจวเฉินพึงพอใจยิ่งนัก แรงกดดันเรื่องการหาอาหารของเขาลดลงไปมากเลยทีเดียว
ในเวลานี้ชายหนุ่มอีกสองคนที่กำลังอังไฟอยู่เช่นกันก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับชายชุดโค้ทขาวกันขึ้นมา
“เมื่อตอนที่ฉันออกไปเก็บฟืนฉันกลับหาศพของเจ้าชายชุดขาวไม่เจอ มีเพียงรอยเลือดเล็กน้อยบนพื้นเท่านั้น”
ชายหนุ่มชุดทหารกล่าว
“ฉันเองก็ลองหาร่างเขาดูแล้วเพราะอยากจะได้ชุดของเขาแต่ดูเหมือนร่างทั้งร่างจะถูกมอนสเตอร์เขมือบไปแล้ว มอนสเตอร์พวกนี้แมร่งแย่จริงๆ”
ชายหนุ่มกางเกงในกล่าวออกมาด้วยความเสียใจ
“ฉันว่านะ ในเมื่อตอนนี้มอนสเตอร์มันยังไม่โจมตีเราทำไมเราไม่ใช้โอกาสนี้นอนเพื่อฟื้นฟูพลังซักหน่อยล่ะ? ไม่อย่างนั้นแล้วยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆการจะได้นอนในตอนกลางคืนก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วนะ”
ในเวลานี้เองหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มก็พลันเอ่ยสิ่งที่คิดออกมา
“เมื่อวานฉันไม่ได้นอนเลยทั้งคืนตอนนี้ก็แทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วเนี่ย”
หญิงสาวยกมือขึ้นมาคลึงดวงตาเพื่อขับไล่ความอ่อนล้า
“เอาล่ะถ้าพวกนายคนไหนอยากจะนอนก็ไปนอนได้เลย ร่างกายของฉันค่อนข้างดีและรู้สึกว่ายังน่าจะทนได้อีกหน่อย”
ชายหนุ่มกางเกงในเห็นด้วยกับข้อเสนอของหญิงสาวและตัดสินใจว่าจะอยู่ยามให้
“หลับในสภาพแวดล้อมแบบนี้คงไม่ดี อย่างมากฉันก็คงทำได้แค่งีบเท่านั้น”
ชายชุดทหารเองก็ดูเหมือนจะง่วงเล็กน้อย ด้านหลังของเขามีต้นไม้อยู่พอดีเขาจึงเอนหลังพิงต้นไม้เพื่อพักผ่อน
ส่วนหญิงสาวผมหางม้าสร้างฝูกหยาบๆขึ้นมาจากพวกเศษใบไม้บนไม้และเอนกายลงไป เจ้าหล่อนดูแล้วน่าจะเหนื่อยมากจริงๆ
ด้านหลังของโจวเฉินเองก็มีต้นไม้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเอนหลังพิงมันและปิดตาลง
คนทั้งสามเลือกที่จะพักผ่อนโดยเหลือชายหนุ่มกางเกงในทำหน้าที่เฝ้ายามและคอยเติมฟืน ป่าไร้เสียงตอนนี้กลับยิ่งสงัดยิ่งกว่าที่ผ่านๆมา มีเพียงเสียงจากกองไฟเท่านั้นที่ดังให้ได้ยิน
ชายหนุ่มกางเกงในนั่งขัดสมาธิลงด้านข้างต้นไม้ เขาหยิบกิ่งไม้กับใบไม้ขึ้นมาและยัดมันลงไปในกองไฟอย่างต่อเนื่องด้วยท่าทีสุขุม
ยังไงก็ตามไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่าแต่เขากลับมองสำรวจคนอื่นๆที่เหลืออีกสามคน เขาปรายตามองไปที่หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนพื้นจากนั้นจึงหันไปมองชายหนุ่มชุดทหารที่กล่าวว่าแค่จะงีบเท่านั้นแต่กลับกรนออกมาแล้ว ยังไงก็ตามคนที่เขาสังเกตุมากที่สุดกลับเป็นโจวเฉินที่อยู่อีกฝั่งของกองไฟ เขามองไปที่โจวเฉินที่เอนกายพิงกับลำต้นของต้นไม้หลับตาและหายใจอย่างมั่นคง ดูเหมือนเขาจะไม่มั่นใจนักว่าโจวเฉินหลับไปแล้วจริงๆรึเปล่า
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลังจากนั้นซักพักในมือของชายหนุ่มกางเกงในก็พลันปรากฏขวานขึ้นมา สีหน้าสงบแต่เดิมกลับกลายเป็นดุดันขึ้นมาเล็กน้อย
“ในที่สุดก็คิดจะลงมือแล้วสิ?”
ในเวลานั้นเองน้ำเสียงราบเรียบของโจวเฉินก็พลันดังขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้างจับจ้องมองดูชายหนุ่มกางเกงในที่ถือขวานยืนอยู่อีกฝั่งของกองไฟ
“เฮอะๆแกไม่หลับจริงๆสินะ”
ชายหนุ่มกางเกงในที่สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยจิตสังหารดูเหมือนจะไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่โจวเฉินยังตื่นอยู่ เขามองไปที่โจวเฉินและเอ่ยต่อ “อย่ามายุ่งกับเรื่องของคนอื่นจะดีกว่า พอฉันฆ่าสองคนนี้เสร็จแล้วฉันจะแบ่งของให้แกครึ่งนึง”
เขาเผยแผนการสังหารของตนเองให้โจวเฉินทราบแบบโต้งๆ น้ำเสียงของเขาไม่ได้เบาเลยประหนึ่งว่าตัวเขาไม่ได้กังวลเลยว่าจะปลุกคนทั้งคู่ให้ตื่นขึ้นมา
“ฉันขอแนะนำว่าอย่าดีกว่า พวกเราล้วนเป็นคนของจักรวรรดิมังกรกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าการร่วมมือกันเพื่อรอดชีวิตจากดันเจี้ยนนี้ให้ได้เป็นเรื่องที่ดีกว่ารึไง? ตราบใดที่นายยินดีที่จะล้มเลิกแผนการนี้ฉันก็จะทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้”
โจวเฉินจับจ้องมองชายหนุ่มกางเกงในและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ