ตอนที่ 426 ถังเทียนไขว่คว้าหาชัยชนะ
แอนเดรียนาคิดถึงสถานการณ์อันตรายนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดเลยที่ทำให้นางตกตะลึง นางยิ้มเต็มหน้าทันที
“ไม่มีปัญหา”
แอนเดรียนาปัดฝุ่นออกจากตัวและทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและหัวเราะคิกคัก “ดูเหมือนพลังของเสี่ยวถังจะก้าวขึ้นมากเลยนะ!”
ถังเทียนไม่กล้าขยับ “ข้าไม่รู้ว่าข้าก้าวหน้าหรือไม่”
แอนเดรียนาตะลึงจากนั้นเผยอยิ้ม“เสี่ยวถังถ่อมตัวเกินไปแล้ว เสี่ยวถังยังไม่รู้ แต่ชัยชนะของเจ้าสร้างผลกระทบไปทั่วสวรรค์วิถีแล้ว”
“พูดจริงหรือนี่?” ถังเทียนไม่อยากเชื่อนาง
แอนเดรียนาหยุดยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “เสี่ยวถังยังไม่รู้ แต่เราได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ กระดูกหมีเดียวดายคือหนึ่งในสามสมบัติชั้นทองของกลุ่มดาวหมีใหญ่ มีพลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่ถึงหนึ่งในสาม พลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้เริ่มเหือดแห้งไปแล้วเมื่อสามวันที่แล้ว เยี่ยนหย่งเลี่ยยอมทอนอายุขัยถึงสิบปีเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวหมีใหญ่นั่นก็คือศีรษะพญาหมีเพื่อระดมพลังกลุ่มดาวที่ยังเหลือเพื่อที่ว่าสมบัติดวงดาวของพวกเขาจะไม่มีทางอ่อนแอลง มีแต่แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้เมื่อสามวันที่แล้ว ถูชิงนำกองทัพพญาหมีโดยได้ความช่วยเหลือจากสมาพันธ์ชาวยุทธเปิดการโจมตีกลุ่มดาวนายพราน และกำจัดกองทัพชั้นยอดของกลุ่มดาวนายพราน ข้าได้รับข่าววันนี้ เซียนธนูหนาเย ถูกนักสู้จากสมาพันธ์ชาวยุทธสังหารและบุกตรงเข้าวังของเจ้ากลุ่มดาว ไม่ว่าพวกเขาจะชนะหรือไม่กลุ่มดาวหมีใหญ่ก็จะต้องตกต่ำ เพราะสมบัติดวงดาวกล่าวได้ว่าเจ้าเปลี่ยนสถานการณ์ในสวรรค์วิถี นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก”
ถังเทียนตกตะลึงเมื่อเขาพยายามรับฟังทุกอย่างและค่อยมีปฏิกิริยาหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเขาตะกุกตะกักถาม “นั่นหมายความว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จบแล้วหรือ?”
“ใช่แล้ว”หน้าของแอนเดรียนาจริงจังพลางพยักหน้า “เยี่ยนหย่งเลี่ยคือความหวังประการเดียวของพวกเขา ก่อนที่กลุ่มดาวหมีใหญ่จะล่มสลาย พวกเขาต้องประสบความสำเร็จในการโจมตีกลุ่มดาวนายพรานและยึดสมบัติเซียนให้ได้และผสานกับสมบัติดวงดาวทั้งสอง จากที่เห็นพวกเขาอาจสามารถทำได้ ปัจจุบันนี้พวกเขาอยู่ห่างจากวังกลุ่มดาวนายพรานเพียง 300 ลี้ ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้ทันเวลาไม่ว่าจะเป็นกองพลดาบทหารพราน หรือกลุ่มดาวราชสีห์
“นี่เร็วเกินไป...” ถังเทียนตะลึงความตายของกลุ่มดาวเกิดขึ้นเร็วเกินไป นอกจากนี้ มันไม่ใช่กลุ่มดาวเล็กๆ เหมือนกับกลุ่มดาวหมาป่า แต่เป็นกลุ่มดาวชั้นสิบตำหนักระนาบกลาง
แอนเดรียนนาเห็นถังเทียนมีท่าทางโง่งมจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ทันใดนั้นนางคิดถึงบุรุษลึกลับ เขาเป็นคนที่มั่นใจเต็มเปี่ยมตลอดกาลนิ่งตลอดกาล ราวกับว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินไปสำหรับเขา ถ้าเขาอยู่กับนางเขาคงจะมีความคิดแน่นอน
เทียบกับเขาแล้วถังเทียนยังอ่อนกว่านัก
“เราจำเป็นต้องคิดถึงการตอบโต้ด้วย” แอนเดรียนากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้ากลุ่มดาวหมีใหญ่ชนะขึ้นมาจริงๆเราก็จบ พวกเขาจะหันมาสู้กับเราแน่นอน พวกเขาจะไม่มีชนักปักหลังอย่างแน่นอน ถ้าพวกเขารวมสองกลุ่มดาวได้มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นกลุ่มดาวระดับระนาบกลางที่แข็งแกร่งมาก เราจะไม่สามารถต่อต้านพวกเขาได้”
ถังเทียนพยักหน้าและชมเชย “นั่นก็มีเหตุผล”
แอนเดรียนามองดูถังเทียนด้วยความคาดหวัง นางกำลังรอให้ถังเทียนคิดหาวิธี ในที่สุดถังเทียนก็มีพื้นฐานที่ใหญ่และทรงพลัง คนอย่างนั้นไม่น่าจะเป็นคนโง่
เขาจะสามารถเห็นอันตรายในนั้น...
ถังเทียนสังเกตว่านางกำลังมองเขาอยู่นานและรู้สึกงง “หน้าข้ามีดอกไม้งอกเงยเหรอ?ข้าคิดว่าสิ่งที่ท่านพูดมาก็มีเหตุ โปรดพูดต่อ”
แอนเดรียนาเกือบหลุดปากด่าคำหยาบใส่เขา นางพูดไปตั้งมากมาย และเขาเพียงแต่กล่าวว่า“มีเหตุผล แค่นั้นเหรอ?”
นี่ข้าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่? ข้ามาพบกับคนงี่เง่าอย่างนี้ได้ยังไง?
นางพยายามยับยั้งไม่ให้หลุดปากเผลอว่า นางจ้องมองถังเทียนและพูดคำเดียว“เจ้าไม่มีความเห็นใดๆ หรอกหรือ?”
“ข้าน่ะหรือ?” ถังเทียนทำหน้าประหลาด สีหน้าของเขาทำเหมือนกับว่าเพิ่งจะได้ยินคำถามตลก
แอนเดรียนาเหมือนถูกถังเทียนต้อนเข้ามุมในพริบตา “เจ้ากำลังพูดว่า เจ้ากำลังนั่งรอความตายหรือ? เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าจะอยู่ห่างจากเรื่องนี้หรือ?”
ถังเทียนส่ายหัวเหมือนรัวกลอง “ข้าคิดอะไรไม่ออก”
แอนเดรียนาคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะใช้การไม่ได้ถึงเพียงนี้ นางโกรธจัดและหมุนตัวเดินออกไป
ถังเทียนเทียนตะลึงเขาไม่คาดเลยว่าแอนเดรียนาจะหันหน้าเดินจากไป จนกระทั่งนางเดินไปไกลแล้วเขาค่อยรู้สึกตัวพึมพำ “ถึงคิดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ข้าก็มีคนช่วยคิดได้นี่...”
ถังเทียนพยายามดิ้นรนจนออกมาจากภายในพื้นหินได้เพียงก้าวไม่กี่ก้าวเขาก็เดินไปหาถังอี้
เมื่อกลับมาที่วังนางฟ้า แอนเดรียนารีบสงบจิตใจโดยเร็ว เมื่อคิดถึงการกระทำของนางแล้ว นางเสียใจเล็กน้อย นางยังคงขาดความอดทนไปบ้าง
“อาเฮ่อและหลิงซิ่วก็ฟื้นขึ้นมาแล้วและตามกองทัพหมาป่ากลับไปยังฐานหมาป่า”
ทาร์ตันโบกมือของเขา เขาชี้ไปที่หน่วยสังเกตการณ์ให้ถอยไปจากนั้นกล่าว “อย่าห่วงไปเลยเจ้าต้องเชื่อมั่นในพลังของเขา”
“เชื่อในพลังของเขาเหรอ?” แอนเดรียนาเพิ่งจะสงบอารมณ์ได้ก็รู้สึกหงุดหงิดใจอีกครั้ง “เขาเป็นคนงี่เง่า! ข้าถามถึงความเห็นของเขาเขากลับทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา สีหน้าของเขาดูเหมือนต้องการยั่วโมโหข้าจริงๆ”
ทาร์ตันหัวเราะลั่น “คนพวกนี้มัวแต่หมกมุ่นกับการทำตัวเป็นหมูกินเสือ! นี่แสดงให้เห็นว่าเขากำลังวางแผนลึกซึ้ง ลองคิดดูสิ จนถึงตอนนี้แล้ว เขาทำข้อผิดพลาดอะไรไหม? แม้แต่เยี่ยนถูก็ยังตายในเงื้อมมือของเขา”อย่าลืมสิว่าเขาเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหินลับมีดของสมาพันธ์ชาวยุทธ ถ้าเขาถูกมองว่าโง่ อย่างนั้นใครเล่าที่เป็นคนฉลาด?”
แอนเดรียนาปากอ้าค้างนางตระหนักว่านางไม่รู้จะหักล้างเหตุผลเขายังไง นั่นเป็นเรื่องจริง แม้แต่เยี่ยนถูก็ยังตายในเงื้อมมือของเขา เขาจะเป็นคนง่ายๆ อย่างนั้นได้ยังไง?
“อย่างนั้นเราจะทำอย่างไร?”แอนเดรียนาไม่สามารถปฏิเสธได้
“สังเกตสถานการณ์อย่างใจเย็น” ทาร์ตันกล่าวยืนยัน “พลังของเราเองอ่อนแอเกินไปและไม่สามารถสร้างผลกระทบใหญ่ได้ และทำได้แต่เพียงพึ่งพาอาศัยเขา ไม่ว่าเขาต้องการให้เราทำอะไร เราจะทำไป แม้แต่ก่อนที่จะเจรจากันพวกเขาก็ไม่เคยสร้างความลำบากให้กับเรา และยังไม่โลภอีกด้วย”
เมื่อเห็นแอนเดรียนาขยับต้องการจะเอ่ยปาก ทาร์ตันปลอบโยนนาง “สบายใจได้พวกเขาจะต้องมีความเคลื่อนไหวลงมือแน่ คนผู้ไม่เห็นสมาพันธ์ชาวยุทธอยู่ในสายตา เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะมาจุกจิกเรื่องกลุ่มดาวหมีใหญ่?”
แอนเดรียนามีความรู้แปลกในใจ นางไม่รู้ว่าบิดาของนางไปเอาความมั่นใจและเชื่อใจในถังเทียนมาจากไหน
นอกจากนี้กลุ่มดาวหมีใหญ่ เขาเรียกว่าเรื่องจุกจิกได้ยังไง.
กลับมาที่ฐานทัพหมาป่าอาเดรียนซึ่งเงียบมาตลอดเวลาพูดขึ้นบ้าง “ท่านถังเทียน, ข้ามีความคิดอยากจะเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ยากลำบากของกลุ่มดาวอันโดรเมดา”
สิ่งที่ทำให้เขาต้องผงะก็คือถังเทียนจ้องเขากลับ “เงียบเถอะ, เป็นเชลยก็ต้องเจียมสถานะเชลย”
อาเฮ่อที่อยู่ด้านข้างลังเลนิดก่อนจะพูดเตือน “จอมห้าวถัง, เชลยก็ยังมีเกียรติ ในฐานะนักสู้แท้จริง เจ้าสามารถฆ่าเขาได้ แต่เจ้าจะดูถูกเขาไม่ได้”
ถังเทียนหันมาหลิงซิ่ว “เสี่ยวซิ่วซิ่ว, ข้าเป็นนักสู้ตัวจริงหรือเปล่า?”
หลิงซิ่วถลึงตาใส่เขา “เจ้ามันเด็กบ้าระห่ำคนหนึ่ง”
ถังเทียนถามหลิงซิ่วอีก“เสี่ยวซิ่วซิ่ว ข้าดูถูกเขาหรือเปล่า?”
หลิงซิ่วยิ่งหงุดหงิดถังเทียนมากกว่าเดิม “ทำไมต้องเรื่องมากด้วยนักเล่า?ให้ข้าเอาหอกจิ้มเขาให้ตายก็สิ้นเรื่อง”
อาเฮ่อ “.....”
ข้านี่โง่แท้ๆที่เอาเรื่องนี้มาคุยจริงจังกับเจ้างี่เง่าสองคนนี่...
“ถังเทียน, เจ้าไม่เห็นหรือ? พวกเจ้าตกอยู่ในภาวะวิกฤติแล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่ระวัง เจ้าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะกอบกู้ความหวัง กลุ่มดาวหมีใหญ่จะยอมปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร? เมื่อฮุบกลุ่มดาวนายพรานแล้วเจ้าจะเป็นเป้าหมายแรกของพวกเขา”
ทั้งสามคนหยุดและหันมามองดูอาเดรียน
อาเดรียนสงบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน่าสนใจ “อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่ต้องการมีกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งกว่าไว้ภายใต้การดูแลของเจ้า?ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งจะทำให้เจ้าได้กลุ่มดาวหมีใหญ่มาดูแล ความอุดมสมบูรณ์ของกลุ่มดาวหมีใหญ่เทียบกับกลุ่มดาวอันโดรเมดาและกลุ่มดาวหมาป่ายังแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่า มันวางอยูต่อหน้าต่อตาเจ้าแล้ว...”
อาเดรียนถูกตัดบท เพราะถังเทียนจับเขายกด้วยมือข้างหนึ่ง
ถังเทียนจับเขายกด้วยมือข้างเดียวจ้องมองเขาและพูดน้ำเสียงจริงจัง “ข้าได้ยินมาว่านักล่าเจ้าเล่ห์มาก ข้าเป็นคนใจกว้างมากและไม่ใช่คนที่ฉลาดนัก”
“เจ้าให้ข้าอธิบายแผนของข้าให้จบก่อนได้ไหม...”อาเดรียนใจเย็น
“ไม่!” ถังเทียนตัดบทคำพูดของอาเดรียนตรงๆและกล่าว “แม้ว่าข้าจะไม่ฉลาดและบางครั้งข้าก็ทำผิดพลาดโง่ๆ แต่ข้าก็ยังรู้ว่าใครที่ข้าเชื่อใจได้! อาเฮ่อเป็นคนดี เสี่ยวซิ่วซิ่วบ้าระห่ำชอบความรุนแรง แต่แล้วไงเล่า? ข้าสามารถเชื่อใจพวกเขาลับหลังได้ แต่ท่านไม่มีอะไร ข้าไม่เชื่อท่าน ท่านพูดดีแต่ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับข้า”
“เจ้ากลัวว่าข้าจะลวงเจ้าไปติดกับ แต่เจ้าฟังแผนการของข้าก่อนเถอะและจากนั้นเจ้าเอาเรื่องนี้ไปไตร่ตรองช้าๆ” อาเดรียนไม่ยอมแพ้แม้ถูกตัดรอน
ถังทียนหัวเราะ จากนั้นพูดด้วยความภูมิใจ “ท่านประเมินข้าสูงไปแล้ว ข้าเป็นคนชอบใช้สมองเสียเมื่อไหร่เล่า? เรื่องการใช้สมองต้องมอบให้คนฉลาดๆ จัดการ”
“นั่นหมายความว่ายังไงคนที่มีพลังและอำนาจยิ่งใหญ่อย่างเจ้ายังจำเป็นต้องฟังคนอื่นด้วยหรือ?” อาเดรียนขมวดคิ้ว
หน้าของอาเฮ่อเขียวคล้ำ มือของเขาจับอยู่ที่ด้ามกระบี่ หน้าของหลิงซิ่วฉาบไปด้วยรังสีอำมหิตจ้องมองอาเดรียน
ถังเทียนมองดูอาเดรียนด้วยท่าทางแปลก “ความคิดของท่านแปลกจริงๆ! คนแบบไหนกันถึงจะยืนยงไร้เทียมทานได้?ข้าจะไม่ฟังคนอื่นได้ยังไง? ท่านเป็นคนฉลาดที่สุดในโลกหรือ?”
อาเดรียนไม่สนใจรังสีฆ่าฟันของอาเฮ่อและหลิงซิ่ว “นั่นก็ถูก แต่เพราะตัวเลือกในจุดเชื่อมโยงที่วิกฤติอย่างนั้น ถ้าเจ้าประมาททุกอย่างที่เจ้ามีจะพังทลายหายไป และเจ้าจะยังยินดีฝากไว้ในมือของคนอื่นอีกหรือ?”
ถังเทียนแสดงสีหน้ารำคาญ “เพราะคนอย่างท่าน ท่านคิดมากเกินไปและนั่นคือเรื่องที่น่ารำคาญ เอาง่ายๆ ข้าเชื่อถือพวกเขาข้าเชื่อว่าพวกเขาฉลาดกว่าข้า และสามารถทำได้ดีกว่าข้า ข้าเองมีทักษะในเรื่องการต่อสู้ ดังนั้นข้าจึงฝึกฝนหนักในเรื่องการต่อสู้และปกป้องทุกคน ข้าเข้าใจว่าท่านหมายความว่ายังไง แต่ข้าไม่ใช่คนแข็งแกร่งที่สุดและพวกเขาก็ไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุด ดังนั้นทำไมเราถึงต้องมายึดติดกับชัยชนะด้วย? แพ้ก็ช่าง ชนะก็ดี ตราบใดที่พวกเราทุกคนยังอยู่ด้วยกันยังมีอะไรต้องบ่น? โอวใช่,เราก็ไล่ล่าหาชัยชนะของตัวเราเองเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ชัยชนะแบบของท่าน ท่านคงไม่เข้าใจหรอก”
อาเดรียนมองดูถังเทียนเหมือนกับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักเขา
ถังเทียนหันมาตะโกน “ใครมีผ้าอุดปาก? ช่วยปิดปากเจ้าผู้นี้ที! น่ารำคาญ”
อาเฮ่อตอบอย่างใจเย็น “ให้ข้าเอง”
ถังเทียนและหลิงซิ่วมีสีหน้าขยาดเสี่ยวเฮ่อโกรธแล้ว
เจ้าผู้นี้...โชคร้ายเสียแล้ว