อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 186 มันไม่ใช่ลอตเตอรี่…
ตอนที่ 186 มันไม่ใช่ลอตเตอรี่…
วันนี้เอบีซีและเอ็มจีเอ็มได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันเรียบร้อยแล้ว
โดยที่เอ็มจีเอ็มได้หุ้นไป 20% ในราคาที่ 14.5 ดอลลาร์ พร้อมกับที่ทั้งสองได้บรรลุการร่วมมือหลายอย่าง
ซึ่งมันต้องบอกก่อนว่าเอ็มจีเอ็มนั้นเป็นแหล่งผลิตภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในฮอลลีวูด และในอนาคตพวกเขาจะให้เอบีซีเข้าถึงภาพยนตร์ที่พวกเขาเก็บไว้ได้
แล้วถ้าเอบีซีฉายภาพยนตร์ทุกวันทุกคืน มันก็จะไม่มีเรื่องซ้ำๆ เป็นเวลาสองปี
แต่ถ้าเขาฉายภาพยนตร์ทุกสัปดาห์ มันก็จะมีภาพยนตร์ให้ฉายถึง 10 ปีเลยทีเดียว
แถมเอ็มจีเอ็มก็มีความสามารถในการผลิตรายการที่แข็งแกร่งที่สุดในฮอลลีวูด ในเวลานี้พวกเขาก็มาร่วมผลิตรายการให้เอบีซีแล้ว
โดยซีรีส์ที่ฮิตที่สุดในช่วงนี้ก็คือ 'A Fairy wife' ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ชม
เพราะมันเหมาะกับครอบครัวมากกว่าการดูในโรงภาพยนตร์
ทำให้เอ็มจีเอ็มตั้งใจว่าจะผลิตรายการซีรีส์ลงโทรทัศน์ให้มากขึ้นในอนาคต
ส่วนสิทธิ์ในการฉาย 'ทอมแอนด์เจอร์รี่' นั้นได้ถูกซื้อโดยเอบีซีเรียบร้อยแล้ว
แต่แน่นอนว่าเอ็มจีเอ็มยังต้องผลิตให้พวกเขาอยู่
อีกอันก็คือรายการ 'ซูเปอร์ดราฟ' ที่ยังไม่ได้ถูกเอาไปใช้ในเวลานี้ แต่เมื่อถึงเวลาเอ็มจีเอ็มก็จะเข้ามาช่วยผลิตรายการด้วยเหมือนกัน
มันจึงถือได้ว่าความร่วมมือระหว่างเอ็มจีเอ็มและเอบีซีนั้นเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
โดยเมื่อข่าวนี้ออกมา…
ทั้งเอนบีซีและซีบีเอสต่างก็ได้รับผลกระทบต่อจิตใจอย่างหนัก
เพราะตอนนี้ดูเหมือนช่องว่างจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลาเดียวกันฮาร์ดี้ก็ได้ซื้อหุ้นของลอสแอนเจลิสไทมส์ที่ 11% ในนามของบริษัท
ส่วนธุรกรรมส่วนตัวระหว่างทั้งสองบริษัทนั้นเป็นเพียงคำพูดทางวาจาเท่านั้น
ยังไงการที่จะช่วยให้ฮาร์ดี้ได้รับตำแหน่งเก้าอี้ประธานสมาคมการแสดงนั้น มันไม่สามารถพูดออกสื่อได้อยู่แล้ว
…
หลังจากที่บรรลุข้อตกลงกับเอ็มจีเอ็มเรียบร้อยแล้ว เขาก็ส่งมันให้แอนดี้ดูแลต่อไป
ส่วนฮาร์ดี้นั้นขอพาสาวๆ ไปเล่นในคาสิโนสักหน่อยดีกว่า...
ทำไม?
พวกคุณเห็นว่าสาวๆ ไม่สู้กันเอง ไม่มีความขัดแย้งกันอย่างนั้นหรือ?
อืม…
เท่าที่เห็นมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรแบบนั้นนะ
ยังไงทุกคนก็รู้ว่าเขาเป็นใคร และฮาร์ดี้ก็ไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนรู้สึกว่าเขาเป็นของเธอคนเดียว
เขาไม่เคยพูดถึงคำว่ารักหรือคำสัญญากับพวกเธอเลย
ส่วนพวกเธอจะคิดยังไง ฮาร์ดี้ก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่...
ถ้ามีคนบอกว่าเขาเป็นคนเลวไร้หัวใจ
เขาก็แค่ยิ้มให้บางๆ กับพูดนั้น
แต่ความไม่รับผิดชอบก็เป็นรูปแบบหนึ่งของความรับผิดชอบ
ถ้าคุณยอมรับมันไม่ได้คุณก็ไม่ต้องเข้าร่วม
ยังไงมันก็ไม่มีใครบังคับคุณอยู่แล้ว ซึ่งพวกเธอก็เข้าหาเขาด้วยความเต็มใจกันทุกคน
และฮาร์ดี้ก็ไม่เคยห้ามใครให้จากไปเหมือนกัน
…
หลังจากเล่นในลาสเวกัสอยู่ 2-3 วัน กิจการคาสิโนก็ค่อยๆ คงที่
ฮาร์ดี้ก็เลยกลับไปที่ลอสแอนเจลิสโดยมีไมค์ตามมาด้วย
เพราะครั้งนี้ไมค์ถูกจัดให้เข้าร่วมรายการ 'อิริน่าทูไนท์โชว์'
ห้องรายการสด
ไมค์เข้าร่วมในฐานะเจ้าของโรงงานโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งอิริน่าและทีมของเธอเตรียมชุดคำถามไว้แล้ว และทั้งหมดก็ไปหาไมค์เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า
ไมค์นั้นจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
เขาเข้าร่วมกองทัพหลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
เขาได้รับตำแหน่งว่าที่ร้อยตรีและเหรียญกล้าหาญในเวลาต่อมา
เมื่อได้รับบาดเจ็บเขาก็ปลดประจำการจากกองทัพและกลายมาเป็นบรรณาธิการนิตยสาร
ต่อมาเขาได้ก่อตั้งธุรกิจของเขาเองก็คือโรงงานโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาในเวลานี้
ประวัตินี้สวยงามมากจริงๆ และมันก็ดูสะอาดมาก
หากในอนาคตครอบครัวคอร์เลโอเนนั้นถูกวงการมาเฟียกีดกัน
พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนเป็นครอบครัวชาวอเมริกันได้ตามปกติทันที
และก็ไม่ต้องแปลกใจ
เพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับประเทศที่น่ามหัศจรรย์นี้
โดยหลังจากการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์และการล้างบาปอย่างต่อเนื่อง มันก็อาจทำให้หลายคนได้ลืมประวัติศาสตร์ในอดีตของพวกเขา พร้อมกับคิดว่าประวัติตัวเองมีความสวยงามมาตั้งแต่เกิด
และโจวชูเรินก็เคยกล่าวไว้ว่า 'ขุนนางทุกคนนั้นเริ่มต้นจากการเป็นโจรมาก่อน...'
"คุณไมค์ คุณช่วยเล่าอะไรเกี่ยวกับสนามรบให้เราฟังหน่อยได้ไหมคะ?" อิริน่าถาม
"ผมเข้าร่วมการยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก สหายรอบตัวของผมค่อยๆ เสียชีวิตกันทีละคน พวกเราพุ่งไปข้างหน้าเพื่อกำจัดปืนใหญ่อันทรงพลังของศัตรู และในที่สุดเราก็ชนะ แต่ผมก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งนั้นมาด้วย ผมเลยต้องออกจากสนามรบไป"
"คุณไมค์ บอกฉันหน่อยสิว่าคุณก่อตั้งโรงงานมิโบมาได้ยังไง? แล้วทำไมคุณถึงกลายมาเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาได้ในเวลาสั้นๆ ค่ะ?"
"ตอนที่ผมซื้อโรงงานมิโบมันก็ปิดตัวอยู่แล้วเพราะช่วงสงคราม ผมเลยซื้อมันมาจากธนาคารและสร้างมันขึ้นมาใหม่ ทำทุกอย่างขึ้นมาใหม่ โดยต่อมาผู้คนก็ได้รู้ว่าเราออกสินเชื่อ 'จ่ายเงินดาวน์ 30% และบริการผ่อนชำระ' ส่วนใครที่เป็นทหารนั้น 'ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์' ซึ่งธุรกิจนี้ได้รับผลตอบรับดีมากจากผู้คน โทรทัศน์ถูกขายจนหมดภายในไม่กี่วัน ผมจึงมีแนวคิดที่จะขยายกำลังผลิตขึ้นไปอีก ทำให้ตอนนี้โรงงานโทรทัศน์ของเราสามารถผลิตได้ 400,000 ชุดต่อปีและมูลค่ามันมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ซะอีก"
"แสดงว่าคุณมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับธุรกิจโทรทัศน์มากเลยใช่ไหมคะ?" อิริน่าถาม
ไมค์ยิ้มและพูดว่า "ต้องบอกว่าผมมองโลกในแง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของสหรัฐอเมริกา โดยหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาก็ได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการพัฒนา ผู้คนต้องการชีวิตที่ดีขึ้นและวงการบันเทิงก็จะเป็นสิ่งที่สำคัญมากในอนาคต ส่วนโทรทัศน์ก็จะเป็นสิ่งที่จำเป็นของครอบครัวทุกคน"
"ฉันได้ยินมาว่าคุณได้ลงสมัครสมาชิกสภาด้วย คุณบอกได้ไหมว่าคุณต้องการทำอะไร"
ไมค์หยุดพูดชั่วคราวและพูดอย่างยินดีว่า "ผมเข้าร่วมกับกองทัพเพราะอยากปกป้องประเทศนี้ หลังจากที่ผมเกษียณ ผมก็เริ่มต้นธุรกิจเพื่อสร้างประเทศนี้ให้ดีขึ้น"
"สหรัฐอเมริกาเป็นบ้านของเราและเราก็รักมัน แต่ประเทศก็มีหน้าที่อย่างหนึ่งคือทำให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น"
//เข้าใจไหมไอ้…
"ผมมองเห็นปัญหาการจ้างงาน ปัญหาสาธารณสุข ปัญหาการศึกษา ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาประกันสังคม ปัญหาความปลอดภัยสาธารณะ และปัญหาเกี่ยวกับสิทธิ์ของสตรี ซึ่งผมก็รู้ดีว่าทุกสังคมคงจะสมบูรณ์แบบไม่ได้ แต่ผมก็หวังว่าตัวผมเองอาจจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งให้ดีขึ้นได้"
"ถ้าผมได้เป็นสมาชิกสภา ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาและทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น"
…
การถ่ายทอดสดประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
สถานีโทรทัศน์เอบีซีก็ออกอากาศทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา
ซึ่งในเวลานี้ความนิยมของพวกเขาได้แซงหน้าอีกสองแห่งไปแล้ว
หลังจากการออกอากาศจบผู้คนจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาก็ได้รู้จักกับเจ้าของโรงงานโทรทัศน์ขนาดใหญ่อายุน้อยคนนี้ และหลายคนในรัฐนิวยอร์กก็รู้จักไมค์อยู่แล้วด้วย
ก่อนหน้านี้ที่การลงคะแนนเสียงในเขตเลือกตั้งของเขาเป็นที่หนึ่ง
ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะเจ้าพ่อมาเฟียช่วยเหลือ แต่จากการสัมภาษณ์รายการนี้ มันก็ทำให้มีคนรู้จักไมค์มากขึ้น
กลายเป็นว่าเขาเป็นคนดีและผู้คนก็ยินดีที่จะโหวตให้เขา
ซึ่งกลุ่มคนที่สนับสนุนเขามากที่สุดก็คือทหารผ่านศึก
เพราะนโยบายของมิโบสำหรับทหารที่ซื้อโทรทัศน์ได้โดยไม่ต้องดาวน์นั้น
มันออกมาเพื่อทหารอย่างแน่นอน และพวกเขาที่ได้ซื้อชุดโทรทัศน์ไปก็ต้องรู้สึกขอบคุณไมค์เป็นเรื่องปกติ
ต้องบอกว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเยาวชน 12 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมกับกองทัพและหลังสงครามจบลงก็มีมากกว่า 10 ล้านคนถูกปลดออก
ทำให้คนเหล่านี้เป็นแกนหลักของสังคมกับภายในครอบครัวด้วยเหมือนกัน
และด้วยทหารผ่านศึกเหล่านี้จึงเปรียบได้กับคะแนนเสียงที่มากมาย
…
ไมค์และฮาร์ดี้กอดอำลากัน ก่อนที่ไมค์จะขึ้นเครื่องจากไป
10 ชั่วโมงต่อมาเมื่อเครื่องบินลงจอด…
ไมค์ก็กลับไปที่บ้านของครอบครัวคอร์เลโอเนและได้พบกับพ่อของเขา
ซึ่งเป็นเจ้าพ่อมาเฟียมาก่อน…
พ่อกับลูกชายนั่งคุยกัน
ต้องบอกว่าสถานะธุรกิจภายในครอบครัวคอร์เลโอเนนั้นถูกแยกออกจากกันแล้ว
เจ้าพ่อมาเฟียบอกให้เทสซิโอกับคลีเมนซ่าออกไปสร้างครอบครัวของตัวเอง
ส่วนธุรกิจของครอบครัวเก่าจะถูกมอบให้กับทอมเฮเก้น
โดยในเวลานี้ครอบครัวคอร์เลโอเนกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวเองพ้นจากใต้ดิน
เพราะเจ้าพ่อมาเฟียมีเป้าหมายใหม่แล้ว…
นั้นก็คือการสนับสนุนไมค์และทำให้ครอบครัวคอร์เลโอเนหลุดพ้นจากวงการมาเฟียให้ได้
เขาคิดว่าทางที่จะไปนั้นกว้างกว่าและสว่างกว่า
"ไมค์ ฉันได้ดูการสัมภาษณ์ของคุณแล้ว คุณพูดได้ดีมากจริงๆ ผู้คนให้การตอบรับดีมาก และพวกเขาก็พร้อมสนับสนุน ทำให้เวลานี้คะแนนโหวตพุ่งห่างไกลจากคู่แข่งไปแล้ว" เจ้ามาเฟียหัวเราะ
"ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่ารายการโทรทัศน์จะมีพลังมากมายขนาดนี้" ไมค์กล่าว
เจ้าพ่อมาเฟียส่ายหัว "มันเป็นเพราะการโฆษณาของเอบีซีด้วย เพราะมีคนเคยทำแบบนี้บนโทรทัศน์มาก่อนแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้ดีเท่าครั้งนี้"
หลังจากพูดจบเจ้าพ่อมาเฟียก็นึกถึงฮาร์ดี้อีกครั้ง
"การที่ฮาร์ดี้นั้นควบคุมเอบีซีได้ มันก็เท่ากับเขามีกระบอกเสียงที่ยอดเยี่ยมอยู่ในมือ…ในอนาคตนักการเมืองจำนวนมากจะต้องเข้าหาเขาเยอะอย่างแน่นอน"
"เมื่อก่อนฉันคิดว่าฮาร์ดี้นั้นเป็นคนเก่งมากแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะพัฒนาตัวเองได้เร็วขนาดนี้ มันเร็วเกินความคาดหมายของฉันไปมากจริงๆ เพราะทั้งลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก ลาสเวกัส ทั้งหมดนี้ตกอยู่ในมือของเขาแล้ว"
"และอิทธิพลของบริษัทเอบีซีก็อยู่เลยขอบเขตที่จะใช้เงินซื้อได้แล้ว ดังนั้นไมค์…เวลานี้คุณกับฮาร์ดี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ในอนาคตคุณต้องรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้พร้อมกับเรียนรู้จากเขา…หลายครั้งฮาร์ดี้จะมองการณ์ไกลกว่าที่คุณคิด แล้วการวางแผนของเขาก็มีความรอบคอบมาก"
ไมค์พยักหน้า "ผมเข้าใจแล้วครับ พ่อ"
เมื่อเห็นลูกชายเขาแสดงออกอย่างจริงจัง เจ้าพ่อมาเฟียก็ยิ้มขึ้นมาและแตะไปที่ไหล่ของเขาพร้อมกับพูดว่า "ไมค์ คุณเป็นคนเก่งอยู่แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้คุณต้องได้อย่างแน่นอน และขั้นตอนต่อไปก็คือการลงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา คุณยังต้องเดินทางอีกไกล"
…
เหล่าหญิงสาวของฮาร์ดี้ตอนนี้กลับไปทำงานกันแล้ว
เอวาการ์ดเนอร์ยังคงถ่ายทำภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง โดยเดินทางไปถ่ายทำทั่วโลกและคาดการว่าจะถ่ายทำเสร็จในเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน
ส่วนการถ่ายทำ 'วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (Ghos)' ได้เริ่มขึ้นแล้ว ทำให้ไฮดี้รามายุ่งมากในตอนนี้
และเทย์เลอร์ได้แสดงภาพยนตร์อีกเรื่องก็คือ 'โฉมงามกับเจ้าชายอสูร'
ซึ่งเธอนั้นได้รับบทเป็นเบลล์ เพราะตอนนี้เธออายุ 15 ปีและเมื่อการถ่ายทำเริ่มขึ้นอายุเธอก็จะ 16 ปีพอดี
เมื่อเทย์เลอร์อายุ 16 ปี ร่างกายเธอก็โตเป็นสาวเต็มตัว ดังนั้นเธอจึงเหมาะสมที่สุดที่จะเล่นเป็นเบลล์
อีกคนก็คือฮันเยจิน
เธอยังคงบริหารโรงประมูลของเธอตามปกติ และบุคลิกของเธอก็เป็นคนเก็บตัว
ไม่ค่อยมีความอยากได้อะไรหรือต้องการสู้กับใคร ซึ่งในเวลานี้เธอชอบธุรกิจของโบราณมาก
เธอเลยอุทิศตัวเองให้กับมันมากขึ้นไปอีกทำให้โรงประมูลตอนนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
โรงประมูลตอนนี้ได้สร้างโกดังเก็บของเก่าด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันความชื้น พร้อมกับระบบกันขโมยเต็มรูปแบบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอชดีจึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยสักนิด
และโรงประมูลไม่ได้เป็นเพียงที่ซื้อขายของโบราณ แต่ยังเปิดให้มีการประมูลเพื่อหารายได้เข้ามาด้วย
โดยในความคิดของฮันเยจินคือการใช้ของโบราณทำเงินและนำเงินไปซื้อของโบราณเพื่อสร้างความสมดุล
ส่วนอิริน่าก็จะอยู่ข้างฮาร์ดี้ตลอดเวลา
"อิริน่าฉันมีงานให้เธอทำ" ฮาร์ดี้พูดกับเธอ
"ว่ามาเลยค่ะ บอส!"
"ฉันกำลังจะก่อตั้ง 'สถานีโทรทัศน์ลาสเวกัส' ซึ่งมันจะถูกรวมเข้ากับเอบีซีเมื่อมันสร้างเสร็จสมบูรณ์ และรายการของทั้งสองสถานีก็จะฉายในเวลาเดียวกัน พร้อมกับจะเอาไปฉายที่สหรัฐอเมริกาด้วย" ฮาร์ดี้กล่าว
อิริน่าหันกลับมาและพูดด้วยความประหลาดใจว่า "บอส การสร้างสถานีโทรทัศน์เพียงที่เดียวแต่กลับออกอากาศไปทั่วประเทศมันต้องมีรายการที่ค่อยเติมเต็มจำนวนมากเลยนะคะ และในตอนนี้เราก็ได้ลงทุนกำลังและทรัพยากรเอาไปสนับสนุนช่องเอบีซีเพื่อผลิตรายการออกมาให้ได้ 16 ชั่วโมงหมดแล้ว แถมการลงทุนมันก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากจริงๆ"
ฮาร์ดี้ส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "สถานีโทรทัศน์ลาสเวกัสจะแตกต่างจากสถานีทั้งสามอย่างสิ้นเชิง มันจะไม่มีรายการข่าว ไม่มีละครซีรีส์ และไม่มีรายการทีวีช้อปปิ้ง"
"แล้วบอสต้องการให้สถานีออกอากาศอะไรคะ?" อิริน่าถาม
"มันจะฉายแค่คาสิโนเป็นหลักและฉันก็คิดรายการออกมาบ้างแล้ว" ฮาร์ดี้เอนตัวไปหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากตู้แล้วยื่นให้สาวฝรั่งเศส
สาวฝรั่งเศสมองเข้าไปใกล้ๆ
'แสดงภาพทิวทัศน์ของลาสเวกัส แนะนำฮาร์ดี้โฮเทล อาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก ไนต์คลับ การแสดงเปลื้องผ้า โชว์ความหรูหรา และสาวๆ'
'แนะนำคาสิโน แสดงให้เห็นวิธีการเล่นการพนันในแบบต่างๆ ถ่ายทำได้โดยตรงจากห้องโถง สร้างบรรยากาศให้สมจริงและให้ผู้คนเห็นฉากการได้เงิน'
'จัดการแข่งขันการพนัน เช่น ทัวร์นาเมนต์เท็กซัสโฮลเอ็ม ซึ่งแต่ละเกมจะใช้เวลาเล่นหลายชั่วโมง มันจะดึงดูดผู้ชมได้จำนวนมากอย่างแน่นอน'
'ในอนาคตจะมีการแข่งม้าและการแข่งสุนัข เมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีการถ่ายทำทั้งสองสนามด้วย'
'ถ่ายทอดสดลอตเตอรี่ในคาสิโนทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยจะถ่ายการจับรางวัลและผู้ที่ชนะรางวัล เพื่อกระตุ้นความปรารถนาของผู้คน'
ยังไงคนอเมริกันไม่ใช่คนชอบเก็บความลับไว้กับตัว และพวกเขาก็ชอบที่จะโอ้อวดซะมากกว่า
หลังจากหญิงสาวชาวฝรั่งเศสดูเสร็จ ฮาร์ดี้พูดต่อว่า "อีกอย่างที่สำคัญก็คือการเปิดธุรกิจลอตเตอรี่ทางโทรศัพท์ มันจะคล้ายกับถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ แต่เราจะไม่ได้จับรางวัลทุกๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างช่วงเวลาออกรางวัล เราสามารถรับเดิมพันทางโทรศัพท์จากทั่วสหรัฐอเมริกาได้"
"แล้วถ้ามีคนชนะพวกเขาก็ต้องมาที่คาสิโนเพื่อรับเงินเท่านั้น"
อิริน่ากะพริบตา
"บอส คุณวางแผนที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับลอตเตอรี่หรือคะ? ซึ่งตอนนี้มันยังผิดกฎหมายอยู่เลย" อิริน่าเตือนเขา
ลอตเตอรี่เคยเป็นที่นิยมมากในสหรัฐอเมริกา แต่ผู้คนก็เอาแต่เสี่ยงดวงกับลอตเตอรี่กันมากจนกลายเป็น 'คนติดพนัน'
ทำให้มีการห้ามซื้อลอตเตอรี่ในปีแรกคือ 1833 และภายในปี 1930 ทั้ง 45 รัฐก็ร่างกฎหมายว่าลอตเตอรี่นั้นผิดกฎหมาย และ 35 รัฐก็ประกาศว่าห้ามขายลอตเตอรี่ทุกชนิด...
ต่อมาปี 1964 บางรัฐก็ประกาศให้ลอตเตอรี่กลับมาถูกกฎหมายอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเนวาดาจะเปิดให้การพนันถูกกฎหมาย แต่ลอตเตอรี่ก็ยังถูกห้ามไว้อยู่
ฮาร์ดี้ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
"มันไม่ใช่ลอตเตอรี่ทั่วไปหรอก แต่มันเป็นลอตเตอรี่ที่เล่นในคาสิโน มันเป็นสิ่งที่แตกต่างจากลอตเตอรี่ปกติ และฉันก็ถามทนายมาแล้วว่าสถานการณ์นี้ยังไม่มีอะไรมาควบคุมได้ ยังไงการเล่นลอตเตอรี่ทางโทรศัพท์กับโทรทัศน์นั้นก็เป็นเรื่องแปลกใหม่ ทำให้กฎหมายเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินมัน"
"มันเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่ชนะรางวัลต้องมารับที่คาสิโน เพื่อให้เห็นว่ากระบวนการทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในคาสิโนเท่านั้น และเห็นไหมว่าผู้คนก็แค่เข้ามาเดิมพันมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับลอตเตอรี่เลยสักนิด"
"ถึงจะมีคนฟ้องร้องเรา ทีมทนายของเราก็พร้อมที่จะต่อสู้อยู่แล้ว และผลที่แย่ที่สุดก็แค่หยุดกิจการไปเท่านั้นเอง" ฮาร์ดี้ยิ้ม
ซึ่งความจริงแล้ว…นี่เป็นการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทางกฎหมาย
"ฉันเข้าใจแล้วบอส! เวลานี้สถานีโทรทัศน์เอบีซีของเราก็มีกำลังคนเพียงพอด้วยเหมือนกัน ดังนั้นการสร้างเพิ่มอีกสถานีจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก และฉันคาดว่าจะเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 1 เดือน" อิริน่ากล่าว
ฮาร์ดี้บอกอิริน่าว่าเขาเคยซื้อสถานีวิทยุที่ลาสเวกัสมาก่อนและมีชายคนหนึ่งชื่อโคลินเฟิร์ธอยู่ที่นั่น
ซึ่งเขาเคยทำงานในสถานีโทรทัศน์มาก่อน และสถานีวิทยุก็มีอาคารสำนักงานไว้แล้ว
เขาก็แค่ปรับแต่งอะไรนิดหน่อยก็พอ
"ฉันอยากให้เธอไปดูว่าโคลินเฟิร์ธคนนี้สามารถใช้งานได้ไหม ถ้าเขาพอมีฝีมือก็ฝึกฝนเขาขึ้นมาได้เลย"
"ไม่ต้องห่วงค่ะบอส! ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด!" อิริน่ากล่าว
เป็นเรื่องดีที่เขามีเลขาแบบนี้ ที่เป็นคนเก่งและมีความสามารถเกือบทุกอย่าง…