ตอนที่ 422 อาเฮ่อตัดสินใจ
หลิงซิ่วรู้สึกทึ่งอัศจรรย์ใจมาก ปราณแท้ทั้งหมดในเส้นชีพจรของเขาเชื่องเชื่อเป็นอย่างมาก กล้ามเนื้อที่เป็นเงินดูเหมือนจะกลายสภาพเป็นอ่อนนุ่มจิตวิญญาณยุทธของเขาที่ดูเหมือนจะเงียบสงบอยู่เสมอพลันมีชีวิตชีวา ของเหลวสีเงินที่ควบแน่นอยู่ที่จุดคมปลายหอกที่คมที่สุด กระพรวนลมเขาแกะที่สั่นสะเทือนตามสายลมดูเหมือนเสียงจางลงไปแต่ไม่มีวันหายไป
เขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน หลิงซิ่วสามารถรู้สึกได้เหมือนกับว่าเขาสามารถควบคุมทุกส่วนของการเคลื่อนไหวหอก ทุกนิ้วของพลังในการหมุนทะลวงตัวหอก ปราณแท้ที่โคจรผ่านหอกไปจนถึงปลายหอก เขาสามารถรู้สึกทุกอย่างได้ชัดเจน ปราณแท้ของเขาโคจรผ่านปลายหอกตัวหอกมีความสั่นสะเทือนเล็กน้อย
เป็นความรู้สึกเสพติดอย่างหนึ่ง!
ก้าวย่างในการโจมตีของเขาเป็นจังหวะที่สมบูรณ์แบบทุกย่างก้าวบนพื้นล้วนเพิ่มพลังให้เขาและทำให้แสงที่ปลายหอกเจิดจ้ามากขึ้น
หอกเงินของเขาที่ถือในแนวขวางไม่มีความเคลื่อนไหวสักนิด
ก้าวย่างสุดท้ายแสงรัศมีบนปลายหอกก็สว่างเจิดจ้าทะลุทะลวงได้
เขาเหมือนดาวหางที่สว่างเจิดจ้าแสงรังสีสว่างแพรวพราวทำให้พื้นที่รอบๆ พร่าเลือนหมดสีสัน
หรงโหรวคิดไม่ถึงเลยว่าหลิงซิ่วจะบรรลุขอบเขตใหม่ในช่วงเวลาแบบนั้นได้จริงๆ
หอกทำให้เขาสีหน้าเปลี่ยนดวงตาเบิกกว้าง เหยียดฝ่ามือ นิ้วเหยียดออกอย่างสงบเหมือนทะเลสาบที่ราบเรียบพ้นจากนิ้วทั้งสิบไปก็เป็นระลอกพลัง
ระลอกพลังขยายออกไปและรวมกันเป็นหนึ่งก่อตัวเป็นเกลียวและเกิดโล่กลมโปร่งแสงปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
ดาวตกที่ร้อนแรงปะทะใส่โล่กลม
โล่โปร่งแสงแตกทำลายเหมือนกระจก
หน้าของหรงโหรวเปลี่ยนไปอีกครั้ง เผชิญหน้ากับรังสีเยือกเย็นที่เหมือนดวงดาว เข้าใช้พลังนิ้วตอบโต้ขณะที่ถอยหลัง
แสงรัศมีกระจายเป็นแสงเจิดจ้าต่อหน้าหรงโหรวทำให้เขาตาบอดแสงไปชั่วขณะ
เมื่อแสงกระจายหายไปหรงโหรวซวนเซถอยหลัง หน้าของเขามีแววเหลือเชื่อฝ่ามือซ้ายของเขาปรากฏมีรูพร้อมกับเลือดไหลออกมา
เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ความเจ็บปวดในฝ่ามือทำให้เขาตื่นตัวเต็มที่เขาถลึงตามองหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วยังคงอยู่ในท่วงท่าห้าวหาญไม่ขยับแม้สักนิ้วประหนึ่งกลายเป็นรูปสลัก
ตึงหลิงซิ่วล้มหงายหลัง
หรงโหรวไม่ขยับ เขามองดูหลิงซิ่วที่หมดสติไปอยู่ในระยะห่าง ใจของเขาสั่นสะท้านจนพูดไม่ออก สถานะของเขาในกลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่เหนือกว่าทุกคนมากและเขาเห็นอัจฉริยะมานับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยเห็นคนที่ชอบเอาชนะขนาดนั้นมาก่อนโหยหาแต่ชัยชนะนักย่อมไม่ดี
บรรลุฝีมือระดับใหม่ในช่วงสำคัญสุดท้าย...
หรงโหรวฝืนหัวเราะ เขาไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือว่าสวรรค์โปรดปรานหลิงซิ่วถึงได้ประสบความสำเร็จทั้งที่มีความเป็นไปได้น้อยขนาดนั้น
แต่ฝ่าบาทกำชับให้จับเป็นหลิงซิ่วและนั่นตรงกับความรู้สึกของเขา ถ้าเขาต้องฆ่าอัจฉริยะ ก็จะน่าเสียดาย แต่ตอนนี้ เมื่อดูหลิงซิ่วแล้วหรงโหรวอดคิดถึงตัวเองตอนเยาว์วัยไม่ได้ เขาสามารถสำเร็จตำแหน่งและอำนาจปัจจุบันได้เพราะผ่านศึกมานับไม่ถ้วน ถ้าเขาขาดความกระหายและความพยายเพื่อคว้าชัยชนะ ป่านนี้เขาจะไปอยู่ที่จุดไหน?
ความอ่อนแอในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องน่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวก็คือขาดความกระหายที่กล้าแข็ง กระหายใจชัยชนะ
โชคดีที่หลิงซิ่วผ่านการลงมือเขามานานและหมดสติไปเสียก่อน เขาเป็นเหมือนลูกธนูที่พุ่งจนสุดล้า..
หรงโหรวเตรียมเดินเข้าไปคว้าตัวหลิงซิ่วทันใดนั้นมีลำแสงพุ่งจากในอาคารสู่ท้องฟ้า ระลอกพลังงานที่น่ากลัวระเบิดออก หรงโหรวชะงักฝีมืออยู่กับที่ทันที เขารู้ว่านั่นคืออะไร
เขาหมุนตัวกวาดสายตาไปทางอาคารอย่างรวดเร็ว
เพราะฝ่าบาทของเขาใช้สิ่งนั้น ถังเทียนนั้นแข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้นเชียวหรือ?
หัวใจของหรงโหรวเย็นยะเยือก เขารู้จักพลังขององค์ชายเยี่ยนถูเป็นอย่างดี พรสวรรค์ที่เขามีนั้นแตกต่างกัน สภาพร่างกายของเขาเหนือกว่าคนธรรมดานอกจากนั้นบุคลิกภาพที่เป็นผู้ใหญ่เกินวัย เขาฝึกฝนมาอย่างหนัก และฝ่าบาทปฏิบัติต่อองค์ชายเยี่ยนถูเหมือนกับคนโปรดปรานและดูแลปรนเปรอเขาอย่างดีที่สุดน้อยคนนักที่จะรู้ว่า องค์ชายเยี่ยนถูจะฝึกซ้อมฝีมือกับเจ็ดองครักษ์พญาหมีเป็นประจำ
นิสัยของเขาเด็ดขาดและดุร้ายเขามีพลังที่แข็งแกร่งกว่าเจ็ดองครักษ์พญาหมี และเขายังปกปิดพลังไว้เป็นอย่างดี ไม่เคยแสดงฝีมือต่อหน้าใครๆ มาก่อน หรงโหรวยังมั่นใจว่าฝ่าบาทยังแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเองมาก
ทันใดนั้นลำแสงที่ฉายพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าก็หายไปและขณะเดียวกัน พลังปั่นป่วนที่น่ากลัวก็หายไปด้วย
สีหน้าของหรงโหรวแข็งค้างความคิดที่น่ากลัวปรากฏในใจเขาทันที
เป็นไปได้หรือ...
หรงโหรววิ่งตรงเข้าไปในอาคารอย่างบ้าคลั่ง
อาเฮ่อมองดูเจี่ยนฟงหยวนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาอย่างจนใจ
เจี่ยนฟงหยวนไม่มีความตั้งใจจะขยับเลยมือของเขาปิดหน้าดูน่าตลก เหมือนคนแก่ธรรมดาที่ตั้งใจหลีกเลี่ยงการต่อสู้
อาเฮ่อชี้กระบี่ตรงมาที่เจี่ยนฟงหยวนอยู่นาน แต่คู่ต่อสู้ก็ไม่ขยับเลยสักนิดเหมือนกับว่าเขาไม่เห็นอะไร
เจี่ยนฟงหยวนยังคงรู้สึกจนใจ เขาไม่ต้องการกลายเป็นแพะรับบาปถ้ามีเรื่องโชคร้ายเกิดขึ้นกับอาเฮ่อ เมื่อราชินีหาเรื่องลงโทษพวกเขา นอกจากส่งตัวเขาให้นางแล้วฝ่าบาทคงไม่มีความคิดอย่างอื่น
ชนะไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นจะสู้ไปทำไม?
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในนักสู้พญาหมีเจี่ยนฟงหยวนผ่านประสบการณ์มามากและประเมินได้เมื่ออันตรายมาถึง สำหรับคนที่เป็นถึงเจ้าชายเขาจะไม่แตะต้อง ถ้าเขาจัดการกับอาเฮ่อโดยไม่ยั้งคิด นั่นเป็นเรื่องโง่จริงๆ ดังนั้นเขาอาจเหมือนกับคนแก่ที่ไม่มีอันตรายรอให้องค์ชายชนะและจับเป็นถังเทียนได้ อย่างนั้นงานเขาก็จบ
อาเฮ่อไม่เคยเห็นคนที่ไร้ยางอาย ตั้งแต่เล็กเขาอยู่ได้รับอิทธิพลจากมารดานิสัยของเขาอ่อนโยนสุภาพ ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี
ทั้งสองยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกที่อึดอัด
ทันใดนั้นเองทั้งสองคนหันหน้าพร้อมกัน ลำแสงแพรวพราวฉายขึ้นไปบนท้องฟ้า ระลอกพลังงานที่ทำให้คนรู้สึกใจสั่นกระจายออกมาจากอาคาร
หน้าของอาเฮ่อเปลี่ยนเขาพุ่งผ่านเจี่ยนฟงหยวนไปอย่างไม่ลังเลและร่างของเขาหายไปในท้องฟ้า
หน้าของเจี่ยนฟงหยวนเปลี่ยนเล็กน้อย แต่เมื่อระลอกพลังงานหายไปสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเขาหายไปเช่นกัน
ปัง
อาคารไม่อาจรองรับน้ำหนักมันเองได้อีกต่อไปและพังถล่มลงมา
เมื่อหรงโหรวมาถึงฉากภาพที่ปรากฏต่อหน้าเขาก็คือ วงกลมซากหักพลังและเด็กหนุ่มยืนร้องไห้อยู่ตรงกลาง
ถังเทียน!
หรงโหรวใจเต้นผาง ลางสังหรณ์ร้ายผุดขึ้นมาในใจ สายตาของเขามองดูในที่ไม่ไกลองค์ชายจมอยู่ในกองเลือด
หน้าของหรงโหรวไม่มีสีเลือดขาวซีดเหมือนกับกระดาษ ร่างของเขาซึมเซาราวกับว่าไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ องค์ชายนอนจมกองเลือดปราศจากลมปราณและไม่มีสัญญาณชีวิต
ทันใดนั้นตาของเขาพลันพร่าเลือน ร่างๆ หนึ่งปรากฏขวางหน้าเขาไว้
อาเฮ่อ!
เจี่ยนฟงหยวนมาช้าหนึ่งก้าว เขาเห็นฉากภาพต่อหน้า และตะลึงอยู่ชั่วขณะความรู้สึกโกรธอย่างไม่น่าเชื่อปรากฏบนใบหน้าเขาราวกับว่าสมองของเขาถูกใครบางคนต่อยใส่ จนรู้สึกว่างเปล่า, ฝ่าบาท...
เป็นไปไม่ได้....มันเป็นไปได้ยังไงกัน
พลังของฝ่าบาทแข็งแกร่งขนาดนั้นและฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ได้ยังไง? และฝ่าบาทยังมีเจ้าสิ่งนั้น..
ริมฝีปากของเขาสั่นกายสั่นทั้งตัว พอคิดถึงความพิโรธโกรธเคืองของท่านเจ้ากลุ่มดาวขึ้นมา ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“ผู้เฒ่าเจี่ยน ยึดสิ่งนั้นมา!” เสียงกระตุ้นเตือนของหรงโหรวปลุกเจี่ยนฟงหยวนจากสภาพมึนงง
เขาตื่นตัวและมีปฏิกิริยาทันที ถูกแล้ว องค์ชายสิ้นพระชนม์ ถ้าสิ่งนั้นหายไปกลุ่มดาวหมีใหญ่จะได้รับผลกระทบใหญ่ สำหรับเขานั่นคือโอกาสไถ่ถอนโทษประการเดียว
“ลงมือ!”
เจี่ยนฟงหยวนตาแดงถลึงมองอาเฮ่ออย่างดุดัน และเขาคำรามเหมือนกับสัตว์ร้าย ตอนนี้เขาทิ้งมารยาทและความอ่อนโยนไว้เบื้องหลัง
อาเฮ่อเผชิญหน้ากับเจี่ยนฟงหยวนร่างของเขาโน้มไปข้างหน้า มือขวาจับอยู่ที่ฝักกระบี่ซึ่งห้อยอยู่ข้างเอวเจี่ยนฟงหยวนใช้ปราณแท้ยิงธนูปราณอย่างบ้าคลั่งและยิงใส่อาเฮ่อ แขนเสื้อของเขาสะบัดกลับไปข้างหลังอย่างงดงาม แต่ร่างของเขายังคงยืนอยู่กับที่หน้าของเขายังคงสงบนิ่งเหมือนน้ำ
“มาเลย!”
คำตอบที่ชัดเจนตรงไปตรงมาเต็มไปด้วยความหนักแน่นไม่มีร่องรอยยอมถอย
เจี่ยนฟงหยวนคำรามตลอดทั้งตัวคล้ายหมีที่ระเบิดความโกรธออกมาแล้ววิ่งเข้าใส่อาเฮ่อทันใด ดาบโค้งหัวปีศาจของเขามีรัศมีสีเทา รังสีดาบส่งเสียงแและทะยานไปข้างหน้ามีเสียงทุ้มต่ำเหมือนสัตว์ร้าย
อาเฮ่อหรี่ตาใจของเขาสงบเยือกเย็นมาก เขาไม่เคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่าม จากมุมตาของเขา เขาเห็นร่างๆหนึ่งเคลื่อนตัวเงียบไปอีกทางตรงเข้าหาถังเทียน
เจ้าบ้าถังยังไม่อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมและเขาต้องการป้องคนทั้งสอง เขาจำเป็นต้องถอยกลับมาคุ้มกัน
อาเฮ่อรักษาท่วงท่าตั้งรับเอาไว้ ร่างกายช่วงบนของเขาไม่เคลื่อนไหว ขณะที่ร่างกายท่อนล่างก้าวสั้นๆ ด้วยความเร็วสูง
มีภาพร่างเงาซ้อนตามหลังอาเฮ่อสองสามรูป ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจริงมาก ระบำกระเรียนของสำนักกระเรียน เปล่งอานุภาพ
ตาของหรงโหรวเลือนรางอาเฮ่อมาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
ไวมาก!
หรงโหรวไม่มีเวลาอุทานตกใจ เขารวบรวมปราณแท้ในร่างของเขาและใช้ท่าดรรชนีทันที
ระลอกพลังโปร่งแสงปรากฏค่อยๆ บินเข้าหาอาเฮ่อ รังสีดาบสีเทาของเจี่ยนฟงหยวนส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งเข้าหาอาเฮ่อ
ร่างของอาเฮ่อพร่าเลือนและร่างสีดำสิบสามร่างปรากฏอยู่ต่อหน้าทั้งสองคน
พอเสียงตวาดลั่นร่างสีดำทั้งสิบสาม และทุกร่างชักกระบี่ออกจากฝัก
ติง!
ปัง!
เสียงแตกต่างสองเสียงดังออกมาสะเทือนแก้วหูจนเจ็บปวด
ร่างสีดำหายไปหมดเหมือนกับลูกโป่งแตกเหลืออยู่แต่เพียงอาเฮ่อร่างหลักยืนอยู่ที่เดิมร่างของอาเฮ่อเหมือนกับเข็มที่ปักไว้กับที่ รอยเลือดสีแดงเข้มไหลซึมออกจากปากเขา
สีหน้าเขายังคงสงบ นิ้วที่เรียวยาวของเขาปาดรอยเลือดออกจากปาก แม้แต่ความเคลื่อนไหวเช่นนั้นก็ยังดูสง่างาม
หรงโหรวก็ยังกระอักโลหิตเช่นกัน เขาเป็นเหมือนธนูที่ยิงสุดล้า การใช้พลังตัวเองยังไม่สามารถต้านทานอาเฮ่อได้ ตอนนี้ปราณแท้ของเขาถูกใช้ไปมากจึงทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก
ถังเทียนค่อยรู้สึกตัวจากอาการมึนงงพลางมองดูอาเฮ่อที่กำลังปกป้องเขา เขาพึมพำ “เสี่ยวเฮ่อ..”
แต่หลังจากนั้นถังเทียนค่อยมีอาการสนองตอบ “เสี่ยวเฮ่อ เจ้าบาดเจ็บหรือ?”
ถังเทียนกำหมัดแน่น นัยน์ตาเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเตรียมวิ่งเข้าลุยใส่เจี่ยนฟงหยวน
“อย่าเพิ่งเข้ามา” เสียงหนักแน่นของอาเฮ่อแทรกขัดจังหวะถังเทียนทันที เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้ยินอาเฮ่อพูดด้วยน้ำเสียงยืนยันหนักแน่นมาก เขาจ้องมองหลังอาเฮ่ออย่างว่างเปล่า
อาเฮ่อยืดตัวตรงอีกครั้งยืนอยู่กับที่พร้อมกับกระบี่ของเขา เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง
“นี่คือคู่ต่อสู้ของข้า ที่นี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองรับผิดชอบของข้า นี่คือการต่อสู้ของข้า ดังนั้นโปรดปล่อยให้กระบี่ของข้าทำงานให้สำเร็จเถอะ”
อาเฮ่อชูกระบี่ขึ้นแววตาของเขาเรียบเฉย แสงสว่างเจิดจ้าเขาเริ่มพึมพำอยู่ที่ริมฝีปากราวกับว่ากำลังทำการปฏิญาณ
กระบี่กระเรียนที่อยู่ในฝักฉายประกายรังสีต้องบนใบหน้าของเขา รูปลักษณ์ของเขามีความจริงใจและสง่างามชุดดำบนร่างของเขาพริ้วไสวทั้งที่ไม่มีลม
หัวใจของเขาไม่เคยเปลี่ยน..กระบี่เอย เจ้าได้ยินหรือไม่?
กระบี่กระเรียนสั่นสะท้านเบาๆ ปากอาเฮ่อเผยอหัวเราะอย่างอบอุ่น
ร่ายรำท่ากระบี่
ทันใดนั้นร่างสีดำทั้งสิบสามร่างแยกจากกันอย่างสง่างามและบินขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกระเรียนเริงระบำ กระบี่ที่กวัดแกว่งแพรวพราวร้องออกมาเป็นเสียงกระเรียนขณะที่สิบสามกระบี่พลันกลายเป็นหนึ่ง
รังสีกระบี่หมุนวน!
กระบี่หมุนของระบำกระเรียน