ตอนที่ 430 ทางเลือกของเยี่ยนหย่งเลี่ย
ภายในวังที่กว้างขวางและว่างเปล่า ดูเงียบวังเวง
บนราชบัลลังก์ เยี่ยนหย่งเลี่ยอยู่ในอาการมึนงงในช่วงไม่กี่วันนี้ ผมหงอกของเขาเพิ่มมากขึ้น รอยเหี่ยวย่นปรากฏอยู่ทั่วใบหน้า แม้แต่ในตาเขาก็ฝ้าฟาง
ดัฟฟ์ยืนอยู่ด้านข้างมองดูฝ่าบาทหัวใจของเขาขมขื่น นอกจากนักสู้พญาหมีเขาอ่อนแอที่สุดและเขาไม่เคยได้รับโอกาสให้ปกป้องฝ่าบาท แต่นักสู้พญาหมีคนอื่นๆถูกฝ่าบาทส่งไปโจมตีกลุ่มดาวอันโดรเมดา มีแต่เขาที่อ่อนแอที่สุดเหลืออยู่เคียงข้างฝ่าบาท
เมื่อเห็นฝ่าบาทกับตัวเองแล้วดัฟฟ์มองดูเขาแก่ขึ้นในแต่ละวัน เพื่อประโยชน์ในการรักษาเสถียรภาพของพลังกลุ่มดาวหมีใหญ่ ฝ่าบาทยอมเผาผลาญพลังชีวิตของพระองค์ ใครจะคิดกันว่าชายชราที่นั่งอยู่บัลลังก์ก็คือบุรุษผู้นำกลุ่มดาวหมีใหญ่ขึ้นเทียบเท่าสิบกลุ่มดาวระนาบกลางเขาเป็นพญาหมีที่เหี้ยมหาญและมีชื่อเสียง
ดัฟฟ์นับถือฝ่าบาทและประทับอยู่ในดวงใจอย่างลึกซึ้ง
นิ้วของเยี่ยนหย่งเลี่ยวางอยู่ที่เท้าแขนขยับเล็กน้อยเหมือนกับว่าเขาถูกปลุกให้ตื่น “ดัฟฟ์ มีข่าวอะไรบ้างไหม?”
ดัฟฟ์เก็บความรู้สึกเจ็บปวดใจและตอบด้วยความเคารพ “ถังเทียนและสหายอีกสองคนเข้ามาในกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้วและวันนี้ พวกเขาจะพบกับท่านเส้าเต๋อ”
“โอว, งั้นข้าสามารถพักได้อย่างวางใจแล้ว” เยี่ยนหย่งเลี่ยมีสีหน้าดูอบอุ่น “แม้ว่าอาเต๋อและข้าจะพบกันน้อยมากและไม่ค่อยติดต่อกัน แต่เขาจะไม่นั่งมองดูเฉยๆ เป็นแน่”
ดัฟฟ์กล่าวทันที “ฝ่าบาทมีพระปรีชาญาณ มีท่านเส้าเต๋อถังเทียนและคนของเขาจะไม่สามารถเดินหน้าได้”
“ไม่ง่ายนักหรอ” ใบหน้าชราของเยี่ยนหย่งเลี่ยดูเคร่งขรึมเล็กน้อย “ถังเทียนและคนของเขาจะสามารถมองเห็นโอกาสตรงนี้ได้และพวกเขาจะเคลื่อนไหวลงมือกับเราแน่นอน เราไม่มีที่ให้ถอย นั่นคือเหตุผล?”
ดัฟฟ์ตอบอย่างมั่นใจ “มีใต้เท้าหลายท่านคอยรับมือจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!”
“ข้าหวังว่าพวกเขาจะสามารถหยุดกองทัพหมาป่าไว้ได้” เยี่ยนหย่งเลี่ยผงกศีรษะ “แต่จุดสำคัญของการรบในครั้งนี้ก็คือท่านถู ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถยึดกลุ่มดาวนายพรานนั่นคือข้อได้เปรียบก่อนของเรา มีรายงานอะไรจากผู้บัญชาการไหม?”
“ท่านจอมพลนำกองทัพไปล้อมวังเจ้ากลุ่มดาวแล้ว แต่การป้องกันของศัตรูแข็งแกร่ง กองกำลังพญาหมียังไม่สามารถรุกคืบได้ สมาพันธ์ชาวยุทธทุ่มกำลังโจมตีด้วยพลังทุกอย่างที่พวกเขามีและทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียมาก และ..” หน้าของดัฟฟ์มีความกังวลใจ
สีหน้าของเยี่ยนหย่งเลี่ยเคร่งขรึม และถาม “และอะไร?”
ดัฟฟ์ได้แต่พูดความจริง “กลุ่มดาวนายพรานยังมีนักสู้ระดับเซียนอีกคนนามหลีตั้งเขาปรากฏตัวที่วังเจ้าดวงดาวและฆ่าคนฝ่ายเราไปหลายคน”
สิ่งที่ทำให้ดัฟฟ์ประหลาดใจก็คือฝ่าบาทของเขาไม่ประหลาดใจ แต่กลับหัวเราะออกมาแทน
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดราชสีห์ก็อดเข้ามาพัวพันไม่ได้สินะ?” นัยน์ตาฝ้าฟางของเยี่ยนหย่งเลี่ยมีแววประหลาด “สามารถทำให้ราชสีห์ลงมือได้นั่นเป็นสิ่งที่คาดหวังไว้อย่างแท้จริงหลีตั้งได้รับการสนับสนุนจากเลโอนเมื่อในอดีต และปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นคนโปรดอยู่”
เยี่ยนหย่งเลี่ยพึมพำกับตนเอง “หลีตั้งเป็นคนตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม เขาใช้ชีวิตตอบแทนความไว้วางใจนับว่าเป็นคนดีแท้จริง”
ทันใดนั้นเขาถาม“เหล่านักสู้ระลอกแรกเข้ากลุ่มดาวนายพรานไปนานเท่าใดแล้ว?”
“ตามที่พวกเขาเดินทางไปพรุ่งนี้เช้านักสู้ระลอกแรกจะสามารถเข้าสู่กลุ่มดาวนายพรานได้” ดัฟฟ์ตอบทันที “ประตูดวงดาวอยู่ภายใต้การควบคุมของสมาพันธ์ชาวยุทธ แต่ที่ตั้งนั้นอยู่ห่างจากวังหลวงกลุ่มดาวนายพรานราวยี่สิบวัน”
“อาเจ๋ออยู่ที่ไหน?” เยี่ยนหย่งเลี่ยถามทันที
ดัฟฟ์รายงานทันที “องค์ชายเจ๋อตอนนี้กำลังเตรียมพร้อม”
เยี่ยนเจ๋อเป็นผู้สืบทอดลำดับที่สอง เทียบกับเยี่ยนถูแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใจสู้ หรือความแข็งแกร่ง เขายังอ่อนด้อยกมากจึงไม่เป็นที่โปรดปรานของเยี่ยนหย่งเลี่ย
เยี่ยนหย่งเลี่ยแค่นเสียง “ด้วยฝีมืออย่างเขา เขาจะทำอะไรได้”
ดัฟฟ์ไม่กล้าตอบ
เยี่ยนหย่งเลี่ยพูดทันที “พาอาเจ๋อตามนักสู้ชุดสุดท้ายไป และไปพบกับท่านถูที่กลุ่มดาวนายพราน
ดัฟฟ์ตื่นเต้นทันที “ฝ่าบาท!”
เพราะฝ่าบาทส่งใครบางคนออกไปตามลำพัง นั่นหมายความถึง...
“ลุกขึ้น” น้ำเสียงของเยี่ยนหย่งเลี่ยเย็น “พวกเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสกลับมากลุ่มดาวหมีใหญ่ ถังเทียนเป็นคนที่ลึกซึ้งและจนถึงตอนนี้ข้ายังไม่สามารถเข้าใจได้เขาปล้นสมบัติดวงดาว กระดูกหมีเดียวดายได้อย่างไร เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว นี่เป็นความผิดพลาดประการเดียวที่เขาทำข้าคาดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มดาวอันโดรเมดาจะมีสัตว์ร้ายซ่อนตัวอยู่”
“ไม่ว่าอาเต๋อสามารถจับเขาได้หรือไม่ก็ตามข้าชักจะไม่แน่ใจ” สายตาของเยี่ยนหย่งเลี่ยเหม่อมองไกลออกไปทันทีและพึมพำ “ข้าไม่รู้ว่าถังเทียนแข็งแกร่งมากเพียงไหนบริวารของเขามีพลังมากเพียงไหน ดังนั้นถ้าพวกเขาตลบหลังข้า พวกเขาจะล้มเหลวได้อย่างไร?”
“ฝ่าบาท สถานการณ์จะไม่แย่ขนาดนั้น” ดัฟฟ์ปลอบโยนอย่างเจ็บปวด
เยี่ยนหย่งเลี่ยดูเหมือนกับคิด เขาไม่ได้ยินคำพูดนั้น และยังคงพูดต่อไป “สัตว์ร้ายย่อมจะทำร้ายผู้คน ตอนนี้ข้ารู้ตัวแล้ว เราประมาทคนอื่นมากเกินไป แม้แต่ตำแหน่งที่ข้าอยู่ในก่อนนั้นก็ยังดูถูกพวกเขา เจ้าไปและพาอาเจ๋อไปพบท่านถูมีแต่ท่านถูจึงจะสามารถโจมตีวังได้และจากนั้นกลุ่มดาวนายพรานจะตกอยู่ในเงื้อมมือของเรา กลุ่มดาวนายพรานอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ด้วยความสามารถของอาเจ๋อ พวกเขาจะไม่สามารถทนอยู่ได้ แต่สมาพันธ์ชาวยุทธจะไม่ยอมนั่งดูเฉยๆ แน่ พวกเขาจะต้องช่วยต่อไป และด้วยความสามารถของท่านถู พวกเขาจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้”
ยิ่งดัฟฟ์ได้ฟัง ก็ยิ่งไม่สบายใจ เขามีน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปแฝงด้วยความเศร้า “อย่างนั้นฝ่าบาททำไมไม่มากับเรา! เราจะไปยังกลุ่มดาวนายพรานด้วยกันและกลับมา”
เยี่ยนหย่งเลี่ยนส่ายหน้า “ข้าจำเป็นต้องอยู่ในวังนี้และรักษาเสถียรภาพของพลังดวงดาว ไม่มีมันทุกคนจะพินาศ”
“ฝ่าบาท!” ดัฟฟ์ร้องไห้
เยี่ยนหย่งเลี่ยหัวเราะ “เจ้าควรจะมีความสุขกับข้า ในฐานะผู้นำสามารถตายในวังตัวเอง วิธีการอย่างนั้นเทียบกับตายบนเตียง ข้าสงสัยว่าข้าแข็งแกร่งเพียงไหนถึงได้ตายอย่างนั้น”
เยี่ยนหย่งเลี่ยยืนขึ้นช้าๆ น้ำเสียงของเขาดังสนั่นขณะที่ผมของเขาลุกชัน “ข้าจำเป็นต้องแจ้งให้นักสู้ของกลุ่มดาวหมีใหญ่ของข้าทราบ แม้ว่าข้าจะไม่สามารถขอนักสู้ระดับเซียนคนอื่นมาช่วยพวกเขาได้ แต่ข้าเยี่ยนหย่งเลี่ยกษัตริย์ของพวกเขาจะขอต่อสู้เคียงข้างพวกเขาตลอดไป! ร่วมตายกับพวกเขาตลอดไป!”
ศีรษะพญาหมีที่อยู่บนศีรษะเขาเปล่งแสงวาบรัศมีแพรวพราวทันทีเกิดลำแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้าตรงขึ้นสู่สวรรค์
วังเจ้ากลุ่มดาวนายพราน
ถูชิงชะงักชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมองกลุ่มดาวหมีใหญ่ในอากาศเหนือหัวเขาเปล่งแสงวาบเป็นวงสีขาวเหมือนหิมะ รังสีแสงฉายลงมาที่สมบัติของพวกเขา
คู่สงครามที่ร่วมรบพากันหยุดทั้งหมด
ทุกคนมองดูเหนือศีรษะของพวกเขาเหมือนกับจะเข้าใจความหมายนั่นคือการสันดาปของกลุ่มดาว หมายความว่าเจ้ากลุ่มดาวสมบัติชั้นเซียนสละจิตวิญญาณยุทธ และเริ่มเผาไหม้กลุ่มดาว
กลุ่มดาวหมีใหญ่จะเผาไหม้เป็นจุลภายในสามเดือน และภายในสามเดือนพลังของสมบัติของกลุ่มดาวหมีใหญ่จะเพิ่มขึ้นมากมาย
เจ้ากลุ่มดาวตายแล้ว
ถูชิงมองดูกลุ่มดาวหมีใหญ่ในท้องฟ้าด้วยท่าทีงุนงงน้ำตาเริ่มไหลพรากอย่างมิอาจระงับได้
ฝ่าบาท, พระองค์พยายามบอกเราว่าเราไม่มีทางถอยอีกแล้วใช่หรือไม่?
ฝ่าบาท, พระองค์พยายามจะบอกเราว่าพระองค์จะต่อสู้เคียงข้างพวกเราใช่หรือไม่?
ฝ่าบาท, พระองค์พยายามจะบอกพวกเราว่าพระองค์ต้องการชนะให้ได้แม้ต้องสละชีวิตของพระองค์ใช่หรือไม่?
ถูชิงปาดน้ำตาและชูกรงเล็บหมีปีศาจในมือ สายตาของเขามีความมุ่งมั่นขึ้น
ฝ่าบาท, ชัยชนะจะเป็นของพระองค์!
ถูชิงตวาดลั่น “ฆ่า!”
“ฆ่า!”
กองทัพพญาหมีตะโกนพร้อมเพรียงกัน
วังเจ้ากลุ่มดาวนายพรานล่มสลายในวันนั้น
ฝ่ามือของอาเฮ่อร้อนขึ้น เขาพร้อมกับกระบี่กระเรียนปลิวออกไปราวยี่สิบเมตรก่อนจะยืนได้มั่นคงอาเฮ่อลอบประหลาดใจ เส้าเต๋อยังไม่ได้ชักดาบของเขาเองแต่ก็สร้างสถานการณ์ที่ยากลำบากให้กับเขา
เส้าเต๋อก็ประหลาดใจ “ข่าวลือว่าแม้องค์ชายอาเฮ่อไม่ได้เรียนวิชาจากราชินี แต่วิชาของสำนักกระเรียนของเจ้ามีความสำเร็จอย่างลึกซึ้ง ได้เห็นประจักษ์วันนี้นับว่าสมคำร่ำลือจริงๆ”
เขาลอบประหลาดใจและไม่ได้เสแสร้ง ดาบที่เขาปล่อยออกไปก่อนหน้านั้นแฝงเจตนาฆ่าและเขาไม่มีความปราณีแต่อย่างใด เขาคาดไม่ถึงว่าอาเฮ่อจะเข้ามาลงมือจริงๆซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ เมื่อบรรลุถึงระดับอย่างเขาจะมีดาบหรือไม่ก็ไม่มีความแตกต่างกัน
สำหรับอาเฮ่อสามารถรับพลังโจมตีได้ก็หมายความว่าเขาไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย
“ท่านเส้ายกยอข้าเกินไป” อาเฮ่อไม่ถ่อมตัวหรือยกตนข่ม
เส้าเต๋อกวาดตามองดูคนทั้งสามและพบว่าเริ่มชอบคนพวกนี้อยู่ในใจ เขากล่าว “ถ้าพวกเจ้าทั้งสามคนยินดีมาร่วมเราผู้เฒ่านั่งสนทนากันที่นี่สักหนึ่งเดือน เราผู้เฒ่าเต็มใจจะให้คำสอนแนะนำ แม้ว่าจะเป็นเรื่องตื้นๆแต่ข้าว่าจะเป็นประโยชน์ต่อน้องชายทั้งสาม”
อาเฮ่อส่ายศีรษะ “ขอบคุณท่านเส้า ข้าวาสนาน้อยไม่สามารถรับน้ำใจเช่นนี้ได้”
หน้าเส้าเต๋อเขียวคล้ำ “เราผู้เฒ่าแค่หาเรื่องสนุกกับพวกเจ้าทุกคน ไม่ต้องการจะให้พวกเจ้าตายกันหมด”
จากนั้นมีลำแสงฉายขึ้นไปในท้องฟ้าทันที หน้าของเส้าเต๋อตกตะลึงทันที ขณะที่เขาหันมามอง
“เราทุกคนล้วนแก่มากแล้วและยังคงมีความทะเยอทะยานมากยอมกระทั่งทอดทิ้งชีวิต” เส้าเต๋อถอนหายใจ “ข้าไม่เคยคิดว่าข้าออกมาแล้วก็ยังไม่สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะเอาสมองของเด็กพวกนี้เซ่นวิญญาณเจ้า”
สายตาของเส้าเต๋อเปลี่ยนเฉยชา “พวกเจ้าทั้งสามคนบุกเข้ามาพร้อมกันได้เลย”
“เดี๋ยวก่อน!” ถังเทียนกระโดดเข้ามาทันที เขาถูหมัดกับฝ่ามือ “เฮ้, พวกเจ้าสองคนผ่านไปแล้ว ข้ายังไม่ลองฝีมือกับเขาเลย”
เส้าเต๋ออารมณ์ไม่ดี เขามองดูถังเทียน สายตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตคิดจะฆ่า
ถังเทียนไม่สนใจแม้แต่น้อย นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความลุ่มหลงท้าทายขณะที่เขามองดูเส้าเต๋อ
นักสู้ระดับเซียน เขาคือนักสู้ระดับเซียนนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ท้าทายนักสู้ระดับเซียนหรือนี่? ตื่นเต้นมาก
“ข้ามาแล้ว!”
ถังเทียนตะโกน เท้าของเขาระเบิดพลังออกทันที เขาพุ่งเข้าหาเส้าเต๋อ
เส้าเต๋อหรี่ตาพลังที่ระเบิดออกมาของถังเทียนเป็นท่าเท้าพื้นฐาน แต่ความเร็วนั้นสุดยอด ไม่,ความเร็วนั่นเกินกว่าท่าเท้าพื้นฐานแน่นอน
วิ่งมาได้ครึ่งทาง ถังเทียนรวบรวมพลังได้พอและยิงหมัดออกไป
เส้าเต๋อหรี่ตาอีกครั้ง วิชาหมัดพื้นฐาน
หมัดของถังเทียนปรากฏในสายตาเขา เต็มไปด้วยช่องว่าง แต่...
ร่างของเส้าเต๋อถอย นับเป็นครั้งแรกที่เส้าเต๋อถอย
ปัง!
ระลอกอากาศระเบิดข้างหน้าของเส้าเต๋อ เส้าเต๋อรีบตัดสินใจทันที
หมัดรวดเร็วขนาดนั้น หนักหน่วงขนาดนั้นเชียว
ขณะเดียวกัน เขาหรี่ตาอีกครั้ง ร่างของเขาถอยอีกครั้ง
ปัง ปัง ปัง!
ระลอกอากาศกดดันใส่เขาเป็นชุดทั้งหมดระเบิดออกมาอย่างเข้มข้นเหมือนเป็นเสียงเดียวกัน
ถี่และไวมาก
หัวใจของเส้าเต๋อแข็งยะเยือก วิชาหมัดพื้นฐาน ภายใต้ความถี่สูงขนาดนั้นทำให้เขาต้องถอยครั้งแล้วครั้งเล่า
กระแสอากาศที่แหลมคมกวาดผ่านหน้าของเส้าเต๋อ
ทันใดนั้น สายตาของเส้าเต๋อเคร่งเครียด
เส้นผมที่หน้าผากของเขาขาดเป็นสองส่วน