ตอนที่ 406 - ถ้ำมังกรปีศาจ
“ไตตันน้อย! เจ้าทำให้ข้าทึ่งได้จริงๆ” เฉินเซียนเซิงยังคงสวมหมวกปีกกว้าง แต่ตอนนี้ใบหน้าเขาดูดีขึ้นมาก บางทีเป็นเพราะเย่ว์หยางได้ทำการแลกเปลี่ยนยาเม็ดพลังยุทธสองเม็ดกับเขา ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบุตรและธิดาดีขึ้นท่าทีของเฉินเซียนเซิงก็ดูดีขึ้นเช่นกัน เขามีการแสดงออกอย่างจริงจังแข็งขัน เมื่อเขาเห็นเย่ว์หยาง เขาคำนับเหมือนที่สุภาพบุรุษทำกัน
“สหาย! เป็นไปได้ไหมว่าเวลานี้ท่านมีข่าวดีบางอย่างมาให้ข้า?” เย่ว์หยางสังเกตเห็นว่าดูเหมือนว่าเขาจะอุบข่าวดีบางอย่างไว้
“แน่นอน” เฉินเซียนเซิงยิ้ม “อภัยให้ข้าด้วยเถอะ แต่ข้ามัวแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับท่าน เดี๋ยวข้าค่อยบอกข่าวดีตอนท้าย เรื่องแร่สายฟ้าจะดำเนินการตามที่สัญญาไว้ครั้งก่อนไหม? ข้าหมายถึงว่าถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากจะซื้อแร่สายทางด้านเหมืองตะวันตก ท่านสามารถเลือกการชำระหนี้ตามที่ท่านชอบได้เลย จะเป็นเหรียญทอง, ผลึกเวทหรือสมบัติก็ได้… แน่นอนว่าถ้าท่านต้องการ เรายังจะสามารถชำระหนี้ท่านด้วยเหล้าพิเศษของทวีปฉีหลาน เหล้าฉีหลานไม่ใช่เป็นแค่เหล้าชั้นเยี่ยมธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นยาฟื้นฟูกำลังชั้นยอดให้กับนักรบด้วย มีประสิทธิภาพฟื้นฟูพลังงานพอๆ กับสรรพคุณรักษาบาดแผลด้วย ในทวีปฉีหลานผลผลิตประจำปีของเหล้าฉีหลานอย่างน้อยสามหมื่นขวดจะถูกส่งออกไปยังหอทงเทียนจัดจำหน่ายโดยพวกพ่อค้า เป็นเหล้าที่นิยมกันมาก
“ท่านมีเหล้าฉีหลานมากเท่าใดกันแน่?” เย่ว์หยางพูดให้ตรงจุด
“อย่างเต็มกำลังที่สุด เราสามารถรวบรวมได้หมื่นขวด และเหล้าเลือดมังกรระดับห้า 100 ขวด เหล้ากระดูกพยัคฆ์ระดับสี่ 1,000 ขวด และที่เหลือเป็นเหล้าเลือดสัตว์อสูรระดับสาม 9,000 ขวด” เฉินเซียนเซิงรู้ว่าเหล้าหมื่นขวดครอบคลุมแค่การชำระหนี้ค่าแร่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่เขายังคงต้องชำระด้วยสมบัติมีค่าอย่างผลปัญญาและผลึกเวท
สำหรับทอง เฉินเซียนเซิงไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะประสบภาวะขาดแคลนเงิน
เย่ว์หยางกำลังขบคิด เขาเริ่มเข้าใจสาเหตุที่เฉินเซียนเซิงรีบเร่งหาแร่สายฟ้า
บางทีเพื่อหาอาหารให้อสูรที่มีคุณสมบัติทางสายฟ้าเพื่อใช้ยกระดับและพลังของมัน
การจัดหาแร่ในทวีปฉีหลานอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของทวีปมังกรทะยานในระยะยาว อย่างไรก็ตามการกลับคำพูดและทำลายสัญญาเป็นเรื่องน่าละอายไปบ้าง นอกจากนี้ เย่ว์หยางยังครอบครองเหมืองของเยาถงในตอนนี้ เขาไม่กังวลว่ามีแร่เพียงพอหรือไม่
สำหรับแร่คุณภาพสูง เฉินเซียนเซิงอาจไม่ต้องการก็ได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถซื้อมันได้ เย่ว์หยางยังคงเก็บแร่คุณภาพดีที่สุดไว้กับตัวเอง
เขายังสามารถขายแร่คุณภาพธรรมดาให้กับอีกฝ่ายได้
สิ่งที่เย่ว์หยางต้องการที่สุดไม่ใช่เหล้าฉีหลาน ของเหล่านี้ใช้แล้วใช้เลย หลังจากดื่มไปแล้วก็จะสิ้นเปลืองหมดไป
สิ่งที่เขาต้องการที่สุดเป็นสูตรปรุงเหล้าและวิธีผลิตอาวุธและเกราะด้วยแร่สายฟ้า ด้วยเทคนิคและทักษะเหล่านี้ เย่ว์หยางจะสามารถทำซ้ำของเหล่านี้ได้ทันทีและสามารถเอาไปใช้งานในทวีปมังกรทะยานได้
ก็คงเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถค้นคว้าวิจัยด้วยตนเอง แต่มันใช้เวลานานเกินไป เย่ว์หยางไม่เคยคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเขามากเท่าใดอย่างจริงจัง เขามีเรื่องที่ต้องจัดการมากเกินไป ถ้าเขาได้รับวิธีการและทักษะในการสร้างโดยตรงจะเป็นการดีที่สุด บางทีอาจทำของเลียนแบบและลงท้ายทำให้ดีกว่าของเดิม เย่ว์หยางคิดว่าเฉินเซียนเซิงจะยินดีแลกเปลี่ยนเทคนิคหลอมและใช้แร่สายฟ้ากับเขา ขณะที่วิธีให้อาหารสัตว์อสูร แม้ว่าเฉินเซียนเซิงจะบอกวิธีแก่เขา แต่ทวีปมังกรทะยานอาจไม่มีสัตว์อสูรพิเศษที่กินแร่อย่างนั้น นอกจากนี้ การจัดหาแร่ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันเพียงปีสองปี ในที่สุดเย่ว์หยางตัดสินใจใช้ความพยายามค้นคว้าวิจัยแร่สายฟ้าด้วยตนเอง จากนั้นเย่ว์หยางจะมอบวิธีการให้เป็นของขวัญจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้ เขาจะใช้เป็นเหมือนสินสอดสำหรับงานสมรสกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
วิธีนี้จะทำให้จุนอู๋โหย่ว ว่าที่พ่อตาของเขายินดีอย่างแน่นอน
ทันทีที่เย่ว์หยางปลงใจได้ เขาพยักหน้า “ก็ได้, ไม่มีปัญหา เกี่ยวกับแร่ เราคงจะทำตามที่พูด ทวีปฉีหลานสามารถใช้เหล้าแลกเปลี่ยนได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มูลค่าทั้งหมดจะต้องชำระด้วยผลึกเวท”
เมื่อเฉินเซียนเซิงเห็นเย่ว์หยางขบคิดอยู่เงียบๆ หัวใจของเขาเต้นราวกับกลองรัว
เขารู้ว่าแร่สายฟ้ามีมูลค่ามากมายเพียงไหนและเงื่อนไขของเขา อาจไม่ใช่เงื่อนไขที่ดีที่สุด ตอนนี้ด้วยคู่แข่งที่มากมาย ทันใดนั้นเขาแสดงความจริงใจทันทีเพื่อให้สถานการณ์อยู่ในสภาพน่าพอใจทั้งสองฝ่าย “ท่านไตตันน้อย เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณท่านที่รักษาสัญญา และเป็นการฉลองมิตรภาพของเรา เราอยากเสนอเทคโนโลยีต่างๆ ในการสกัดและทำเกราะจากแร่สายฟ้าให้ท่านโดยไม่คิดมูลค่า นอกจากนี้เราจะร่วมมือกับแนะนำกระบวนการให้แก่ท่าน ท่านไตตันน้อย โปรดอภัยที่ข้าขอบอกตามตรง วิธีทำของพวกเราอาจไม่ใช่ดีที่สุด วิธีที่ปีศาจจากแดนอเวจีใช้แร่สายฟ้าและทักษะการหล่อของพวกคนแคระเป็นเทคนิคที่ดีที่สุด เทคนิคเหล่านั้นถือว่าลับสุดยอด เราไม่สามารถรับมาจากพวกเขาได้ อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า อสูรสายฟ้าที่จะแข็งแกร่งขึ้นได้ เมื่อพวกมันบริโภคแร่สายฟ้า ก็สามารถหาพบได้ในทวีปฉีหลาน เรายินดีจะรวมเป็นส่วนหนึ่งในการชำระหนี้ โดยฝึกอสูรสายฟ้าให้เชื่องในฐานะที่เป็นพาหนะ”
“เทคนิคสกัดแร่จากแร่สายฟ้าหรือ?” พ่อบ้านเหยียนเจิ้งตกตะลึง เฉินเซียนเซิงใจกว้างเหลือเกิน
“อสูรสายฟ้าเป็นพาหนะที่ทรงพลังมาก พวกมันไวกว่าสายฟ้า พลังโจมตีของพวกมันจะปกคลุมไปด้วยสายฟ้าและทำให้ศัตรูกลายเป็นอัมพาตได้ ถ้าพวกมันมีระดับที่สูงกว่าชั้นทองแดงหรือชั้นเงิน พวกมันย่อมเหมาะเป็นพาหนะให้นักสู้ระดับหกและระดับเจ็ดได้ขับขี่
“ทวีปฉีหลานสามารถส่งมอบอสูรสายฟ้าชั้นทองสองตัวและชั้นเงินสิบตัวเป็นประจำทุกปี ที่เหลือจะเป็นอสูรระดับทองแดง อย่างต่ำก็ระดับ 4 และอย่างสูงจะเป็นระดับ 6 เราจะสามารถส่งมอบให้ปีละ 300-500 ตัวเป็นประจำ เราไม่ยืนยันว่าต้องได้แร่คุณภาพดีที่สุด แต่แร่สายฟ้าคุณภาพสูงสุดยอดทุกก้อนอย่างน้อยสามารถแลกอสูรสายฟ้าระดับเงินได้สองตัว” เฉินเซียนเซิงยื่นร่างข้อตกลงที่เขาได้เตรียมไว้ก่อนแล้วให้เย่ว์หยาง
“ดีมากเลย เฉินเซียนเซิง ความจริงใจของท่านช่างน่าชื่นชม ตกลงตามนั้น” เย่ว์หยางรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่บอกวิธีให้อาหารและฝึกอสูรสายฟ้าให้เขา ทุกๆ เผ่าพันธุ์ล้วนมีความลับของตนเอง
ตัวอย่างเช่น คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้พวกเอลฟ์, โนมและคนแคระเปิดเผยวิธีสร้างธนู, ฝังอัญมณี, และหล่อหลอมอาวุธ เรื่องนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น เหมือนกับที่เย่ว์หยางจะยอมบอกคนอื่นๆ ถึงเทคนิคศร้างอสูรหุ่นกลของตระกูลหรือ?
แน่นอนว่าไม่
แหล่งและสิทธิ์การเข้าถึงอสูรสายฟ้า ยังคงอยู่ในเงื้อมมือของผู้เข้มแข็งในทวีปฉีหลาน แต่เย่ว์หยางก็ยังได้รับประโยชน์จากการนี้อยู่ดี
ในการทำธุรกิจ เป็นไปไม่ได้ที่จะผูกขาดไปเสียทุกอย่าง แค่ผูกขาดทรัพยากรที่มีค่ามากก็นับว่าเพียงพอแล้ว
นอกจากนี้ เขาแค่ชิงเหมืองแร่สายฟ้ามาตั้งแต่ต้น
นี่เป็นแค่กำไรดอกผลงอกเงย!
ภารกิจของเย่ว์หยางก็คือฝึกฝนพัฒนาตนเอง ส่วนเรื่องอย่างนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องฟุ้งซ่านเกินไป ตราบใดที่ยังได้รับประโยชน์อยู่บ้าง
เย่ว์หยางลงชื่อในข้อตกลงการค้า
จากนั้นเขียนเครื่องหมายหน้ากากเจมินี่กำกับ
ตอนนี้ จิตใจของเฉินเซียนเซิงสงบลงจนได้
เขารู้ว่าข้อตกลงนี้สมประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ไตตันน้อยก็มีโอกาสเลือกคู่แข่งการค้าอื่นแทนที่จะแบ่งปันแบบสมประโยชน์ทั้งสองฝ่ายนี้ สิทธิ์เหนือเหมืองแร่สายฟ้าทั้งหมดอยู่ในมือของเจ้าผู้เยาว์ที่หยั่งไม่ถึงผู้นี้ เขาเลือกที่จะทำงานร่วมกันและสร้างสถานการณ์สมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย หรือเขาสามารถปฏิเสธก็ได้ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะทำงานร่วมกับคนอื่น
เฉินเซียนเซิงคำนับด้วยความจริงใจ “ขอบคุณท่านมาก ก็อย่างที่ท่านรู้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราอาศัยอยู่ใต้เงาแดนปีศาจ เชื่อว่าด้วยการสนับสนุนจากท่าน ทวีปฉีหลานจะได้รับโอกาสหายใจได้คล่องคอและมีโอกาสอยู่รอดที่ดีขึ้น ก่อนที่ข้อตกลงทางการค้าจะเริ่มขึ้น ข้าสัญญากับท่านได้ว่าทรัพย์สมบัติของแอนตันในทวีปฉีหลานจะได้รับการจัดการถ่ายโอนโดยพ่อบ้านเหยียนเจิ้งโดยไม่เกี่ยวกับข้อตกลงในการค้า มันเป็นของท่านทั้งหมด ถ้าท่านไม่ต้องการรับทรัพย์สินของแอนตันในรูปแบบทอง ท่านสามารถรับเป็นของอื่นที่มีมูลค่าเสมอกันก็ได้ อาทิเช่นเหล้าฉีหลานและอสูรสายฟ้า เราสามารถจัดส่งเกราะสายฟ้าบางส่วนให้ท่านก็ได้”
“ข้าก็อยากเรียนรู้เกี่ยวกับผลผลิตในทวีปของท่าน จึงอยากจะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง ข้าขอโอกาสบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี” ดูผิวเผิน ดูเหมือนเย่ว์หยางไม่ใส่ใจและหัวเราะแทน
อย่างก็ตาม เขารู้สึกอยู่ในใจว่า เฉินเซียนเซิงเป็นคนหัวคร่ำครึเกินไป
ถ้าเป็นคนที่มาจากทวีปมังกรทะยาน พวกเขาจะยอมให้สมบัติของแอนตันกับคนภายนอกก่อนหรือ? ไม่ใช่แน่นอน
ต่อให้พวกเขาต้องทำ พวกเขาคงไม่ทำให้ทั้งหมด
พวกเขาจะปกปิดมันเอาไว้อย่างดีที่สุด
ในทางตรงกันข้าม พอมองดูเฉินเซียนเซิงแล้ว เขาคงโอนทรัพย์สินมาทางเหยียนเจิ้งก่อนที่จะกลับมาเรียบร้อยแล้ว เขาทำคล้ายกับว่าการปกปิดทรัพย์สินไว้เป็นเรื่องน่าอับอาย หลังจากเย่ว์หยางเห็นเหตุนี้แล้วเขารู้สึกปลื้มใจเล็กน้อย เขานึกถึงลีน, แอนนา, เลโอ, ฟ่านหลุนเถี่ยและคนอื่นๆ พวกเขาทุกคนมีคุณธรรมมีนิสัยที่ต่างกันมาก ความจริงในหลายๆ เผ่าพันธุ์นอกจากมนุษย์ ยังมีพวกที่มีนิสัยสัตย์ซื่อถือคุณธรรมมากจนน่าแปลกใจ
อย่าว่าแต่เอลฟ์เลย พวกทอเรน, คิวบัวร์หรือแม้แต่เผ่ากบก็ยังมีจิตใจสูงส่งกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์
มันอะไรกันนี่
วัดกันตามมาตรฐานของเมืองจีนแล้ว คนพวกนี้ทั้งหมด ก็โง่กันทั้งนั้น
พวกปัญญาอ่อน ซื่อจนเซ่อ
เย่ว์หยางรู้อึดอัดใจ
แน่นอนว่า เขาส่งเสริมให้คนอื่นมีนิสัยที่ดีและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างจริงจังและตามความเป็นจริง ก็คงจะดีที่สุดถ้าคนในหอทงเทียนทุกคนทำตัวเหมือนคนชั้นสูง แต่เขาคงไม่ทำอย่างนั้นแน่ๆ
เปรียบเทียบกันแล้ว แทนที่จะเป็นคนดี เย่ว์หยางรู้สึกว่าเป็นคนเลวสะดวกกว่า สามารถทำอะไรตามวิธีการของเขาก็ได้
ปล่อยให้คนอื่นเป็นคนดีไปเถอะ ส่วนข้าจะเป็นตัวแสบของสังคมต่อไป
นั่นคือความคิดเห็นส่วนตัวของเย่ว์หยาง
เฉินเซียนเซิงจากมาด้วยความยินดี เขากำลังเตรียมนำเหล้าขึ้นชื่อ, สัตว์อสูรและเครื่องเกราะมาจากเมืองของเขามายังป้อมสายฟ้า สำหรับทวีปฉีหลาน สามารถทำงานร่วมกับนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่แข็งแกร่งอย่างพี่น้องไตตัน พวกเขานับว่าโชคดีมาก
ก่อนที่เขาจะจากมา เขาให้เศษกระดาษที่วาดแผนที่ไว้ในนั้น มีการทำเครื่องหมายตำแหน่งในแผนที่
เย่ว์หยางสั่นด้วยความตื่นเต้นยินดี
ตำแหน่งที่ระบุในแผนที่ก็คือ ถ้ำมังกรปีศาจ
“ตำแหน่งนี้ถูกพบโดยโจรลือชื่อผู้มีฝีมือในการซ่อนตัวที่สูงส่ง เขาใช้เวลาปีหนึ่งเพื่อค้นหาที่นี่ เขาเกือบจะเสียชีวิต ตามบันทึก จะมีมังกรดำตัวหนึ่ง, มังกรแดงสองตัวและรอบๆ มีมังกรไฟอีกนับร้อย ถ้าท่านต้องการข้อมูลเพิ่ม ท่านต้องไปหาบุรุษคนหนึ่งนามว่า”ดาบเงา“ในร้านเหล้าชื่อเขาเงิน เขาเป็นสหายที่ข้านับถือที่สุด ขอให้โชคดี!” เฉินเซียนเซิงต้องจ่ายเงินถึงหมื่นเหรียญทองสำหรับข้อมูลนี้ เขามอบให้เย่ว์หยางโดยไม่ลังเล ทั้งนี้เพราะเขารู้สึกว่าเทียบกับเขาแล้ว บุรุษหนุ่มผู้นี้เหมาะและสามารถรับมือการผจญภัยในถ้ำมังกรได้ดีกว่า
“ถ้าข้าทำได้สำเร็จ ข้าจะตอบแทนท่านด้วยเลือดมังกรหนึ่งขวด” เย่ว์หยางเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าการเข้าไปค้นหาในถ้ำมังกรปีศาจนั้นอันตรายแค่ไหน และข้อมูลนี้ล้ำค่าขนาดไหน นอกจากนี้เฉินเซียนเซิงก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่ง ถ้าเขายินยอมให้เขาได้มีโอกาสฆ่ามังกร นี่เป็นการแสดงให้เห็นความจริงใจของเขาในการทำงานร่วมกัน แม้แต่ในป่าหยกคราม ที่ซึ่งมังกรยักษ์แวะผ่าน ก็ยังมีพวกนักล่ามังกร ประสาอะไรกับถ้ำมังกรปีศาจ
จากตรงนี้ ชัดเจนว่าจะหามังกรยักษ์ได้นั้นยากเย็นเพียงไหน
นอกจากนี้ มังกรยักษ์ไม่ใช่สัตว์มังสวิรัติ พวกมันไม่เหมือนมังกรบิน พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งคงทน และจะสู้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาในสายตาของมัน
เย่ว์หยางกลับไปที่หอทงเทียนชั้นหก แกล้งทำเป็นไม่รู้จักเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ เขาพบพนักงานเทเลพอร์ตและเทเลพอร์ตส่งตัวเขาไปในพื้นที่ห่างออกไปหมื่นลี้ และยังเทเลพอร์ตต่ออีกสามครั้ง เย่ว์หยางก็ไปถึงเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง เขาจ้างนกนางนวลปีกฟ้าหลังขาว ที่เป็นเหมือนพาหนะโดยสารบินไปส่งเขาที่โรงเตี๊ยมเขาเงิน
มีโรงเตี๊ยมขนาดกลางอยู่แห่งหนึ่ง
เขาเงินขนาดยักษ์ข้างหนึ่งปรากฏเหมือนเป็นเครื่องหมายการค้าของโรงเตี๊ยม มันดูเหมือนกับเป็นรากฐานของกลุ่มเขาเงิน มีคนอยู่มากมายเหมือนกับว่าหอทงเทียนชั้นหกอยู่ที่นี่
เย่ว์หยางผลักเปิดประตูและเดินเข้าไป
พวกที่เห็นเย่ว์หยางประหลาดใจเล็กน้อย สายตาหลายคนจับจ้องหน้ากากเจมินี่พอๆ กับที่รู้จักทวนทองฆ่ามังกรที่พันห่อไว้บนหลังของเขา พวกเขารู้ว่านี่เป็นสมบัติชั้นทอง นักสู้อ่อนแอระดับหกสวมหน้ากากชั้นทองงั้นหรือ? สายตาของคนที่กำลังกินดื่มเป็นประกาย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้พวกเขาไม่เอื้อมมือไปคว้ามันไว้ เทียบกับหอทงเทียนชั้นหกแล้ว การรักษาความปลอดภัยของที่ดีทำได้ดีมาก
ดูเหมือนว่านักผจญภัยที่กลุ่มเขาเงินจะมีลูกไม้ในแขนเสื้อ อย่างน้อยก็สามารถควบคุมพวกลูกค้าได้อยู่หมัด
เย่ว์หยางไม่สนใจสายตาละโมบ ยังคงเดินไปที่เคาเตอร์ขายเหล้าและวางเหรียญทองเต็มกำมือ “ข้ากำลังตามหาดาบเงา”
**************