ตอนที่ 420 เหตุผลที่ต้องสู้
ผิดหวัง...
เยี่ยนถูและอาเดรียนทั้งสองคนหันหน้ามาเพ่งความสนใจถังเทียนพร้อมกัน เจ้าผู้นี้ไม่ธรรมดา ถังเทียนไม่ค่อยแน่ใจในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพูดลอยๆ
เจ้าผู้นี้...
เยี่ยนถูมองดูถังเทียนและอาเฮ่อ เขาไม่เข้าใจทำไมอาเฮ่อซึ่งมีพลังแข็งแกร่งขนาดนั้นและเป็นทายาทของกลุ่มดาวแห่งหนึ่งถึงได้ยอมลดตัวเองเป็นรองผู้นำอย่างถังเทียน
เยี่ยนถูเข้าใจว่าตระกูลที่สูงส่งเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและมันยากจะได้รับอนุมัติจากพวกเขา
หลังจากเห็นเยี่ยนถูมองเขา อาเฮ่อเตือนเขาด้วยความเคารพ “ก็เหมือนกับฝ่าบาทที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักสู้ทั้งสามคนนี้แหละ อย่าประเมินเจ้าผู้นี้ว่ามีปัญญาอ่อนไป แต่เขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเราทั้งสามคนดังนั้นระวังให้ดี”
ถังเทียนตื่นเต้นมาก แม้แต่อาเฮ่อก็ยังยอมรับว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา แม้ว่าเขาจะรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างที่ถูกเรียกว่าปัญญาอ่อน แต่ความสุขที่ถูกชมว่าแข็งแกร่งที่สุดกว่าพวกก็ครอบงำความรู้สึกทั้งหมด
ถังเทียนแข็งแกร่งที่สุดในหมู่สหายทั้งสาม...
เยี่ยนถูและอาเดรียนงง พวกเขาสะดุ้ง ขนาดอาซิ่วและหลิวจงกวงยังได้รับบาดเจ็บ
อาเฮ่อหน้าเข้มไม่มีความต้องการล้อเล่นแต่อย่างใดแต่ความสนใจของทุกคนกลับเพ่งไปที่อาการร่าเริงของถังเทียนและรู้สึกว่าเป็นเรื่องไร้สาระมาก
คนผู้นี้น่ะหรือแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม
นี่เขาจะมามุขไหนกัน?
“เจ้าหมายถึงเจ้านี่เหรอ?ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เยี่ยนถูหัวเราะลั่นและหันมาจ้องถังเทียนอย่างรวดเร็ว “งั้นแม่เขารู้หรือเปล่าว่าเขาแข็งแกร่งทรงพลัง?”
รอยยิ้มหายไปจากหน้าของถังเทียน
แม่....
ใบหน้ามารดาของเขาพลันปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้งขณะที่เขายังระลึกถึงลักษณะของมารดาเมื่อตอนเขายังเด็ก วันที่นางตายจากไป ถังเทียนซ่อนตัวเองอยู่ในมุมและไม่อาจหยุดร้องไห้ได้ เขาถูกความสิ้นหวังและความกลัวครอบงำ แต่ในไม่ช้าเขาก็ปรับตัวเองใช้ชีวิตผ่านมาจนได้เขามักไปนั่งอยู่ข้างๆ สุสานมารดาของเขาบอกเล่าความรู้สึกของเขาให้มารดาฟัง ความฝันของเขาและวิธีที่เขาใช้จัดการเจ้าพวกที่บังอาจดูถูกเขา
นั่นคือชีวิตที่หม่นหมอง...
มีเพียงคนที่สามารถทำให้ถังเทียนรู้สึกว่ามีบ้านและมีความอบอุ่นก็คือมารดาของเขา ความทรงจำถึงมารดาของเขาและสุสาน
ถังเทียนจ้องมองพื้นอย่างว่างเปล่าขณะที่น้ำตาเริ่มไหลจากมุมตา
เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เขาได้ยืนข้างสุสานมารดาและกล่าวคำอำลานาง
แม่, ข้ารู้ว่าท่านกำลังมองข้าอยู่จากเบื้องบน
แม่, ข้าคิดถึงท่านมาก...ข้าคิดถึงท่านจริงๆ..
“มาเลย! ให้ข้าดูหน่อยซิว่านักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเจ้าจะแค่ไหนกันเชียว!” เยี่ยนถูหัวเราะเบาๆ “อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”
อาเฮ่อชำเลืองมองเยี่ยนถูอย่างรวดเร็วก่อนจะหันมาให้ความสนใจที่เจี่ยนฟงหยวนโดยตรง “งั้นเราออกไปสู้กันข้างนอก”
หลิงซิ่วยังคงมองเยี่ยนถูอย่างรวดเร็วก่อนจะหันมาทางหรงโหรว “ออกไปสู้ข้างนอก”
การได้ฝึกพลังของเยี่ยนถูขณะที่ยังมีความรู้สึกกระตือรือร้นและมีความสามารถวิเคราะห์ หลิงซิ่วรู้สึกว่าเป็นการไม่ให้เกียรติเพราะทำท่าทางเช่นนั้น
ใจของเขาตั้งใจจะทำลายเจ้าเด็กที่อยู่ต่อหน้าเขาและฉีกเขาเป็นล้านๆชิ้น
บัดซบ!
“กรอดดด..”
เสียงหัวเราะเบาๆ จากปากของถังเทียนฟังเหมือนกับเสียใจ กระตุ้นกำลังใจหรือแม้แต่หวนระลึกถึง
อาเดรียนผงะถอย เสียงลมหายใจเบาๆนี้จากถังเทียนดูเหมือนไม่ธรรมดา
เด็กหนุ่มผู้ร่าเริงและหัวเราะอย่างมีความสุขในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อครู่กลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าโศก
“ข้าจะไม่ให้เจ้าผิดหวัง”
เสียงของถังเทียนปลุกอาเดรียนให้สะท้านจากภวังค์ ถังเทียนเชิดศีรษะ สิ่งที่ทำให้อาเดรียนประหลาดใจก็คือหน้าของถังเทียนไม่มีวี่แววเศร้าโศก แต่กลับดูบริสุทธิ์เบิกบานและมีความสุข
“เพราะศึกนี้ทำเพื่อมารดาข้าในสวรรค์”
ถังเทียนยิ้มอ่อนโยนเนื่องจากเขาพูดแต่ละคำชัดเหมือนกับท่องมา
นี่คือการแสดงความเคารพมารดาในเบื้องบนของเขา...
เหตุผลบ้าบอเช่นนี้สร้างความขบขันให้กับเยี่ยนถู “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!จะเอาชัยชนะครั้งนี้ให้แม่เจ้า! พอคิดดูแล้วครั้งล่าสุดที่ข้าพูดเรื่องตลกเช่นนั้นก็เมื่อตอนข้าอายุเจ็ดขวบ”
เยี่ยนถูส่ายศีรษะและไม่อาจกลั้นหัวเราะได้ “ข้าทายาทแห่งกลุ่มดาวหมีใหญ่ต้องมาต่อสู้กับเด็กอย่างเจ้า ช่างน่าขายหน้าจริงๆ มาจบเรื่องนี้กันเถอะ”
“ได้เวลาจบเรื่องนี้แล้ว”
ถังเทียนผงกหัว ขณะที่เขามีความสุข แต่นัยน์ตาของเขาเย็นชาสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
เขารวบรวมพลังขณะเตรียมเข้าต่อสู้
ถังเทียนตั้งใจมองเยี่ยนถู พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และนั่นทำให้ความเร็วเขาเพิ่มขึ้น
หัวหมาป่าปรากฏอยู่บนหลังของเขาและค่อยๆลอยออกมา
อากาศรอบตัวถังเทียนผันผวนและกระเพื่อมเป็นระลอกพลังมหาศาลไหลโคจรอยู่ทั่วตัวเขา
อาเดรียนตั้งใจมองดูถังเทียนอย่างมิอาจเชื่อสายตาตนเองได้
ถังเทียนเป็นเหมือนภูเขาไฟที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานรุ่มร้อนอยู่รอบๆตัวเขา อาเดรียนสามารถรู้สึกได้ว่าพลังปะทุระเบิดรุนแรงในตัวเขานั้นน่ากลัว
เยี่ยนถูยิ้มค้างเนื่องจากเขาเห็นกับตาตัวเองถึงพัฒนาการพลังของถังเทียน
สายตาถังเทียนเย็นชาและหน้าของเขาดูเหมือนจะเลือนกลายเป็นเงาเลือนลาง
เป็นเวลานานแล้วที่เขาโหยหาชัยชนะลึกๆอย่างนั้น
ในมุมมองของเขา ผนังรอบด้านกระเบื้องหลังคาหายไปทั้งหมด เขามีเพียงเยี่ยนถูอยู่ในสายตาเท่านั้น
เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานที่ไม่รู้จักรุ่มร้อนอยู่ภายในตัวเขา เขารู้ว่ามันคือพลังสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้านั่นเอง
พลังสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าที่มีความบริสุทธิ์ถึง92%!
เยี่ยนถูสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น เขากู่ร้องพร้อมกับรวบรวมพลังต่อสู้ เขาหมอบลงด้วยท่าที่ผิดปกติและกระโจนไปที่ถังเทียน
ทันใดนั้นรังสีน้ำตาลที่น่ากลัวเหมือนกับพลังหมีระเบิดออกมาพุ่งใส่ถังเทียน
ถังเทียนไม่ถอย เขาผงะเล็กน้อยและวางเท้าซ้ายจิกลึกลงในพื้น ยกแขนทั้งสองเสมออกเตรียมตัวเองรับการโจมตี
การโจมตีของเยี่ยนถูเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาเรียกว่าท่าหมีใหญ่ตะปบ
พลังครอบคลุมร่างทั้งหมดขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้าและปลดปล่อยระลอกอากาศเย็นข้างหน้าถ้ามีภูเขาอยู่ข้างหน้าเขาก็คงโดนถล่มกระจายหายไป
นี่คือทักษะสังหารที่ขึ้นชื่อของกลุ่มดาวหมีใหญ่มีแต่เพียงนักสู้ผู้มีพลังและกล้ามเนื้อสามารถเชี่ยวชาญในวิชาหมีใหญ่ตะปบได้ ในการรบ วิชานี้สามารถทำลายประตูเมืองและทหารยามที่ยืนอยู่ในวิถีของมัน
เยี่ยนถูมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนั้นและสนามพลังวิญญาณคู่กันพลังโจมตีของเขาจึงมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น
รังสีน้ำตาลรอบตัวเขาเปล่งแสงรุนแรงมากขึ้น
ในมุมมองของถังเทียน เขาสามารถเห็นแต่เพียงลายเส้นของเงาเยี่ยนถูซึ่งถูกห่อหุ้มโดยรังสีน้ำตาล
ถังเทียนยังคงใช้สายตาเขามอง เพียงแต่เมื่อดูเหมือนเยี่ยนถูกำลังจะปะทะกับถังเทียน ถังเทียนจึงมีปฏิกิริยาในทันใด
เขาพลิกฝ่ามือขณะที่เขาปลดปล่อยวิชากรงเล็บของเขาในมุมอับเล่นงานรังสีน้ำตาลเยี่ยนถูโดยตรง
เยี่ยนถูยิ้มเย้ยหยัน เจ้าโง่รังสีน้ำตาลที่ล้อมรอบเขาคือพลังปราณแท้หนาสามสิบหกชั้นเรียกว่าผิวหมีเหล็กกล้า นักสู้ดาวหมีใหญ่ธรรมดาสามารถฝึกทักษะนี้ได้แค่เจ็ดหรือแปดชั้นก็สามารถช่วยให้ทนต่อแรงปะทะของดาบกระบี่ได้และมีค่าในฐานะเป็นสมบัติลับเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เยี่ยนถูก็ยังเชี่ยวชาญได้ในระดับสูงขนาดนั้นได้
ควาก
นิ้วของถังเทียนแทงผ่านรังสีของเยี่ยนถูเหมือนกับมีดตัดใส่เต้าหู้
รอยยิ้มบนใบหน้าของเยี่ยนถูหายไปทันที
แค่เหวี่ยงแขนครั้งเดียวถังเทียนก็ปลดปล่อยพลังจากนิ้วทั้งหมด มีเสียงดังปังขณะที่รังสีรอบตัวเยี่ยนถูสลายไปเป็นชิ้นๆ
มือปีศาจพันแปลง!
ร่างของเยี่ยนถูปลิวข้ามห้องเหมือนกับกระสอบทราย
เยี่ยนถูตกใจกับพลังโจมตี เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเสี้ยววินาทีผิวหมีเหล็กกล้าสามสิบหกชั้นของเขาไม่เคยถูกแทงทะลุมาก่อน ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของดาวหมีใหญ่ ไม่เคยมีคนที่ฝึกวิชาผิวหมีเหล็กกล้าถึงระดับยี่สิบสี่ชั้นเคยถูกทำลายมาก่อน
แต่ผิวหมีเหล็กกล้าของเขาพังทลายเหมือนทรายด้วยพลังโจมตีถังเทียน
เป็นไปได้ยังไงกัน...
ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งบดบังทัศนวิสัยการมองของเขา เยี่ยนถูเหวี่ยวแขนทั้งสองออกไปโดยไม่รู้ตัวเตรียมรับการโจมตีที่กำลังจะมาถึง
วิชานี้ซึ่งเขาเตรียมเอาไว้ใช้สู้กับอาเดรียนใช้ได้ผลดีมาก
แขนของเขามีรัศมีเจิดจ้าห่อหุ้มและเปลี่ยนสภาพเป็นหัวหมีที่กำลังคำราม
แต่นิ้วของถังเทียนยังแทงผ่านหัวหมีเข้าไปที่มุมอับ
ปัง!
รัศมีมรณะที่ห่อหุ้มพญาหมีเริ่มร่วงกราวเหมือนกับกระจกแตก
นี่คือวิชาพญาหมีมรณะมีพลังมากมายมหาศาลด้วยการเหวี่ยงในแต่ละครั้ง เยี่ยนถูสามารถทลายกำแพงเมืองได้
แต่....
เมื่อเห็นว่ารังสีน้ำตาลค่อยๆ จางหายไป เยี่ยนถูประหลาดใจอีกครั้ง
เขาได้รับการฝึกฝนวิชาฝึกจิตดั้งเดิมของกลุ่มดาวหมีใหญ่นี้ตั้งแต่อายุยังน้อย เขาสามารถสร้างวิชาฝีมือนี้ด้วยพลังที่แข็งแกร่งมากกว่าสหายของเขา ด้วยจุดดีที่มีร่างกายแข็งแกร่งเขาจึงเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับเลือกให้ฝึกฝนวิชานี้
เยี่ยนถูตวาดและเปลี่ยนวิชาฝ่ามืออีกครั้งและปล่อยพลังจากศอกขวา
ไหล่ของเขาฟาดลงมาเหมือนกับค้อนใหญ่
นิ้วของถังเทียนยังคงแทงลึกลงไปในรังสีและปล่อยพลังในทันใด พลังกรงเล็บสลายพลังโจมตีจากไหล่ของเยี่ยนถู
จากนั้นเยี่ยนถูใช้ขาซึ่งเปล่งประกายแสงและเตะใส่ถังเทียน
ฝ่ามือขาวแทงใส่รัศมีโจมตีที่ขาทำลายรัศมีแตกออกไป
เยี่ยนถูคำราม ละทิ้งการป้องกันตัวเขาโจมตีใส่ถังเทียนอย่างเดียวอย่างบ้าคลั่ง
พิ้ง พิ้ง พิ้ง!
เสียงระเบิดภายในของพลังงานดังต่อเนื่องและเสียงแตกของเหล็กดังชัดจากการปะทะกัน
ชิ้นส่วนรังสีน้ำตาลคู่มือที่ว่องไวและการปรากฏตัวเหมือนภูตพราย
เด็กหนุ่มผู้จมอยู่ในสมาธิไม่รู้ตัวเลยว่ามือปีศาจพันแปลงของเขาได้เปล่งอานุภาพออกมาอย่างไร้ข้อกังขา
เยี่ยนถูเป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ถูกต้อนเข้ามุมและไม่มีที่ให้หนีต่อไป ขณะที่เขาทุ่มพลังโจมตีตอบโต้ถังเทียน
แต่พลังโจมตีทั้งหมดของเขาล้มเหลวไม่สามารถผ่านแนวป้องกันของถังเทียนได้
ราวกับว่ามีตาข่ายที่มองไม่เห็นกันเอาไว้