ตอนที่ 419 ไม่พอใจอย่างมาก
อาเดรียนประหลาดใจ
เขาเคยเห็นวิชาหอกมานับไม่ถ้วนและอัจฉริยะนับไม่ถ้วน แต่วิชาหอกของหลิงซิ่วทำให้เขารู้สึกทึ่งเพราะหอกมีรังสีของสนามพลังวิญญาณแล้วเหตุผลที่องครักษ์หมีใหญ่โต้ตอบได้เป็นเพราะเขาไม่สามารถควบคุมสัญชาตญาณของการโจมตีจากสนามพลังวิญญาณ
แม้ว่าวิชาหอกจะเป็นระดับต่ำ แต่ตราบใดที่มันสร้างสนามพลังวิญญาณได้มันจะกลายเป็นพลังโจมตีที่รุนแรงได้
ในทุกวิชายอดฝีมือระดับปรมาจารย์สามารถใช้สนามพลังวิญญาณได้
คนอื่นๆจะคุ้นเคยกับสนามพลังเซียนมากกว่า จะต้องคุ้นเคยกับพลังของสนามพลังวิญญาณก่อนจะเข้าถึงระดับเซียน
อาเดรียนไม่เคยเห็นพลังงานเช่นนี้จากคนที่มีอายุขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าพลังงานสนามพลังวิญญาณในหอกของหลิงซิ่วนั้นยังอ่อน แต่ก็ยังเป็นสนามพลังวิญญาณอย่างมิต้องสงสัย
เด็กคนนี้..จะกลายเป็นอัจฉริยะได้จริงๆ หรือ?
อาเดรียนเพ่งมองหลิงซิ่วด้วยความสนใจ ผมเงินของเขาปกคลุมใบหน้าซึ่งคลั่งไคล้การต่อสู้ ตาของเขาโหยหาการต่อสู้มากยิ่งขึ้น
ความคลั่งไคล้ความหลงใหลและความมั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เขาชื่นชม แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ผสานเข้าด้วยกัน ก็ย่อมดึงดูดความสนใจได้อย่างแน่นอน
ระดับเจ็ดหรือแปด?
อาเดรียนไม่แน่ใจ ปกติเขาภูมิใจตัวเองที่เขามีความสามารถที่หลักแหลมในการประเมินศักยภาพของคน แต่ความสามารถของหลิงซิ่วทำให้เขายากจะเข้าใจเป็นไปได้ไหมที่สนามพลังวิญญาณจะรบกวนการที่เขาจะตัดสินประเมินหลิงซิ่ว? อาเดรียนรู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะใกล้เข้าถึงระดับสนามพลังเซียน เขาก็ยังเข้าใจสนามพลังวิญญาณได้มากกว่าหลิงซิ่ว
แต่ทำไมเขาถึงไม่ค่อยแน่ใจในการตัดสินตอนนี้?
อาจเป็นเพราะความหลงใหลที่มั่นคงส่งผลให้คนรู้สึกเสียวไปตามสันหลัง
หลิงซิ่วเล็งหอกไปข้างหน้าขณะที่เขาสืบเท้าหนักขึ้น ความต้องการต่อสู้ของเขาพลุ่งขึ้นมาทันทีเขาวิ่งเข้าใส่ทั้งสามคนอีกครั้ง
“โอ้โฮ!” เยี่ยนถูประหลาดใจ “พลังของเขาไม่เลว หรงโหรว ให้เขามีชีวิตต่อไป”
“รับบัญชาฝ่าบาท” หรงโหรวคำนับและค่อยๆสืบเท้าเข้าหาหลิงซิ่ว
“เสี่ยวซิ่วซิ่ว! เอาชนะเค้าให้ได้” ถังเทียนตะโกนโหวกเหวกแต่ไกล
“หุบปาก!”หลิงซิ่วหันหน้าไปมองขณะที่หน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
ถังเทียนถลึงตามอง“เฮ้, เสี่ยวซิ่วซิ่ว ข้าเชียร์เจ้าอยู่นะ, ตาแก่นี่ดูเหมือนจะร้ายกาจอยู่นะ!”
“หุบปากไปเลย!” หลิงซิ่วตะโกนกลับ
“อย่าประมาทเขานะ เขาเป็นคนฉลาดถ้าเจ้าไม่ระวังให้ดีเจ้าจะตกอยู่ในอันตราย....”
“ถ้าเจ้ายังพล่ามต่อไป ข้าจะใช้หอกทิ่มเจ้าซะ!” หลิงซิ่วใช้หอกชี้หน้าถังเทียนอย่างมิอาจระงับความโกรธได้
“เฮ้ย.. เจ้าทำกับคู่หูของเจ้าแบบนี้ได้ไง...” ถังเทียนตอบกลับ
อาเฮ่อลูบจมูก เขารู้ว่าถังเทียนจงใจยั่วหลิงซิ่วเพื่อช่วยกระตุ้นเขานี่ข้าเงียบเกินไปหรือเปล่า? ทำไมจู่ๆ ข้าก็นึกภาษิตที่ว่ากระเรียนในฝูงไก่ได้เล่า?
ดูเหมือนว่าข้าคงต้องมีความคิดริเริ่มมากขึ้น
อย่างนั้นก็ได้ เนื่องจากศัตรูดูเหมือนจะดีกว่าถังจอมห้าว...
อาเฮ่อสืบเท้าไปข้างหน้าด้วยท่าทีสง่างาม “ขอถามหน่อย มีท่านใดพอจะเป็นคู่ต่อสู้ให้ข้าได้บ้าง?”
ไม่มีใครตอบคำขอของอาเฮ่อ
เงียบจนอาเฮ่อตะลึง
ถังเทียนเห็นดังนั้นจึงชี้ที่อาเฮ่อ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!ทุกคนไม่สนใจเจ้า ไม่มีเลย, ไม่มีใครจัดการเจ้าได้”
นี่ยังจะคาดหวังทัศนคติอย่างนั้นจากถังเทียนได้หรือ?
อาเฮ่อไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เขาคว้ากระบี่ไว้แน่น
เย็นไว้เย็นไว้..อาเฮ่อ เจ้าเป็นผู้ดีมีสกุล ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับเขา...
อาเฮ่อเชิดหน้าเย็นชาและจ้องมองอย่างใจเย็นเขาค่อยๆ วางมือบนอาวุธ
เขาหงุดหงิดกับพวกที่ชอบล้อบุคลิกลักษณะของคนอื่น
ม่านตาของอาเฮ่อขยายใหญ่ขณะที่เขาจับกระบี่กระเรียนหลวมๆ รังสีของกระบี่ของเขาค่อยๆ กระจายเต็มพื้นที่ห้องโถง ทุกมุมห้องโถงรวมทั้งกระเบื้องและผนังเต็มไปด้วยรอยแผลเล็กๆที่ปลดปล่อยออกมาจากกระบี่
ปัง!
ผนังที่ตอนแรกเต็มไปด้วยรอยแยกในตอนนี้แตกเป็นชิ้นๆ
อาเฮ่อในตอนนี้แสดงพลังงานลำแสงประหลาดจากกระบี่ของเขา
เงียบ
ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบรังสีที่แผ่ออกโดยอาเฮ่อทำให้ทุกคนประหลาดใจ นี่คือเด็กหนุ่มผู้เป็นกันเองดูสุภาพคนเดียวกับที่พวกเขาเพิ่งรู้จักก่อนนั้นหรือเปล่า?
มีแต่ถังเทียนที่หัวเราะไม่หยุดได้ยินกันทั้งห้องโถง“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! อาเฮ่อ เจ้าล้มเหลวเสียแล้ว ไม่มีใครให้ความสนใจเจ้าเลย”
อาเฮ่อ“....”
อาเฮ่อมองดูข้างล่างขณะที่แขนของเขากำลังสั่นด้วยความโกรธ
เจ้าบ้านี่..อาเฮ่อ,นี่คือการฝึกรูปแบบหนึ่ง ใช่, นี่คือการฝึกฝนรูปแบบหนึ่ง..
อาเฮ่อพึมพำเงียบๆ นี่คือการฝึกอย่างหนึ่ง...
อาเดรียนไม่รู้ว่าจะอธิบายสิ่งที่เขารู้สึกได้ยังไง เมื่อสักครู่นี้ วิชาหอกของหลิงซิ่วนับว่าน่าทึ่งสำหรับเขาแล้วตอนนี้อาเฮ่อผู้สงบเสงี่ยมกลับระเบิดพลังที่งดงามออกมา เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังแบบเดียวกันจากอาเฮ่อนั้นเหมือนกับที่เปล่งออกมาจากหลิงซิ่ว
นี่คือพลังงานจากสนามพลังวิญญาณ!
อาเดรียนเปลี่ยนไปให้ความสนใจอาเฮ่อ รูปแบบของเขาแตกต่างจากหลิงซิ่ว เขาสงบกว่าและสงวนท่าทีมากกว่าซึ่งทำให้สะท้านใจฝ่ายตรงข้าม
อาเดรียนชำเลืองมองไปที่ศิษย์โปรดของเขาโดยบังเอิญอาซิ่ว แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นเด็กหนุ่มที่มีรูปแบบอารมณ์คล้ายกันก็ตาม แต่อาเฮ่อแข็งแกร่งมากกว่าอาซิ่วเยอะ
เป็นไปได้ไหมว่าเขาคือหลานชายของราชินีกลุ่มดาวคนธนู?
นั่นจะช่วยอธิบายความสามารถที่น่ากลัวของเขาได้!
เยี่ยนถูขมวดคิ้วมากขึ้นเทียบกับหลิงซิ่วแล้ว อาเฮ่อรับมือได้ยากกว่า มีนักสู้สตรีเพียงไม่กี่คนในสวรรค์วิถี และไม่มีคนใดเลยที่รับมือได้ง่ายอาเฮ่อมีส่วนคล้ายกับราชินีกลุ่มดาวคนธนูผู้นำกลุ่มดาวคนธนูและมีธนูเซียนและมักจะชอบท้าทายกฎเกณฑ์ธรรมชาติเสมอ แม้แต่บิดาของเยี่ยนถูก็ยังไม่กล้าตอแยราชินีผู้นี้
“ผู้เฒ่าเจี่ยน, ข้าต้องการให้ไว้ชีวิตเขา” เยี่ยนถูกล่าวหนักแน่น
“รับบัญชาฝ่าบาท” เจี่ยนฟงหยวนตอบปกติเขารู้จักสถานะของอาเฮ่อและเยี่ยนถูไม่ต้องการล่วงเกินราชินี เขาเองก็ไม่ต้องการมีส่วนทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่เนื่องจากเยี่ยนถูสั่ง เขาจึงไม่มีทางเลือก
เจี่ยนฟงหยวนมองดูอาเฮ่อ “องค์ชายเฮ่อ,กลุ่มดาวคนธนูและกลุ่มดาวหมีใหญ่ของเราไม่ได้มีความแค้นเคืองหรือเกลียดชังกันและกัน..”
สำหรับเจี่ยนฟงหยวนเรียกอาเฮ่อว่าองค์ชาย ไม่ถือว่าเรียกเกินจริงเนื่องจากอาเฮ่อเหมือนกับเป็นทายาทรับสืบทอดกลุ่มดาวคนธนู
อาเฮ่อเฉยชาและพูดตัดบทฟงเจี่ยนหยวนก่อนที่เขาจะพูดจบ “ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกลุ่มดาวคนธนู ท่านไม่ต้องพูดต่อแล้ว เข้ามาได้”
เจี่ยนฟงหยวนไม่เชื่อ แค่เพราะเขาพูดว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มดาวไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรจริงๆ ต่อให้ราชินีพูดเหมือนกัน ก็คงไม่จริงไม่มีใครกล้าคัดค้านสิ่งที่นางพูดไว้เป็นแน่
เยี่ยนถูมองไปอีกทางหนึ่งพยายามไม่สนใจปัญหาของอาเฮ่อ นอกจากให้บริวารของเขารับมือ ตราบใดที่อาเฮ่อไม่ถูกทำร้ายทุกอย่างจะไม่เป็นอะไร
เขาให้ความสนใจถังเทียน เมื่อเขาจับถังเทียนได้ พวกเขาก็จะชนะ เขาสงสัยมากว่าจะใช้เวลานานเท่าใดจึงจะจับคนอย่างเขาได้ ขึ้นอยู่กับบริวารทั้งสองของเขาต้องรับมือได้ทุกอย่าง
งั้นจบทุกอย่างลงเดี๋ยวนี้
เยี่ยนถูจู่ๆก็เพิ่มพลังและพุ่งเข้าหาถังเทียนเหมือนกับปล่อยลูกธนู ความเคลื่อนไหวของเขาทั้งทำอย่างฉับพลันและระเบิดพลังออกไปเหมือนกับพยัคฆ์หิวโหยกระโจนหาเหยื่อ
ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งขวางทางเขาไว้ทันที เป็นอาเดรียน ทั้งสองข้างของเขาปรากฏเงาร่างอีกสอง เป็นอาซิ่วและหลิวจงกวง
ทั้งสามคนหยุดพร้อมกันล้อมตัวเยี่ยนถูไว้
เยี่ยนถูสังเกตได้ถึงพลังโจมตีที่กำลังมาถึงแต่เขาไม่ชะงักฝีเท้าขณะที่เขาตรงเข้าหาอาเดรียนและแนบมือเขากับร่างกาย
ปัง!
ร่างของเยี่ยนถูกระเบิดรังสีส้มออกมาทันที จากนั้นเขากางแขนทั้งสองเหมือนหมีหิวโหยกำลังล่าเหยื่อของมัน พลังที่ปลดปล่อยออกมามหาศาล
อาเดรียนหรี่ตารังสีแสงดูเหมือนจะถูกปล่อยออกมาจากตาของเขาขณะที่แขนของเขาเคลื่อนไหวในอากาศช้า ราวกับว่ามันถูกปกคลุมด้วยกาวหนาที่ขัดขวางความเคลื่อนไหว
เยี่ยนถูสามารถรู้สึกได้ถึงแรงต้านความเคลื่อนไหวของเขาเพิ่มขึ้นเหมือนกับว่าเขาตกลงไปในทรายดูด
รัศมีแสงสว่างทั่วตัวเยี่ยนถูตามแขนทั้งสองปกคลุมไปด้วยโซ่พลังงานเขาคำรามเหมือนกับหมีหิวโหยพุ่งเข้าสู้วิชาฝ่ามือของอาเดรียน
ปัง!
เกิดรังสีแสงที่ปลดปล่อยออกมาจากการปะทะกัน อาเดรียนสั่นจากแรงปะทะและถูกพลังหนาแน่นดันถอยหลัง
ทั้งอาซิ่วและหลิวจงกวงฝืนใจโจมตีเยี่ยนถูขณะที่เขาคำรามด้วยความเจ็บปวดแค่เยี่ยนถูสั่นร่างเล็กน้อย หลิวจงกวงรู้สึกได้ว่าพลังงานกล้าแข็งพุ่งตรงมาที่เขาและเหวี่ยงร่างของเขาลอย
ขณะที่ตาของเขาฉายแสงเจิดจ้าอาซิ่วแทงวิชาดรรชนีของเขาใส่เยี่ยนถูสร้างริ้วรอยนับไม่ถ้วนบนร่างของเขา
เยี่ยนถูตวาดลั่น “ไสหัวไป!”
อาซิ่วสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บปวดขณะที่พลังของเยี่ยนถูระเบิดเหวี่ยงเขาไปด้านข้าง
ร่างของเยี่ยนถูดูเหมือนจะมีดาวปรากฏจากการโจมตีของอาซิ่ว แผลเหล่านี้เริ่มสดใสขึ้น เยี่ยนถูตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าต้องการเอาชนะข้าด้วยวิชาอ่อนด้อยอย่างนี้หรือ?”
ปังปัง ปัง!
ดาวพวกนั้นกลายเป็นระเบิด ภายในครู่เดียวจุดสว่างบนตัวเยี่ยนถูก็หายไป
สีหน้าอาซิ่วเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เยี่ยนถูแข็งแกร่งมากจริงๆ...
เขาตระหนักได้ว่าแผนการโจมตีจุดตายเยี่ยนถูล้มเหลวพวกเขาประเมินพลังที่แท้จริงของศัตรูต่ำไป!
อาเดรียนยังคงตระหนักถึงปัญหานี้แต่ยังคงรักษาท่าทีสงบ เขายืดตัวตรงจ้องมองศัตรู “พลังของฝ่าบาทเข้มแข็งน่าประทับใจจริงๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เยี่ยนถูระเบิดเสียงหัวเราะ “เป็นความสำเร็จจริงๆเพราะทำให้นายพรานนักล่าทึ่งกับวิชาฝีมือของข้าได้”
“ใช่”อาเดรียนยอมรับความผิดพลาดที่ประเมินเขาต่ำไป “ข้าไม่สามารถเข้าใจปัญหานี้อยู่บ้างทำไมราชันย์หมีถึงได้ส่งหลานชายให้ทำงานอย่างนั้น ตอนนี้ข้ารู้แล้ว เป็นเพราะฝีมือที่เข้มแข็งของฝ่าบาทนั่นเอง ท่านเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสามคนนี้”
“มิน่าเล่าท่านถึงได้รับฉายาว่าพรานนักล่า” เยี่ยนถูหัวเราะ “แม้ว่าท่านสามารถเข้าใจสนามพลังวิญญาณแต่ท่านก็ยังไม่ใช่คู่มือของข้า”
“ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว” อาเดรียนพยักหน้า “ฝ่าบาทรู้ว่าข้าสามารถเข้าใจสนามพลังวิญญาณและยังมั่นใจด้วยว่าจะเอาชนะข้าได้ก็คงมีความเป็นไปได้สองประการ ประการแรกฝ่าบาทรู้จักสนามพลังเซียน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น แม้ว่าท่านอาจจะเข้าใจสนามพลังวิญญาณ ท่านก็ยังห่างจากสนามพลังเซียนอยู่มากอย่างนั้นก็สรุปลงในความเป็นไปได้ประการที่สองซึ่งก็คือท่านใช้สมบัติลับต่อสู้กับเรา”
“นั่นเป็นบทวิเคราะห์ที่ฉลาดจริงๆ ข้าทึ่งมาก” เยี่ยนถูชื่นชมอาเดรียนที่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้แม้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น
“ข้าไม่เคยคาดหวังเช่นนั้นแม้จะเป็นปัญญาของข้า ข้าอาจจบสิ้นชีวิตพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของท่าน ข้าคาดว่านั่นคงเป็นชะตา” อาเดรียนหัวเราะ
“ถ้าท่าน...”เยี่ยนถูยังพูดไม่จบประโยคก่อนอาเดรียนจะพูดแทรกขึ้นมาก่อน
อาเดรียนตอบ“ฝ่าบาทได้โปรดเก็บคำพูดของท่านไว้เถิด ได้รับชื่นชมจากท่าน ข้าก็ไม่มีอะไรเสียใจแม้จะตายใต้เงื้อมมือท่าน”
อาซิ่วจับคางตนเองด้วยความเจ็บปวดขณะที่เลือดหยดลงเป็นทาง
เยี่ยนถูมีสีหน้าเสียดาย “น่าเสียดาย”
ทันใดนั้นมีเสียงดังขัดจังหวะคั่นกลางระหว่างคนทั้งสอง
“เฮ้เฮ้เฮ้ ข้าบอกพวกเจ้าเอาไว้ก่อนคนที่ใหญ่สุดอยู่ตรงนี้ นักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเจ้ากำลังมองหาอยู่ตรงนั้นดูให้ดีๆซะก่อน”
“ข้าผิดหวังพวกเจ้าเหลือเกินทำเรื่องผิดพลาดใหญ่ขนาดนั้นซะได้”