ตอนที่แล้ว908 - จักรพรรดิอสูร 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป910 - การพบกันของจักรพรรดิทั้งสอง

909 - ยาเซียน 


909 - ยาเซียน

บริเวณรอบๆทะเลสาบ ชเต็มไปด้วยเสียงอุทาน ชายผู้หนึ่งค่อยๆย่างเท้าก้าวเดินขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ดวงตาของเขางดงามราวกับโอบล้อมดวงดาวทั้งจักรวาลไว้ภายใน

ทองเหลืองสีเขียวชิ้นหนึ่งเป็นสนิมและมีรอยด่างดวงห้อยอยู่เหนือศีรษะของเขา

ทุกท่วงท่าของเขาเป็นธรรมชาติไม่มีแรงกดดัน และไม่มีกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน

ในขณะนั้นทุกคนที่อยู่ภายในบริเวณต่างก็คุกเข่าลงอย่างนอบน้อมโดยไม่มีผู้ใดบังคับ

แม้ว่าจักรพรรดิชิงจะเป็นจอมอสูรผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในฐานะจักรพรรดิโบราณแล้วทุกคนต่างให้ความเคารพเขาอย่างสูง

“เจ้า…”

บนรถศึกโบราณ สิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ร่างกายถูกทำลายจนแหลกเป็นชิ้นๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

“เจ้าเป็นใคร?”

เขารู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างดี ชายคนนั้นเพียงแค่เหลือบมองมา แต่ร่างกายของเขาถึงขั้นแตกสลาย พลังแบบนี้ไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อน

ตัวเขาแข็งแกร่งระดับสิ่งมีชีวิตอมตะ แต่ต่อหน้าชายผู้นี้เขาไม่สามารถต้านทานได้เลย ในขณะนี้ตัวตนของเขาไม่แตกต่างจากมดแมลงด้วยซ้ำ

“บังอาจ!”

ผังป๋อแอบอ้างความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิชิงตำหนิสิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่บนรถศึก เมื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิอสูรร่างกายของเขาก็เกิดความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด

มันคล้ายกับว่าเขาสามารถใช้ทักษะจักรพรรดิอสูรเก้าบาดแผลได้อย่างอิสระโดยไม่ถูกควบคุมอีกต่อไป

“เด็กน้อยเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”

สิ่งมีชีวิตสูงหนึ่งฉื่อเลิกคิ้ว และลำแสงที่น่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากกองเศษซากของมัน

“รนหาที่ตาย!” ผังป๋อตวาดเสียงดัง

“เจ้าต่างหากที่รนหาที่ตาย!”

สิ่งมีชีวิตสูงหนึ่งฉื่อนี้ไม่กล้าที่จะต่อต้านจักรพรรดิชิง แต่มันมั่นใจว่าพลังของมันเหนือกว่าผู้ฝึกตนธรรมดาอย่างผังป๋อแน่นอน ดังนั้นมันจึงลงมือโจมตีทันที

ความแข็งแกร่งของมันไม่มีใครเทียบได้และการฆ่าผู้นำดินแดนศักดิ์สิทธิ์สักคนยังไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร และยิ่งเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อย่างผังป๋อบทสรุปนั้นแทบจะถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

“ปัง”

จักรพรรดิอสูรเพียงก้าวไปข้างหน้าและแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวในร่างกายของเขาได้บดขยี้สิ่งมีชีวิตบนรถศึกให้กลายเป็นเถ้าถ่านโดยไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ

นี่มันพลังอะไรกัน? ผู้นำของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายต่างคุกเข่าลงและไม่กล้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยซ้ำ

“จักรพรรดิชิงฟื้นคืนชีพแล้ว!”

“จักรพรรดิอสูรได้ถือกำเนิดใหม่แล้ว!”

ผู้คนอุทานที่อยู่ในระยะไกลอุทานด้วยความตื่นเต้น บุคคลในตำนานผู้นี้ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว

ยิ่งกว่านั้นเขายังถือกำเนิดขึ้นจากต้นกำเนิดเดิมของเขา และพลังที่แสดงออกมาในครั้งนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตอมตะทั่วไปหลายเท่า

“เป็นไปได้อย่างไร อายุขัยของจักรพรรดิชิงเหือดแห้งไปแล้ว เกิดอะไรขึ้น?”

“จักรพรรดิโบราณอาจจะยังไม่ตาย เขาอาจจะมีวิธีกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง?”

“ไม่มีทาง แม้แต่จักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดยังไม่สามารถทำได้ แล้วคนอื่นจะมีโอกาสได้อย่างไร!”

ผู้คนส่งเสียงอื้ออึงด้วยความประหลาดใจ พวกเขารู้สึกกดดันไปถึงจิตวิญญาณ การปรากฏขึ้นอีกครั้งของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ทำลายความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง

“จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!”

เฟิ่งหวงสีแดงเลือดที่ยาวกว่าครึ่งฉื่อ อาชาสีม่วงตัวน้อยที่ลากรถศึกต่างกรีดร้องด้วยความกลัว

กลุ่มสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ล้วนอยู่ในระดับผู้อมตะทั้งสิ้น แต่พวกมันกลับต้องกรีดร้องอย่างสิ้นหวังเมื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิชิง

“จักรพรรดิโบราณน่ากลัวเกินไป หรือว่าในระดับผู้อมตะก็ยังแบ่งเป็นลำดับชั้น?!” ผู้คนได้แต่ประหลาดใจกับสิ่งนี้

ไม่ไกลนัก แสงสีแดงสว่างวาบ ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามและสัตว์ประหลาดผมแดงอีกหลายสิบตัวสั่นเทาและต้องการจะหนีไป แต่พลังของจักรพรรดิอสูรทำให้พวกมันหวาดกลัวเกินกว่าจะขยับตัวได้

จักรพรรดิชิงเดินหน้าไปทีละก้าว จากนั้นลำแสงสีเขียวได้ถูกยิงออกมาจากดวงตาของเขาและทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงมากกว่าสิบตนได้รับการชำระให้บริสุทธิ์

ควันสีเขียวถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของพวกมัน เส้นขนสีแดงทั้งหมดถูกเผาไหม้กลายเป็นหมอกควันสีดำสนิท

“อา…”

เสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รัศมีศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากร่างของจักรพรรดิชิงนั้นเหมือนกับคมของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งเผาผลาญร่างกายของสิ่งมีชีวิตเส้นขนสีแดงเหล่านั้นจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

“จักรพรรดิชิง”

ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามพูดเป็นครั้งแรก คำพูดของเขาไม่ชัดเจนนักมันแทบจะคล้ายกันกับเสียงคำรามของสัตว์ร้าย

จักรพรรดิชิงไม่พูดอะไร แต่ค่อยๆ ยกมือขึ้นก่อนจะกดลงบนหน้าผากของเขา

“เจ้าจะต้องชดใช้ จักรพรรดิอสูร…” แสงสีแดงรูปมนุษย์พุ่งออกมาจากหน้าผากของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ จักรพรรดิชิงเพียงบีบมือเข้าเบาๆวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ก็ถูกทำลายกลายเป็นเถ้าถ่านทันที

“อา…”

เมื่อเส้นขนสีแดงบนร่างกายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามหายไปร่างกายที่เหี่ยวเฉาและแก่ชราของเขาก็ปรากฏขึ้น

หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน อายุขัยของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์กำลังจะหมดลงแล้ว ตอนนี้เขาได้เห็นฉากที่น่าหวาดกลัวซึ่งไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็น

เขารีบก้าวไปข้างหน้าโดยตั้งใจที่จะฝังร่างของปรมาจารย์ด้วยความเคารพ แต่ในขณะนั้นผู้คนนับสิบได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธและโจมตีเข้าหาเขาทันที

“เจ้าคิดจะแย่งชิงยาเซียนกับพวกเราหรือ!” ชายชราคนหนึ่งตะโกนด้วยเสียงต่ำ

“ปัง”

ทันใดนั้น ร่างของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามก็ขาดออกจากกัน และยาเซียนขนาดเท่ากำปั้นก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงที่ปล่อยออกมาสว่างไสวและงดงามเป็นพิเศษ

นี่คือยาเซียนแห่งความเป็นอมตะ มันถือกำเนิดในร่างของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์และได้รับการหล่อเลี้ยงโดยมังกรนิรันดร์แห่งเทือกเขาฉินหลิงและกลายเป็นยาที่มีพลังหยางสุดขั้ว

ราชานกยูงและนักพรตมังกรแดงรวมถึงจักรพรรดิเซี่ยได้ถืออาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในมือดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะขยับตัวอย่างบุ่มบ่าม เพราะเกรงว่าจะเป็นการกระตุ้นความสนใจของจักรพรรดิอสูร

นั่นเป็นเหตุผลให้พวกเขาพลาดโอกาสที่จะครอบครองยาเซียนไปอย่างน่าเสียดาย

ในขณะนั้นยาเซียนได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รอยร้าวได้ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมันทีละน้อย

บูม!

เม็ดยาได้ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงและเศษเสี้ยวของมันหลายสิบชิ้นได้กระจายออกไปทุกทิศทาง

จักรพรรดิอสูรไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้แต่เดินไปข้างหน้า ซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำมังกรนิรันดร์

เมื่อจักรพรรดิอสูรเดินเข้าไปในถ้ำ ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนต่างก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขามองหาเศษชิ้นส่วนของยาเซียนและกระจายตัวกันออกไปในทันที

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงและกลิ่นหอมสดชื่นลอยลงมา ทำให้บ่อน้ำเซียนทั้งหมดรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน แสงและไอน้ำเป็นเหมือนควัน และหลายคนเมามายบนพื้น

เย่ฟ่านเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ยาเซียนมากที่สุด เขาไม่ได้มีความหวาดกลัวต่อจักรพรรดิอสูรจึงสามารถใช้หม้อปราณปัฐพีต้นกำเนิดแย่งชิงเศษเสี้ยวของยาเซียนได้สามชิ้น

ในขณะเดียวกันเมื่อยอดฝีมือระดับเซียนหลายคนเห็นการลงมือของเขา สายตาของคนเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยความดุร้ายในทันที

“ตายซะ!”

มีใครบางคนตะโกนด้วยความโกรธและโจมตีเย่ฟ่านจากทางด้านหลัง

การระเบิดของแสงศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวพุ่งออกมาด้วยความเร็วไม่แตกต่างจากสายฟ้า แน่นอนว่าคนคนนั้นเป็นยอดฝีมือของนิกายหยินหยาง พลังแห่งความตายที่เข้มข้นได้กระแทกเข้าหาแผ่นละเย่ฟ่านในทันที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด