ตอนที่ 414 - แค้นลึก เก้าชั่วโคตร
ผนึกเทพจักรพรรดิอวี้เคยใช้ผนึกจิ่วเซียวมาก่อน และเป็นหนึ่งในสามของวิเศษที่มีจิตตานุภาพของจักรพรรดิอวี้หลงเหลืออยู่
ทันทีที่มันส่องประกาย จักรพรรดิชื่อตี้ถึงกับถอดสีหน้า
ร่างของเขาสั่นเทิ้ม
เขายกมือขวาที่กำลังผลักวงเวทอักษรรูนโบราณสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม และใช้พลังทั้งหมดยกขึ้นเพื่อหลบหลีกพลังกระแทกจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ แม้ว่าผนึกเทพจักรพรรดิอวี้จะดูเห็นว่ามีขนาดเล็ก แต่มันก็หนักพอๆ กับภูเขาทั้งลูก ทำให้มือและกระดูกสันหลังของจักรพรรดิชื่อตี้ส่งเสียงลั่นจากน้ำหนักที่บดทับ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือภาพของจักรพรรดิอวี้ที่เกิดจากพลังและปณิธานของจักรพรรดิอวี้ปรากฏอยู่ในอากาศและมันปล่อยหมัดสีทองสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ใส่จักรพรรดิชื่อตี้สร้างแรงกดดันที่หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ต่อให้ไม่มีวงเวทผนึกโบราณ แค่เพียงผนึกเทพจักรพรรดิอวี้อย่างเดียวก็พอจะสั่งสอนให้บทเรียนจักรพรรดิชื่อตี้ได้
เมื่อจักรพรรดิชื่อตี้อ่อนแอถึงที่สุด เย่ว์หยางจึงโจมตีเขาอย่างเกรี้ยวกราด ราวกับว่าไม่หวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้น ในที่สุดเย่ว์หยางก็สามารถพลิกสถานการณ์ที่แทบสิ้นหวังกลับมาเป็นต่อได้
เขามีความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือผนึกจักรพรรดิชื่อตี้ไว้อีกครั้ง!
“อ๊าาาา…” สนมชื่อเฟยผละออกมาทันทีหลังจากจู่โจมใส่เย่ว์หยางด้วยเพลิงบัวแดงของนาง เมื่อเทียบกับการฆ่าฝ่ายตรงข้าม นางมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ นั่นคือช่วยเหลือคนรักของนาง เมื่อผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ถูกใช้ นางรู้ว่านั่นเป็นอุปสรรคขัดขวางที่ใหญ่ที่สุดของคนรักนาง ถ้านางไม่ช่วยเขา เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายอย่างยิ่งยวด
สนมชื่อเฟยเริ่มร้องไห้เสียใจ
นางโถมตัวเข้าหาผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ด้วยความเสียสละ
แม้ว่านางจะต้องเสียสละตนเอง นางจะต้องช่วยคนรักนางกำจัดเครื่องมือวิเศษที่เป็นดาวข่มนี้ให้ได้
เปลวเพลิงปีศาจและพลังรูปมังกรคชสารกระแทกใส่หลังของเย่ว์หยางอย่างหนักหน่วง ถ้าไม่ใช่ว่าสองคู่หูกริ่งเกรงผนึกเทพจักรพรรดิอวี้จะทำร้ายพวกเขา และพวกเขาลอบสงวนพลังครึ่งหนึ่งไว้ป้องกันตัว เย่ว์หยางคงล้มลงบาดเจ็บรุนแรงไปแล้ว
เปลวเพลิงภูตผีกำลังเผาไหม้อยู่บนหลังของเย่ว์หยาง
ผิวและเลือดเนื้อของเขาส่งเสียงดังฉ่าจากการเผาไหม้
หมัดของซุ่นเทียน พลังมังกรคชสารแทบกระแทกใส่หัวใจของเย่ว์หยางทำให้กระดูกไหล่ของเขาหักจากแรงกระแทก และกระดูกซี่โครงที่ถูกต่อยก็บิดผิดรูป
เพลิงบัวแดงที่สามารถละลายหินได้กลับไร้ประโยชน์ไม่มีผลต่อผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ พลังของมันที่เป็นต้นเหตุของภัยพิบัติใหญ่กลับไม่มีผลต่อผนึกเทพของจักรพรรดิอวี้ พอใช้แรงปะทะของพลังมังกรคชสาร เย่ว์หยางปล่อยให้ตัวเองปลิวพุ่งเข้าหาผนึกเทพจักรพรรดิอวี้พร้อมๆ กับเข้าหาสนมชื่อเฟย เหมือนกับการใช้กระสุนนัดเดียวฆ่านักสองตัว เย่ว์หยางถ่ายแรงกระแทกของพลังห้าเปลี่ยนแปลงของซุ่นเทียนและพลังเปลวเพลิงภูตผีขององค์ชายเงาดำไปที่จักรพรรดิชื่อตี้ เขายังโจมตีใส่จักรพรรดิชื่อตี้เพิ่มอีกด้วย หวังว่าจะเป็นพลังโจมตีสุดท้ายที่จะเอาชนะจักรพรรดิชื่อตี้ได้
“อา..” จักรพรรดิชื่อตี้ครวญครางออกมาดัง ร่างของเขาสั่นขณะที่รังสีกระจายออกมาจากร่างเขาเหมือนกับน้ำพุทำให้เย่ว์หยางกระเด็นขึ้นไปในอากาศจากแรงกระแทก
ตอนนี้ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำไม่ได้โจมตีใส่เย่ว์หยาง
พวกเขาเพียงแต่ดูเฉยๆ ขณะที่เย่ว์หยางกระเด็นกระแทกใส่ผนังหิน
พวกเขาไม่แน่ใจว่าจักรพรรดิชื่อตี้จะสามารถทนต่อพลังโจมตีได้ ถ้าจักรพรรดิชื่อตี้พ่ายแพ้ อย่างนั้นไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องทำตามสัญญาพันธมิตรต่อไป
ชื่อเฟยตระหนักว่าคงเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ที่นางจะทำอะไรได้ ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง นางยกมือและเตรียมรับการโจมตีแทนจักรพรรดิชื่อตี้ แม้ว่านางจะต้องตกลงไปอยู่ในผนึกโบราณจากการกระทำนี้ นางคงไม่เสียใจ
“ยอดรัก! หนีไปซะ” จักรพรรดิชื่อตี้ไม่ยอมให้นางทำเช่นนั้น เพราะนางไม่สามารถต้านรับพลังโจมตีของผนึกเทพของจักรพรรดิอวี้ได้
“ให้ข้าได้ช่วยท่านเถิด, ให้ข้าช่วยท่าน, ข้าไม่เป็นไร…” ชื่อเฟยพูดทั้งน้ำตานองหน้า นางยื่นมือออกมาขณะที่นางเตรียมรับพลังผนึกเทพจักรพรรดิอวี้แทนจักรพรรดิชื่อตี้ แม้ว่าจะแค่เพียงสักวินาทีเดียวก็ตาม ภายใต้พลังโจมตีจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้และวงเวทผนึกโบราณทั้งคู่ จักรพรรดิชื่อตี้ไม่สามารถปลดปล่อยพลังของเขาได้ แม้ว่าเขาจะมีพลังมหาศาลก็ตาม ร่างของเขาจมลงช้าๆ ตอนแรกจมถึงเอว จากนั้นก็หน้าอก ในที่สุดปรากฏอยู่แต่เพียงศีรษะและแขนให้เห็น
ชื่อเฟยโน้มตัวลงตั้งใจจะยกผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ออก เพื่อที่ว่าคนรักของนางจะสามารถหลบหนีได้
เย่ว์หยางพุ่งออกมาจากซากหินหักพัง ถือวงจักรล้างโลกและพุ่งเข้าใส่โดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง
ซุ่นเทียนยังลังเลชั่วครู่
ตอนนี้ มีทางเลือกสองทางอยู่ต่อหน้าเขา ทางเลือกแรก เขาสามารถหยุดเย่ว์หยางได้ หรือทางเลือกที่สอง คืออยู่เงียบๆ ไม่ต้องทำอะไร ด้วยพลังของเขากับองค์ชายเงาดำ คงเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะหยุดเย่ว์หยางในสภาพปัจจุบันนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ซุ่นเทียนไม่ต้องการให้จักรพรรดิชื่อตี้หลบหนีออกไปจากวงเวทผนึกโบราณได้จริงๆ เนื่องจากเขาต่างจากเย่ว์หยาง เจ้าผู้เยาว์นี้เป็นภัยคุกคามก็จริง และยังต่างจากจักรพรรดิชื่อตี้ที่เป็นผู้อาวุโสทรงพลังอำนาจมากจากเมื่อหกพันปีก่อน เขาแค่ปรารถนาให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจนตาย
การมองดูจากข้างสนามจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางไม่ขอบคุณเขาเท่านั้น เขาอาจทำให้จักรพรรดิชื่อตี้โกรธที่เขาทำอย่างนั้น คงจะเป็นเรื่องสมบูรณ์พร้อมถ้าจักรพรรดิชื่อตี้ถูกผนึกไว้อีกครั้ง ถ้าไม่อย่างนั้น แน่ใจได้เลยว่าจักรพรรดิชื่อตี้จะหาเรื่องยุ่งยากมาให้เขาในอนาคต
อีกทางหนึ่งก็เพื่อช่วยเย่ว์หยางกำจัดจักรพรรดิชื่อตี้ด้วย
ซุ่นเทียนไม่แน่ใจว่าองค์ชายเงาดำจะยอมร่วมมือกับเขาเหมือนอย่างเคยเพื่อกำจัดจักรพรรดิชื่อตี้แล้วจากนั้นก็เป็นชื่อเฟยหรือไม่ ซุ่นเทียนยกเลิกเงื่อนไขที่สำคัญในชีวิตของเขา
“สายลมและสายฟ้า!” ซุ่นเทียนแกล้งทำเป็นยับยั้งเย่ว์หยางแต่เพียงผิวเผินและจากนั้นลอบช่วยเขาทีหลัง เขาเพียงหวังว่าเย่ว์หยางจะสู้อย่างหนักหน่วงเพื่อกำจัดจักรพรรดิชื่อตี้
“ดรรชนีอสูรฟ้า!” องค์ชายเงาดำร่วมมือโจมตีกับซุ่นเทียนขณะที่เขาเตรียมใช้พลังโจมตีที่รุนแรง
เย่ว์หยางหลบการโจมตีได้ทั้งหมด
พอหลบหลีกการโจมตีจากสองคู่หูได้สำเร็จ เขาเงื้อวงจักรล้างโลกขณะที่เตรียมจะตัดศีรษะของชื่อเฟย
ซุ่นเทียนเหวี่ยงหมัดมหาประลัยของเขาและเตรียมต่อยใส่กระหม่อมเย่ว์หยาง เขาตระหนักได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวของจักรพรรดิชื่อตี้ที่ทำให้เขาตัดสินใจในทางร้าย เขาเปลี่ยนแผนและตัดสินใจโจมตีเย่ว์หยางสุดกำลัง องค์ชายเงาดำยังลงมือเร็วกว่ายิงลำแสงออกมาจากนิ้วใส่ตรงหัวใจของเย่ว์หยาง แต่เย่ว์หยางเหมือนกับปลาได้น้ำ ขณะที่เขาเคลื่อนไปอยู่ด้านหลังชื่อเฟยอย่างรวดเร็วและผ่านไปที่จักรพรรดิชื่อตี้ที่กำลังยกผนึกเทพของจักรพรรดิอวี้ จากนั้นฟันมือลงพร้อมกับยิงปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ออกมาจากนิ้วชี้ทั้งสอง
จักรพรรดิชื่อตี้คว้าน่องของชื่อเฟยและดึงนางลงพื้นช่วยให้นางพ้นจากอาวุธสังหารวงจักรล้างโลกได้
มืออีกข้างหนึ่งของเขา เหยียดรับปราณกระบี่ไร้ลักษณ์และกดใส่เย่ว์หยาง
หลังจากเย่ว์หยางยิงปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ออกไป เขาตระหนักว่ามีพลังที่ไม่สามารถต่อต้านได้สายหนึ่งกำลังค้ำคอเขาและเหวี่ยงร่างทั้งร่างของเขาขึ้นไปในอากาศทำให้เขาเผชิญกับการพลังร่วมมือจู่โจมของซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ
จักรพรรดิชื่อตี้คลายการจับผนึกเทพจักรพรรดิอวี้และมันกระแทกใส่หน้าผากของเขาเสียงดังตุ้บ
เลือดกระเซ็นไปทุกที่
กะโหลกของเขาแตกเป็นล้านเสี่ยง
จักรพรรดิชื่อตี้มีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดบนศีรษะจ้องมองเย่ว์หยางด้วยความโกรธ นัยน์ตาทองของเขารวบรวมพลังงานอย่างรวดเร็วและส่องแสงเหมือนกับเป็นดาวทอง
ลำแสงสีทองยิงออกมาจากดวงตาของเขา
เย่ว์หยางสะดุ้งและรีบเปลี่ยนท่ากลางอากาศอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วของลำแสงทองยังคงเร็วมาก มันยิงเข้าที่แขนและขาขวาของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนท่าทัน ลำแสงทั้งสองคงทะลุหัวใจและศีรษะเขาไปแล้ว
ที่ตามมาหลังจากลำแสงสีทองก็คือหมัดมหาประลัยของซุ่นเทียนและดรรชนีอสูรฟ้าขององค์ชายเงาดำ
ด้วยพลังร่วมกันโจมตี เย่ว์หยางคงตายแน่นอน
“โซ่ล่องหน!” ข้างหลังเย่ว์หยาง มีปีศาจน้อยตนหนึ่งปรากฏออกมา
เธอลืมตากว้าง กว้างมากจนเส้นเลือดสีฟ้าที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนที่มุมตา ยังปูดให้เห็น
ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำชะงักค้างในอากาศพร้อมกัน
ขณะที่หมัดมหาประลัยและดรรชนีอสูรฟ้าไม่อยู่ในความควบคุมของเจ้าของอีกต่อไป ทั้งหมดระดมใส่ปีศาจอสรพิษน้อย แขนทั้งหกที่ใช้รับท่าจู่โจมสังหาร ถูกหมัดมหาประลัยของซุ่นเทียนทำร้ายหักไปสามข้าง และอีกข้างหนึ่งถูกแทงทะลุฝ่ามือจนถึงไหล่ด้วยพลังดรรชนีอสูรฟ้า เธอวางแขนข้างหนึ่งไว้ที่หลังเธอเพื่อรับพลังโจมตีที่เหลือ ไม่มีใครสามารถฆ่าเย่ว์หยางกับเธอได้ เพราะเธอเป็นอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยางและชีวิตของพวกเขาผูกพันร่วมกัน เธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเขา แต่ทำหน้าที่ยิ่งกว่าลูกสาวเสียอีก
จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นั่นคือเสี่ยวเหวินหลี!
หางของเธอขดพันตัวเย่ว์หยาง เสี่ยวเหวินหลีพาเย่ว์หยางออกมาจากสถานการณ์อันตรายได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ผลสุดท้ายของจักรพรรดิชื่อตี้ยังไม่รู้ แต่เย่ว์หยางจะต้องตายแน่นอน ซุ่นเทียนผงะถอยเล็กน้อย นี่เป็นพื้นที่ต้องห้ามของอสูรอัญเชิญไม่ใช่หรือ? แล้วอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยางออกมาได้ยังไง?
เขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ว่าเสี่ยวเหวินหลีไม่ได้อยู่ในโลกคัมภีร์อัญเชิญและเธอเพียงแต่อยู่นิ่งๆ ในตัวของเย่ว์หยาง
หากเย่ว์หยางไม่สั่งให้เธออยู่เฉยๆ ไม่ต้องออกมาสู้ เธอคงออกมานานแล้ว
“เจ้าต้องการจะจากไปหรือ?” จักรพรรดิชื่อตี้ ปรากฏให้เห็นแต่เพียงศีรษะและแขนเท่านั้น เขาพยายามใช้มือผลักผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ออกไป
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม….”
ลำแสงที่มีพลังมหาศาลระเบิดกระจายเหมือนน้ำพุจากด้านล่างและรอบตัวเสี่ยวเหวินหลีขวางทางของเธอและเย่ว์หยางไว้ แต่เสี่ยวเหวินหลีตวัดหางของเธอเหมือนกับว่าเธอคาดไว้แล้ว เหวี่ยงเย่ว์หยางกลับไปที่ศีรษะของจักรพรรดิชื่อตี้ เย่ว์หยางยื่นมือขวาออกขณะที่ปล่อยพลังปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ในรูปที่ทรงพลังที่สุด จากนั้นเขาแทงเข้าไปในกะโลกของจักรพรรดิชื่อตี้ที่แตกเพราะผนึกเทพจักรพรรดิอวี้อยู่แล้ว
จักรพรรดิชื่อตี้ร้องโหยหวนขระที่จมลงไปในวงเวทผนึกอย่างน่าสมเพช เหลือแต่แขนที่ยังเห็นได้
ชื่อเฟยข่วนใส่เย่ว์หยางราวกับเป็นบ้า
เย่ว์หยางมีเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลอยู่แล้วดังนั้นเขาไม่สนใจว่าจะมีรอยข่วนเพิ่มเติม เขาฟันแขนของจักรพรรดิชื่อตี้เมื่อวงจักรล้างโลกกลับมาอยู่ในมือ
แม้ว่าจักรพรรดิชื่อตี้จะไวพอชักมือข้างซ้ายกลับเข้ามาในในวงเวท แต่มือขวาที่ยันผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ไม่สามารถหลบได้
วงจักรล้างโลกตัดแขนขวาของจักรพรรดิชื่อตี้ทำให้เกิดแสงเจิดจ้า อักษรรูนอมตะในกลางวงจักรล้างโลกปลดปล่อยพลังของมันทำให้แขนขวาของจักรพรรดิชื่อตี้ขาดได้แม้ว่าเขาจะมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมาก เกราะเงินที่เปล่งแสงมีพลังพอๆ กับโล่แก้วผลึกกลับไร้ประโยชน์เมื่อถูกวงจักรล้างโลกตัดทำลาย พอเห็นว่าจักรพรรดิชื่อตี้ร่วงกลับไปในวงเวทผนึกโบราณอีกครั้ง เย่ว์หยางรีบเก็บแขนที่หักและผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ เมื่อเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีจากชื่อเฟย เขาพ่นเลือดเต็มปากลงไปที่วงเวทอักษรรูนโบราณที่คำว่า “กักกัน”
เย่ว์หยางทนเจ็บปวดทั้งหมดและยันตัวขึ้นยืน
เขาเดิมพันด้วยชีวิตของเขาขณะที่ยิงปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ออกไป ปราณสายหนึ่งพุ่งใส่องค์ชายเงาดำ และอีกสายหนึ่งพุ่งใส่ซุ่นเทียน
องค์ชายเงาดำและซุ่นเทียนรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถทนรับพลังปราณกระบี่นั้นได้ ขณะที่พวกเขาเคยได้รับความทรมานอย่างหนักมาจากในครั้งก่อนนั้น ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่อาจสู้ตอบโต้ได้
ยิ่งกว่านั้น จักรพรรดิชื่อตี้ถูกเย่ว์หยางผนึกลงไปในวงเวทผนึกโบราณอีกครั้ง ยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะสามารถหลบหนีตอนนี้ ดังนั้นนี่ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะใช้กำลังโต้ตอบ
ทั้งสองเคลื่อนที่หลบพลังปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ได้อย่างง่ายดาย
ชื่อเฟยกระโจนเข้าใส่เย่ว์หยางอย่างบ้าคลั่ง เป็นนางที่อยากจะต่อสู้กับเย่ว์หยางด้วยพลังทั้งหมดของนางในตอนนี้ นางสร้างเพลิงบัวแดงขนาดมหึมาในขณะที่สิ้นหวัง นางต้องการจะฆ่าเย่ว์หยางและพินาศไปพร้อมๆ กัน
“สูญสลายไปซะ!”
เย่ว์หยางเตะใส่ชื่อเฟยปลิวไปในอากาศขณะที่เสี่ยวเหวินหลีหยุดชะงักนางได้อีกครั้ง
เมื่อเย่ว์หยางเตรียมจะกอดเสี่ยวเหวินหลีที่หลั่งน้ำตาเป็นเลือดเต็มใบหน้าเพื่อพาออกไปจากรังมังกรปีศาจ เขาเงินและสลาตันก็มีปฏิกิริยา เขาเงินหนีไปทันที ในสนามรบนี้ ไม่ว่าใครชนะ เขาเงินรู้สึกว่าเขาจะไม่ได้รับประโยชน์ เพื่อไม่ให้ตนเองถูกฆ่า เขาเงินตัดสินใจทิ้งสหายหนี
แต่ระเบิดเพลิงรู้สึกว่านี่คือโอกาส โอกาสที่ยอมให้เขาแสดงออกถึงความปรารถนาดีกับองค์ชายเงาดำและซุ่นเทียน
ตราบใดที่เขาสามารถหยุดบุรุษหน้ากากที่บาดเจ็บหนักได้ อย่างนั้นอนาคตของก็จะสดใสแน่นอน
สำหรับระเบิดเพลิง เย่ว์หยางดูบาดเจ็บหนักขนาดที่ว่าใกล้จะเสียชีวิต อย่าแต่ตัวเขาเองเลย เย่ว์หยางอาจจะล้มลงได้ถ้าถูกทารกต่อยใส่
“บึ้ม!”
เมื่อระเบิดเพลิงมั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะเย่ว์หยางและประสบผลสำเร็จใหญ่ได้ สลาตันก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเขาทันทีและปล่อยหมัดใส่หลังของเขา ส่งให้เขากระเด็นไปกระแทกผนังหิน สลาตันที่เพิ่งจะเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสอง ตะโกนบอกเย่ว์หยาง “รีบไปซะ ข้าจะช่วยกันคู่ต่อสู้ของเจ้าไว้ให้ แม้จะได้สักวินาทีเดียวก็ตาม…. ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าต้องการทำเช่นนี้ ข้าเชื่อว่าเจ้ามีเหตุผลพอที่จะทำและหอทงเทียนต้องการคนหนุ่มอย่างเจ้า”
ระเบิดเพลิงยิงโต้กลับมาไวกว่าตอนที่เขากระแทกเข้าไปในผนังหินเสียอีก ขณะที่เขาปล่อยหมัดใส่ท้องของสลาตัน เขาแค่นเสียงหน้าบิดเบี้ยว “ระยำ, อย่าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือโลกสิ คนโง่อย่างเจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”
สลาตันกระอักเลือด แต่ยังกอดระเบิดเพลิงไว้แน่นขณะที่เขาตะโกนบอกเย่ว์หยาง “ไปซะเถอะ, ข้าแก่แล้ว ให้ข้าเสียสละให้ผู้เยาว์อย่างมีเกียรติเถอะ…”
“ข้าจะส่งเสริมความปรารถนาเจ้า” อดีตสหายที่ดีของเขากลายเป็นปีศาจชั่วร้าย ขณะที่ระเบิดเพลิงระดมหมัดใส่เขา ทำให้เขากระอักเลือดไม่หยุด
ชื่อเฟย, ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำไม่สนใจช่วยเหลือคนทั้งสองแต่อย่างใด
พวกเขาจับจ้องสายตาดูที่เย่ว์หยางและเสี่ยวเหวินหลีที่ตอนนี้หน้าซีดขาวราวกับศพ พวกเขาไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่คนผู้นี้ตัดสินใจทิ้งโอกาสหนีไป อาจเป็นได้ว่าเขาใจอ่อนขึ้นเนื่องจากความเสียสละของสลาตัน? หรือเป็นไปได้ว่าเนื่องจากมีแรงจูงใจอื่น? แม้ว่าทั้งสามคนนั้นจะเกลียดเย่ว์หยางมาก แต่ไม่มีใครกล้าประมาท เพราะเย่ว์หยางมีสมบัติระดับเทพ พวกเขาไม่สามารถฆ่าเขาได้โดยไม่มีการเสียสละอะไร
ทั้งสามคนหวังว่าพวกเขาจะสามารถฆ่าเจ้าเด็กนี่โดยสูญเสียน้อยที่สุด โดยเฉพาะซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ ไม่มีใครปรารถนาจะเป็นคนเสียสละต่อจากจักรพรรดิชื่อตี้
“ซุ่นเทียน, องค์ชายเงาดำ ข้าจะเก็บบัญชีแค้นวันนี้ไว้แน่” เย่ว์หยางแบมือ และเพลิงอมฤตก่อตัวเป็นคันศรเพลิงและกลายเป็นธนูน้ำแข็งและสายฟ้าสีม่วง
หนึ่งคันธนูกับลูกศรอีกสามดอก
คันศรโค้งและธนูที่เล็งไปในอากาศ
ซุ่นเทียน, ชื่อเฟยและองค์ชายเงาดำรู้สึกทันทีว่าพวกเขาจะตกเป็นเป้าหมาย และไม่ว่าพวกเขาหนีไปทิศใด พวกเขาก็ไม่สามารถหลบพ้นชะตากรรมถูกลูกศรปักหัวใจ
หน้าของซุ่นเทียนเขียวคล้ำ ขณะที่เขาแค่นเสียง เขาปล่อยพลังห้าเปลี่ยงแปลงและแผ่พลังคลุมตัวจนทำให้ถ้ำมังกรปีศาจสั่นไปหมด องค์ชายเงาดำหายไปราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัว แม้ว่าสนมชื่อเฟยจะเสียใจและโกรธ แต่นางยังมิได้สูญเสียสำนึกเหตุผล เท้าของนางเริ่มเต้นไปรอบๆ ราวกับว่ากำลังเต้นระบำดอกบัว
ควับ ควับ ควับ!
เย่ว์หยางคลายมือและปล่อยธนูแหวกอากาศออกไปสามดอกซ้อนต่อหน้าพวกเขาในพริบตาเดียว
“บึ้ม!” ซุ่นเทียนทำลายธนูด้วยหมัดของเขา ขณะที่องค์ชายเงาดำและสนมชื่อเฟยหลบธนูที่เหลือได้หวุดหวิด
“กลับมา!” เย่ว์หยางโบกมือ ทำให้ธนูเพลิงม่วงทั้งสามดอกกลับมา ครั้งนี้ซุ่นเทียนและคนที่เหลือสามารถหลบได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรมาก ธนูทั้งสามดอกแยกกันในอากาศ ดอกหนึ่งยิงเข้าที่ปีกมังกรแดงที่พูดได้ ทำให้มันถูกแช่แข็งและปรากฏตัวทันที โดยเฉพาะปีกของมันที่ถูกยิงปรากฏเหมือนเป็นผนังน้ำแข็ง
อีกดอกหนึ่งยิงเข้าที่มังกรแดงที่ยังพูดไม่ได้ ทำให้มันตายทันที เนื่องจากมันหลบได้ไม่เร็วพอ
ซากมังกรแดงร่วงลงพื้นและกลายเป็นน้ำแข็งเหมือนกับเป็นรูปสลักน้ำแข็งที่สลักเป็นมังกรแดง
ธนูดอกที่สามแหวกอากาศและเจาะทะลุสมองของระเบิดเพลิงพอดี ทำให้ศีรษะของเขาระเบิดกระจาย สลาตันที่ล้มลงอยู่บนพื้นกลิ้งออกมาโดยเร็ว เลือดที่ไหลซึมออกมาจากคอของระเบิดเพลิงหยดลงพื้นกลายเป็นน้ำแข็ง และพื้นทั้งหมดปรากฏเหมือนกับเป็นน้ำแข็ง ถ้ำมังกรปีศาจกลายเป็นนรกน้ำแข็งและนี่เป็นผลมาจากลูกศรสามดอกของเย่ว์หยางเพียงอย่างเดียว
หลังจากยิงธนูดอกที่สามแล้ว เย่ว์หยางจ้องมองซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ จากนั้นเขาก็พุ่งไปที่ปากถ้ำด้วยความเร็วดุจสายฟ้าพร้อมกับเสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ในอ้อมแขน
สนมชื่อเฟย, ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำไล่ตามเขาไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่า
แต่พอเห็นสมบัติในมือของเย่ว์หยาง พวกเขาก็ถอยกลับทันที มันไม่ใช่ผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ เพราะด้วยอาการบาดเจ็บของเขาและปราณก่อกำเนิดที่เหลืออยู่ เขาไม่สามารถใช้ผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ได้อีกครั้ง แต่เขายังมีสมบัติที่น่าตกใจมากยิ่งกว่า… ปีศาจค้ำเจดีย์
เป็นสมบัติที่เก็บเอาไว้ในคลังสมบัติของอาณาจักรต้าเซี่ยและผนึกพลังที่ไม่ด้อยไปกว่าผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ในภายใน
เมื่ออยู่ในปีศาจค้ำเจดีย์ แม้แต่นักสู้ที่แข็งแกร่งพอๆ กับจ้าวปีศาจก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นออกมาจากผนึกคุมขังได้
แม้ว่าทั้งสามคนยังกังขาว่าเย่ว์หยางจะมีความสามารถพอใช้มันได้หรือไม่ แต่ไม่มีใครยินดีเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับปีศาจอสรพิษน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเย่ว์หยาง พลังที่รวมกันนี้ ไม่ง่ายเหมือนกับเลขหนึ่งบวกหนึ่ง
“ข้าจะถอยกลับ…” สนมชื่อเฟยขบกรามทั้งที่โกรธ น่าเสียดายที่นางไม่สามารถฆ่าศัตรูของนางในตอนนี้ได้ ทั้งที่นางก็รู้ตัวว่านางบาดเจ็บจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้และยังสูญเสียพลังภายในไปมาก นางไล่ตามเย่ว์หยางไป ขณะที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลอกซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ ถ้าพวกเขาเห็นว่านางอ่อนแอ พวกเขาอาจทำร้ายนางก็ได้
เย่ว์หยางก็เหมือนกันแทบจะใช้ปราณก่อกำเนิดไปจนหมดสิ้น เขายังดูสบายๆ แต่เพียงผิวเผิน แต่ความจริงเขาอยู่บนขอบเหวแห่งความตาย
ถ้าทั้งสามยังตามไล่ล่าเขา เขาคงตายแน่ๆ
ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำสบสายตากันและจากนั้นก็หรี่ตาให้กัน ทั้งสองคนก็ไม่ยินดีจะเสี่ยง และพวกเขายอมทิ้งโอกาสฆ่าเย่ว์หยางและสนมชื่อเฟย ถ้าทั้งสองร่วมมือกัน เย่ว์หยางและสนมชื่อเฟยคงตายแน่นอน แต่พวกเขาต่างก็มีแรงจูงใจแอบแฝง ดังนั้นพวกเขาจึงพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้
ไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากเย่ว์หยางออกไป วงเวทผนึกโบราณก็เริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง
จากเบาๆ และเริ่มรุนแรง
และในที่สุดก็ทำให้ภูเขาสะเทือนเลื่อนลั่นไปหมด
มือสีเงินข้างหนึ่งยื่นออกมาจากวงเวทผนึก และจากนั้นภายใต้สายตาตื่นตะลึงของคนมากมาย จักรพรรดิชื่อตี้ที่บาดเจ็บอยู่หลายแห่ง แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์ ได้ออกมาจากวงเวทผนึก
เขามีบาดแผลบาดเจ็บเต็มตัว และแขนขวาขาด เลือดที่ซึมออกย้อมตัวเขาที่อยู่ในสภาพเปลือยร่าง มองดูเหมือนมนุษย์โลหิต
สนมชื่อเฟยมีน้ำตาไหลนองหน้าโผเข้ากอดเขาพร้อมกับร้องไห้เสียงดัง
“อย่าร้อง, ยอดรัก, อย่าร้องไห้เลย” จักรพรรดิชื่อตี้ใช้มือซ้ายที่เหลืออยู่ลูบผมชื่อเฟยอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาสีทองมองดูซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ “ขอบคุณที่พวกเจ้าช่วยเหลือ ถ้าผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ยังคงทำงานและกดดันต่อไปมากกว่าหนึ่งนาที ผลที่ออกมาคงแตกต่างกันแล้ว ข้าจะตอบแทนพวกท่านทั้งสองในอนาคต ถ้าพวกเจ้าต้องการจะไปแดนสวรรค์ ข้าจะให้คำแนะนำพวกเจ้าเอง”
ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำเสียใจมาก ถ้าพวกเขารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาคงช่วยเย่ว์หยางกำจัดจักรพรรดิซุ่นตี้แน่นอน
ถ้าพวกเขาไม่จู่โจมใส่เย่ว์หยาง แต่เป็นสนมชื่อเฟยแทน จักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยก็คงตายอย่างน่าอนาถ
แต่มันแย่มากที่พวกเขาพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าจักรพรรดิชื่อตี้ไปแล้ว
หลังจากเขาฟื้นตัวและกลับไปสู่สภาพสูงสุด คงจะเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าจักรพรรดิชื่อตี้จากเมื่อหกพันปีที่แล้ว แน่นอนว่าซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำเปลือกนอกไม่แสดงอะไรออกมา ขณะที่พวกเขาคำนับแสดงความเคารพจักรพรรดิชื่อตี้ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังจะมีโอกาสเดินทางไปแดนสวรรค์ได้ ซึ่งยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แม้ว่าซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำจะไม่เชื่อจักรพรรดิชื่อตี้ในตอนนี้ แต่พวกเขามั่นใจว่าในตอนนี้ พวกเขายังปลอดภัยอยู่ก่อน
เพราะพวกเขาสามารถเห็นได้ว่าจักรพรรดิชื่อตี้พลังถึงขีดจำกัดแล้ว และเขาไม่มีพลังเหลือไว้สู้อีกต่อไป
“ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนไปได้แล้ว เรื่องของพวกเราในตอนนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า พาสหายของพวกเจ้าออกไปได้” จักรพรรดิชื่อตี้ปล่อยนักผจญภัยทันทีและพูดกับพวกเขาอย่างยโส “บางทีในพวกเจ้าทุกคนอาจรู้ว่าชายหนุ่มผู้นั้นเป็นใคร ช่วยตอบข้าหน่อย ข้าชื่นชมเขา เพราะไม่มีใครสามารถสู้กับข้าและทำให้ข้าอยู่ในสภาพอนาถได้ขนาดนั้น ถ้าเขายินดีจะเป็นศิษย์ข้า ข้าจะปล่อยเขาให้ครองดินแดนมนุษย์ ถ้าเขาไม่ต้องการเช่นนั้น อย่างนั้นช่วยข้าบอกเขาว่าข้าจะฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาและข้าจะไม่ยอมปล่อยใครออกไปด้วย”
***************