ตอนที่ 13-7 เต็มใจยอมแพ้
โอจวินผู้นี้อำมหิตจริงๆแค่คำพูดง่ายๆเขาก็สร้างรอยร้าวความแตกแยกกับการร่วมมือภายในกลุ่มของลินลี่ย์ โอจวินยิ้มอย่างอารมณ์ดีขณะที่มองดูโอลิเวอร์และเดลี่รอให้พวกเขาตอบ
ขณะจ้องมองดูโอจวินในระยะไกลลินลี่ย์กังวลเรื่องครอบครัวของเขามากกว่า
“โอจวินผู้นี้เป็นเทพชั้นกลางพลังของเขาเหนือกว่าข้า เดลี่และโอลิเวอร์มากนอกจากนี้โอจวินยังมีกลุ่มบริวารของเขายอดฝีมือสี่คนด้านหลังเขาน่าจะเป็นเทพทั้งหมด เป็นเรื่องยากมากที่เราจะหนีไปได้”
สถานการณ์มาถึงจุดวิกฤติรุนแรงมาก
ชีวิตของเขาเทียบกับชีวิตของครอบครัวและสหาย..ถ้าเขาสามารถปกป้องครอบครัวและสหายได้ ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจแม้ว่าจะตายก็ตาม
“โอจวินทำลายปราสาทเลือดมังกรจากนั้นจากไปทันที นั่นก็ดีไป แต่ถ้าเขาหาห้องมิติพบ อย่างนั้น..”ลินลี่ย์เกรงว่าเดเลีย วอร์ตัน และคนอื่นจะถูกฆ่าไปด้วยเช่นกัน ลินลี่ย์ยังคงแน่ใจแน่นอน
เมื่อโอจวินเห็นเดเลียและคนอื่น เขาจะต้องลงมือแน่นอน
เพราะโอจวินคงตระหนักได้ว่าเดเลียบาร์เกอร์และซาสเลอร์มีประกายศักดิ์สิทธิ์อยู่ในร่างทุกคน
“ทำยังไงดี?” ลินลี่ย์ค่อนข้างตื่นตระหนก
“เฮ้? เมื่อครู่นี้ เมื่อข้ามาถึงข้าสังเกตว่ายังมีคนสองสามคนในปราสาทเลือดมังกร มีเซียนอยู่จำนวนหนึ่งนี่ พวกเขาหายไปไหนกันหมด?” โอจวินพึมพำกับตนเองทำท่าสงสัยจ้องมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
เมื่อวอร์ตันและเดเลียซ่อนตัวโอจวินอาจใช้สัมผัสเทพตรวจสอบทั่วปราสาทเลือดมังกรก็ได้
“สัมผัสเทพของข้าเพียงแต่สังเกตได้ว่าพวกเขาเข้าไปในพื้นที่ใต้ดินและจากนั้นรัศมีพวกเขาก็หายไป” โอจวินยิ้มที่มุมปากเขาจ้องมองลินลี่ย์ขณะพูดช้าๆ “เป็นไปได้ไหมว่ามีวงเวทพิเศษบางอย่างอยู่ใต้ดินปราสาทเลือดมังกรถึงได้ซ่อนรัศมีนั้นได้? หลังจากจัดการกับเจ้าแล้ว ข้าจะไปดูด้วยตัวเองแน่นอน”
หน้าผากของลินลี่ย์มีเหงื่อเต็มทันที
เดลี่ที่อยู่ใกล้ๆก็ค่อนข้างกังวลเช่นกัน
เดลี่ในโลกด้านนอกเป็นร่างแยกแสงศักดิ์สิทธิ์ร่างเดิมของเดลี่ยังคงอยู่ภายในห้องมิติที่สำคัญคือร่างเดิมของเขาไม่มีประกายศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ค่อยมีผลในการใช้ร่างเดิมของเขาโจมตี
“ลินลี่ย์, เราควรจะทำยังไงดี?” เดลี่ใช้สัมผัสเทพคุยกับลินลี่ย์
ลินลี่ย์ก็ร้อนรนเช่นกัน
ลินลี่ยไม่ค่อยสนใจมากนักถ้าร่างแยกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกทำลาย แต่ถ้า... ห้องมิติถูกโอจวินค้นพบอย่างนั้นจะไม่มีใครที่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้
“บีบี!”ลินลี่ย์คิดอะไรอื่นไม่ออกอีกต่อไป ลินลี่ย์พูดกับบีบีทางวิญญาณในระยะไกล ตอนนี้บีบีอยู่ในไพรทมิฬ
“พี่ใหญ่!”บีบีตอบทันที “ในที่สุดท่านก็คิดถึงข้า! ข้าคิดถึงท่านนัก, พี่ใหญ่! เมื่อไหร่จะมาเยี่ยมข้า?”
ปราสาทโลหะไพรทมิฬ
บีบีอยู่ภายในปราสาท,เหยียดยาวอยู่บนพื้นอาบแสงอาทิตย์อย่างเฉื่อยชาแต่เมื่อได้ยินเสียงติดต่อทางวิญญาณของลินลี่ย์ เขากระโดดตื่นเต้นทันที
“บีบี, ข้าต้องการขอบางอย่างกับเจ้า มีเทพชั้นกลางที่ชื่อโอจวินมาถึงปราสาทเลือดมังกรและเตรียมจะสู้รบ ข้าไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังไง แต่บีบี ไม่ว่ายังไงเจ้าช่วยขอให้ลอร์ดเบรุตปกป้องกลุ่มคนที่ซ่อนอยู่ห้องมิติในตอนนี้ด้วย”
มาถึงจุดนี้ลินลี่ย์ทำได้แต่เพียงฝากความหวังไว้กับบีบี
“ว่าไงนะ? พี่ใหญ่, หนีสิ!” บีบีกังวลมากทันที เทพ..บีบีรู้ความแตกต่างระหว่างเทพชั้นต้นกับเทพชั้นกลาง
หัวใจของลินลี่ย์รู้สึกหดหู่
หนี?
นอกจากสงสัยว่าจะหนีได้สำเร็จหรือไม่ตอนนี้เขาไม่สามารถหนีได้ เมื่อเขาพยายามหนี การต่อสู้จะเริ่มขึ้นทันทีและจะจบลงอย่างรวดเร็ว เวลานั้นโอจวินจะพบประตูเข้าห้องมิติแน่นอนและนั่นจะกลายเป็นหายนะ
“บีบี, ร่างหลักของข้าอยู่ภายในห้องมิติไม่ต้องห่วง ต่อให้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าถูกทำลาย ข้าจะยังไม่ตาย”นี่คือวิธีการที่ลินลี่ย์อธิบาย
แต่เมื่อร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายอย่างนั้น..ลินลี่ย์จะสูญเสียความสามารถฝึกกฎธาตุลมไปตลอดกาล คุณค่าเช่นนี้ไม่สามารถอธิบายด้วยคำแค่เล็กน้อยได้แต่เมื่อเทียบกับชีวิตของครอบครัวเขา ลินลี่ย์ไม่อาจใส่ใจได้
“พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง ข้า ข้าจะมาเดี๋ยวนี้”บีบีลนลาน
“บีบี, จำเอาไว้, ไปหาลอร์ดเบรุต” ลินลี่ย์สั่ง
โลหะปราสาทไพรทมิฬ
“ปู่เบรุต, เขาไม่อยู่ที่นี่ เขาไปสุสานเทพเจ้าจะทำไงดี จะทำไงดี แต่พี่ใหญ่อยู่ในสถานการณ์ที่แย่ ศัตรูเป็นเทพชั้นกลาง ขณะที่ ข้า ข้าข้ายังไม่เป็นระดับเทพเลย” บีบีแตกตื่นไม่รู้จะทำเช่นใด
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ถ้าท่านตาย..” ตาของบีบีเริ่มแดง
“ชรีคคคคค!” เมื่อแตกตื่นจนถึงจุดแทบบ้าบีบีเชิดหัวกรีดร้องเสียงแหลมเสียดแก้วหู
“บีบี, เป็นอะไรไป?” ในไม่ช้า ภายในโลหะปราสาทจ้าวมุสิกทองม่วงทั้งสามบินออกมา เป็นแฮรี่และน้องๆ
บีบีพูดอย่างลนลาน “เทพชั้นกลางตนหนึ่งมาที่ปราสาทเลือดมังกรเพื่อสู้รบ แต่ปู่เบรุตไปสุสานเทพเจ้าข้าจะทำยังไงดี? ตอนนี้ข้าจะทำยังไง? ถ้าข้าเสียเวลามากไปกว่านี้อย่างนั้นอาจเป็นไปได้ว่า...” บีบีเริ่มหลั่งน้ำตา
จ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสองมองหน้ากันเองแววกังวลแฝงอยู่ในตาของพวกเขา
แม้ว่านี่ต้องใช้เวลาอธิบาย แต่ในความเป็นจริงลินลี่ย์และบีบีสื่อสารกันในทันที การสื่อสารกันระหว่างอสูรเวทคู่หูกับเจ้านาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลินลี่ย์ไม่จำเป็นต้องใช้สัมผัสเทพแม้แต่น้อย..ทำให้โอจวินไม่อาจค้นพบได้ โอจวินกำลังจ้องมองเดลี่และโอลิเวอร์
“เดลี่ โอลิเวอร์ ตอนนี้เจ้าทั้งสองไปได้แล้ว”ลินลี่ย์ติดต่อกับพวกเขาทางใจ
ไปเดี๋ยวนี้?
โอลิเวอร์กับเดลี่ไม่ยอมจากไป
“ลินลี่ย์ ให้คนที่อยู่ในห้องมิติแยกย้ายกันไปในทุกทิศเถอะ” เดลี่พูดทางใจ
“ทำไม่ได้พวกท่านไม่เห็นด้านหลังโอจวินหรือ มีเทพชั้นต้นกับเซียนชั้นสูงห้าสิบกว่าคนไม่ใช่หรือ? เมื่อวอร์ตันและคนอื่นๆ หนีไป พวกเขาจะถูกจัดการได้แน่นอน” ลินลี่ย์รู้ดีพวกเขาสามคนกับเทพชั้นกลางอย่างโอจวิน ก็เพียงพอเหลือเฟือ
“โอว.. พวกเจ้าช่างซื่อสัตย์ดีแท้” โอจวินยิ้มขณะที่เขาจ้องมองคนทั้งสามที่ยืนเคียงข้างกันในกลางอากาศ
“อย่างไรก็ตามคุณค่าของความซื่อสัตย์ก็คือ..ตาย”
มาถึงจุดนี้มีความแตกต่างร้อยเมตรระหว่างทั้งสองฝ่าย สำหรับพวกเทพ ที่ระยะใกล้มาก ถ้าฝ่ายหนึ่งลงมือโจมตีทันทีอีกฝ่ายอาจไม่มีโอกาสตั้งตัวได้ ระยะร้อยเมตร.. เมื่อตั้งหลักได้ทันและความเร็วของเทพ นั่นยังเพียงพอให้ตั้งหลักและตอบโต้กลับได้
“บึ้ม!”
ภายในพันเมตรพื้นที่ถูกแช่แข็งทันที หรือพูดให้ถูก ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเทพธาตุแสงภายในระยะพื้นที่พันเมตรถูกควบคุมไว้อย่างสิ้นเชิงและเริ่มบีบคั้นฝ่ายลินลี่ย์ ประกายศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงก็คือเครื่องมือควบคุมที่ทรงพลัง
สนามพลังเทพ!
สนามพลังเทพของเทพชั้นกลาง!
ลินลี่ย์และพวกต้องกระตุ้นสนามพลังเทพของตนเองต่อต้านทันที แม้ว่าพวกเขาแทบไม่สามารถควบคุมพลังธาตุที่ตนเองถนัดได้ พวกเขายังรู้สึกเหมือนกับว่าจมลงในบ่อโคลน
“แย่แล้ว” ลินลี่ย์สามารถบอกได้จากสถานการณ์เพราะความเร็วของพวกเขาจะตกลงไปมาก ขณะที่คู่ต่อสู้เป็นเทพชั้นกลางมีพลังความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติและมีพลังโจมตีที่เหนือกว่า ผลของการต่อสู้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มขึ้นเสียอีก
“ท่านโอจวิน” ลินลี่ย์โพล่งออกมาทันที
“ว่ายังไง?” โอจวินมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์กัดฟันจากนั้นพูดอย่างเคร่งเครียด “ถ้าข้ายินดียอมแพ้ท่านและกลับไปเมืองหลวงกับท่านท่านยินดีจะไว้ชีวิตคนในปราสาทเลือดมังกรหรือไม่รวมทั้งเดลี่และโอลิเวอร์ด้วย? ข้าเชื่อว่าความสมัครใจยอมแพ้ของข้าจะส่งผลต่อท่านมากกว่าเอาศพข้าไปเมืองหลวง”
“เมื่อคนทั่วไปเห็นศพข้า มีแนวโน้มว่าหลายๆคนจะคิดว่าท่านตั้งใจจะหาคนที่ดูเหมือนข้ามาหลอกลวงพวกเขา พวกเขาจะไม่เชื่อว่าข้าตาย”
“แต่ถ้าข้าไปด้วยตัวเอง จะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป” ลินลี่ย์มองดูโอจวิน “เป้าหมายของท่านคือพลังศรัทธาของพวกเขาไม่ใช่หรือ?”
โอจวินตาเป็นประกาย เขาหัวเราะและกล่าว “เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยม!”
“ลินลี่ย์....” เดลี่และโอลิเวอร์จ้องมองลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ
ยินดียอมแพ้?
หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้าน แล้วจะเป็นยังไงถ้าเขายอมแพ้? แล้วจะเป็นยังไงถ้าร่างแยกศักดิ์สิทิ์ของเขาถูกทำลาย? อย่างแย่เขาก็ไม่มีทางได้ฝึกกฎธรรมชาติธาตุลมได้อีก แต่เขายังมีเดเลีย วอร์ตันน้องชายเขา เทย์เลอร์ ชาชา...
ลินลี่ย์ไม่ต้องการให้พวกเขาตาย
พวกเขาคือสิ่งที่ลินลี่ย์ต้องปกป้องในโลกนี้อย่างแท้จริง
ลินลี่ย์จ้องมองโอจวินรอคำตอบของโอจวิน โอจวินยิ้มกว้างมากกว่าเดิม ขณะเดียวกันฝ่ายลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าสนามพลังเทพที่บีบคั้นอ่อนลงมาก ใจของลินลี่ย์สงบลงทันที
พลังที่อ่อนลงของสนามพลังเทพทำให้เห็นภาพชัดว่าโอจวินรู้สึกอย่างไร
“เป็นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม แต่ข้าไม่ต้องการปล่อยให้เจ้ามีชีวิต” โอจวินพูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “โอจวิน, เจ้า...”
“ควั่บ!” สี่เทพที่อยู่ด้านหลังโอจวินบินเข้ามาล้อมลินลี่ย์ เดลี่และโอลิเวอร์ทันที
“ดูจากพวกเจ้าแล้วข้าสามารถรู้สึกได้ถึงการคุกคาม” โอจวินหัวเราะเยาะเย้ย “เจ้าฝึกใช้เวลาไม่ถึงร้อยปีแต่สามารถฆ่าเทพชั้นต้นฝีมือสูงอย่างโบมอนต์ได้ มีอัจฉริยะอย่างเจ้าเป็นศัตรู..คงจะดีกว่าถ้าจะทำให้ภัยคุกคามนี้เป็นหมันซะ”
โอจวินฝึกในคุกเกบาโดสมานานนับปีไม่ถ้วนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ?
เนื่องจากเขาจะเป็นศัตรูกับลินลี่ย์ เขาจะต้องฆ่าลินลี่ย์ในทันที
“ใต้เท้า กับคนพวกนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ท่านลงมือเองเลย แค่เราก็เพียงพอเหลือเฟือ” บุรุษวัยกลางคนชุดดำพูดด้วยความเคารพ
“จัดการมันให้เร็วๆ” โอจวินพูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น “เจ้าสองคนจัดการกับลินลี่ย์” โอจวินมีเทพชั้นต้นสี่คนเป็นบริวาร สองคนจัดการกับลินลี่ย์ ขณะที่อีกสองจะจัดการกับเดลี่และโอลิเวอร์
ที่สำคัญตามข้อมูลของโอจวิน พลังของลินลี่ย์เหนือกว่าโอลิเวอร์มาก
แม้ว่าเขารู้สึกมั่นใจมากแต่โอลิเวอร์ก็ยังส่งสัมผัสเทพกระจายออกไป
เขาเตรียมพร้อมลงมือทันทีเมื่อสังเกตเหตุเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์
แต่ความตั้งใจแรกของลินลี่ย์ถูกโอจวินสังเกตออก เขากังวลว่าโอจวินจะลงมือโจมตีทันที เมื่อเห็นว่าสี่เทพชั้นต้นแบ่งแยกกำลังอย่างรวดเร็ว ลินลี่ย์รู้สึกขุ่นเคืองในใจ “เดลี่ โอลิเวอร์, ไม่ว่าจะเป็นหรือตายตอนนี้ขึ้นอยู่กับสวรรค์แล้ว!!”
“ฆ่า” ตาของโอลิเวอร์เต็มไปด้วยแววดุร้ายเช่นกัน
เดลี่ชักกระบี่บางยาวมาถือไว้
“ข้าหวังว่าลอร์ดเบรุตจะสามารถมาได้ทันเวลา” ลินลี่ย์พึมพำเงียบๆ ในใจ
ขณะนี้สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือหวัง
แต่ลินลี่ย์จะรู้ได้ยังไงว่าความจริงตั้งแต่ช่วงสองวันมานี้สุสานเทพเจ้าถูกเปิดอีกครั้ง เบรุตไปที่สุสานเทพเจ้ายากจะบอกได้ว่าเขาจะกลับมาทันเวลาหรือไม่
“สองเราต้านทานเขาหรือ?” บุรุษชุดดำทั้งสองคนมองหน้ากันเองและหัวเราะ
เทพชั้นต้นทั้งสี่ฝ่ายโอจวินมีประสบการณ์เหลือเฟือในพิภพจองจำเกบาโดส พวกเขาไม่อ่อนแอเหมือนกับพวกเทพชั้นต้นมือใหม่แน่นอน สองคนร่วมมือกันต่อสู้กับลินลี่ย์ลินลี่ย์จะต้านรับพวกเขาได้ยังไง?”
“ควั่บ!”
ทันใดนั้นดาบศึกปรากฏอยู่ในมือของบุรุษชุดดำทั้งสอง พวกเขาเปลี่ยนเป็นเงาดำเลือนรางสองร่างเหมือนกับใบไม้ร่วงแผ่วเบาขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ที่กำลังกวัดแกว่งกระบี่เลือดม่วง ร่างของลินลี่ย์เคลื่อนไหวเหมือนกับสายลม
ประกายแสงสีม่วงนับไม่ถ้วนเต็มอยู่ในท้องฟ้าเหมือนกับอสรพิษสีม่วงนับไม่ถ้วนฉกออกมาจากทุกตำแหน่ง
ระลอกลม– ดาบมิติบั่นเศียร!
เสียงปะทะนับไม่ถ้วนได้ยินชัดและมิติถูกทำลาย
“บึ้ม” ร่างของลินลี่ย์ถอยด้วยความเร็วสูง เขากระอักโลหิตคำหนึ่งกระจายอยู่ในอากาศ
ไม่ไกลจากลินลี่ย์โอลิเวอร์ยังถูกกระบี่กระแทกกระเด็น
“อ๊า!!!” เดลี่ส่งเสียงร้องโหยหวน
จากมุมสายตาของเขาลินลี่ย์พบด้วยความประหลาดใจว่าร่างของเดลี่ถูกฟันขาดครึ่งด้วยดาบคล้ายภาพลวงตา เดลี่เหลือเพียงร่างกายครึ่งบนและมือข้างเดียวแม้แต่มือขวาของเขาซึ่งถืออาวุธเทพก็ยังสั่นพร้อมกับร่างส่วนที่ยังเหลือ
แต่ในการสู้รบศึกแรกฝ่ายลินลี่ย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เร็วเข้า” คนที่ควบคุมสถานการณ์โอจวินขมวดคิ้วไม่พอใจ