ตอนที่แล้วตอนที่ 410 ถังเทียนเคลื่อนไหว 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 412 ฝูงกระต่ายกับหยาหยา 

ตอนที่ 411 พลังของสายเลือด


หมอกสีเขียวครอบคลุมหน้าของถังเทียนและครอบคลุมทั้งตัวเขาภายในพริบตาทันที

ในหมอกเขียวจะบรรจุรังสีมีดบางๆนับไม่ถ้วนเหมือนกับทรายแต่แหลมคมมันล้อมรอบถังเทียนเหมือนทรายดูดหมุนปั่นด้วยความเร็วสูงจนดูเหมือนสัตว์ประหลาดสีเขียว

อาวุธลับทั้งสิบมีพลังที่ไม่ซ้ำกันแฝงอยู่ในหมอกเขียว

ฟุ่บฟุ่บ ฟุ่บ

พวกเขาชำเลืองมองกันเองพร้อมกันและท่าทีโล่งอกปรากฏในสายตาของแต่ละคน ความจริงเจ้าเด็กน้อยนี่เกทับเราจนเกือบถูกหลอกแล้ว

แม้แต่มือธนูบนกำแพงค่ายก็ยังรู้สึกโล่งใจ

พวกเขาทั้งสองคนผสานทักษะสังหารเข้าด้วยกัน  ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางหลบได้ ซึ่งก็หมายความว่าเขาต้องตายแน่นอนแม้ว่าเขาจะถูกวางไว้ในสถานการณ์เช่นนั้น เขาก็ยังไม่มีโอกาสรอด

มันจบแล้ว

เขามองดูอาวุธจักรกลวิญญาณทันใดนั้น เขาชำเลืองมองเห็นบางอย่างจากหางตาของเขา

แย่แล้ว!

เขาหันหน้าไปดูทันที

หมอกเขียวเริ่มโรยตัวลงช้าๆเหมือนกับทรายดูด  เดี๋ยวก่อน...

ไม่มีภาพอะไรอื่นในหมอกใบมีดเขียว

มือธนูปากอ้าค้างอย่างเหลือเชื่อ เขามั่นใจว่าเขามองเห็นว่าหมอกเขียวกำลังกลืนถังเทียนอย่างไร  มือธนูถูกฝึกมาให้มีใจและสายตายอดเยี่ยม  เขาไม่เคยพบกับภาพลวงตาและมันไม่มีทางหลบพ้นจากสายตาที่ทรงพลังของเขาได้

หมอกเขียวเหมือนจะถูกดูดลงไปด้านล่างมากขึ้นเหมือนทรายดูด

“ระวัง!”

มือธนูตะโกนบอกคนอื่นทันทีหลังจากเขาสงบอารมณ์จากอาการตกใจ

รังสีเยือกเย็นฉายผ่านออกมาในอากาศเหมือนกับกรงเล็บหมาป่าที่คม

ยอดฝีมืออาวุธลับสังเกตได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา เขาซัดอาวุธลับในมือไปด้านหลังและร่างของเขาถูกดันไปข้างหน้าอย่างควบคุมมิได้

โลหิตสาดกระจายแขนข้างหนึ่งปลิวขึ้นไปในท้องฟ้า

ยอดฝีมืออาวุธลับร้องโหยหวนหลังจากสูญเสียแขนของตน  แต่เขารู้ว่าเป็นช่วงความเป็นความตาย  เขากัดฟันวิ่งตะบึงไปข้างหน้าเนื่องจากเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาชีวิตไว้ได้โดยการเพิ่มระยะห่างจากพวกเขา

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นก็คืออาวุธลับที่เขาซัดออกไปในทุกตำแหน่งและกระจายตัวอย่างสมบูรณ์แบบ  แต่ไม่มีชิ้นใดทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้เลย

เป็นไปไม่ได้!

ระยะใกล้ขนาดนั้นอาวุธลับของเขาไม่เคยพลาด

แต่ยังมีรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงไล่ตามเขามาติดๆ เขารู้สึกสั่นไปตามกระดูกสันหลังตะลึงกับความรู้สึกถูกเกาะติดโดยไม่ต้องหันหลังไปดู

มือธนูบนกำแพงสายตายอดเยี่ยมมองเห็นทุกอย่างชัดเจน

บุรุษหนุ่มคล่องแคล่วว่องไวถึงขนาดที่เขาดูไม่คล้ายมนุษย์ ขณะที่ตะบึงไปข้างหน้า

จากเริ่มต้นจนถึงที่สุดบุรุษหนุ่มไม่ลังเลหยุดอย่างไม่มีเหตุผล เมื่อเขาประสบความสำเร็จได้อาวุธชิ้นแรกเขาใช้พลังได้อย่างสมบูรณ์ไม่ต้องลังเล และอาวุธทั้งหมดรวมอยู่ในมือของเขา ฉากภาพที่งดงามน่าชม เมื่อเห็นพลังที่ระเบิดออกด้วยการผสมผสานพลังธาตุที่แตกต่างเข้าด้วยกัน มันมีผลกระทบที่สะดุดตาที่สุด

เขาค้นพบวิธีการโจมตีของศัตรูอยู่ก่อนแล้วหรือ?

มือธนูตกใจมากจนเขาแทบจะหมดความรู้สึก

ยอดฝีมือผู้ใช้ดาบฟันเลื่อยมีส่วนร่วมในการต่อสู้และได้รับผลกระทบอย่างมากและมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วมาก  เขาไม่อาจค้นพบได้ว่าถังเทียนหลบหนีออกมาจากวิชาสังหารของพวกเขาได้อย่างไร   แต่เขารู้ว่าเขาไม่ยินดีจะช่วยคู่หูหลังจากคู่หูของเขาตาย

ข้อมือของเขากลายเป็นนุ่มและอ่อนหยุ่นและดาบฟันเลื่อยที่เขาถือยิงรังสีออกไป

ดาบนางแอ่นเหิน

รังสีดาบเริ่มโปรยลงมาทั้งหมดมีขนาดเท่าฝ่ามือ ดาบลอยลงมาอย่างสง่างามเหมือนกับนางแอ่นเขียว  ความเร็วของมันน่าทึ่งขณะที่มันโถมโฉบเข้าหาถังเทียนจากทุกตำแหน่ง

ในฐานทัพตวนมู่ที่ถูกมัดอย่างแน่นหนามีสีหน้าเปลี่ยนไปครั้งแรก

“เจ้าสังเกตอะไรได้บ้าง?”  เซรีนถามทันทีขณะที่นางสังเกตเห็นว่าตวนมู่มีความเข้าใจการต่อสู้ลึกซึ้งมากกว่านาง

“เขากำลังจะชนะ!”  ตวนมู่พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ  แต่ไม่เคยหันสายตาไปจากจอภาพเลย

“ใครกัน?” เซรีนกระตือรือร้นต้องการรู้

“เจ้านายเจ้า” ตวนมู่มีอารมณ์ที่แปลกประหลาดบนใบหน้า

เกือบจะทันทีหลังจากตวนมู่ตอบ  พวกเขามองดูจอภาพขณะที่ร่างของถังเทียนงอเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ทันใดนั้นเขามาปรากฏตัวด้านหลังนักสู้ผู้ใช้อาวุธลับทันทีเหมือนกับภูตผีและใช้ฝ่ามือโจมตีจากด้านหลัง

พลังเกลียวที่รุนแรงระเบิดออก

แรงกระแทกทำให้ยอดฝีมืออาวุธลับปลิวกระเด็นเหมือนถูกฟ้าผ่า

ยอดฝีมือดาบฟันเลื่อยตกใจและควงดาบทันทีและหมุนดาบเป็นวงกลมในอากาศพร้อมกับสร้างรังสี  พลังนั้นดึงดูดเขาเหมือนแม่เหล็กและลากร่างของเขาห่างออกไปสามสิบเมตร

ถังเทียนไม่ได้ไล่ตามเขาแต่หยุดและมองดูเหมือนสูญเสียบางอย่าง

ปัง,ร่างของยอดฝีมืออาวุธลับกระแทกลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ไร้ลมหายใจ ทุกส่วนในร่างกายถูกถังเทียนทำลาย

ยอดฝีมือดาบฟันเลื่อยมองดูถังเทียนตกใจเหลือเชื่อ

“ยอดเยี่ยม!”

ในฐานใต้ดินเซรีนต่อยตวนมู่อย่างตื่นเต้น ตวนมู่มองนางโดยไม่พูดสักคำ หมัดของเซรีนอ่อนแอเหมือนขนนกและไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวด

เซรีนมองดูอย่างรวดเร็วยิ้มกว้างและถาม “เจ้ารู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ยังไง?”

ตวนมู่ประหลาดใจ  เขารู้สึกสะท้านเสียวสันหลัง  เขาค่อยได้เห็นว่าสตรีนั้นสวยงดงามเพียงไหน

“จังหวะ, พวกเขาสูญเสียจังหวะของตนเองไป”  ตวนมู่อธิบาย “ประการแรกเจ้านายของเจ้าหลบออกมาจากวิชาสังหารของพวกเขาได้ซึ่งก็หมายความว่า  เขาได้เปรียบ จากนั้นทั้งสองคนประมาทเกินไปทำให้เขาไม่ฉวยโอกาสให้มากขึ้น  พวกเขาวางใจเกินไปและสับสนในตอนสุดท้าย  เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้”

เซรีนเดินยิ้มเข้าไปหาเขาและใช้เล็บแดงเหมือนเลือดของนางเกาคางตวนมู่และพูดอย่างนุ่มนวล  “ทำไมเจ้าทำเสียงเหมือนกับว่าคู่ต่อสู้ยอมแพ้การต่อสู้และทำเหมือนกับว่าการเอาชนะเจ้านายข้าเป็นเรื่องง่ายแทนที่จะเป็นเพราะเขาเอาชนะได้เพราะฝีมือที่โดดเด่นเล่า?  เจ้าควรจะคิดใหม่ให้ดี”

ตวนมู่ขนลุกหลังจากได้ยินเช่นนั้น  เนื่องจากเขารู้ว่าสตรีนี้จะทำอะไร

“เจ้านายของเจ้าฝีมือน่าทึ่งยอดเยี่ยมเกิดบรรยาย  เอาแค่วิธีที่เขาหลบออกมาจากวิชาสังหารได้ซึ่งข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อนแค่นั้นก็น่าประทับใจแล้ว ข้าคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับพลังสายเลือดของเขา  เขาลอบโจมตีจากด้านหลังและการไล่ล่าก็ทำได้ดี  และที่ไม่ลืมก็คือหมัดสุดท้ายมันเหลือเชื่อ เขาโจมตีได้สมบูรณ์แบบเมื่อคู่ต่อสู้เสียสมาธิ มันเป็นภัยร้ายแรงถึงตาย....”

“ช่างเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายนัก!” เซรีนหัวเราะและเอามือตบหน้าตวนมู่เบาๆนางรู้สึกถึงบางอย่างที่น่าทึ่ง เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เขาก็สามารถคาดการณ์ฝีมือของถังเทียนได้ว่าเป็นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพลังสายเลือด

น่าประทับใจ!

ตวนมู่ถอนหายใจโล่งอกลึกๆ ในใจของเขา เขาหยันตัวเองที่มีความซื่อสัตย์ต่ำและถูกสตรีคนหนึ่งขู่ขวัญได้

“ข้าจำยอดฝีมือดาบเลื่อยและคนศีรษะโล้นได้  พวกเขาคือบีชกับหรูไห่  พวกเขามาจากตระกูลของฮั่วฝู่หมัน  แต่อีกสองคนเป็นใคร?”  เซรีนถาม

“อวี้ฟงคือยอดฝีมืออาวุธลับและเป็นนักสู้ระดับทอง  นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาตายที่นี่”ตวนมู่รู้สึกมีอารมณ์พลุกพล่านเล็กน้อย “มือธนูชื่อชิวอวี้ เป็นนักสู้ระดับทองเช่นกัน”

ตวนมู่พูดไม่ออกทันทีเซรีนยังเยาว์วัย แต่เจ้านายที่เอาแต่ใจยังอายุเยาว์มาก แต่ภายใต้การลงมือของนักสู้ระดับทองถึงสองคน  เขากลับโค่นนักสู้ระดับทองได้คนหนึ่ง

แม้ว่าทั้งสองคนจะสะเพร่าและเลินเล่อก็ตาม

แต่ผลที่ปรากฏออกมาก็เป็นความจริง

เจ้าผู้นี้เขามีความสามารถฆ่านักสู้ระดับทองได้!

เขาเป็นใครกันแน่? มีนักสู้ไม่มากนักที่ยังอายุเยาว์และมีความสามารถ!  ตวนมู่เริ่มนึกไล่รายชื่อในสมองและทันใดนั้นเขาโพล่งออกมา“ถังเทียน! เขาคือถังเทียน!”

ติงตังดูเหมือนตื่นตัว  นางเป็นตัวแทนทำงานให้หน่วยข่าวกรองดังนั้นจึงมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเช่นนั้น

ตวนมู่รู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันของติงตัง เขาประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ในวันนี้?  ทำไมเขาถึงได้ทำผิดพลาดโง่ๆ แบบนั้นได้?  เขาเปิดเผยสถานะของถังเทียนซึ่งจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก...

ช่วงเวลานี้เซรีนหันมายิ้มให้ด้วยสีหน้าท่าทางล้อเล่นของนาง

นั่นยิ่งทำให้เขาเสียวสันหลังอีกครั้ง

หยาหยามองดูมีท่าทางเก็บกดขณะที่เดินไปตามทางเดิน

มันอยู่ร่วมกับกลุ่มอสูรจักรกลทุกวันคอยขุดตลอดเวลา ความเบื่อกำลังจะฆ่ามัน มันไม่เห็นเจ้านายมาหลายวันแล้ว ลุงปิงก็สั่งงานมันเหมือนกับเป็นเจ้านาย ฝึกฝนจนตัวเป็นเกลียว ฝึกให้ทรงพลังเหมือนกับเจ้านายของมัน

ลุงปิงสอนให้หยาหยาและฝึกวิทยายุทธให้มัน  ซึ่งก็คือใช้หมัดกลืนแสงเพื่อขุด  ลุงปิงบอกว่าภูเขาทรายทั้งลูกจะถูกทำลายแล้วหมัดเหล็กกลืนแสงจะกลายเป็นวิชาที่น่าประทับใจแน่นอน

หมัดเหล็กกลืนแสงของข้าจะต้องดีขึ้น..แต่ ข้าไม่ได้พบเจ้านายมานานแล้ว...

นี่มันน่าเบื่อเหลือเกิน...นอกจากนี้ ตัวอ่อนขุนพลวิญญาณเกิดมาเพื่อสู้...

ข้าทรงพลังมาก...

ทำไมเจ้านายถึงได้ดูแคลนข้า...และเขาไม่ต้องการเล่นกับข้า...

หยาหยาเศร้าเตะก้อนหินเล็กๆบนทางด้วยความรำคาญ มันก้มหน้าเดินไปข้างหน้าก้าวเดินช้าๆ เหมือนกับเต่า

ทันใดนั้นร่างๆหนึ่งปรากฏตัวขึ้น  หยาหยาเงยหน้ามองสังเกตว่ามันคือแพะ, เต่าและกระรอกบรอนซ์นั่นเอง

แพะหมอบอย่างสง่างามเต่าก็ยืดหัวออกมาจากกระดองและกระรอกยืนไขว้แขนของมันมองดูหยาหยาด้วยท่าทางน่ารัก

อารมณ์หยาหยาค่อยแจ่มใสขณะที่มันกระโดดขึ้นไปบนหลังแพะ

“อา อา อา อา อา หยาหยา”

หยหยาจับเขาแพะตะโกนอย่างร่าเริงเหมือนเด็ก แพะรู้สึกได้ว่ามันอารมณ์ดีและพุ่งไปสุดฝีเท้าที่มันมี

เต่าตกใจและหดหัวกลับเข้าในกระดอง

ในท่ามกลางลมโกรกรุนแรงสิ่งที่เห็นคือใบหน้าที่น่ารักของกระรอกและหางของมันลู่ลมไปอีกด้านหนึ่ง

ไม่นานนักพวกมันก็เห็นทางเข้าเมืองสามวิญญาณ  หยาหยาเริ่มมีความสุขยิ่งขึ้น

เมืองสามวิญญาณมีเซรีนและสาวแฝด  แต่เซรีนน่ากลัวเกินไปและติงตังมักจะยุ่งอยู่เสมอ ดังนั้นผี่ผาดีที่สุด อย่างน้อยก็น่าสนใจมากกว่าขุดภูเขา

เมื่อหยาหยาผ่านทางเข้าและเตรียมจะเข้าไปในค่ายหน้าอ่อนๆ ของมันกลายเป็นเคร่งเครียดและตาของมันสว่างเหมือนดวงดาวยามราตรี

มีการต่อสู้เกิดขึ้น

มันได้ยินเสียต่อสู้เบาๆ

เจ้าแพะก็ยังตกใจและระมัดระวัง มันวิ่งไปตามทางด้วยความห่วงใยความปลอดภัยของเซรีน

ในไม่ช้าพวกมันก็มาถึงห้องเซรีนนางไม่พูดอะไรสักคำ เมื่อเห็นพวกมัน กลับหันหน้าไปดูการต่อสู้ต่อไป  ทุกคนให้ความสนใจการต่อสู้

หยาหยาเอียงหน้ามองตาของมันเป็นประกายขณะมองดูเจ้านายในจอภาพ

เจ้านายกำลังต่อสู้!

ความใฝ่ฝันตลอดชีวิตของตัวอ่อนขุนพลวิญญาณก็คือสู้ร่วมกันกับเจ้านายของมัน!

หยาหยากำหมัดสีดำของมัน

มันมองดูรอบๆ  หลังจากตระหนักว่าไม่มีใครมองดูมัน มันจึงค่อยๆย่องออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ

ตัวอ่อนขุนพลวิญญาณต้องการต่อสู้ด้วยเช่นกัน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด