ตอนที่แล้วตอนที่ 417 นักล่าหลังฉาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 419 ไม่พอใจอย่างมาก

ตอนที่ 418 เด็กหนุ่มวอนหาเรื่อง


ดยุคฮั่วฝู่หมันมองดูซีหลิน ตอนแรกเขาคิดว่าจะเอาการปฏิบัติภารกิจของซีหลินไปอวดต่อฝ่าบาทเขาไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าจะจบลงด้วยความสูญเสียมากมาย

ด้วยพลังของนักสู้ระดับทองสี่คนถือว่าได้ว่าเป็นงานง่ายและคงใช้กำลังไม่มากก็คงพิชิตดาวดวงน้อยหรือทำลายเมืองได้ทั้งเมือง

แต่ค่ายบรอนซ์ในกลุ่มดาวนั้นกลับขจัดนักสู้ระดับทองสี่คนหมดสิ้น

เขาน่าจะรู้แล้วว่าด้วยพลังอย่างตวนมู่แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ก็ไม่ควรเป็นเรื่องยากเย็นที่จะหลบหนีกลับมาได้  แต่จนถึงวันนี้แล้วไม่มีข้อมูลอะไรจากเขาเลย

เขาประมาทพลังของเมืองสามวิญญาณเกินไป

ดยุคฮั่วฝู่หมันรู้สึกว่าเขาเองก็ควรมีส่วนถูกตำหนิด้วยซีหลินมองดูหม่นหมองและจนใจเพราะความพ่ายแพ้ล่าสุด การสูญเสียนักสู้ระดับทองสี่คนไม่มีผลอะไรต่อฮั่วฝู่หมัน  แต่สถานะปัจจุบันของซีหลินทำให้เขากังวล

ฮั่วฝู่หมันไม่แสดงอารมณ์อะไรอย่างชัดเจน  เขามองดูซีหลิน “ฮึ, เงยหน้าขึ้นเดี๋ยวนี้”

ซีหลินค่อยๆฝืนใจเงยหน้าขึ้น

ฮั่วฝู่หมันขมวดคิ้วและพูดต่อ“ยืนขึ้น!”

ซีหลินตัวสั่นขณะลุกขึ้นยืนทันที

หัวฝู่หมันหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นขณะที่เขาลุกจากเก้าอี้  “ดูตัวเจ้าสิ, ข้ายังไม่ตาย! เจ้าก็ยังได้รับผลกระทบจากเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เสียแล้ว  นักสู้ระดับทองสี่คนตายไปดังนั้นจึงไม่จำเป็นแล้ว ทุกคนจะต้องตายกันทั้งนั้น แม้ว่าเจ้าจะล้มเหลวในอนาคตก็ไม่ต้องใส่ใจเกินไป จงกลับลุกขึ้นยืนทุกเมื่อที่เจ้าพบกับความล้มเหลว เจ้ามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น  ถ้าเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้  เจ้าก็ไม่สมควรเป็นลูกข้า”

ซีหลินรู้สึกละอายใจตนเอง

“ไปล้างหน้าซะ” ฮั่วฝู่หมันพูดเสียงอ่อนโยนกับเขา

ซีหลินรีบเข้าห้องน้ำและล้างหน้าให้ดูสดชื่นชะล้างความเจ็บปวดในอารมณ์ของเขา

ฮั่วฝู่หมันยื่นกระดาษเช็ดหน้าให้เขา“จงไปรวบรวมคนของเจ้า ฝ่าบาทต้องการให้เจ้าเดินทางลงใต้ มีเรื่องเดือดร้อนบางเรื่องต้องแก้ในหมู่คนพื้นเมือง”

“แล้วเรื่องเมืองสามวิญญาณจะเอายังไง?”  ซีหลินลังเล

“ข้าจะจัดการเรื่องนั้นเอง”  ฮั่วฝู่หมันตบไหล่ซีหลิน “เจ้าควรไปจัดการภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสียก่อน”

เขาไม่ได้บอกซีหลินว่าความล้มเหลวของงานในครั้งนี้อาจทำให้พวกเขาตกต่ำ

กองกำลังนักสู้ขนาดเล็กลาดตระเวณไปทั่วที่ราบแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะนักสู้สามคน

“หลูตี๋ช่างมีจมูกที่ไวนัก”  นักสู้คนกลางหัวเราะคิกคัก

หัวหน้ากลุ่มนักสู้เล็กๆตอบ “สมาพันธ์ชาวยุทธ!”

พวกนักสู้ให้ความสนใจ  “พวกเจ้าทุกคนต้องการสนับสนุนอาเดรียนหรือ? น่าเสียดายข้าเองก็ชื่นชมพรานนักล่าอาเดรียนอยู่เสมอ”

สีหน้าของผู้บัญชาการกองกำลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน  โดยไม่มีใครทันสังเกตวงแหวนที่สวมอยู่บนตัวนักสู้คนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังเขาพลันเปล่งลำแสงออกมาทันที

เมืองอันโดรเมดา

ขณะที่วงแหวนของบริวารของอาเดรียนเปล่งแสงสว่างวาบ  เสียงที่ไม่รู้จักก็ดังโพล่งออกมา  “พวกเจ้าต้องการสนับสนุนอาเดรียนหรือ?  น่าเสียดาย ข้าก็ชื่นชมพรานนักล่าอยู่เสมอ”

ทั้งสามคนหน้าซีด

“ไปกันเถอะ!”  อาเดรียนพูดโดยไม่ลังเล

“ไปไหน?” หลิวจงกวงถาม

“ไปหาถังเทียน” อาเดรียนตอบเสียงอ่อนโยน

“ไปหาถังเทียน? ทำไมล่ะ?”หลิวจงกวงไม่สามารถเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาจำเป็นต้องทำเช่นนั้น  อาซิ่วรู้ว่าอาจารย์กำลังจะทำอะไร

เยี่ยนถูได้ยินรายงานของอูเซี่ยเขายิ้มที่มุมปาก “อา, อาเดรียนจะไปพบถังเทียน?”

“ถูกแล้ว ฝ่าบาท” อูเซี่ยตอบด้วยความเคารพ

“ก็ดีเหมือนกันช่วยให้เราประหยัดเวลาเดินทาง” เยี่ยนถูตอบขณะที่เขามีแววอำมหิตอยู่เต็มหน้า  “พาคนของเจ้าไปคร่ากุมแอนเดรียนา  ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหม?”

อูเซี่ยตอบ  “ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

“ไปกันเถอะข้าเสียเวลาเรื่องนี้มานานเกินไปแล้ว” เยี่ยนถูบอกนักสู้ชาวดาวหมีใหญ่ที่อยู่ข้างตัวเขา

******

ในคฤหาสน์ที่ถังเทียนพักอาศัย

อาเดรียนไม่พยายามปิดบังข้อมูลใดๆ  เขารายงานสิ่งที่เขารู้ทั้งหมดซ้ำอีกครา

อาเฮ่อพึมพำเงียบๆขณะที่ถังเทียนประหลาดใจ “หวา! เจ้านั่นมีลวดลายเจ้าเล่ห์นัก!”

หลิงซิ่วกำลังรู้สึกเบื่อมากจนต้องวิ่งออกไปหามุมฝึกวิชาหอกของเขา

อาซิ่วรู้สึกแปลกๆหลิงซิ่วคล้ายกับที่เขาเล่าลือ เขามีอารมณ์ร้อนและบ้าระห่ำ  แต่ไม่เข้าใจคนอย่างถังเทียน

คนอย่างเขาเป็นผู้นำคนได้อย่างไร?

อาเดรียนใจเย็นขณะที่เขายืนสงบเงียบหลังจากพูดจบ

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

เสียงหัวเราะดังลอยมาจากด้านนอกประตูไม้ห้องโถง  เงาร่างสามร่างค่อยๆ ปรากฏตัวในคฤหาสน์ เยี่ยนถูมีรอยยิ้มหยิ่งภูมิใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา “ข้าได้ยินเรื่องราวความแข็งแกร่งของเจ้ามามากมายนักแล้ว ถังเทียนข้าไม่คาดว่าเจ้าจะเป็นเช่นนั้นแน่นอน น่าผิดหวังนัก”

ถังเทียนถามด้วยความสงสัย“เฮ้, เจ้าเป็นใครกัน?”

อาเฮ่อเอามือก่ายหน้าผาก  นี่คือปัญหาสำคัญของถังเทียนที่ทำให้เขารู้สึกขายหน้าทั้งที่พวกเขาเพิ่งคุยเรื่องของเยี่ยนถูไปแล้วแท้ๆ...

หลิงซิ่วหยุดฝึกและเดินเข้ามาอยู่ข้างตัวถังเทียนดูท่าทีแล้วเหมือนกับว่าวันนี้จะมีการเปิดศึกใหญ่เป็นแน่

เยี่ยนถูไม่สนใจถังเทียนและหันหน้าไปสนใจอาเดรียน  “นายพรานนักล่า ข้านับถือท่านมาตลอดถ้าท่านใช้พลังของท่านเพื่อกลุ่มดาวหมีใหญ่ เราจะช่วยส่งเสริมความปรารถนาใดๆ ของท่านก็ได้ที่มีอยู่”

อาเดรียนยิ้ม“ขอบคุณฝ่าบาทที่แสดงน้ำใจ  นับว่าเป็นเกียรติที่ได้รับความชื่นชมจากท่าน  แต่ข้ามีความมั่งคั่งทั้งหมดที่ต้องการอยู่แล้วไม่มีอะไรที่ข้าต้องการมากไปกว่านี้อีกแล้ว”

เยี่ยนถูไม่ประหลาดใจและตอบ“ท่านพรานนักล่า ท่านน่าจะไตร่ตรองให้ดีก่อน ท่านไม่คิดจะรับศิษย์ชนชั้นสูงบ้างหรือ?”

หลิวจงกวงโกรธ  “อย่ามัวเสียเวลาเจ้าอยู่ที่นี่เลยอยู่ใต้อาณัติเจ้าน่ะหรือ?  เจ้าต้องมีหนังที่หนาแน่ถึงได้กล้าขออะไรอย่างนี้!”

เยี่ยนถูส่ายหัวและรู้สึกเสียดายที่ถูกตอบรับแบบนี้  “เนื่องจากเจ้าไม่ยินดีจะรับใช้ข้าข้าก็เสียใจที่จะบอกว่าวันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้า”

“เฮ้ เฮ้ เฮ้, นี่มันถิ่นของข้าไม่ใช่หรือ?”  ถังเทียนพบว่าเขาถูกกีดกันออกจากการสนทนาขณะที่เขาพยายามอย่างดีที่จะแสดงให้เห็นความคงอยู่ของเขา

หนุ่มชาวฟ้าจะถูกละเลยได้ยังไง

นักสู้ดาวหมีใหญ่ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆเยี่ยนถูลืมตากว้าง เนื่องจากพวกเขาปลดปล่อยรังสีพลังกล้าแข็งอยู่รอบตัวทุกคนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่น่าประหลาดของพวกเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปทุกมุมห้องอากาศเย็นลงและมีความตึงเครียดสูง

แครกแครก แครก

นักสู้ที่กำลังจะโจมตีปล่อยเสียงกู่ร้อง

รอยแตกเล็กๆเริ่มปรากฏบนพื้นเหมือนกับใยแมงมุม

สีหน้าของอาซิ่วและหลิวจงกวงเปลี่ยนนี่คือพลังของนักสู้จากกลุ่มดาวหมีใหญ่หรือนี่?

การได้รับเลือกโดยเจ้าปกครองกลุ่มดาวเองเช่นนี้พวกเขาต้องเป็นนักสู้ระดับสูงในกลุ่มดาวนั้นเป็นแน่  ในกลุ่มดาวหมีใหญ่มีอยู่เจ็ดคนที่รู้จักกันในนามว่าองครักษ์พญาหมี แม้ว่าพวกเขายังไม่ได้โจมตีใดๆ แต่รัศมีพลังของพวกเขาแปลกประหลาดจริงๆ พลังงานที่แผ่ออกมาจากนักสู้ทั้งสองนั้นเหมือนกับรัศมีสองสาย  ดูเยือกเย็นแต่ทำให้ถังเทียนและพวกปั่นป่วน

อาเฮ่อลุกขึ้นยืนขณะที่ชุดดำยาวของเขาสะบัดเป็นคลื่นในอากาศเขายังวางตัวสงบต่อทุกคน “การกระทำของทุกคนที่นี่ถือว่าไม่ให้เกียรติกันแน่นอน”

“อะไรนะ?” ถังเทียนกระโดดเต้นด้วยความประหลาดใจและพูดต่อ “เฮ้, อาเฮ่อการกระทำของคนพวกนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติเฉพาะมุมมองของเจ้าคนเดียวเหรอ?”

อาเฮ่อ“....”

ข้าแค่พูดอย่างสุภาพ...

ถังเทียนทำสีหน้าดุร้ายและดูแย่ยิ่งกว่าแต่ก่อนขณะที่เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตะโกน “พวกเจ้ากล้าดียังไงมาเอะอะโวยวายในถิ่นของข้า!  พี่น้อง, เล่นงานพวกมันเลย!”

อาเฮ่อยืนอยู่เงียบๆขณะที่เขาเตรียมหันหน้าจากไป เห็นได้ชัดว่ายังไม่มีกลยุทธที่เขาคิดในใจจนต้องรีบร้อนบุ่มบ่าม  ถ้าเจ้ายังไม่รู้วิธีจัดการความขัดแย้ง  ทำไมถึงไม่ปล่อยให้ข้ารับมือ?

มีเสียงโห่ร้องดังขึ้น!

เงาร่างสีเงินสายหนึ่งพุ่งผ่านสายตาอาเฮ่อไป หลิงซิ่วผู้ไม่มีความอดกลั้นหิวกระหายการต่อสู้พุ่งเข้าใส่บุรุษทั้งสามเหมือนกับธนูแหลมคมพร้อมกับใช้หอกของเขาเบิกทาง

หลิวจงกวงมองดูด้วยความมึนงงและจากนั้นก็เป็นอาซิ่วและอาเดรียน

เจ้านี่บ้าไปแล้วหรือ?

เขาอยากตายหรือ?

พวกนั้น..คือองครักษ์พญาหมี!

หลิงซิ่วผู้บ้าระห่ำกระโจนขึ้นในอากาศและพุ่งเข้าใส่คนทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นกับการต่อสู้ที่จะมาถึง  มันครอบงำความรู้สึกของเขาจนเมินเฉยต่อความกลัว ในที่สุดเขาก็ได้ปลดปล่อยความปรารถนาต้องการต่อสู้ได้เสียที

เสียงกระพรวนจากหอกของหลิงซิ่วดังผ่านไปทั้งห้อง

อากาศเย็นแผ่ไปรอบห้อง  ขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นจากการโจมตีของหลิงซิ่ว

นักสู้สองคนที่อยู่ข้างเยี่ยนถูจ้องมองหลิงซิ่วที่โจมตีเข้ามา มีคนกล้าเผชิญหน้าพวกเขาโดยตรงและทำยโสโอหังต่อหน้าพวกเขาตั้งแต่เมื่อใด?

หนึ่งต่อสามครั้งสุดท้ายพวกเขาเคยเห็นความบุ่มบ่ามอย่างนี้เมื่อไหร?

ดูถูกกันชัดๆ

การกระทำของฝ่ายตรงข้ามเป็นการดูถูกองครักษ์พญาหมี

แต่บุรุษทั้งสามคนดูเหมือนตกอยู่ภายใต้ดินแดนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวอยู่รอบตัวพวกเขา

ทุกคนประหลาดใจกับวิชาของหลิงซิ่ว

อะไรกัน  นั่นมันวิชาหอกอะไรกัน?

สององครักษ์พญาหมีตอบโต้พร้อมกัน

ยอดฝีมือทางซ้ายมือของเยี่ยนถูมีชื่อว่าหรงโหรว  สีหน้าของเขาเข้มงวดรังสีวงกลมพุ่งออกจากนิ้วข้างหนึ่งของเขาพุ่งตรงไปที่กลุ่มดาวที่ลอยเข้าหาพวกเขา

นักสู้อีกคนหนึ่งนามว่าเจี่ยนฟงหยวน  เขาคำราม ดาบหัวปีศาจปรากฏอยู่ในมือของเขาขณะที่เขาฟันดาบสกัดการโจมตีของหลิงซิ่ว

ติงติง ติง!

พลังโจมตีที่หนักแน่นและแหลมคมปะทะกันเกิดเสียงดังกึกก้องในท่ามกลางการต่อสู้

หลิงซิ่วถอยด้วยความเร็วยิ่งกว่าตอนเข้าโจมตีและกระแทกเข้าไปในผนังจนพังทลาย

นั่นธรรมดา..

อาซิ่วและหลิวจงกวงทั้งสองคนถอนหายใจโล่งอก  พวกเขาทั้งสองคิดเหมือนกัน  สองคนนี้ต้องเป็นองครักษ์พญาหมีแน่นอน  พฤติกรรมของหลิงซิ่ววู่วามเกินไป

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ทันใดนั้นเสียงหัวเราะน่ากลัวดังขึ้นจากใต้กองอิฐที่หักพัง กองอิฐระเบิดออกมาทันทีขณะที่หินปลิวไปทั่วบริเวณ  หลิงซิ่วจับหอกเงินและเดินออกมาจากกองอิฐ

ที่มุมปากของหลิงซิ่วมีรอยเลือดไหลออกมาเหมือนกับงูกำลังเลื้อย  แทนที่จะรู้สึกหมดหวังหรือท้อแท้เขากลับรู้สึกกระตือรือร้นสู้ต่อไป

“รู้สึกดีเป็นบ้า”

เขาชี้หอกมาที่คนทั้งสามและประกาศ  “เอาอีก!”

ทั้งอาซิ่วและหลิวจงกวงกังวลห่วงใยหลิงซิ่ว  ขณะที่พวกเขาจ้องมองอย่างมึนงง

สามารถต้านรับการโจมตีจากนักรบพญาหมีได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บหนักถือว่ามีความสำเร็จแล้ว  และในตอนนี้เขายังคงขอสู้ต่อ...

เจ้าผู้นี้เขาต้องบ้าไปแล้ว

ขณะที่อาเดรียนยังสงบเหมือนเคยและมองดูหลิงซิ่ว เขาตระหนักได้ดีว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์อันตราย

หอกนั่น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด