ตอนที่แล้วข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 36 เพลิงหทัยสุญตา การกลับมาเกิดใหม่ของอสูรขอบเขตจักรพรรดิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 38 บุกพระราชวังมารอย่างกล้าหาญ

ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 37 หนึ่งวาจาสัจจะ กลายเป็นกฎเกณฑ์


ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 37 หนึ่งวาจาสัจจะ กลายเป็นกฎเกณฑ์

คุนหวู่จ้องมองหู่ฉวนสักพักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เจ้าเต็มใจทิ้งไข่มุกวิญญาณโลหิตได้ลงคอหรือ”

“เป็นเพราะตระกูลฉู่ลัทธิมารของข้าจึงต้องเลยลงเอยเช่นนี้ หากข้าไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง ข้าคงหายใจไม่ออก!”

หู่ฉวนกล่าวด้วยความโกรธ

แผนการที่วางมาหลายปีถูกทำลายในพริบตา ตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

หยวนฉ่งและผู้อาวุโสที่เหลืออีกสามคนก็ตายอยู่ในเมืองฉู่

ลัทธิมารแห่งแคว้นจื่อเยว่อยู่ไม่ห่างจากการล่มสลายเต็มที

ทุกอย่างเริ่มต้นมาจากตระกูลฉู่ เนื่องจากตระกูลฉู่ค้นพบสายลับจึงได้กวาดล้างลัทธิมารในเมืองฉู่

“เจ้าเต็มใจมอบไข่มุกวิญญาณโลหิตเพื่อแลกกับชีวิตผู้อาวุโสไม่กี่คนของตระกูลฉู่ เจ้ายินดีจ่ายราคาแพงเช่นนี้หรือ?”

ไข่มุกวิญญาณโลหิตนั้นหลอมกลั่นมาจากแก่นโลหิตของผู้ฝึกยุทธ์นับหมื่นโดยใช้กลวิธีลับ ถือเป็นหนึ่งในสมบัติอันล้ำค่าที่สุดสำหรับผู้ฝึกยุทธ์มาร

นอกจากนี้แล้ว กลวิธีหลอมกลั่นไข่มุกวิญญาณโลหิตก็อยู่ในกำมือของจักรวรรดิต้าเซี่ยแต่เพียงผู้เดียว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดจักรวรรดิต้าเซี่ยจึงมียอดฝีมือมากมายเต็มใจทำงานให้

พลังยุทธ์ของคุนหวู่อยู่ขอบเขตว่างเปล่าขั้นสูงสุด เป็นผู้ยอดเยี่ยมในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์มารขอบเขตว่างเปล่าด้วยกัน ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถทะลวงไปยังขอบเขตรวมศูนย์ได้ อายุขัยของเขาเองก็ใกล้สิ้นสุดแล้ว

ไข่มุกวิญญาณโลหิตสามารถเพิ่มอายุขัยของคนผู้หนึ่งได้อย่างน้อย 10 ปี แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุอีกด้วย มันเป็นหนึ่งในสมบัติที่คุนหวู่ต้องการมากที่สุดในเวลานี้

“เป้าหมายหลักของข้าคือบุตรชายของฉู่ชิวหลัว ตราบใดที่เราจับตัวบุตรชายของฉู่ชิวหลัวได้ ข้าก็มีวิธีมากมายที่จะแก้แค้นตระกูลฉู่”

“ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะบุตรชายของฉู่ชิวหลัว ข้าอยากดูว่าตระกูลฉู่จะมีความชอบธรรมถึงขนาดกล้าสังหารสมาชิกในตระกูลของตนเองได้หรือไม่!”

หู่ฉวนกัดฟันด้วยความเกลียดชัง

“ตกลง ข้าจะร่วมหัวจมท้ายกับเจ้าในครั้งนี้”

คุนหวู่พยักหน้าตกลง

คุนหวู่ติดอยู่ที่ขอบเขตว่างเปล่าขั้นสูงสุดมานานมากนักแล้ว แถมเขาเหลือเวลาอีกไม่มาก นี่เป็นโอกาสทองสำหรับเขาเลยทีเดียว

ถึงแม้ตระกูลฉู่จะแข็งแกร่ง แต่ด้วยวิธีการและความแข็งแกร่งของเขา ตราบใดที่เขาไม่ได้บุกเข้าไปอย่างอุกอาจและจบลงด้วยการถูกปิดล้อม คุนหวู่มั่นใจว่าตนเองยังสามารถหลบหนีได้โดยไร้รอยแผลหลังจากจับตัวเป้าหมายได้แล้ว

หู่ฉวนยกมือแล้วโบกมือขึ้น ไข่มุกวิญญาณโลหิตครึ่งหนึ่งก็ลอยออกมา

“หลังจากงานสำเร็จ แล้วข้าจะให้อีกครึ่งที่เหลือ!”

คุนหวู่รับไข่มุกวิญญาณโลหิตก่อนมองหู่ฉวนอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็หันหลังจากไป

คุนหวู่ไม่กังวลว่าหู่ฉวนจะคืนคำของตนเอง

เขาเชื่อว่าหู่ฉวนย่อมไม่กล้าล่วงเกินยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าขั้นสูงสุดที่อายุใกล้หมดสิ้นหรอก

คุนหวู่ไม่ได้แย่งชิงไข่มุกวิญญาณโลหิต ต้องไม่ลืมว่าหู่ฉวนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรวรรดิต้าเซี่ย ไข่มุกวิญญาณโลหิตถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของจักรวรรดิต้าเซี่ย หากเขากล้าแย่งชิงมัน เขาย่อมต้องถูกตามล่าจากยอดฝีมือของจักรวรรดิต้าเซี่ยอย่างแน่นอน

แม้ว่าเขาจะโชคดีพอที่จะทะลวงไปยังขอบเขตรวมศูนย์ แต่เขาก็คงไม่รอดอยู่ดี

ทว่าหากหู่ฉวนคืนคำ คุนหวู่จะสังหารหู่ฉวนแล้วแย่งชิงไข่มุกวิญญาณโลหิตอีกครึ่งหนึ่ง ถึงตอนนั้นจักรวรรดิต้าเซี่ยเองก็ย่อมไม่มีทางออกหน้าเพราะการกระทำของเขายังอยู่ในกฎ

ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์มารกล้าคนใดกล้าละเมิดกฎของจักรวรรดิต้าเซี่ย

ตระกูลฉู่แม้ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนหมิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้นฉู่เทียนหมิงยังมีอาวุธสมบัติอยู่ในครอบครอง

หากพวกเขาจะสู้กันจริง คุนหวู่เองก็ไม่มั่นใจในความสามารถของเขาจะเอาชนะฉู่เทียนหมิง

ยิ่งไปกว่านั้น คุนหวู่ก็แก่ชรามากแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงลดน้อยถอยลงเป็นธรรมดา

ทว่าตราบใดที่เขาไม่ได้ถูกปิดล้อมจากยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่แปดขึ้นไป คุนหวู่ย่อมมั่นใจว่าตนเองสามารถหลบหนีไปได้

วัตถุประสงค์ของการเสี่ยงตายในครั้งนี้เพียงเพื่อจับตัวบุตรชายของฉู่ชิวหลัว และสังหารผู้อาวุโสตระกูลฉู่ไม่กี่คนในระหว่างทาง

ตราบใดที่เขาลอบเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่และจับตัวบุตรชายของฉู่ชิวหลัวโดยไม่มีใครพบเห็นได้ การสังหารผู้อาวุโสของตระกูลฉู่ไม่กี่คนซึ่งคุ้มกันเมืองฉู่ในระหว่างทางกลับก็ไม่ใช่ภารกิจยากเย็นสำหรับเขาแต่อย่างใด

เมื่อถึงตอนที่ยอดฝีมือของตระกูลฉู่ตื่นตัว คุนหวู่ก็คงกลับไปยังแคว้นจื่อเยว่และได้รับไข่มุกวิญญาณโลหิตอีกครึ่งหนึ่งแล้ว

เมื่อเขาบรรลุขอบเขตรวมศูนย์ เขายังต้องเกรงกลัวยอดฝีมือของตระกูลฉู่อีกหรือ?

หากคุนหวู่ล้มเหลวในการบรรลุขอบเขตรวมศูนย์ เขาก็คงมีชีวิตต่อไปได้ไม่กี่ปี ดังนั้นจะต้องเกรงกลัวอันใด

...

ฉู่เซวียนดีดนิ้ว อีกเพียงเจ็ดวันเท่านั้นก็จะถึงกำหนดการหนึ่งปี

เวลาผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ

ไม่คาดคิดเลยฉู่เซวียนนอนอยู่ในเรือนสี่ประสานหลังนี้มาเกือบหนึ่งปีแล้ว

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เขาทะลวงจากขอบเขตมนุษย์ไปจนถึงขอบเขตจริงแท้

หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ใครจะเชื่อ?

ความเร็วในการฝึกฝนพลังยุทธ์ของฉู่เซวียนอาจทำให้อัจฉริยะฟ้าประทานหลายคนต่างร่ำไห้ เทพบุตรเทพธิดาต้องคร่ำครวญ!

อีกเพียงเจ็ดวัน...

คงไม่มีเหตุอันใดเกิดนขึ้น จนกว่าถึงตอนนั้นคงไม่มีใครมารังครานเขากระมัง?

จะมีอะไรสบายไปกว่าการเก็บตัวอยู่บ้านแล้วค่อยๆ สะสมพลังความแข็งแกร่งอีกหรือ?

คำตอบคือไม่มี

ด้านนอกเรือนสี่ประสาน มีคนผู้หนึ่งลอบเข้ามาอย่างเงียบงัน

คนผู้นี้เคลื่อนไหวอย่างรอบคอบ

ฉู่เซวียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เกิดอะไรขึ้นกับพวกลัทธิมาร? เหตุใดคนเหล่านั้นจึงมาหาเขาตลอดที่มาถึงอาณาเขตตระกูลฉู่?

เพราะข้าเป็นบุตรชายของฉู่ชิวหลัวหรือ?

เมื่อคุนหวู่มาถึงเรือนสี่ประสาน เขาก็เปิดใช้ค่ายกลทันทีเพื่อปิดกั้นเสียง

ถึงแม้อีกฝ่ายจะตะโกนจนคอแตกก็ไม่มีใครได้ยิน

“เจ้าคือบุตรชายของฉู่ชิวหลัว?” คุนหวู่ถาม

เมื่อเห็นฉู่เซวียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ คุนหวู่ก็เห็นเป้าหมายกำลังจ้องมองกลับมาที่เขาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“ข้าคือบุตรชายของฉู่ชิวหลัว เจ้าช่วยทำให้ข้ากระจ่างได้หรือไม่ เหตุใดลัทธิมารจึงคอยรบกวนข้าตลอด? บิดาของข้าขุดหลุมศพบรรพบุรุษของลัทธิมารพวกเจ้าหรือ”

ฉู่เซวียนถอนหายใจแล้วกล่าว

“ฮ่าฮ่าฮ่า ชายชราผู้นี้ไม่ได้มาจากลัทธิมาร แต่ข้าได้รับการว่าจ้างจากลัทธิมาร เจ้าหนู เจ้าควรเชื่อฟังชายชราผู้นี้เสีย”

คุนหวู่ยิ้มแล้วยกมือขึ้นเพื่อคว้าตัวฉู่เซวียน

เขาไม่ได้มาจากลัทธิมาร?

ฉู่เซวียนรู้สึกประหลาดใจ พลังยุทธ์ของคุนหวู่อยู่ที่ขอบเขตว่างเปล่าขั้นสูงสุด แต่ดูเหมือนเขาใกล้จะหมดอายุขัย ขาข้างหนึ่งอยู่ในโลงศพ อีกข้างก็พร้อมจะตามลงได้ทุกเมื่อ

ฉู่เซวียนคิดว่าคุนหวู่คือปีศาจเฒ่าที่เก็บตัวของลัทธิมาร

ฉู่เซวียนกล่าวโดยไม่ใส่ใจมือของคุนหวู่อย่างเฉยเมยว่า “คุกเข่า”

ปัง!

คุนหวู่คุกเข่าทันที

หนึ่งวาจาของฉู่เซวียนกลายเป็นสัจจะ กลายเป็นกฎเกณฑ์!

ฉู่เซวียนอยู่ในขอบเขตจริงแท้ขั้นที่สาม เมื่อรวมกับมนต์แห่งสัจจะและคุนหวู่ซึ่งอยู่เพียงขอบเขตว่างเปล่าขั้นสูงสุด อานุภาพของฉู่เซวียนเลยไม่ต่างจากกฎของมหาเต๋า คุนหวู่ไม่มีวันต่อต้านคำพูดของเขาได้

เมื่อพลังยุทธ์ของฉู่เซวียนเพิ่มขึ้น อานุภาพของมนต์แห่งสัจจะก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ไม่ได้จำกัดเพียงคำพูดกลายเป็นความจริงอีกต่อไป

เมื่อใช้กับคนที่มีฐานพลังยุทธ์ต่ำกว่า ผลที่ได้ก็คือพวกเขาต้องปฏิบัติตามคำสั่งของฉู่เซวียนโดยขัดขืนไม่ได้

อึก!

คุนหวู่อดไม่ได้ที่จะเหงื่อแตกพลั่ก

พลังวิญญาณปะทุออกมาจากร่างกายคุนหวู่เพื่อพยายามที่จะลุกขึ้นหลบหนี

“จงคุกเข่าเสีย อย่าคิดหนี!”

ฉู่เซวียนยังคงเอ่ยอย่างเฉยเมย

ทันทีที่เขากล่าวจบ พลังวิญญาณที่กำลังปะทุของคุนหวู่ก็พลันแตกสลาย ความคิดที่จะหลบหนีก็มลายหายไปไปเช่นกัน!

ติ้ง!

เหงื่อเย็นเยียบหยดลงมา

คุนหวู่หวาดกลัวจับใจ

นี่เป็นความแข็งแกร่งเช่นไรกัน?

นี่คือขอบเขตจักรพรรดิในตำนานหรือไม่?

เขาคือบุตรชายของฉู่ชิวหลัวจริงหรือ?

ใครจะเชื่อกัน?

ตระกูลฉู่น่าสะพรึงกลัวเกินไป!

คุนหวู่สาปแช่งหู่ฉวนอยู่ภายในใจ!

“บอกที่มาและจุดประสงค์ของเจ้าเสีย”

ฉู่เซวียนยังคงใช้มนต์แห่งสัจจะต่อไป

คุนหวู่เปิดปากแล้วเล่าเรื่องราวทุกอย่าง

คุนหวู่รู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง เหตุใดเขาจึงเปิดปากคายทุกอย่างหลังจากที่อีกฝ่ายเอ่ยเพียงประโยคเดียว?

เขาไม่สามารถต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย

หลังจากฟังคำบอกเล่าของคุนหวู่ ฉู่เซวียนถึงกับพูดไม่ออก มีบางอย่างผิดปกติกับสมองของพวกลัทธิมารหรือ? พวกมันกำลังจะถูกกำจัดจนสิ้นซากอยู่แล้ว ทว่าก็ไม่ยอมหยุดพยายามแต่อย่างใด

พวกมันมารังครานเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

เป็นไปได้ไหมว่าวิชามารที่พวกผู้ฝึกยุทธ์มารฝึกฝนทำให้สมองฝ่อ?

เขามองไปยังคุนหวู่

ฉู่เซวียนไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนคุนหวู่ให้เป็นหนึ่งในลูกสมุนของเขา อีกฝ่ายไร้ประโยชน์เกินไป

ความจริงที่ว่าคุนหวู่ติดอยู่ที่ขอบเขตความว่างเปล่าขั้นสูงสุดจนไม่สามารถบรรลุต่อไปได้ ก็เห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์ของเขานั้นไร้ประโยชน์เพียงใด

ตราบใดที่พรสวรรค์ของคนผู้หนึ่งไม่แย่จนเกินไปก็ย่อมบรรลุขอบเขตรวมศูนย์ได้หลังจากสั่งสมพลังยุทธ์มาเป็นเวลานาน

นี่คือขยะที่ไร้ประโยชน์

นอกจากนี้แล้ว คุนหวู่เหลืออายุขัยอีกไม่มาก ใกล้จะลงโลงเต็มที

ช่วยให้เขาบรรลุขอบเขต?

ไม่! ไม่เช่นนั้นจะเป็นสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ

ฉู่เซวียนไม่ได้สังหารคุนหวู่ ทว่าใช้ตราประทับเมล็ดวิญญาณเพื่อควบคุมคุนหวู่แทน

ฉู่เซวียนนึกถึงระเบิดอัศนีที่ระบบมอบให้เมื่อครู่

เขารีบหยิบออกมาหลายอัน

แล้วยัดเอาไว้ในมือของคุนหวู่และควบคุมเจตจำนงวิญญาณของอีกฝ่ายทันที สั่งให้อีกฝ่ายนำระเบิดอัศนีไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิต้าเซี่ยเพื่อก่อความวุ่นวาย

ฉู่เซวียนต้องการให้คุนหวู่สังหารยอดฝีมือให้ได้มากที่สุดด้วยการระเบิดจักรวรรดิต้าเซี่ย

“ไปเสีย ใช้ชีวิตบั้นปลายให้สุกสกาว เมื่อนั้นการดำรงอยู่ของเจ้าในโลกใบนี้จะไม่สูญเปล่า”

ฉู่เซวียนโบกมือแล้วส่งคุนหวู่ออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด