ตอนที่ 415 - ฉวยโอกาสขณะศัตรูล้ม
ทันทีที่เย่ว์หยางออกมาจากถ้ำมังกรปีศาจและข้อจำกัดต่างๆ ถูกยกเลิก เขากลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ทันที
แต่เดิม เขาต้องการเรียกสาวกิเลนออกมาดุว่านาง เขาโดนเล่นงานจนเกือบตายอยู่แล้ว แต่สาวน้อยนี่ยืนดูอยู่เฉยๆ ไม่มีความเห็นใจใดๆ เลย อย่าว่าแต่กฎเล็กน้อยอย่างนั้นเลย อสูรวิเศษที่สง่างามอย่างนางยังสามารถอาละวาดในแดนสวรรค์ได้ ยิ่งกว่านั้น ถ้านางไม่สามารถออกมาได้ อย่างน้อยนางก็สามารถบอกบางอย่างได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึง เขาเห็นสาวกิเลนยืนอยู่ต่อหน้าเขาเหมือนดอกไม้ขาวดอกเล็กๆ
ลักษณะร่าเริงมีชีวิตชีวาของนางดูไม่เหมาะสมเลย
“แม่สาวน้อย, เมื่อข้าโกรธ ผลที่ตามมาจะรุนแรงมากนะ!” เย่ว์หยางพูดกับสาวกิเลนทที่พยายามเอาใจเขาด้วยการช่วยประคองเขาเดิน
“เดิมทีข้าต้องการจะออกไปช่วยท่าน อย่างไรก็ตาม พี่น้องหงส์เพลิงไม่ยอมให้ข้าออกไป บางทีพวกเธอรู้สึกว่าเป็นโอกาสดีที่ให้ท่านได้ฝึกฝน ยิ่งกว่านั้น ท่านยังปลอดภัยดีไม่ใช่หรือ ช่างเถอะ ว่าแต่ผิวของเจ้าโดนปาดจะเกลี้ยงอยู่แล้ว! อย่าโกรธนักเลย ข้าห่วงเจ้านะ ข้าก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเจ้าบาดเจ็บ มาเถอะ, ขอข้าดูหน่อย!” มือน้อยๆ ของสาวกิเลนกดลงที่หน้าผากของเสี่ยวเหวินหลี แสงหลากสีสันกระจายออกเหมือนรุ้งสวยงาม เสี่ยวเหวินหลีที่แขนได้รับบาดเจ็บอาบอยู่ในแสงรุ้ง อาการบาดเจ็บของเธอเริ่มสมานตัวในพริบตา ใบหน้าซีดขาวของเธอก็ค่อยดูมีชีวิตชีวาและมีเลือดฝาดอีกครั้ง
“แหะแหะ!” ทันทีที่อาการบาดเจ็บของเสี่ยวเหวินหลีหาย ดวงตาที่มีความสุขของเธอค่อยสว่างสดใสเหมือนพระจันทร์
ชีวิตของเธอเชื่อมโยงกับเย่ว์หยาง พวกเขาแบ่งปันทุกอย่างร่วมกัน
ทันทีที่เย่ว์หยางได้รับบาดเจ็บ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดด้วย
ด้วยเหตุผลเดียวกัน เมื่อสาวกิเลนรักษาให้เสี่ยวเหวินหลี เย่ว์หยางก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดในร่างของเขาค่อยทุเลาขึ้นบ้าง
บนหลังของเขา แม้แต่เปลวเพลิงภูตผีที่ลุกไหม้ก็ไหม้ช้ากว่าแต่ก่อนมาก มันยังคงไหม้อยู่บนหลังของเย่ว์หยางไม่ยอมมอดดับ เขาทำได้เพียงปล่อยมันไว้ก่อนขณะที่เขายังไม่มีพลังแยกมันออกไป ปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางเหือดแห้งและเขาต้องใช้เปลวเพลิงอมฤตชำระอาการบาดเจ็บภายในที่รุนแรง
เพลิงบัวแดงของสนมชื่อเฟยก็เหมือนกัน ถ้าร่างของเย่ว์หยางไม่ได้รับการขัดเกลาจากเพลิงอมฤตมาหลายครั้งหลายครา เขาคงถูกเผาเหลือแต่เถ้าถ่านไปแล้ว
เพลิงบัวแดงที่อยู่หลังคอของเขาเหมือนกับเพิ่มน้ำหนักให้เขาห้าสิบกิโลกรัม ขณะที่เขาต้องทนอาการเจ็บปวดรุนแรง
ถ้าเย่ว์หยางไม่สามารถทนได้ เขาจะสามารถหลบหนีได้อย่างไร?
พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดที่ทำร้ายเย่ว์หยางบาดเจ็บหนักที่สุดก็คือพลังห้าเปลี่ยนแปลงของซุ่นเทียน พลังโจมตีของซุ่นเทียนยังเหนือกว่าและทำร้ายเย่ว์หยางได้มากกว่าพลังโจมตีของจักรพรรดิชื่อตี้ อย่าว่าแต่ตอนนั้น จักรพรรดิชื่อตี้ยังพะวงอยู่กับผนึกเทพจักรพรรดิอวี้
เย่ว์หยางได้รับบาดเจ็บหนักหนาสาหัส….
อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าสาวกิเลน อาการบาดเจ็บเหล่านั้นเป็นงานที่ง่ายมาก
“เพลิงบัวแดงนี่ไม่เลวเลยนะ และสำหรับเพลิงภูตผีนี้ เจ้าต้องการมันไว้หรือเปล่า? ถ้าเจ้าไม่ต้องการ อย่างนั้นข้าจะได้ดับมัน” มือขาวนุ่มของสาวกิเลนจับอยู่ที่หลังคอของเย่ว์หยาง เหมือนกับเป็นเด็กหญิงซุกซนที่กำลังจับแมลงปอแดงเล่น เพลิงบัวแดงที่ผู้คนหวาดกลัวต่ออุณหภูมิของมันกลายเป็นเหมือนดอกบัวแดงที่นุ่มสวยงามอยู่ในมือของนาง
ในทันใดนั้น เพลิงบัวแดงก็ถูกนางกลั่นจนเหลือแต่เพลิงที่บริสุทธิ์
มันสดใสมากและดูมีชีวิตชีวา
ยังต่างจากดอกบัวจริงๆ มันสร้างขึ้นจากไฟและมันมีแก่นธาตุวิญญาณ
สาวกิเลนแบมือนางและดอกบัวแดงจึงลอยอยู่กลางอากาศ มันไหลไปตามแสงรุ้งจากร่างของนางและหมุนช้าๆ ไม่มีอะไรที่สวยงามมากกว่านี้ ไม่มีใครสามารถนึกภาพออกว่าเจ้าสิ่งนี้มาจากเพลิงที่น่ากลัวสามารถฆ่าคนได้ สำหรับเพลิงภูตผี เย่ว์หยางรีบบอกนางให้ปล่อยมัน คงสนุกแน่ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะใช้เพิ่มพลังของดาบวิเศษฮุยจิน เขาจะไปหามันมาได้จากไหน? ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางต้องการปรับแต่งเพลิงภูตผี เขาคงใช้เพลิงอมฤตชำระมันไปก่อนหน้านั้นแล้ว
เย่ว์หยางฝืนสังขารตัวเองเกินไป และดูเหมือนเขาไม่สามารถทนต่อเพลิงภูตผีได้ แต่มันไม่มีผลต่อสาวกิเลน
นางหยิบมันเบาๆ และเอามาไว้ในมือจากนั้นค่อยเป่ามัน
แสงสว่างของพลังงานเปล่งประกายวาบ
ในมือน้อยๆ ของนางมีลำแสงหลากสีสันลุกโชนและกลิ่นหอมของมันแผ่กระจายไปทั่ว เย่ว์หยางเสียเลือดมากและได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่ภายใต้แสงนี้ ใจของเขากลับสะอาดและร่างกายผ่อนคลาย
เพลิงภูตผีถูกสาวกิเลนกลั่น จนกลายเป็นโครงกระดูกเล็กที่มีเพลิงเขียวลุกอยู่ในตาของมัน ขนาดของมันประมาณขนาดกำปั้นของทารก เห็นแบบนี้ เย่ว์หยางรีบคว้าทันทีและรีบเก็บไว้ในห้องเก็บของแพลตตินัมของเขา สิ่งนี้สำคัญมากในการยกระดับดาบฮุยจิน ธรรมดาในตอนนี้ เขายังไม่สามารถใช้มันได้ แต่เมื่อมันเข้ากันได้กับดาบฮุยจินได้สักวัน พลังของดาบฮุยจินจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
สาวกิเลนทำหน้ามุ่ยและเหลือกนัยน์ตา เป็นทำนองว่า “ใครเค้าจะทะเลาะแย่งมันไปจากเจ้าเล่า?”
นางพญากระหายเลือด, นางพญาดอกหนามมงกุฎทอง, โคเงากำลังมองดูอยู่ด้านข้างและไม่กล้ามาอยู่ด้านหน้า พวกนางกลัวว่าจะรบกวนสาวกิเลนที่กำลังรักษาเจ้านายของพวกนาง
อย่าว่าแต่พวกนางเลย แม้แต่หญิงงามอู๋เหินที่ใช้ดอกหอมนิทราทำให้เย่ว์ซวงหลับ ก็รออย่างกังวลห่วงใยเช่นกัน
ถ้าเย่ว์หวี่อยู่ที่นี่ด้วย อย่างนั้นนางจะช่วยได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสาวกิเลนอยู่ที่นี่ นางเชื่อว่าเย่ว์หยางจะไม่มีปัญหาอะไรในที่สุด พอเห็นร่างของเย่ว์หยางพรุนไปด้วยบาดแผลบาดเจ็บ นางรู้สึกเจ็บปวดมาก
“ยังดีที่เจ้าแขนขาไม่หัก ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องเปลืองพลังงานอีกมากเพื่อช่วยให้เจ้าฟื้นฟู!” นอกจากรักษาอาการบาดเจ็บให้เย่ว์หยางแล้ว สาวกิเลนยังปลอบคนอื่นอย่างนุ่มนวลด้วย ขณะที่นางพูดอยู่นี้ นางทาบมือลงที่ร่างของเย่ว์หยาง พลังงานบริสุทธิ์ไหลเข้าร่างของเย่ว์หยางอย่างต่อเนื่องและเติมพลังปราณก่อกำเนิดที่เหือดแห้งให้เต็มอยู่ในจุดเก็บพลังในกลางท้อง
“….” พอเห็นเย่ว์หยางฝืนยิ้มให้ แสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร นัยน์ตาของสาวงามอู่เหินแดงระเรื่อน้ำตาแทบไหล แต่รีบปาดออกไปเสียก่อน นางพยักหน้าอย่างเข้มแข็งบอกเย่ว์หยางว่านางไม่กังวลแล้ว นางหวังว่าหัวใจของเขาคงไม่มีภาระใดๆ ต้องเป็นห่วง
แสงในมือของสาวกิเลนแผ่ขยายใหญ่ขึ้นจนคลุมตัวเย่ว์หยางทั้งหมด
เย่ว์หยางสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าของเขาว่าอาการบาดเจ็บของเขาได้รับการบำบัดอย่างรวดเร็ว
อาการบาดเจ็บต่างๆ ในร่างกายของเย่ว์หยางอย่างเช่น หัวใจ อก มือ ขาและส่วนอื่นๆ ของเขาฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวใจของเขาที่ถูกทำร้ายด้วยพลังห้าเปลี่ยนแปลงของซุ่นเทียนถึงสองครา ครั้งหนึ่งเป็นพลังมังกรคชสาร และอีกครั้งหนึ่งเป็นพลังพายุสายฟ้า โชคดีที่เย่ว์หยางแทบจะมีร่างที่ใครฆ่าก็ไม่ตาย ร่างของเขาถูกเพลิงอมฤตชำระมาหลายครั้งหลายคราและนอกจากนี้ชีวิตของเขายังเชื่อมโยงกับเสี่ยวเหวินหลี เย่ว์หยางไม่กังวลกับการถูกซุ่นเทียนฆ่าตายทันที แต่เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าเขาจะบาดเจ็บหนักแค่ไหน ถ้าสาวกิเลนไม่อยู่ที่นี่ เย่ว์หยางก็ต้องใช้ปราณก่อกำเนิดฟื้นฟูตัวเองและอาจต้องใช้เวลาสิบวันเพื่อให้อาการดีขึ้น
เพื่อให้ฟื้นฟูร่างกายและความแข็งแรงเต็มร้อย สิบวันบางทีคงไม่พอ
อย่างไรก็ตาม สาวกิเลนเป็นหมอเทวดาผู้เชี่ยวชาญ การรักษาของนางใช้เวลาไม่เกินสิบนาที อาการบาดเจ็บปางตายของเย่ว์หยางก็ฟื้นฟูถึงแปดสิบเปอร์เซนต์
อาการบาดเจ็บภายนอกของเขารักษาได้รวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บภายในรักษาได้ช้า และบางทีจำเป็นต้องใช้ปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางเพื่อฟื้นฟูต่อไป
พอเห็นว่าสาวกิเลนมีมือมหัศจรรย์คู่หนึ่ง หญิงงามอู๋เหินปลาบปลื้มจนร้องออกมา
มือน้อยๆ ของนางทาบปิดปากและนางเม้มริมฝีปากเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นดังออกมา ทันทีที่อาการบาดเจ็บได้รับการบำบัดเสร็จ นางก็พุ่งเข้ามากอดเย่ว์หยางทันที แม้แต่อาหง, ตั่วตั่วและอาหมันต่างก็รุมล้อมจูบแก้มเย่ว์หยางด้วยความดีใจ และเมื่อเย่ว์หยางกอดพวกนางคืนจูบพวกนางคืน พวกนางก็จูบตอบอย่างมีความสุข
ภูตเพลิงปฐพีมองดูอยู่ไกลๆ ด้วยสภาพร่างกายที่เป็นธาตุไฟล้วนๆ นางไม่อาจเข้าใจความคิดของสิ่งมีชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บ
สาวกิเลนชูมืออย่างมั่นใจและอ้าแขนมาทางเสี่ยวเหวินหลี
แสดงว่าอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเหล่านี้ได้รับการรักษาเยียวยาด้วยฝีมือนาง
เสี่ยวเหวินหลีมีความสุข
เธอโผร่างจากตัวเย่ว์หยางเข้าอ้อมกอดสาวกิเลน แล้วจูบสาวกิเลนเหมือนที่เพิ่งจูบเย่ว์หยาง
“ข้าไม่ชอบเด็กหรอกนะ..!” แม้ว่าสาวกิเลนจะแกล้งทำเป็นไม่แยแส แต่ก็เห็นได้ชัดว่านางชอบใกล้ชิดกับเสี่ยวเหวินหลี
หลังจากรักษาตัวเสร็จแล้ว เย่ว์หยางฟื้นฟูพลังต่อสู้ทั้งหมด
มีสาวกิเลนอยู่ที่นี่ด้วย ชีวิตของเขาคงไม่ถูกคุกคาม การต่อสู้ครั้งก่อนนับได้ว่าเป็นความทุกข์ทรมาน
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของเย่ว์หยางจากการจู่โจมแบบฆ่าตัวตาย ทำให้เขาอดทนได้เกินพิกัด เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญไม่มีอะไรเทียบ และการฝืนใช้พลังผ่านความเจ็บปวดจะเป็นประสบการณ์ทำให้เขาเติบโตกล้าแกร่งอย่างไม่มีขีดจำกัดต่อไป หลังจากประสบการณ์ชีวิตครั้งนี้และการสู้ตายกับจักรพรรดิชื่อตี้ เย่ว์หยางมีความมั่นใจในตนเองเพียงพอแล้ว ในการต่อสู้คราหนึ่งนี้ ทำให้เขาได้ก้าวสู่พื้นฐานที่จะพัฒนาให้เป็นนักสู้สุดยอดปราณก่อกำเนิด เผชิญหน้ากับนักสู้สามคนผู้มีพลังมากกว่าเขา และเผชิญหน้ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้น่ากลัวอายุหกพันปี เย่ว์หยางไม่มีความกลัวแต่อย่างใด เขาฉวยประโยชน์ได้ทุกๆ สถานการณ์ ทุกๆ ความรู้และการโจมตีเพื่อทำร้ายคู่ต่อสู้ของเขาให้บาดเจ็บหนัก
แม้ว่าเขาได้หลบหนีเนื่องจากอาการบาดเจ็บของเขา แต่ในความเป็นจริง เขาเป็นผู้ชนะในวันนี้
รางวัลของเย่ว์หยางจากชัยชนะนี้ไม่ใช่สมบัติ ไม่ใช่แขนโชกเลือดของจักรพรรดิชื่อตี้ แต่เป็นความมั่นใจ ความกล้าหาญและอานุภาพจิต
ยังมีเวลาในอนาคต!
“อย่าเพิ่งย่ามใจเกินไป, จักรพรรดิชื่อตี้ยังถูกผนึกไม่สำเร็จ” สาวกิเลนเผยความลับ
“อะไรนะ? เป็นไปไม่ได้!” เย่ว์หยางถึงกับเหงื่อโชก
เขาเห็นด้วยตาตนเองว่าจักรพรรดิชื่อตี้บาดเจ็บหนักและถูกลากลงไปในผนึกอักษรรูนโบราณ เดิมทีเขาคิดว่าอย่างน้อยเขาจะผนึกได้สองสามปีและยิ่งนึกไม่ถึงว่าการโจมตีอย่างรุนแรงของเขาจะล้มเหลว
เป็นไปได้ไหมว่าซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำมีสมบัติที่ใช้ช่วยจักรพรรดิชื่อตี้ได้?
หรือจะเป็นพลังร้องเรียกของสนมชื่อเฟยนั้นที่น่าทึ่งจึงสามารถเรียกจักรพรรดิชื่อตี้กลับมาได้อีกครั้ง? แต่แน่นอนว่าจักรพรรดิชื่อตี้ได้รับบาดเจ็บหนักหลังจากโดนทำร้ายจากวงจักรล้างโลก, เพลิงอมฤตและปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ จากนั้นยังถูกพลังของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้เล่นงานทำให้กะโหลกศีรษะแตกและแขนขาดข้างหนึ่ง และเขายังคงหลบออกมาจากผนึกโบราณอีกครั้งได้อย่างไร?
ถ้ำมังกรปีศาจ
นักผจญภัยทั้งหมดจากไปแล้ว
ซุ่นเทียน, องค์ชายเงาดำและบริวารของเขา มังกรดำเพลิงนรกและกองกำลังนักล่ามังกรก็จากไปเช่นกัน
สลาตันแสดงความเคารพต่อศพอดีตสหายเก่า พอเห็นว่าจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยยังคงกอดจูบกันอยู่โดยไม่มีความตั้งใจจะฆ่าเขา เขาก็รีบจากไปทันที
ภายในถ้ำมังกรปีศาจที่พลังทลายมีเพียงแต่จักรพรรดิชื่อตี้ผู้สูญเสียแขนขวาและสนมชื่อเฟยเหลืออยู่
พอห่างจากทุกคนแล้ว จักรพรรดิชื่อตี้ก็ล้มลงกับพื้นดังตุ้บทันที
เลือดไหลออกจากปากเขาไม่หยุด
เขายังคงฝืนตัว ถ้าไม่ใช่เพื่อไล่ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำและกองกำลังของเขาที่ยังอยู่ เขาคงทรุดตัวล้มลงไปแล้ว หลังจากเย่ว์หยางโจมตีถึงสามครั้ง จักรพรรดิชื่อตี้รู้สึกเหนื่อยเป็นที่สุด ถ้าเจ้าผู้เยาว์นั้นแข็งแกร่งกว่านั้นอีกเล็กน้อย อย่างนั้นก็คงอันตรายจริงๆ โชคดีที่ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำไม่มีความกล้าร่วมมือโจมตีสนมชื่อเฟย ไม่ใช่เพราะพลังของพวกเขาอ่อนแอ แต่เพราะความหวาดระแวงนั่นเอง ในที่สุดพวกเขาจึงช่วยให้จักรพรรดิชื่อตี้ได้หลุดพ้นจากกับดัก
เรารีบไปจากที่นี่เร็วๆ และหาสถานที่อื่นพักฟื้น ถ้านักสู้ปราณก่อกำเนิดฝีมือดีปรากฏตัว เราจะต้องระมัดระวังตัวจริงๆแล้ว” จักรพรรดิชื่อตี้ไอเล็กน้อย ภายใต้การประคองของสนมชื่อเฟย เขาลุกขึ้นยืนด้วยความเจ็บปวด
“มือของท่าน…” ชื่อเฟยร้อง
“ไม่มีปัญหา หลังจากใช้วิชาลับและผลึกสวรรค์ มันจะงอกกลับมาใหม่ได้” จักรพรรดิชื่อตี้ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ความภูมิใจในฐานะจักรพรรดิยังคงอยู่ “นี่เป็นบทเรียน และยังคงเตือนให้ข้าต้องพิชิตโลกมนุษย์ที่ต่ำต้อย มันจะเตือนให้ข้าไม่ประมาทอีกเลย ยอดรักของข้า อย่าห่วงไปเลย ข้าจะไม่ปล่อยให้มีจักรพรรดิอวี้อีกคนโผล่มาแน่ เจ้าเด็กนั่นฝีมือไม่เลว แต่ตอนนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาเติบโตเหมือนอย่างจักรพรรดิอวี้และกลายเป็นดาวข่มของข้าแน่”
“สำหรับวิธีที่จักรพรรดิอวี้สร้างความแข็งแกร่งได้ยังไง ข้ายังไม่แน่ใจชัดนัก อย่างไรก็ตาม ข้าต้องการบอกท่านว่าข้าแตกต่างจากเขา” เย่ว์หยางโผล่ออกมาในชั่วพริบตา นัยน์ตาเขายังคงมีประกายเย้ยหยัน
“อาการบาดเจ็บของเจ้าหายแล้วหรือ?” เมื่อจักรพรรดิชื่อตี้เห็นเช่นนี้เขาถึงกับตกใจ
“มีภาษิตที่ว่า”ฉวยโอกาสขณะศัตรูล้ม“ถ้าเป็นจักรพรรดิอวี้ เขาคงไม่โจมตีคนที่บาดเจ็บหนัก ที่สำคัญ เขามีเกียรติและมีความภูมิใจในฐานะเป็นจักรพรรดิ แต่ข้าแตกต่างจากเขา ข้าเป็นแค่ตัวแสบ คำว่าไอ้ตัวร้ายเป็นชื่อเล่นของข้า ไอ้หน้าด้านคือชื่อจริงของข้า ดังนั้นข้าเสียใจกับท่านผู้อาวุโสที่อยู่มานานหกพันปี ข้าขออัญเชิญท่านลงสุสาน”
รังสีฆ่าฟันของเขาระเบิดออกมาทันที
การโจมตีครั้งที่สองเริ่มแล้ว