บทที่ 26: ออกไป แล้วเจ้าจะรอด!
บทที่ 26: ออกไป แล้วเจ้าจะรอด!
ปัง!
เสียงประตูถูกเตะดังขึ้นอย่างกะทันหัน มันขัดจังหวะงานเลี้ยงแต่งงาน และในขณะเดียวกัน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่กำลังจะโค้งคำนับต่อสวรรค์และปฐพีก็ตัวแข็ง
แขกทุกคนมองออกไปข้างนอกด้วยความสับสน
เกิดอะไรขึ้น?
ตระกูลหลี่เป็นตระกูลใหญ่ในเมืองเซียงซี พวกเขาได้รับความเคารพและนับถืออย่างมากจากมวลชน แบบนั้นแล้วใครกันที่กล้ามาสร้างความปั่นป่วนในเวลานี้
ซุยเฮ็งเองก็หันกลับไปมอง
“อั้ยหยา~ นี่เป็นโอกาสที่น่ายินดีจริงๆ!”
ในขณะนี้ เสียงตะโกนอันเย็นชาก็ดังมาจากข้างนอก
มันเป็นชายวัยกลางคนที่สูงไม่เกินห้าศอก เขาสวมเสื้อลายดอกแก้มลิงและเดินเข้ามาด้วยท่าทีวางมาด ข้างหลังเขามีชายร่างกำยำสามคน
“ใต้เท้าหลี่ ทำไมท่านถึงไม่เชิญเรามางานเลี้ยงแต่งงานที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้บ้างล่ะ” ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นคนนอกเลย เขาหยิบไหเหล้าจากโต๊ะอาหารและเทใส่ปากอย่างไม่สนใคร จากนั้น—
เพล้ง!
ทันใดนั้นเขาก็เขวี้ยงไหเหล้าลงบนพื้น มันแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่ชายชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในโถงจัดงานแต่งงานด้วยสายตาเย้ยหยัน เขาตะคอกอย่างเย็นชาว่า “เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง เฒ่าหลี่? เจ้าต้องการจะดูถูกพวกเราหรอ!”
เห็นได้ชัดว่าเขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา!
“สามวานร? เขามาทำอะไรที่นี่กัน?”
“แถมเขายังกล้าก่อความวุ่นวายในงานเลี้ยงแต่งงานของตระกูลหลี่อีก เขาจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”
“ไอ้ขี้แพ้นี่ไปเอาคนจำนวนมากขนาดนี้มาจากที่ไหนกันนะ?”
เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้มีชื่อเสียงในเมืองเซียงซีไม่น้อยเลย และในทันทีที่พวกเขาปรากฎตัวขึ้น แขกหลายคนก็เริ่มกระซิบกันเอง
ซุยเฮ็งหันไปถามแขกที่อยู่ข้างๆ เขาว่า “ชายคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมเขาถึงกล้าทำตัวอวดดีมากขนาดนี้กัน?”
“นายน้อยผู้นี้คือ…” แขกไม่รู้จักซุยเฮ็ง ดังนั้นเขาจึงเลือกจะถามชื่อของซุยเฮ็งก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาของซุยเฮ็ง เขาก็ต้องตกตะลึงก่อนจะกระซิบเสียงเบาว่า “เอาล่ะ เห็นได้ชัดว่านายน้อยไม่ใช่คนธรรมดา อย่างไรก็ตาม ท่านก็อย่าไปหาเรื่องเจ้าบ้าคนนั้นเลย”
“นามสกุลของชายนี้คือโฮ่ว พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตลงไปเมื่อตอนที่เขาอายุได้สามขวบ เขาไม่ได้รับการเลี้ยงดูและจึงไม่มีชื่อ เขาเติบโตขึ้นมาโดยเป็นนักเลงขอทานในตลาด จนกระทั่งต่อมา เขาก็ได้รับฉายาว่าสามวานร โดยปกติแล้ว เขาก็ชอบทำลายธุรกิจของคนอื่นเพื่อรีดไถเงิน”
“ท่านผู้เฒ่าหลี่ผู้น่าสงสาร เขาโชคร้ายจริงๆ ที่ถูกรังควานโดยเจ้าสารเลวคนนี้! อืม และยังคงเป็นเพราะท่านผู้เฒ่าหลี่ไม่ได้สืบทอดศาสตร์กระบี่ของบรรพบุรุษของเขามา ไม่อย่างนั้น แม้ว่าเจ้าโจรจรจัดคนนี้จะมีพวกมาด้วยเป็นร้อยคน แต่มันก็จะไม่กล้าเข้ามาสร้างปัญหาอย่างแน่นอน!”
อะไรกันที่ทำให้เกิดปัญหา?
มันคือการร้องไห้ในงานเลี้ยงแต่งงาน เล่นตลกในงานศพ โปรยกระดาษธูปตอนเปิดร้าน และอื่นๆ
ซึ่งปกติแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ดีๆ เขาจะทำกัน
แต่เจ้าโจรนี่ทำทุกอย่าง!
มันไม่สำคัญแม้ว่าเขาจะถูกทุบตียังไง ตราบใดที่เขายังไม่ตาย เขาก็จะยังคงขู่กรรโชกเงินต่อไปเรื่อยๆ
สามวานรอาศัยสิ่งนี้เพื่อความอยู่รอด
ในเวลาต่อมา เขาก็ยังใช้วรยุทธ์ของประเทศจูเหอเพื่อประจบประแจงสำนักหอกเหล็กและกลายมาเป็นลูกศิษย์ของสำนักหอกเหล็ก
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงไม่มีใครอยากจะยั่วโมโหเขามากนัก
และเมื่อครอบครัวส่วนใหญ่ในเมืองเซียงซีต้องการจะจัดงานสำคัญ พวกเขาก็มักจะส่งเงินให้กับสามวานรเพื่อป้องกันไม่ให้เขามาสร้างปัญหา
“สามวานร เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!” ผู้เฒ่าของตระกูลหลี่ในห้องโถงแต่งงานไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เขายืนขึ้นและชี้ไปที่สามวานรพร้อมกับตะโกนว่า “ข้าให้เงินเจ้าไป 500 ตำลึงแล้วไม่ใช่รึไง!”
ห้ะ! ห้ะ!
แขกที่มาร่วมงานต่างก็อ้าปากค้าง
500 ตำลึง!
แม้ว่าอุตสาหกรรมผ้าในเมืองเซียงซีจะเฟื่องฟู แต่มันก็ยังเป็นเพียงเมืองเล็กๆ หลายร้านในเมืองยังมีรายได้ไม่ถึง 500 ตำลึงต่อปีด้วยซ้ำ!
“เจ้าจะไม่ทำตัวไร้ยางอายเกินไปหน่อยรึไง!” ผู้เฒ่าหลี่กัดฟันตะโกน
ในตอนที่ให้กำเนิดบุตรชายคนนี้ เขาก็อายุเกือบจะ 40 ปีแล้ว และเมื่อเขาอายุเกือบจะ 60 ปี ในที่สุดเขาก็ได้เห็นลูกชายของเขาแต่งงาน มันอาจกล่าวได้ว่าเขาได้ทำความปรารถนาของเขาสำเร็จแล้ว
ในตอนแรก ผู้เฒ่าหลี่ก็กำลังนั่งอยู่ในโถงจัดงานแต่งงานและเพ้อฝันเกี่ยวกับชีวิตของหลานชายในอนาคต ยิ่งเขาคิดถึงมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันสวยงามมากขึ้นเท่านั้น เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าความฝันนี้จะถูกทำลายโดยสามวานร
“อะไรนะ 500 ตำลึง? เจ้าน่ะหรอ?” สามวานรยิ้มอย่างมีเลศนัย “เจ้าให้ข้ามาเพียง 500 ตำลึง สำหรับเงินนี้…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ทรุดตัวลงคุกเข่าพร้อมกับตบหน้าและเริ่มร้องไห้ “โอ้ แม่เฒ่าผู้น่าสงสารของข้า! ท่านเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ! ฮืออ!”
เขาสั่งน้ำมูกขณะร้องไห้ มือของเขาสั่นไปหมด น้ำตาและน้ำมูกของเขาเปรอาะเปื้อนเสื้อผ้าของแขกรวมถึงอาหารในจาน
สิ่งนี้ทำให้แขกทุกคนในงานเสียอารมณ์
การร่ำไห้ในงานเลี้ยงวิวาห์!
พวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร? พวกเขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่องานศพหรอ?
นี่มันน่าขยะแขยงเกินไป!
ผู้เฒ่าหลี่โกรธมากจนร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เขาชี้ไปที่สามวานรและพูดไม่ออก
นายน้อยหลี่เฉิงผู้เป็นเจ้าบ่าวยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น
เขาก้าวไปข้างหน้าและบังเจ้าสาวไว้ข้างหลัง เขาตะโกนพลางชี้ไปที่สามวานร “ใครก็ได้ ลากเอามันไปจัดการที!!”
ตระกูลหลี่เป็นตระกูลใหญ่ในเมืองเซียงซี และพวกเขาก็มีคนรับใช้มากมายหลายสิบคน
ดังนั้นเมื่อนายน้อยใหญ่หลี่เฉิงตะโกนเรียก ทันใดนั้นคนรับใช้มากกว่า 20 คนก็วิ่งออกมาล้อมรอบสามวานรที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญ
คนรับใช้เหล่านี้ถือไม้อยู่ในมือขณะที่พวกเขาฟาดมันไปที่สามวานร
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ชายร่างกำยำทั้งสามคนที่อยู่เบื้องหลังสามวานรก็เริ่มเคลื่อนไหว
การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมากและพละกำลังของพวกเขาเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน พวกเขาสามารถส่งคนรับใช้ปลิวกระเด็นออกไปได้เพียงการตวัดมือ
ตุ้บ! ตุ้บ!
ในพริบตา คนรับใช้กว่า 20 คนก็ล้มไปนอนกองกับพื้น
มันหลงเหลือเพียงความเงียบงัน
แขกทุกคนต่างก็งุนงงและใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
แม้แต่หลี่เฉิงที่ตะโกนออกมาก่อนหน้านี้ก็ยังอ้าปากค้างในขณะที่เขามองดูฉากนี้ด้วยความไม่เชื่อ
คนรับใช้ที่แข็งแกร่งกว่า 20 ไม่สามารถทำอะไรชายทั้งสามคนนี้ได้เลย!
มันเป็นไปได้อย่างไร!
ในขณะนี้ สามวานรก็หยุดร้องไห้และยืนขึ้น มันไม่มีน้ำตาเหลือสักหยดบนใบหน้าของเขา
เขามองไปรอบๆ และหยุดที่หลี่เฉิงในที่สุด เขาเยาะเย้ยและพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไร้กึ๋น เจ้ากลัวอย่างนั้นหรอ? เจ้าขยะเอ้ย! เจ้าต้องการให้ข้าไปช่วยนอนกับเมียเจ้าด้วยไหม ฮ่าๆๆ!”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!” หลี่เฉิงกัดฟัน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาอยากจะฆ่ามันลงในตอนนี้เลย!
เจ้าสาวดูกลัวเล็กน้อยในขณะที่เธอจับชายเสื้อของหลี่เฉิงจากด้านหลังแน่น
ในขณะนี้ ซุยเฮ็งก็กำลังมองดูชายร่างกำยำทั้งสามคนนั้น เขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่คุ้นเคยจากอีกฝ่าย
พลังวิญญาณ!
“คนทั้งสามนี้มีวรยุทธ์ และดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสามจะมาถึงขอบเขตสัมผัสปราณกันหมดแล้ว” ซุยเฮ็งคิดกับตัวเองว่า “สถานที่แห่งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับโลกของเป่ยฉิงซูรึเปล่านะ?”
“อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิแห่งนี้ก็คือต้าจิน ไม่ใช่ต้าโจว หรือว่ามันจะมีประเทศอื่นอยู่อีก? ฉันยังรู้น้อยเกินไปเกี่ยวกับสถานการณ์บนโลกใบนี้”
“อืม ตระกูลหลี่นี้เป็นตระกูลใหญ่ในท้องถิ่น พวกเขามักจะมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อค้าต่างแดน ดังนั้นพวกเขาจึงน่าจะมีข้อมูลค่อนข้างมาก บางทีฉันอาจจะสามารถถามพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์บนโลกนี้ได้”
มันคงจะแปลกหากเขาจะไปสอบถามข้อมูลเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็มีข้อแก้ตัวแล้ว
ซุยเฮ็งมองไปที่สามวานรที่กำลังแสดงท่าทีหยิ่งยโส
สามวานรไม่ได้สนใจหลี่เฉิงเลยในตอนนี้
ในขณะนี้ เขาก็จดจ่ออยู่กับโต๊ะวางของขวัญแสดงความยินดี เมื่อเขากวาดสายตามองไป เขาก็เห็นผลไม้สีแดงสดที่น่ารับประทาน
มันคือมะเขือเทศที่ซุยเฮ็งวางทิ้งไว้!
“ผลไม้ชนิดนี้คืออะไรกัน? ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นมันมาก่อนกัน?”
สามวานรหยิบมะเขือเทศขึ้นมาและชี้ไปที่หลี่เฉิงกับผู้เฒ่าหลี่ จากนั้นเขาก็โยนมันลงไปบนพื้นและทำให้มันกลายเป็นกองของเหลวสีแดง
เขาชี้ไปที่กองของเหลวบนพื้นและหัวเราะเสียงดัง “ดูสิ ดูสิ มันดูเหมือนกับคราบพรหมจรรย์ของเมียเจ้าไหม? ฮ่าๆๆ!”
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
หลี่เฉิงตะโกนออกมาและต้องการที่จะลงไปจัดการอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เจ้าสาวก็ได้รั้งเขาเอาไว้
“หากเจ้าออกไปซะตอนนี้ เจ้าก็จะยังสามารถเก็บชีวิตของเจ้าเอาไว้ได้”
ในเวลานี้ เสียงพูดของซุยเฮ็งก็ดังขึ้น ต่อให้เขาจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการสอบถามข้อมูล แต่สามวานรก็ยังคงทำตัวน่ารังเกียจเกินไป
ทันทีที่ทุกคนได้ยินพูดคำเหล่านี้ สายตาของพวกเขาทั้งหมดก็จับจ้องไปที่ซุยเฮ็งในทันที
แววตาของทุกคนส่องสว่างขึ้น
เป็นชายหนุ่มที่หล่ออะไรขนาดนี้!!!
พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่มีหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้มาก่อน!
สามวานรเองก็มองไปที่ซุยเฮ็ง
หลังจากที่เขาเห็นรูปลักษณ์ของซุยเฮ็งอย่างชัดเจน สีหน้าของเขาก็มืดมนลงอย่างมากในทันที เขาเดินเข้าไปหาซุยเฮ็งอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดว่า “เจ้าหนู ลุกขึ้น!”
ซุยเฮ็งยังคงนั่งอย่างมั่นคง ไม่ขยับเขยื้อน และไม่พูดอะไร
“ข้าเกลียดผู้ชายหน้าตุ๊ดที่ชอบทำตัวหล่อเท่เป็นที่สุด จับมันไว้!” สามวานรตะโกนและสั่งชายร่างกำยำทั้งสาม
ชายร่างกำยำทั้งสามพุ่งเข้าหาซุยเฮ็งในทันทีเมื่อได้ยินคำสั่ง ชายคนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนอยู่ทางขวา ชายคนที่สามอยู่ข้างหลังพวกเขา และตั้งใจจะจับซุยเฮ็งจากทั้งสามด้าน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มือของพวกเขาจะทันได้สัมผัสกับร่างของซุยเฮ็ง พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงการดีดกลับอย่างแรง มันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับได้วิ่งชนม้าที่กำลังวิ่งอยู่ ในพริบตาเดียว พวกเขาก็ถูกส่งตัวกระเด็นออกไปในทันที
ปัง! ปัง! ปัง!
ทั้งสามคนกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง พวกเขากระเด็นไปไกลมากกว่าสามเมตร และพวกเขาก็ยังไถลไปไกลกว่าอีกสิบเมตรก่อนที่จะหยุดลง นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้ พวกเขาทั้งหมดนอนกลิ้งลงไปกับพื้นและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าสมเพช
มือของพวกเขาแหลกเหลวไปแล้ว และไม่สามารถมองเห็นเป็นรูปร่างเดิมได้
พวกเขาทั้งหมดถูกจัดการลงโดยซุยเฮ็ง
แน่นอนว่าซุยเฮ็งไม่ได้ใช้พลังปราณโจมตีเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่รักษาม่านพลังปราณระดับพื้นฐานที่สุดเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัส
มิฉะนั้นแล้ว ชายร่างกำยำทั้งสามนี้ก็คงจะสลายกลายเป็นหมอกเลือดไปแล้วและคงจะไม่หลงเหลือแม้แต่กากตะกอน
ในขณะนี้ บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสนิท พวกเขาสามารถได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหล่น
สามวานรตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เขายืนอยู่กับที่เป็นเวลานานก่อนที่จะกัดฟันและพูดว่า “นี่มันบ้าชัดๆ ในเมืองเซียงซีเล็กๆ แห่งนี้กลับมียอดฝีมือชั้นหนึ่งจริงๆ ด้วย!”
เมื่อพูดจบ เขาก็วิ่งหนีไปโดยไม่สนใจชีวิตของชายร่างกำยำทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย
เมื่อชายร่างกำยำทั้งสามเห็นสามวานรวิ่งหนีไป พวกเขาก็รีบอดทนต่อความเจ็บปวดและคลานขึ้นมา พวกเขาพยายามเดินจากไปอย่างโซเซ
ในขณะนี้ งานเลี้ยงแต่งงานก็ดังสนั่นหวั่นไหว!
ทุกคนมองไปที่ซุยเฮ็งด้วยความตกใจ
เขาดูมีอายุเพียง 18 ถึง 19 ปีเท่านั้น แต่กระนั้น เขาก็ได้กลายเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งที่เชี่ยวชาญในพลังปราณแล้ว!
มันไม่น่าเชื่อเลย!
ตระกูลหลี่ต้องการจะมาขอบคุณซุยเฮ็ง แต่เขาก็ห้ามอีกฝ่ายเอาไว้ เขาต้องการให้พวกเขาจัดงานแต่งงานให้เสร็จก่อน
บรรยากาศงานเลี้ยงไม่สามารถถูกขัดจังหวะได้!
มิฉะนั้นแล้ว มันก็จะเป็นอันตรายต่อการฝึกตนของเขา!
ทัศนคติของซุยเฮ็งทำให้ตระกูลหลี่รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เมื่อเขาอวยพรให้กับบ่าวสาว พวกเขาทั้งคู่ก็แสดงความเคารพต่อเขาอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรู้ว่าซุยเฮ็งมาจากข้างนอก เฒ่าหลี่ได้เชิญเขาให้มาอยู่ที่นี่โดยบอกว่าเขาจะจัดงานเลี้ยงขึ้นเป็นการส่วนตัวเพื่อขอบคุณซุยเฮ็งหลังงานแต่งจบลง
เดิมทีซุยเฮ็งก็ตั้งใจจะสอบถามข้อมูลบางอย่างจากตระกูลหลี่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธคำเชิญของอีกฝ่าย
ในคืนนั้น เขาจึงได้ค้างแรมที่บ้านของตระกูลหลี่
…
ในคืนที่มืดมิด
จู่ๆ ซุยเฮ็งก็ตื่นขึ้นจากการทำสมาธิ จากนั้นเขาก็มองออกไปข้างนอก ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่มันน่าสนใจจริงๆ”
เช้าวันรุ่งขึ้น
ศพของสามวานรถูกวางกองไว้ที่หน้าทางเข้าหลักของตระกูลหลี่ เจ้าหน้าที่ของทางการซึ่งปกติทำงานช้ามากได้รีบวิ่งกรูกันเข้ามาด้วยความเร็วสูง พวกเขาปิดกั้นทางเข้าออกทั้งหมดของที่พักตระกูลหลี่
“ชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งล้ำค่า! ตระกูลหลี่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม เราจะเข้าไปค้นหาผู้ต้องสงสัยและอาวุธที่ใช้ในการสังหาร มันจะไม่มีใครสามารถหยุดเราได้!”