ตอนที่ 424 ความใฝ่ฝันของเยี่ยนหย่งเลี่ย
พลังดวงดาวไร้ขอบเขตเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่มีคำเตือน
พลังปราณที่รุนแรงและป่าเถื่อนครอบคลุมไปทั่วทั้งนครเทพสตรี จู่ๆ ก็ปรากฏกลุ่มดาวหมีใหญ่ในท้องฟ้ามีลำแสงสีทองหนาเข้มฉายจากท้องฟ้าลงมาข้างล่างครอบคลุมถังเทียนและคนอื่นอีกสองสามคน
ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าร่างของเขาถูกโยนเข้าไปในเตารังสีทองเข้มซึมซาบเข้าไปในผิวของเขา
ถังเทียนจ้องมองฝ่ามือของเขาอย่างงงงวย
มันคือ....พลังดวงดาว!
พลังดวงดาวที่บริสุทธิ์มาก
กระดูกในมือของเขาค่อยๆผสานเข้ากับแสงสีทองเปลี่ยนสภาพกลายเป็นของเหลวสีทอง ด้วยความเร็วที่เห็นได้ชัดมันซึมเข้าไปในฝ่ามือของเขาอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งเป็นอย่างมากมันคือพลังดวงดาวที่บริสุทธิ์มาก
ปังปัง ปัง!
ลำแสงยังคงฉายลงมาทำให้รัศมีโดยรอบถังเทียนมีม่านพลังสีทองระยิบระยับครอบคลุมคนสองสามคนภายในนั้น
กระบี่ในมือของอาเฮ่อสั่นและสะเทือนและดูดซับพลังดวงดาวสีทอง
หอกเงินในมือของหลิงซิ่วรวมทั้งกระพรวนลมเขาแกะซึ่งเป็นเหมือนกับกระแสวังวนสองกระแสดูดพลังดวงดาวไว้อย่างสุดกำลังของมัน
หน้าของเจี่ยนฟงหยวนมีท่าทางเปี่ยมสุขพลังดวงดาวมากมายอย่างนั้น สำหรับเขาแล้วคือยาเพิ่มพลังอย่างดี หรงโหรวผู้อยู่ด้านข้าง มีสีหน้าซับซ้อนเขาฝืนหัวเราะอยู่ในใจ เขาฝึกฝนกับมรดกตกทอดในกลุ่มดาวหมีใหญ่ ดังนั้นพลังดวงดาวที่บริสุทธิ์มากถาโถมเข้ามาในตัวเขาย่อมเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่หลังจากวันนั้นเขาและเจี่ยนฟงหยวนคงมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นศัตรูของกลุ่มดาวหมีใหญ่ พระราชาคงไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปแน่
ตำนานเป็นความจริง
กระดูกทองคือหนึ่งในสามสมบัติศักดิ์ชั้นทองของกลุ่มดาวหมีใหญ่นามว่ากระดูกหมีเดียวดาย! กลุ่มดาวหมีใหญ่มีสมบัติชั้นทองอยู่สามอย่างคือศีรษะพญาหมี, กระดูกหมีเดียวดายและกรงเล็บลับหมีปีศาจเป็นสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดและลึกลับที่สุด
เกี่ยวกับกระดูกหมีเดียวดายมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า มันเกี่ยวข้องกับชะตากรรมกลุ่มดาวหมีใหญ่ ตำนานไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ ไว้และไม่มีใครทราบเรื่องนั้นชัด และกระดูกหมีเดียวดายอ่อนแอที่สุดในบรรดาสมบัติทั้งสามในการช่วยรบ ศีรษะพญาหมีคือสมบัติชั้นเซียนของกลุ่มดาวหมีใหญ่ ครอบครองโดยพญาหมีเยี่ยนหย่งเลี่ย ขณะที่กรงเล็บหมีปีศาจอยู่กับผู้บัญชาการกองกำลังพญาหมี ถูชิง
เยี่ยนหย่งเลี่ยมอบกระดูกหมีเดียวดายให้กับเยี่ยนถู แต่เขาไม่คาดเลยว่า...
ในที่สุดหรงโหรวเข้าใจเหตุผลที่กระดูกหมีเดียวดายเชื่อมโยงกับชะตาของกลุ่มดาวหมีใหญ่ เหตุผลง่ายมาก พลังดวงดาวมันบรรจุพลังดวงดาวขอกลุ่มดาวหมีใหญ่ไว้มากมาย
ปราณแท้ที่บริสุทธิ์ทะลักเข้ามาในร่างของเขาและวิ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องผิวของเขาเริ่มเปลี่ยนมีแสงสีทองเรืองรอง บาดแผลในร่างกายเขาสมานตัวอย่างรวดเร็วและการบ่มเพาะฝีมือที่หยุดชะงักมาหลายปีก็เริ่มมีพลัง
เจี่ยนฟงหยวนกำลังซึมซับพลังดวงดาวอย่างสุดกำลัง
แต่ผลที่ได้รับสำหรับทั้งสองคนนั้นเมื่อเทียบกับอาเฮ่อและหลิงซิ่วแล้วยังห่างไกลมาก
กระบี่ของอาเฮ่อคือกระบี่กระเรียนสมบัติดวงดาวระดับเซียน แต่มันถูกผนึกไว้หลายปีมาก และกลุ่มดาวกระเรียนก็ตกต่ำมายาวนานพลังดวงดาวของมันเหือดแห้งหลังจากไม่สามารถรับพลังใดๆ มาอย่างยาวนานมันยังห่างระดับสูงสุดของมันอีกมาก ในตอนนี้มันมีโอกาสที่ดีที่สุดในการฟื้นฟู พลังดวงดาวของกลุ่มดาวหมีใหญ่แข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มดาวกระเรียนถึงสองระดับ จะมีวิธีอื่นใดอีกที่ทำให้ได้รับพลังดวงดาวที่สมบูรณ์ขนาดนั้น
และสำหรับกระพรวนลมเขาแกะของหลิงซิ่วครั้งหนึ่งมันคือเศษเดนที่เหลือรอดของกองพาหนะน้ำแข็งเงินซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่มรดกของกลุ่มดาวแกะกลับถูกแทนที่และมันไม่ได้หล่อเลี้ยงด้วยพลังดวงดาวอีกต่อไป จึงได้รับโอกาสที่หายากและมันเหมือนกับแผ่นดินที่แห้งแล้งดูดซับพลังงานอย่างจริงจัง
แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือถังเทียน ถังเทียนเป็นเหมือนหลุมที่ลึกไร้ก้นบึ้ง บนศีรษะของเขาเหมือนกับมีสายฝนทองมองคล้ายกับน้ำตกทองทะลักเข้าไปในตัวเขา
ถังเทียนคราง
ปัง! เพลิงสีทองเริ่มถูกปลดปล่อยจากร่างของเขา ชุดของเขาทั้งหมดถูกเผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน
ถังเทียนรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นชิ้นเหล็กที่ถูกโยนเข้าไปในเตาหลอม เลือดเนื้อถูกเผาลนอย่างต่อเนื่อง หลังจากดูดซับพลังสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้า ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมา ก่อนหน้านั้นเขาใช้ชี่กวงและตวนมู่ช่วยฝึกซ้อม เขาสามารถซึมซับและย่อยพลังสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าที่บริสุทธิ์ถึง 92%ได้ สมรรถภาพของร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นสูงทุกด้านไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงหรือความเร็ว ความสามารถทั้งหมดนั้นถึงระดับที่เกินจินตนาการ เขาคิดว่าร่างกายเนื้อของเขาจะมีระดับสุดยอดเพียงพอแล้ว
แต่เมื่อเขาคิดว่าเขาได้ร่างกายที่สมบูรณ์สุดยอดที่สุด แต่ภายในเพลิงสีทอง มันกลับอ่อนแอมากจริงๆ
เขารู้สึกเหมือนกับเขากำลังเกิดใหม่ผ่านความเจ็บปวด
คนของอูเซี่ยหยุดอยู่กับที่ทั้งหมด ทุกคนจ้องมองลำแสงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ ลำแสงนั้นชัดเจนเกินไปและสามารถมองเห็นได้ทั่วนครเทพสตรี
“สมบัติดวงดาวข้า! สมบัติดวงดาวของข้ากำลังอ่อนแอลง!”
ทันใดนั้นหนึ่งในบริวารตะโกนด้วยความกลัวทำให้คนที่เหลือสะดุ้ง จากนั้นทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไป
สมบัติดวงดาวพวกเขาอ่อนแอลง ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องพลังอาจไม่เร็ว แต่ก็เห็นได้ชัดและพวกเขาก็เข้าใจเรื่องนี้ชัดเจน
ในสถานการณ์เช่นนั้นมีเหตุผลเพียงสองประการหนึ่งสมบัติชั้นเซียนพลังตก อีกประการหนึ่งก็คือพลังของดวงดาวกำลังจะหมดและทำร้ายกลุ่มดาวไปด้วย
พลังดวงดาวของกลุ่มดาวถือกำเนิดโดยกลุ่มดาวเองและมีความต่อเนื่องสม่ำเสมอ ถ้ามันเกิดขาดแคลนไปมาก ก็จะส่งผลต่อการโคจรของกลุ่มดาวและพลังดวงดาวที่ถูกผลิตออกมาก็จะอ่อนตัวลงไปมาก
สำหรับกลุ่มดาวหนึ่งผลเช่นนั้นนับว่าอันตราย ไม่ว่าจะเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอเพียงไหนการหดตัวของพลังดวงดาวจะเป็นเหตุให้สมบัติดวงดาวทั้งหมดเข้าสู่ภาวะถดถอย พลังของสมบัติอาจจะอ่อนแอลงและนักสู้ของกลุ่มดาวอาจได้รับผลกระทบกันหมด พลังงานที่หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขาอาจจะตกลงอย่างรวดเร็วและความแข็งแกร่งของดวงดาวจะลดลง
มันเป็นวงจรที่น่าหวาดหวั่นและเลวร้ายมาก
******
กลุ่มดาวหมีใหญ่ตกอยู่ในความโกลาหลแล้ว
เมื่อพลังดวงดาวเริ่มมีความผันผวน เขาสามารถรู้สึกได้ ทันใดนั้นเขาลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าของเขาปรากฏแววเหลือเชื่อในช่วงเวลาต่อมาสีหน้าของเขาซีดเผือดและมองดูเหมือนแก่ลงในทันที
เขากำหมัดแน่นและสั่นไปทั้งร่าง
“ถูเอ๋อ, ไม่ว่ามันเป็นใคร ข้าจะล้างแค้นให้เจ้า!”
คำพูดที่เค้นรอดไรฟันเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เสียงฝีเท้าวุ่นวายสับสนได้ยินอยู่ที่ด้านนอกวัง เยี่ยนหย่งเลี่ยค่อยรู้สึกตัวกลับคืนสู่ความสงบราบเรียบไม่หวั่นไหว เขาหมุนตัวก้าวเดินไปนั่งบนราชบัลลังก์
กลุ่มผู้คนรี่เข้ามาในวังเหมือนกับสายน้ำ ทุกคนมีสีหน้าแตกตื่น
“ฝ่าบาท!แย่แล้วพระเจ้าข้า!”
“ฝ่าบาท....”
หมู่ผู้คนมองดูเยี่ยนหย่งเลี่ยเหมือนกับว่าเขาคือฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยให้รอดชีวิต ทุกคนตะโกนขอความช่วยเหลือ
“พวกเจ้าทุกคน, เงียบ!”
เสียงคำรามของเยี่ยนหย่งเลี่ยเหมือนกับพญาหมีพิโรธกึกก้องไปทั้งป่าเสียงสะท้อนก้องไปทั่วราชวัง สรรพเสียงสำเนียงเงียบลงทันใด ทุกคนตะลึงไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เยี่ยนหย่งเลี่ยหรี่ตาที่เต็มไปรังสีฆ่าฟันกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ต่อหน้าเขา
ในช่วงขณะนั้นร่างที่สง่างามสวมชุดเกราะเต็มเดินเข้ามาในวัง “ถวายบังคมฝ่าบาท”
ผู้บัญชาการกองทัพพญาหมีถูชิง!
ใบหน้าของถูชิงบางและยาวสายตาของเขาคมเหมือนกระบี่ สีหน้าเขาเคร่งขรึมสวมเกราะทั้งร่าง เมื่อเขาเข้ามาเกราะจะส่งเสียงโลหะกระทบกันได้ยินกันทั่วหัวใจของทุกคนสงบมากขึ้นทันที คนที่สำคัญที่สุดและทรงพลังที่สุดของกลุ่มดาวหมีใหญ่ปรากฏตัวและไม่ว่าจะรู้สึกอึดอัดเสียใจเพียงใดพวกเขายังมีทางหนึ่ง
เยี่ยนหย่งเลี่ยพูดเย็นชา “นอกจากจอมพลถูแล้ว ที่เหลือออกไปได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนมองหน้ากันเองด้วยความตกใจ แต่ทุกคนก็ยอมออกมา ในพริบตาวังใหญ่โตโอฬารก็เหลืออยู่เพียงเยี่ยนหย่งเลี่ยและถูชิงเท่านั้น
“ถูเอ๋อพบกับอุบัติเหตุ” น้ำเสียงของเยี่ยนหย่งเลี่ยนสงบ
ถูชิงคาดเดาได้ตั้งแต่ก่อนมาถึงแล้ว เขาติดตามเยี่ยนหย่งเลี่ยมาเป็นเวลาหลายปีและสามารถรู้สึกได้ถึงความเศร้าและความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใต้อารมณ์และสีหน้าสงบของเยี่ยนหย่งเลี่ย เยี่ยนถูได้รับความรักความเอ็นดูจากเยี่ยนหย่งเลี่ยอย่างลึกซึ้งและเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้ากลุ่มดาวอันดับหนึ่ง ส่วนผู้สืบทอดอันดับต่อๆมาเมื่อเทียบกับเยี่ยนถูแล้วยังห่างไกลกันมาก
ถูชิงถอนหายใจและปลอบโยนด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง“ฝ่าบาทควรจะใช้เวลากับการเสียใจบ้างนะพะย่ะค่ะ”
“เจ้าไม่ต้องห่วงข้า” เยี่ยนหย่งเลี่ยโบกมือและกล่าว “กระดูกหมีเดียวดายครั้งหนึ่งเคยมีคุณสมบัติจะได้เป็นสมบัติทองระดับเซียน แต่เพราะมันครอบครองแต่พลังดวงดาวไม่มีทักษะในการรบศีรษะพญาหมีจึงได้รับยกย่องให้เป็นสมบัติระดับเซียนแทน กลุ่มดาวหมีใหญ่แบ่งพลังดวงดาวเป็นสามส่วนและมันก็ควบคุมพลังส่วนหนึ่งข้ามอบกระดูกทองให้ถูเอ๋อเพื่อให้เขาใช้พลังดวงดาวฝึกฝน ไม่คาดเลยว่า...”
สีหน้าของถูชิงเคร่งเครียด“เรื่องนี้ประหลาดจริงๆ แม้ว่าจะมีพลังของกลุ่มดาวถึงหนึ่งในสามแต่มันทำงานเพียงเปอร์เซนต์เดียวต่อครั้ง จะสามารถดึงดูดพลังดวงดาวในขนาดใหญ่อย่างนั้น ไม่เคยเกิดมาก่อน”
เยี่ยนหย่งเลี่ยส่ายศีรษะ “จะไม่มีกระดูกหมีเดียวดายต่อไปในอนาคตแล้ว”
ถูชิงสะดุ้งพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “อย่าบอกนะว่า..”
“มันปะทุปลดปล่อยพลังครั้งสุดท้ายไปแล้ว” เยี่ยนหย่งเลี่ยนพูดเสียงเย็นชา “สามารถทำให้กระดูกหมีเดียวดายปลดปล่อยพลังหมดข้าสงสัยจริงๆ ว่ามันเป็นใครถึงสามารถทำเช่นนั้นได้”
แววตกใจปรากฏวูบในดวงตาของถูชิง แม้แต่เยี่ยนถูก็ไม่สามารถปลดปล่อยจิตวิญญาณยุทธของกระดูกหมีเดียวดายได้แน่ ถ้าศัตรูสามารถทำเช่นนั้นได้ นั่นขัดกับสามัญสำนึกอย่างสิ้นเชิง
“ปล่อยเรื่องนั้นไปก่อน” เยี่ยนหย่งเลี่ยหรี่ตา “เรามาถึงช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดแล้วบอกสมาพันธ์ชาวยุทธด้วย เรากำลังเปลี่ยนแผนและขอให้บุกกลุ่มดาวนายพรานทันที เป็นการโจมตีโดยตรงเราจะยกเลิกแผนเดิมที่จะยึดกลุ่มดาวอันโดรเมดา”
“ฝ่าบาท!” ถูชิงตกใจ
“เจ้าต้องชนะศึกนี้ได้แน่!” เยี่ยนหย่งเลี่ยพูดกับถูชิงอย่างดุดัน เหมือนกับพญาหมีพิโรธ “เราไม่มีเวลาอีกต่อไปแล้วข้ายืดเวลาให้เจ้าได้เพียงสองเดือน”
ถูชิงสั่นสะท้านถึงขั้วหัวใจและอดอุทานไม่ได้ “ฝ่าบาท, อย่าทำอย่างนั้น”
เยี่ยนหย่งเลี่ยยิ้มจนเห็นฟันมันดูอำมหิตมาก “ก่อนที่ข้าจะค่อยๆ เสื่อมโทรมลงไปข้าจะเดิมพันชีวิตกับการต่อสู้ครั้งนี้ สวรรค์เมตตาต่อข้ามากพอแล้ว อายุขัยสิบปีที่ได้รับนี้ โอกาสนี้ คุ้มค่า”
“มีเวลาสามเดือน สมบัติดวงดาวของเจ้าไม่เพียงไม่อ่อนแอ แต่จะกล้าแข็งมากขึ้นด้วย”เยี่ยนหย่งเลี่ยพูดพร้อมกับมีแววตาที่ดูเหมือนคนบ้าระห่ำ “เมื่อเจ้าเปิดการโจมตีอย่างน่าทึ่งข้าจะสั่งให้ระดมพลทันที ล้มกลุ่มดาวนายพรานให้ได้ มีแต่ทำอย่างนั้นเราถึงจะอยู่รอดได้ ศึกครั้งนี้ถ้าเราไม่ชนะ เราจะตาย ถ้าเราชนะ เราจะได้ทุกอย่าง ถ้าเราแพ้ เราจะไม่เหลืออะไรเลย?
“ฝ่าบาท...”
คอของถูชิงเหมือนกับมีอะไรจุกคอ
“ชนะ!มีแต่ต้องชนะ เจ้าต้องทำให้การเสียสละของข้าคุ้มค่า” เยี่ยนหย่งเลี่ยวางมือลงบนบ่าของถูชิงนัยน์ตาของเขาเหมือนกับคนบ้าไปแล้ว “สัญญากับข้า เจ้าต้องชนะ! สัญญากับข้า!”
ถูชิงไม่พูดอะไร เขาแค่พยักหน้าอย่างหนักแน่น และจากนั้นก็พยักหน้ารัว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นักสู้กลุ่มดาวหมีใหญ่ของเราไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว” เยี่ยนหย่งเลี่ยแหงนหน้าหัวเราะขึ้นฟ้า ทันใดนั้นเขาหยุดหัวเราะและพูดเสียงต่ำ“งั้นจงไปเตรียมตัว!”
ถูชิงหมุนตัวเดินออกไปจากวัง
เบื้องหลังเขาระลอกพลังงานสายหนึ่งทะลักลงมาจากฟ้า
ถูชิงหยุดอยู่กลับที่มองดูหมอกเหนือศีรษะเขาเขากัดริมฝีปากแน่น และเงยหน้า สายตาเขาจริงจังจากนั้นสาวเท้ายาว
ไม่ชนะไม่กลับ