บทที่ 30: ลมหายใจที่กลายพันธุ์ นี่ก็นับเป็นวรยุทธ์หรอ?
บทที่ 30: ลมหายใจที่กลายพันธุ์ นี่ก็นับเป็นวรยุทธ์หรอ?
หลังจากที่ฮุ่ยฉีปลอมตัวเป็นนายอำเภอ มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นนายอำเภอที่รังแกผู้อ่อนแอและหวาดกลัวผู้แข็งแกร่ง ทัศนคติของเขาดูสมกับเป็นตัวร้ายอย่างถึงที่สุด
ข้างหลังเขามีเจ้าหน้าที่ของทางการมากกว่าสิบนายกำลังยืนหนุนอยู่ นอกจากนี้ พวกเขาทุกคนก็ยังจ้องไปที่ซุยเฮ็งอย่างโกรธเคือง
ถึงกระนั้น มันก็ไม่มีใครกล้าที่จะก้าวออกไปข้างหน้า
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นฉากที่ซุยเฮ็งถล่มทางเดินของห้องขัง แต่เพื่อที่จะสามารถถล่มกำแพงที่ทำมาจากหินปูนได้นั้น เขาก็จำเป็นจะต้องยอดฝีมือระดับแนวหน้าของโลกยุทธ์อย่างแน่นอน
ซุยเฮ็งมองไปที่พระฮุ่ยฉีและหัวเราะเบาๆ “เป็นพระแท้ๆ จะมาระเบิดอารมณ์อะไรกัน? ไม่กลัวพระพุทธเจ้าจะตำหนิรึไง?”
“ไร้สาระ ข้าเป็นนายอำเภอของที่นี่ ไม่ใช่พระ!” ฮุ่ยฉีโกรธมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงก้าวไปข้างหน้าและหมายจะโจมตีซุยเฮ็งในทันที
ในขณะเดียวกัน มันก็เห็นได้ชัดว่าฮุ่ยฉีไม่ได้อ่อนแอ เพราะแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากซุยเฮ็งไปมากถึง 20-30 ฟุต แต่เขาก็ยังสามารถมาถึงเบื้องหน้าของซุยเฮ็งได้ในก้าวเดียว
มือขวาของเขากางกรงเล็บคมออกมาและคว้าไปที่ไหล่ของซุยเฮ็ง
ความแข็งแกร่งของกรงเล็บนี้ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่มันเคลื่อนผ่านอากาศ มันก็ทิ้งเส้นสีขาวไว้ในอากาศพร้อมทั้งฉีกสายลมที่อยู่รอบข้างออก
แม้ว่ามันจะเป็นวัตถุโลหะ แต่มันก็ยังสามารถจะถูกกรงเล็บนี้บดขยี้ได้!
เจ้าหน้าที่ของทางการหลายสิบคนต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหัวหน้าของพวกเขาจะมีวรยุทธ์ที่ทรงพลังขนาดนี้!
ทักษะวรยุทธ์ที่ฮุ่ยฉีแสดงออกมานั้นอาจจะอยู่เหนือกว่าของจอมยุทธ์ชั้นยอดเสียด้วยซ้ำ! แบบนั้นแล้วทำไมเขาถึงลดตัวลงมาทำงานเล็กๆ แบบนี้กัน?
ชายชราในห้องขังข้างๆ เองก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน สายตาของเขาเฉียบคมมาก เขาสามารถบอกได้ในทันทีว่านายอำเภอคนนี้สามารถควบรวมปราณที่แท้จริงของเขาได้แล้ว และถ้าเขาอยู่ในโลกยุทธ์ เขาก็จะได้รับความเคารพอย่างมากจากฝูงชน
“อย่างไรก็ตาม มันก็น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าเขากำลังแยกเขี้ยวใส่ใคร” ชายชราเย้ยหยันในใจ ในความเห็นของเขา สิ่งที่นายอำเภอกำลังทำอยู่นั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจากการพยายามฆ่าตัวตาย
มันไม่ได้ยากที่จะทำลายกำแพงที่สร้างมาจากหินปูน
ตราบใดที่ใครสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตชำระไขกระดูกได้ พลังปราณก็จะก่อตัวขึ้นภายในร่างของพวกเขาเองโดยธรรมชาติ และพลังปราณนี้เอง พวกเขาจึงสามารถใช้มันเพื่อทำลายกำแพงหินปูนขนาดใหญ่ได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ดี สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ซุยเฮ็งสามารถทำลายโถงทางเดินของคุกใต้ดินลงได้จากระยะไกลถึง 50 ฟุต!
สิ่งนี้มันอยู่เหนือเกินกว่าคำว่ายอดฝีมือไปไกลแล้ว!
บางทีมันอาจจะมีเพียงยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ที่ก้าวผ่านขอบเขตประตูอันลึกล้ำไปแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถทำสิ่งนี้ได้!
ถ้าฮุ่ยฉีรู้เรื่องนี้เข้า เขาก็คงจะไม่ทำอะไรผลีผลามอย่างนี้แน่นอน
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รู้เห็นฉากดังกล่าวเลย
ในชั่วพริบตา การโจมตีของฮุ่ยฉีก็ได้พุ่งเข้าหาไหล่ของซุยเฮ็ง
แววตาของเขาไร้ความเมตตาปรานี เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการจะฉีกกระชากแขนของซุยเฮ็งออกมา
วรยุทธ์ที่เขาใช้นั้นเป็นหนึ่งใน 81 กระบวนท่าสูงสุดของอารามดอกปทุม
กรงเล็บมังกรขยุ้มเหยื่อ!
มันเป็นกระบวนท่าที่ดีที่สุดในการจับเหยื่อหรือฉีกอะไรสักอย่างออกจากกัน
นอกจากนี้ มันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะสามารถป้องกันท่านี้ได้
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ฮุ่ยฉีกำลังคิดอยู่นั้นเอง จู่ๆ มือขวาของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง ราวกับว่าเขาได้ไปคว้าอะไรบางอย่างที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานเข้า พลังทั้งหมดของเขาถูกสะท้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว
กรึก!
เสียงกระดูก “แหลก” ที่คมชัดดังขึ้นโดยไม่มีการเตือนใดๆ
ในเวลาเดียวกัน นิ้วทั้งห้านิ้วของฮุ่ยฉีก็ถูกทำลายลงจนผิดรูป เนื้อของเขาบิดขาดออกจากกัน และกระดูกข้างในก็แตกละเอียดพร้อมกับแทงทะลุออกมาจากมือของเขา!
“เป็นไปได้ยังไงกัน!” ฮุ่ยฉีอุทานออกมาด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
ความตกใจนี้รุนแรงยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับ!
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซุยเฮ็งก็ได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา มันไม่ได้ต่างอะไรไปจากการหายใจเข้าออกตามปกติเลย
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา—
บู้มมมมม!
เสียงดังสนั่นปะทุขึ้นในอากาศ
พายุลมขนาดเล็กก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า มันสูงประมาณสามเมตรและสูงถึงเพดานของคุกใต้ดิน
ในเวลาเดียวกัน หญ้าแห้ง, ก้อนกรวด และสิ่งของเบ็ดเตล็ดอื่นๆ อีกมากมายบนพื้นก็เริ่มถูกลมกระโชกแรงนี้พัดลอยปลิวขึ้นไปว่อน!
ทันทีหลังจากนั้น พายุที่รุนแรงลูกนี้ก็ได้เผชิญหน้าเข้ากับฮุ่ยฉี
เมื่อฮุ่ยฉีเผชิญหน้ากับพายุลูกนี้ เขาก็ถูกส่งตัวลอยขึ้นไปและกระแทกเข้ากับเพดานหินปูนที่ด้านบนสุดของคุกใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้หยุดลงเพียงแค่นั้น ในทุกที่ที่มันผ่านไป ทุกสิ่งก็จะถูกทำลายลง ทั้งเครื่องมือทรมาน, ก้อนหินและกรงห้องขังที่อยู่โดยรอบ ทุกสิ่งล้วนไม่สามารถหลุดรอดไปจากพลังทำลายของมันได้
เมื่อเหล่าเจ้าหน้าที่ของทางการเห็นฉากนี้ พวกเขาก็พากันวิ่งหนีราวกับกำลังเห็นผี
อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไปหนีพายุทันได้อย่างไร? พวกเขาเป็นเหมือนกับเศษกระดาษในพายุอันรุนแรง พวกเขาถูกกวาดกระเด็นไปทุกทิศทุกทางโดยไม่ทราบความเป็นและความตาย
บู้มมมม!
ทันใดนั้นเอง เสียงกำแพงถล่มโครมครามก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง พายุได้กระแทกเข้าไปที่ทางเข้าของคุกใต้ดินและทำให้ทางเดินพังลงหนักยิ่งกว่าเก่า
ไม่นานหลังจากนั้น สายลมก็สลายไปในที่สุด และคุกใต้ดินทั้งหมดก็ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง
ชายชราที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากซุยเฮ็งรู้สึกมึนงงอย่างสมบูรณ์ เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาได้หยุดเต้นไปครู่หนึ่ง
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อกี้นี้มันคืออะไร?
เพี้ยะ!
เขาตบหน้าตัวเองอย่างแรงจนใบหน้าของเขาปูดบวม
นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม?!
“โอ้พระเจ้า สิ่งนี้นับเป็นวรยุทธ์ด้วยหรอ?”
นี่มันไร้สาระเกินไป!
เขาสามารถสร้างพายุที่รุนแรงขนาดนี้ได้ด้วยการหายใจเข้าออกเพียงครั้งเดียว?!
ปัง!
ในขณะนี้ ฮุ่ยฉีที่เพิ่งจะถูกพัดปลิวขึ้นไปก็ลอยตกลงมาสู่พื้นเบื้องล่างในที่สุด แขนขาของเขากระตุกเล็กน้อยในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยกศีรษะขึ้น
ในขณะนี้ การปลอมตัวของเขาก็ได้ถูกทำลาย เขากลับมามีรูปลักษณ์เป็นพระหนุ่มอีกครั้ง
“ในเมื่อเจ้ายังไม่ตาย นี่ก็แสดงว่าความแข็งแกร่งของเจ้านั้นไม่เลวเลย”ซุยเฮ็งยิ้มและเดินออกจากห้องขังไป เขาชายตามองพระหนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนพื้นแล้วพูดเบาๆ ว่า “ลุกขึ้นได้แล้ว พาข้าไปหาผู้ว่าการสักทีสิ”
“ข้า เจ้า ข้า…” ฮุ่ยฉีพูดตะกุกตะกักไม่เป็นภาษา เขาต้องการที่จะยืนขึ้น แต่เนื่องจากมือและเท้าที่ถูกทำลายจนผิดรูปของเขา เขาจึงไม่สามารถยืนหยัดขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม บางทีอาจเป็นเพราะความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ หลังจากล้มเหลวมาหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ยังสามารถกลับมาลุกขึ้นยืนได้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ก้มหัวลงและพูดว่า “ครับท่าน!”
“ท่านเองก็ควรจะมาด้วยนะ” ซุยเฮ็งมองไปที่ชายชราที่ยังคงงุนงง
“เอ่อ? ข้าหรอ? ดะ.. ได้! ได้เลย!” ชายชราพยักหน้าในทันทีและรีบตามอีกฝ่ายไป
เมื่อทั้งสามคนมาถึงหน้าทางเข้าที่ถูกทำลายลง ชายชราก็รีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อจะยกเศษหินออกและเปิดทางให้กับซุยเฮ็ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้เคลื่อนไหว หินเหล่านี้ก็ดูเหมือนกับจะมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ จู่ๆ พวกมันก็เคลื่อนตัวออกไปเองและเปิดทางให้กับซุยเฮ็งโดยอัตโนมัติ
ชายชราตกตะลึง
นี่ก็ยังนับเป็นวรยุทธ์หรอ?
ในอีกฟากหนึ่ง เมื่อฮุ่ยฉีเห็นสิ่งนี้ มือและเท้าของเขาก็สั่นเทาราวกับว่าเขาได้ตกลงไปในบ่อน้ำเย็น “สัตว์ประหลาดตัวนี้มันมาจากไหนกัน!”