ตอนที่แล้วตอนที่ 413 เก่งมากทารกขุนพลวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 415 ความทะเยอทะยานของทุกคน!

ตอนที่ 414 นี่มันสถานที่บ้าอะไรกัน


บุรุษโล้นรู้สึกถึงอันตราย  เขาคำรามและควงพลองบรอนซ์รอบตัว  แต่ดูเหมือนจะอ่อนไปสำหรับปิง เนื่องจากเขาสังเกตได้ว่าคู่ต่อสู้มีความสามารถน้อยกว่าที่เขาต้องการ

สำหรับนักสู้พลังภายนอกและพลังภายในมีความสำคัญที่สุดในการต่อสู้ เป็นเวลานานมาแล้วที่นักสู้มีความเข้าใจอย่างอ่อนด้อยว่าสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายซึ่งทำให้พวกเขาเชื่อถือมีแต่ปราณแท้หรือพลังภายในเท่านั้นที่สำคัญ  มันไม่ใช่จนกระทั่งมีการเลื่อนขึ้นมาของนักสู้พลังสายเลือดด้วยการที่พวกเขาค้นคว้าและศึกษาพลังภายนอกมากยิ่งขึ้นและได้มีการค้นพบใหม่

สำหรับนักสู้คนหนึ่งซึ่งพลังทางกายภาพเหือดแห้งลงความสามารถในการควบคุมปราณแท้ก็น้อยตาม

ในขณะที่ถ้าพลังกายและพลังปราณแท้ทั้งสองอย่างอ่อนลงนั่นบ่งบอกว่าสถานการณ์ของผู้นั้นอยู่ในสภาพเสียเปรียบมาก

นั่นคือสิ่งที่ปิงตั้งใจใช้กลยุทธต่อเนื่องให้สำเร็จ

คู่ต่อสู้ดูเหน็ดเหนื่อยก็หมายความว่าชัยชนะอยู่ใกล้เข้ามา

ปัง!

หมัดของพยัคฆ์ฟ้าต่อยตรงๆใส่พลองบรอนซ์ของบุรุษศีรษะโล้น เสียงสั่นสะเทือนถึงแก้วหูทำให้หูเจ็บปวด ทั้งยังทำให้อากาศโดยรอบปั่นป่วนเหมือนกับมีพายุ

สีหน้าของบุรุษศีรษะโล้นเปลี่ยนทันทีขณะที่เขาถอยร่นไปไกล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสู้กันในเรื่องความเหนียวแน่นอดทน ก่อนนั้นปิงอาศัยท่าเท้าท่าเต้นที่แปลกประหลาดทำให้เขาไม่สามารถป้องกันตัวได้  ในใจของเขา เขาเชื่อว่านักสู้ผู้นั้นเป็นมือสังหารทำให้เขาต้องระมัดระวังตัวมาก

ต่อเมื่อพลังนั้นถ่ายทอดผ่านพลองบรอนซ์ตอนนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่าเขาเข้าใจผิด

เขาต่อสู้เสี่ยงตายมานับศึกไม่ถ้วน ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบความตั้งใจของปิงและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

แย่แล้วเราหลงกลเสียแล้ว!

ปิงไม่ลังเลใจและโจมตีใส่ไม่หยุดโดยไม่เปิดโอกาสให้นักสู้ศีรษะโล้นโต้กลับ  พยัคฆ์ฟ้าเคลื่อนไหวเหมือนภูตพราย การโจมตีที่เอาแน่นอนไม่ได้พลันเปลี่ยนแปลงเป็นรุนแรงดุร้ายทันที ทุกๆ การโจมตีครอบคลุมฝ่ายตรงข้าม

ปังปัง ปัง!

หมัดกับพลองทั้งสองปะทะกันเหมือนกับค้อนหนักปะทะกันเอง การปะทะกันทุกครั้งทำให้อากาศรอบๆปั่นป่วนกลายเป็นวงอากาศที่มองไม่เห็นขยายออกจากจุดศูนย์กลาง  ทุกอย่างในรัศมีวงกลมถูกกวาดออกไป

พยัคฆ์ฟ้ายืดตัวระดมโจมตีอย่างดุร้าย

บุรุษศีรษะโล้นถอยกรูดอย่างต่อเนื่อง  ทุกๆ หมัดที่โจมตีใส่ทำให้แขนของเขาสั่น ฝ่ายตรงข้ามโจมตีใส่ไม่มีหยุดจนแทบหายใจไม่ทัน  ดังนั้นเขาจึงได้แต่เหวี่ยงพลองไปรอบๆตามสัญชาตญาณ

ควั่บ!

เขาหวดพลองไปตามสัญชาตญาณ  แต่ไม่มีอะไรอยู่ต่อหน้าเขา

โอวไม่!

ก่อนที่เขาจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ด้านหลังคอ

ศีรษะปลิวขึ้นฟ้า

“ลุงหน้าไพ่!  ทำได้ดีมาก!”  เซรีนอุทาน นางกระโดดตัวลอยปล่อยหมัดกลางอากาศ วิศวกรจักรกลพากันดีใจ

เซรีนสังเกตว่าหน้าของตวนมู่แข็งค้างทันที  นางรู้สึกสงสัย  “เจ้าทำไมจ้องมองอย่างว่างเปล่าแบบนั้น?”

ตวนมู่จ้องมองดูพยัคฆ์ฟ้าข้างหน้า  เขาพึมพำ “น่ากลัวเหลือเกิน”

“แน่นอน” เซรีนเอียงคอซ้ายทีขวาที และพูดอย่างภาคภูมิใจ  “ลุงหน้าไพ่นั่น น่าทึ่งแข็งแกร่งและทรงพลัง”

“ไม่ใช่แค่ทรงพลังเท่านั้น”  ตวนมู่พูดเสียงแหบแห้งในลำคอ  “มันน่ากลัวมาก  เขาใจเย็นมากเขาสามารถเอาชนะได้โดยสู้อย่างยากลำบากตามลำพัง แต่เขากลับจบการต่อสู้ได้ในสภาพอย่างนั้น นี่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการจะสูญเสียพลังงาน  เขาใจเย็นมีสติแจ่มใสโจมตีได้รุนแรงอย่างต่อเนื่อง มันคือการต่อสู้ที่แท้จริง”

เซรีนดุ  “สงบอะไรกัน!  ก็แค่ขี้เกียจ!  ลุงหน้าไพ่มักจะเกียจคร้านเสมอ

ขี้เกียจ...

ตวนมู่กระตุ้นหาช่องว่างในหัวของแม่สาวงามผู้นี้ต้องเห็นว่ามีเนื้อหาอะไรอยู่ภายในเป็นแน่

ภายในหัวของนางน่าจะกลวงเปล่า

เอาล่ะข้าจะไม่พัวพันนาง

เฮ้อย่าลืมตัวว่าเจ้ายังเป็นนักโทษ  ตวนมู่เร็วเข้าและรีบตอบสนอง

ตวนมู่ล้อเลียนตัวเองอยู่ในใจ

หลังจากนั้นชั่วขณะคลิก แคลก คลิก แคลก พยัคฆ์ฟ้ากลับเข้ามาและปิงออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า

ขุนพลวิญญาณ?.....

ตวนมู่ตกตะลึง

“เฮ้, ลุง, กลับมาทำไมล่ะ?  ยังมีคู่ต่อสู้เหลืออีกหนึ่งคนสู้กับเสี่ยวถังถังนี่”เซรีนพูดอย่างรวดเร็ว

ปิงจ้องนางและรู้สึกรำคาญจึงกล่าว  “เจ้าจะแกล้งข้าเหรอ? ขอให้ข้าไปแย่งคู่ต่อสู้ของเจ้าเด็กโรคจิตนั่นเหรอ?และจากนั้นก็ตัดงบประมาณของข้าใช่ไหม?”

เห็นได้ชัดว่าปิงหงุดหงิดกับงบประมาณที่ลดลงของเขา

“โอว จริงสิ” เซรีนเข้าใจ นางพึมพำพลางจับคางของนาง “ถ้าท่านไปแย่งคู่ต่อสู้ของเขา  เขาคงโกรธแน่นอน  หรือว่าจะลองดู?”

“พี่ใหญ่หญิง ได้โปรดอย่าทำแบบนั้น!”

“พี่ใหญ่หญิง ท่านสามารถระบายอารมณ์หงุดหงิดกับข้าได้ แต่โปรดอย่าทำเรื่องโง่ๆ เลย!”

“ใจเย็น! ใจเย็นๆ!  พี่ใหญ่หญิง ได้โปรดเห็นแก่งบประมาณสนับสนุน...”

……

ที่ฐานใต้ดินปั่นป่วนวุ่นวาย  วิศวกรจักรกลทุกคนต่างก็ตกใจกันหมด  พวกเขาล้อมเซรีนไว้และรั้งตัวนางไว้เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ทำอะไรโง่ๆ

ตวนมู่ตะลึงกับสถานการณ์

เฮ้,พวกเจ้า... คู่ต่อสู้อย่างน้อยก็เป็นนักสู้ระดับทองนะ...

หยาหยาชำเลืองมาที่ยอดฝีมือที่ใช้ดาบฟันเลื่อยเหมือนกับเห็นเขาเป็นไส้กรอกย่าง แต่เมื่อเหลือบไปเห็นถังเทียนมันชะงักค้างอีกครั้ง

เจ้านายคงไม่ตำหนิหยาหยาแน่....

มันไม่แน่ใจไม่ว่าเจ้านายจะให้รางวัลหรือตำหนิ ก็ยากจะตัดสินใจ

หยาหยามองดูรอบๆและค่อยๆ ถอยกลับและตัดสินใจลอบกลับไป

เฮ้หยาหยา เจ้าเป็นทารกขุนพลวิญญาณที่จะกลายเป็นวีรบุรุษในอนาคต  เราอย่ามัวเมาเพราะชื่อเสียงเลย

โปรดอย่าให้เจ้านายจับได้..

ตรีบุปผาเห็นว่าคู่ต่อสู้พังทลายแล้ว  พวกมันหันหัวไปทางคู่ต่อสู้คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่  ยอดฝีมือดาบเลื่อย  ตาของพวกมันเป็นประกาย ร้องลั่นและเตรียมโจมตี

หยาหยารู้สึกกังวลหลังจากเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพราะเจ้าสามตัวนี้

มันรีบรวมรวมกำลังทั้งหมดและไปวิ่งวนรอบๆตรีบุปผาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อมองดูเหมือนเงาดำ

หมัดเหล็กกลืนแสง!

ปังปัง ปัง!

ตรีบุปผาร่วงลงทั้งหมดหยาหยามองดูถังเทียนด้วยความกลัว เมื่อเห็นว่าถังเทียนไม่แตกตื่น มันลูบอกสงบจิตใจได้

มันรีบจับเจ้าโง่ทั้งสามมัดเป็นเงื่อนเหมือนที่ทำอย่างครั้งก่อนเป็นล้านครั้งและลากพวกมันเลียบไปตามกำแพงพากลับไปทั้งหมด

“พวกแกเกือบจะฆ่าข้าเสียแล้ว”

“ตรีบุปผารองรับมงกุฎ  เจ้าต้องการให้หัวพวกเรากลิ้งหรือ?  เจ้าตายแน่ถ้าเราถูกตัดงบประมาณสนับสนุน...”

“ขอบคุณพระเจ้า เพราะหยาหยาแท้ๆ! ข้าจะไม่ให้มันกินพิษอีกต่อไปแล้ว!”

……

ทุกคนในห้องวิจัยพลังสายเลือดตะโกนลั่นและตำหนิเฒ่าผอม ขณะที่หยาหยากลายเป็นที่รักที่โปรดปรานหลังจากเพิ่งทำความดีความชอบมาหมาดๆ

นักสู้ดาบเลื่อยแตกตื่น

เขาเป็นนักสู้ระดับทองเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่  อีกสามคนถูกฆ่าไปหมดแล้วสิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมคู่ต่อสู้ของสหายของเขาถึงได้ถอนตัวไปกันหมด

ไม่มีวี่แววคนอื่นนอกจากเขาและกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในกำแพงเมือง

เกิดอะไรขึ้น?

น่าสงสัย  น่าสงสัยยิ่งนัก!

พวกกลุ่มเด็กวัยรุ่นสร้างความประหลาดใจให้เขาทุกคนหายตามๆ กันไปและเหลืออยู่เพียงพวกเขาสองคนอยู่ในสนามต่อสู้  ทั้งพื้นที่มีแต่ความน่าสงสัย

หรือว่ามีแผน!

พวกเขาต้องมีแผนแน่นอน!

แต่ว่าเป็นแผนบ้าอะไรกันแน่....

นักสู้ดาบเลื่อยกำลังจะบ้า  เขาตัดสินใจแล้วเนื่องจากแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะได้ เขาจึงต้องทนต่อสู้ ดังนั้นเขาควงดาบและพุ่งเข้าโจมตีถังเทียน

ม่านตาของถังเทียนขยายและตั้งสมาธิจากอาการมึนงงทันที

เขางอนิ้วทั้งสิบไม่ต้องคิดอะไรเลยแล้วคว้ารังสีดาบไว้นิ้วทั้งสิบสั่นและมีเสียงดัง “ปิ๊ง” ออกมา รังสีดาบก็สูญสลายไป

นักสู้ดาบเลื่อยงงงวยรังสีดาบของเขาเคยถูกขวางมาก่อน เคยถูกสลายแต่ไม่เคยเป็นแบบนี้...

เขาคิดชั่วขณะจากนั้นก็นึกถึงคำหนึ่งได้ ตัดอวัยวะ

ถูกตัดอวัยวะ...

ถังเทียนก็ตกใจเช่นกัน  เขาใช้มือปีศาจพันแปลงในวิถีที่ธรรมดาเพียงแต่มือปีศาจพันแปลงสามารถโจมตีข้อบกพร่องของกระบวนท่าเคลื่อนไหว  แต่ไม่ควรจะทำลายรังสีดาบได้อย่างนี้!

มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้อย่างไร?

ทันใดนั้นเขาระลึกขึ้นได้ มีอยู่ห้วงเวลาหนึ่งที่เขาเห็นจุดอ่อนของดาบหลายที่ จากนั้นก็ใช้มือปีศาจพันแปลงทำลายรังสีดาบไปโดยไม่รู้ตัว

และจากนั้นรังสีดาบก็ถูกทำลาย...

สุดยอด....

ดูเหมือนว่าถังเทียนจะพบโลกใหม่แล้ว  เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ถึงตอนนี้ยอดฝีมือดาบเลื่อยค่อยรู้สึกตัวและคำราม “เจอดาบของข้าหน่อย”

รังสีดาบวาบขึ้น  รังสีดาบที่น่าตื่นตะลึงพุ่งตรงเข้าหาถังเทียน

ถังเทียนกลายเป็นเหมือนแมวดุร้าย  ตาของเขาเบิกกว้าง เขาย่อตัวลงอย่างมีสติ  นิ้วชี้มือซ้ายของเขาแตะเข้าที่รังสีดาบ  จากนั้นภาพในสายตาของเขา ดูเหมือนจะมีจุดหกจุดปรากฏโดยที่เขาไม่ทันคิดอะไร นิ้วทั้งห้าของมือขวาเหยียดออกปาดใส่จุดทั้งหกนั้น

ชิ้ง!

รังสีดาบแตกสลายไปเหมือนแก้ว  มันถูกทำลายและหายไปในอากาศอีกครั้ง

นักสู้ดาบเลื่อยตกใจอีกครั้ง

ถังเทียนยังคงตกใจเช่นกัน

นักสู้ดาบเลื่อยค่อยเรียกคืนสติกลับมาได้เขาคำรามอย่างดุร้าย “เจออีกหนึ่งดาบเป็นไร!”

ถังเทียนก็เรียกคืนสติเช่นกันเขากู่เสียงลั่น จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ตอบโต้กลับเลยหนุ่มชาวฟ้าหมิ่นเหม่จะเป็นฝ่ายชนะก็คงไม่เป็นไร!  เขาตวาดกลับไปทันที  “เอาอีก!”

รังสีดาบเข้มข้นขึ้นเยือกเย็นขึ้นและน่ากลัวมากขึ้น

เช้ง!

เสียงรังสีดาบแตกทำลายชัดเจน

นักสู้ดาบเลื่อยตะลึง

ถังเทียนก็ตะลึงเช่นกัน

ทั้งสองรู้สึกตัวพร้อมกันถลึงตามองกันและตวาดเสียงลั่นพร้อมกัน

“เจออีกดาบ!”  “เอาอีก!”

ชิ้ง!

“เจออีกดาบ!”  “เอาอีก!”

ชิ้ง!

“เจออีกดาบ!”  “เอาอีก!”

……

ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่ห้องวิจัยพลังสายเลือดงุนงงกันหมด

วิศวกรจักรกลในห้องค้นคว้าวิจัยจักรกลก็ไม่แตกต่างกัน

แต่คนที่ตะลึงมากที่สุดก็คือตวนมู่ในจอภาพ คนหนึ่งโจมตีด้วยรังสีดาบ จากอีกฝ่ายหนึ่งก็ทำลายรังสีดาบมันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า....

เขารู้สึกว่าเขากำลังจะบ้านี่มันสถานที่บ้าอะไรกัน

งั้น..ก็มีแต่คนที่ไม่ปกติอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ? เรื่องนั้นช่างมันก่อน แต่ทำไมเจ้าถึงประพฤติตัวแปลกประหลาดตามพวกเขาไปด้วย?

หลังจากนั้นชั่วขณะก็มีเสียงดังจากรอบๆ ตัวทำให้สติของตวนมู่กลับคืนมาที่ฐานใต้ดินอีกครั้ง

“ตอนนี้ข้าจะจัดสรรและมอบหมายงานสำหรับสัปดาห์หน้า สโตน!งานของเจ้าคือนำหุ่นบรอนซ์หมายเลย 55 กลับมาแสดงในแผนงานของเรา  ข้าต้องการดูตัวอย่างอย่างน้อยสามตัว”

“อาลี, ข้าดูรายงานของเจ้าแล้ว, ข้าขอปฏิเสธ!”

“ทำไมล่ะเจ๊?”

“มันเป็นไปไม่ได้และไม่มีแนวคิดสร้างสรรค์  เอ่อ ที่สำคัญที่สุดคือ มันแพงเกินไป”

……

ตวนมู่มองดูอย่างว่างเปล่า  เซรีนนั่งอยู่กับโต๊ะทั้งที่มีเสียงต่อสู้จากภาพในจอ แต่นางกลับทุบโต๊ะจัดสรรงานให้วิศวกรจักรกรสำหรับสัปดาห์ต่อไป

จัดสรรงานในสัปดาห์ถัดไป...

พวกเขายังคงต่อสู้...

ความสิ้นหวังปรากฏอยู่บนใบหน้าของตวนมู่  ใครบอกข้าได้บ้าง นี่มันที่นรกห่าเหวอะไรกันแน่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด