ตอนที่ 112 แผนสุดอัจฉริยะของซูสือ(ตอนฟรี)
แก้มของเฉินชิงหลวนแดงขณะที่นางกัดฟัน
คนโรคจิต!
แต่ หลังโดนขังแบบนั้น ความตึงเครียดในใจนางก็สลายไปมาก
พอมองแผลด้านหน้าเขา ความกังวลก็ฉายผ่านดวงตาของซูสือ
ไฟสีทองอ่อนจุดขึ้นที่ปลายนิ้วเขา"นี่อาจเจ็บหน่อยนะ'
เฉินชิงหลวน"ข้าไม่กลัวเจ็บ"
ซูสือกดไฟลงบนแผล และปราณอสูรที่หลงเหลือก็โดนไฟกลืนกินไป
ตัวของเฉินชิงหลวนสั่นลเกน้อย แต่กัดฟัน ไม่พูด
หลังกลืนกินปราณอสูร ซูสือก็หยิบเม็ดยาออกจากแหวนและบดเป็นผงก่อนป้ายแผล
"นี่คือเม็ดยาทองแหลก มันจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น"
ซูสือยิ้ม"หลังของผู้ตรวจการหลวงเฉินควรกลับมาสวยเหมือนเดิม"
เฉินชิงหลวนบ่น"จะสวยหรือไม่สวยแล้วไง?ข้าไม่สนใจ"
แม้จะพูดแบบนี้ นางก็ยังแอบโล่งใจ
เหนือสิ่งอื่นใด นางคือผู้หญิง นางจะไม่สนใจได้ไง?
ซูสือไม่พูดต่อ"แผลภายนอกหายดีแล้ว มาช่วยเจ้าทะลวงเส้นปราณให้ปลอดโปร่งกัน"
เขากดฝ่ามือบนหลังนาง
พลังปราณเข้าพุ่งเข้าตัวนางเหมือนเข็มชั้นดี ไหลทะลวงเข้าเส้นปราณนาง
แก้มขาวซีดของเฉินชิงหลวนค่อยๆฟื้นคืนสีเลือด
นางรับรู้ถึงอุณหภูมิร้อนบนแผ่นหลังและเขินอายเล็กน้อย"ตอนเจ้าทะลวงเส้นปราณให้ข้า ข้าก็สวมชุดไม่ได้เหรอ?"
"แค่ก!"
ปราณของซูสือยุ่งเหยิง"มันไม่ใช่ว่าข้าลืม...แต่ไม่เป็นไร แบบนี้การรักษาจะดีกว่า"
"ไร้สาระ ข้าไม่เชื่อหรอก"
เฉินชิงหลวนบ่นเบาๆ แต่มุมปากกลับขดขึ้นเล็กน้อย
อากาศกลายเป็นเงียบ
ซูสือส่งถ่ายพลังปราณของเขาเงียบๆ
เฉินชิงหลวนพูดขึ้น"ซูสือ..."
"ว่าไง?"
"กลับไปเมืองหลวงเว่ยหยางกับข้านะ"
ซูสือตัวแข็ง"เมืองหลวง?"
เฉินชิงหลวนพยักหน้า"ฝ่าบาทอยากให้เจ้าเดินทางไปวังหลวงเพื่อรับรางวัล และ พ่อของข้าก็อยากเจอเจ้า"
"ประมุขเฉิน?เขาอยากเจอข้าไปทำไม?'
ซูสืออยากรู้
เฉินชิงหลวนพูด"ครั้งก่อนเจ้าช่วยพ่อข้าไว้จากเงื้อมมือของจักรพรรดินีมาร และคครั้งนี้ก็ช่วยข้าไว้ในเมืองหวงหยวน เขาเลยอยากขอบคุณเจ้า"
ซูสือส่ายหัว"ไม่เห็นจำเป็นเลย..."
"นอกจากพวกเขาแล้ว ข้าก็อยากให้เจ้าไปด้วย"
"หืม?"
เฉินชิงหลวนพูดอย่างจริงจัง"ข้าอยากไปเมืองหลวงกับเจ้า อยากให้เจ้าไปเจอกับครอบครัวของข้า..."
ข้าอยากให้เจ้ารู้จักข้าจริงๆ...
นางกลั้นประโยคนี้ไว้ในใจ ไม่กล้าพูดออกมา
ซูสือมองแผลเป็นบนหลังนาง หยุดชั่วขณะและถอนหายใจ"พวกเจ้าชอบทำให้ข้าเสียหน้ากันจริงๆ"
เฉินชิงหลวนพูดอย่างประหม่า"มีอะไรหรือ?"
ซูสือพูด"เห็นได้ชัดว่าข้าคือมาร ข้าไม่ได้ทำชั่วเลย แต่ตอนนี้กลับถูกมองเป็นวีรบุรุษ และตอนนี้ก็กำลังจะไปเป็นแขกงองวังหลวง ข่าวจะต้องไปถึงหูของผู้บ่มเพาะวิถีมารคนอื่น และพวกเขาจะต้องหัวเราะเยาะข้าแน่"
"อุ้ฟ.."
เฉินชิงหลวนหัวเราะ"แล้วเจ้าจะไปไหม?"
ซูสือพูด"ถ้าข้าไปข้าก็ต้องเสียชื่อเสียงนะสิ!"
เฉินชิงหลวนพยักหน้า"งั้นเจ้าจะขออะไรจากข้าก็ได้"
ซูสือหัวเราะ"แน่ใจนะว่าขออะไรก็ได้?"
เฉินชิงหลวนตอบ"ยกเว้น ยกเว้นคำขอที่เกินเลย!"
พอเห็นท่าทางของนาง ซูสือก็หัวเราะ
ตอนทั้งสองพบกันครั้งแรก นางไม่เป้นแบบนี้
ตอนนั้น นางกัดฟันและบอกว่าอยากฆ่าเขา แต่ตอนนี้นางกลับหน้าแดง และเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขาเลย
นางเปลี่ยนไปมากจนเหมือนคนละคน
'ดูเหมือนว่าข้าควรจะต้องมั่นใจในเสน่ห์ของข้ามากขึ้น'
ซูสือให้กำลังใจตัวเอง
จู่ๆความคิดหนึ่่งก็ผุดในหัวเขา
ถ้าเขาเอาสาวงามของวังและวิถีธรรมะทั้งหมดมาเป็นสาวของเขา นั่นไม่เท่ากับว่าเขาจะยึดครองทั้งเก้าภูมิภาคได้โดยไม่ต้องหลั่งเลือดหรือ?
"ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ!"
เช้าตรู่วันต่อมา
หวังเหมามาถึงโรงเตี๊ยมแต่เช้า พร้อมด้วยทหารที่แบกหีบใบใหญ่มามากมาย
ภายในคือของขวัญขอบคุณที่ประชาชนเมืองหวงหยวนเตรียมให้ซูสือ
แต่ เขาเคาะประตูอยู่ครึ่งวันก็ไม่มีใครตอบ
ตอนเขาผลักเปิดประตูเข้าไป เขาถึงพบว่ามันว่างเปล่า
"ซูเซิ่งจื่อไปแล้ว?"
หวังเหมาขมวดคิ้ว
ตอนนี้ เขาพบกระดาษชิ้นหนึ่งบนโต๊ะ"เอาของกลับไป ข้าจะกลับมาดื่มกับท่านครั้งหน้า"
หวังเหมาส่ายหัว หัวเราะอย่างขมขื่น"ดูเหมือนซูเซิ่งจื่อจะเดาทุกอย่างไว้หมดแล้ว"
"แต่'ครั้งหน้า' ช่วยเขียนให้ชัดได้ไหม?"
วังจ้าวเทียน
เฟงิเฉาเกอกำลังตรวจสอบกองเอกสาร
เสียงเท้าดังขึ้น และตามด้วยขุนนางหญิงที่เดินเข้ามา
"ฝ่าบาท มีข่าวจากแม่ทัพหยูเจ้าค่ะ"
เฟิงเฉาเกอไม่คิดเงยหน้า"เรื่องทางชายแดนเหนือไม่เป็นไปด้วยดีใช่ไหม?"
นางมีการคาดเดาอยู่แล้วในหัว
การผลักชายแดนไปข้างหน้าจะต้องก่อให้เกิดความโกรธของพวกคนนอกแน่
ขุนนางหญิงพูด"บรรพชนเฒ่าของเผ่ากวางเดิมมีท่าทีแข็งกร้าว มุ่งมั่นจะไม่ยอมเด็ดขาด แต่..."
"แต่อะไร?"
"แต่ซูสือได้ปรากฏตัว และคนนอกก็ยอมถอยทันที การผลักชายแดนไปข้างหน้าสามร้อยลี้สำเร็จเจ้าค่ะ คนนอกจะไม่มาหยุดมันอีก"
เฟิงเฉาเกอหยุดชะงัก
หมึกหยดลงบนกระดาษ
แต่นางไม่สนใจสักนิด
"ซูสือปรากฏตัว?"
"เจ้าค่ะ ซูสือกับผู้ตรวจการหลวงเฉินแห่งมือปราบมารกำลังมุ่งหน้ามาทางเมืองหลวงเว่ยหยาง"
เฟิงเฉาเกอเงยหน้า ความแปลกใจแวบผ่านตานาง"เขามาจริงๆ?"
"เขาควรจะมาถึงเมืองหลวงวันนี้"
ขุนนางหญิงถาม"งั้นเราควรส่งคนไปต้อนรับเขาที่ประตูเมืองไหมเจ้าคะ?"
นี่คือวีรบุรุษของมนุษย์
เฟิงเฉาเกอส่ายหัว"ในเมื่อเขาหายตัวไปหลายวัน ข้าคิดว่าเขาคงไม่อยากทำตัวเด่น"
"เจ้าค่ะ"
ขุนนางถอยไป
"ซูสือ..."
ด้านนอกเมืองหลวงเว่ยหยาง
คนสองคนลอยลงจากอากาศ มันคือซูสือกับเฉินชิงหลวง
ดินแดนเมฆาอยู่ไม่ไกลจากชายแดนเหนือ จ้านชิงเฉิงจึงกลับสำนักไปแล้ว
มีแค่สองคนที่เดินทางมาด้วยกัน
พอมองมือของพวกเขาที่เกาะกุมกันแน่น เฉินชิงหลวนก็เขินอายเล็กน้อย
นางยังไม่หายจากบาดแผลภายในและไม่สามารถใช้พลังปราณได้คล่อง ซูสือจึงเป็นคนที่แบกนางมาตลอดทาง
พอเห็นความเงียบของซูสือ เฉินชิงหลวนก็ถาม'เจ้าคิดอะไรอยู่?"
"ข้ากำลังคิดว่า ถ้าฝ่าบาทของข้ากลายเป็นจักรพรรดินีผู้ปกครองอาณาจักรขึ้นมา แล้วสถานะของข้าควรจะเป็นอะไร?"
"เจ้าชาย?"
"เจ้าชายรัชทายาท?"
"ไม่ ข้าไม่ใช่บุตรชายของฝ่าบาท"
เฉินชิงหลวนกุมขมับ
สมองคนคนนี้ปกติดีไหม?