ตอนที่ 410 ถังเทียนเคลื่อนไหว
ปราณแท้ที่ทรงพลังทะลักออกมาจากพลองบรอนซ์ราวกับว่ากำลังพ่นไฟ ระลอกพลังงานที่ออกมาฉับพลันพ่นออกมาเหมือนพายุสลาตัน
พลังโจมตีของพลองเต็มไปด้วยความรุนแรงไม่มีความพลิกแพลงหรือเตรียมการมาก่อน
อย่างไรก็ตามพลองนั้นเหมือนกับยักษ์ที่ยืนอยู่ในทะเลพลังโจมตีดูเหมือนกับแรงฟาดฟัน มีระลอกคลื่นแผ่ออกมาทำให้ทุกคนตะลึงราวกับว่าฟ้ากับดินถูกพลองฟาดจนแยกจากกัน
ผู้คนที่มองเห็นประจักษ์ตกตะลึงไปตามๆ กัน
นั่นคือนักสู้ระดับทองจริงๆ!
ปัง!
รังสีหอกที่น่ากลัวปรากฏอยู่หน้าพลองพลันหมองจางลงทันทีสูญเสียประกาย มันเริ่มกระพริบจากนั้นก็หายไป
พลองบรอนซ์กระแทกใส่พื้นอย่างรุนแรง
พื้นที่แข็งแกร่งแตกเหมือนกับขนมปังกรอบและกลายสภาพเป็นฝุ่นทันที พลังปราณแท้ที่น่าทึ่งกวาดทะลักไปตามพื้น พื้นที่รอบๆ ยอดฝีมือที่ใช้พลองบรอนซ์เป็นรอยแตกร้าว
ถ้ามองจากมุมมองบน จะเห็นเป็นภาพพลังกระจายออกไปเป็นรูปวงกลมสมบูรณ์แบบ
เหมือนกับว่าหน่วยแรกที่นำไปก่อนถูกหมัดต่อยใส่อย่างรุนแรงอาวุธจักรกลวิญญาณหนักของพวกเขาไม่สามารถป้องกันพลังที่น่าทึ่งได้ปลิวกระเด็นไปข้างหลังทันที
ปง!
ม่อจื่อหวีที่อยู่ข้างในอาวุธจักรกลวิญญาณรู้สึกหวานวูบในลำคอและกระอักโลหิตออกมา อาวุธจักรกลวิญญาณกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง แรงปะทะที่รุนแรงทำให้เขาตะลึง
แค่เพียงพลองเดียวหน่วยที่หนึ่งทุกคนก็ถูกกวาดล้มกันหมดไม่มีใครสามารถต้านทานได้
ยอดฝีมือพลองบรอนซ์มีสีหน้าท่าทางภูมิใจ เขายังคงถือไม้พลองยืนอยู่ที่เดิมและเยาะเย้ยพวกเขา “อาวุธจักรกลสุนัขอันใด ฝีมือก็งั้นๆ!”
ปง
อาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้าสวยงามลงมายืนต่อหน้าเขา
“งั้นๆหรือ?”
เสียงแค่นดังออกมาจากอาวุธจักรวิญญาณ หน้าไพ่ของปิงเต็มไปด้วยความเย็นชา เจตนาดั้งเดิมของเขาก็คือกำจัดมือธนูและยอดฝีมืออาวุธลับ แต่เมื่อเห็นว่ายอดฝีมือพลองบรอนซ์มีฝีมือเฉียบขาดและสามารถเอาชนะหน่วยที่หนึ่งได้โดยตรง เขาตัดสินใจเปลี่ยนแผน
ถ้าพูดกันอย่างเป็นธรรมปิงรู้สึกว่ายุทธวิธีและกลยุทธของถังโฉ่วนั้นดี อย่างน้อยก็เหมาะกับกองทัพจักรกล ถ้าคู่ต่อสู้ไม่มีนักสู้ฝีมือสูงส่งเกินไป พวกเขาสามารถใช้ยุทธวิธีที่มีเหตุผลและรวบรัดจัดการศัตรูได้อย่างง่ายๆ ถ้าคู่ต่อสู้ใช้นักสู้ที่ทรงพลังอย่างนั้นพลังของกลยุทธอาจจะมีขีดจำกัด
นั่นตัดสินได้จากพลังของนักเรียน ผลที่ออกมาไม่ทำให้ปิงประหลาดใจ
แต่เมื่อยอดฝีมือพลองบรอนซ์พูดเช่นนั้น หน้าของปิงเขียวคล้ำ ปิงไม่ได้คาดหวังให้ถังโฉ่วสั่งการกองทัพมากนักเนื่องจากพลังของนักเรียนก็เพียงงั้นๆ แต่แม้ว่าเด็กในครอบครัวของเขาเองจะไม่ดีก็ตาม ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะมาพูดเช่นนั้น
“ฮ้า...ในที่สุดตัวใหญ่ก็ออกมาจนได้!” นักสู้หัวโล้นหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ตายซะเถอะ!”
แม้ว่าอาวุธจักรกลวิญญาณที่อยู่ต่อหน้าเขาจะดูงดงามมาก แต่สำหรับนักสู้ศีรษะโล้นผู้นี้ ยอดฝีมือจักรกลก็แค่สวะที่ดีแต่อวดโอ่ฝีมือ
นานมากี่ปีแล้วตั้งแต่มีนักสู้ระดับทองที่มาจากนักสู้สายจักรกล?หมื่นปีได้กระมัง? นั่นเป็นเรื่องตลก!
เขาย่ำเท้าลง ร่างของเขาพุ่งเหมือนลูกธนูพร้อมพลองที่ลากอยู่บนพื้น เขาวิ่งตรงเข้าหาปิง
วูบบบ
ร่างน้ำเงินที่อยู่ต่อหน้าเขาทั้งที่เขาเล็งเป้าไว้ดีแล้วกลายเป็นภาพเลือนลางลง
หัวใจของนักสู้ศีรษะโล้นเย็นยะเยือก ไวมาก!
เขาตอบสนองได้ไวเช่นกัน พลองบรอนซ์ในมือกวาดตามตัวของเขา ปังเขารู้สึกร้อนที่มือและรีบหลบไปด้านข้างทันที
คลื่นพลังกวาดผ่านร่างของเขาไปอย่างอันตราย
นักสู้ศีรษะโล้นมีประสบการณ์ต่อสู้มามาก เขารู้ว่าเขาพบกับยอดฝีมือเข้าแล้วใจของเขาอดสงสัยมิได้ นักสู้จักรกลมียอดฝีมือที่ทรงพลังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด? ทำไมเขาไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน?
แต่ปัจจุบันนี้เขาใช้สัญชาตญาณของเขาเพื่อสนองตอบ เขาตวาดลั่น แต่ไม่ถอยและเคลื่อนไหวไปข้างหน้า พลองบรอนซ์ในมือเคลื่อนไหวโดยมีภาพเงาเลือนรางเคลื่อนตาม คนของเขาทุกคนเป็นเหมือนอสูรภูตดวงดาวขนาดหนักปะทะเข้าใส่อาวุธจักรกลวิญญาณ
“ทุกคนหลบไปด้านข้าง”
เสียงเยือกเย็นของปิงทำให้ม่อจื่อหวีและพวกที่เหลือรู้สึกตัวและวิ่งหลบไปที่ด้านข้างทันที
เมื่อเทียบกับม่อจื่อหวีและหน่วยที่หนึ่ง ม่ออู๋เว่ยและหน่วยที่สองก็ยังอยู่ในสภาพแย่ นักสู้ผู้ใช้ดาบฟันเลื่อยไม่แข็งแกร่งเท่ากับนักสู้ศีรษะโล้นวิชาดาบของเขาสร้างความลำบากมาก รังสีดาบทุกๆ ดาบที่ปล่อยออกมาจะโจมตีเข้าที่จุดอ่อนและเขาใช้ออกอย่างแม่นยำมาก
วิชาดาบที่คมกล้าของเขาทำให้ม่ออู๋เว่ยไม่สามารถตอบโต้ได้และหลังจากรับมืออยู่สองสามรอบในกลุ่มทั้งหมดก็พากันระส่ำระสาย
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นใจให้พวกเขา ถังเทียนรู้ว่าเขาไม่สามารถชักช้าได้ เขาก้าวลงพื้นไปลนพื้นอย่างดุดันและพุ่งไปข้างหน้าเหมือนกระสุนที่ยิงออกมาจากปืนใหญ่ เขาพุ่งเข้าหานักสู้ที่ใช้ดาบฟันเลื่อย
เขาสะบัดสะโพกและพลิกเอวในกลางอากาศหมัดของเขาเคลื่อนหนุนเนื่องเหมือนสายน้ำไหล ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าจะถูกขัดขวาง
“ระวังข้างหลังเจ้า!”
ยอดฝีมืออาวุธลับอดเตือนไม่ได้ เงาดำที่รวดเร็วพุ่งเข้าหาถังเทียนอย่างเงียบงัน
ถังเทียนทั้งที่ยังอยู่ในกลางอากาศรู้สึกได้ทันทีว่าสภาพรอบตัวของเขาชัดเจนมาก เขาสามารถเห็นอาวุธลับทุกอย่างและวิถีบินของมันเขารู้สึกเหมือนกับจ้องเมล็ดข้าวที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศ
ถังเทียนยื่นมือซ้ายและดึงออกมาจากในอากาศ
ปัง ปัง ปัง
เม็ดเหล็กสามชิ้นพุ่งออกไปเหมือนธนูพุ่งไปยังตำแหน่งตรงข้าม
นักสู้ผู้ใช้ดาบฟันเลื่อยรู้สึกได้ถึงอันตราย เขาหมุนตัวกลับ รังสีดาบวาดฟันด้วยเช่นกัน
รังสีดาบนับไม่ถ้วนสีขาวเหมือนหิมะถูกปล่อยออกมาต่อหน้าถังเทียนเหมือนพลุ รังสีดาบราวๆ ร้อยสายพุ่งเข้าหาถังเทียนจากทุกตำแหน่ง
ใจของถังเทียนรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นมาทำให้นัยน์ตาเขาเหมือนมีหมอกคลุมชั้นหนึ่ง เขาทำตามความรู้สึกที่แปลกประหลาดโดยไม่รู้ตัวกิริยาบางอย่างที่เขาเองก็รู้สึกแปลก
โดยไม่ได้ยืมพลังใดๆ ในอากาศร่างท่อนบนของถังเทียนดูเหมือนจะถูกผลักด้วยมือที่มองไม่เห็น ร่างของเขาปลิวไปเหมือนกับใบไม้ที่ถูกลมพัดรังสีดาบที่อันตรายเฉียดผ่านร่างของเขาไป
เพียงสิ่งเดียวที่เคลื่อนก็คือ หมัดของเขา
ไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับหมัดของเขา
วิชาหมัดพื้นฐาน
ถังเทียนเป็นเหมือนเงาวิ่งตรงเข้าใส่รังสีดาบทันที
เขาใช้ปราณแท้ที่โครจรรุนแรงและต่อยลงไปบนรังสีดาบ
เผียะ
รังสีดาบร่วงลงและเมื่อมันพลังทลายดูเหมือนกับมันเหมือนกับหิมะถล่ม ขณะที่รังสีดาบทั้งร้อยสายล้วนพลังทลายพร้อมกัน
นักสู้ผู้ใช้ดาบฟันเลื่อยถอยหลังไปถึงสิบก้าวกว่าจะตั้งหลักได้ เขาจ้องมองดูด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ ร่างที่ลอยลงมาเหมือนใบไม้ร่วงลงมายืนกับพื้นห่างจากเขาประมาณ 20 เมตร
เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง..
แค่เพียงหมัดพื้นฐานเพียงหมัดเดียวจะทำลายดาบพลิกผันของเขาได้ยังไง?
เขาค่อยๆ คิดเรื่องนั้นช้าๆ หัวใจของเขาพลันเครียดขึ้นทันที หมัดของคู่ต่อสู้ต่อยใส่จุดอ่อนที่สุดของดาบพลิกผันทั้งที่เขาไม่รู้จุดอ่อนนั้น
“เจ้าเป็นใคร?”
น้ำเสียงของเขามีแววหวาดกลัว
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่ยอดฝีมืออาวุธลับก็ยังถลึงตามองถังเทียน เหมือนกับว่าเห็นตัวประหลาด อาวุธลับทั้งสามซึ่งแฉลบกลับมาไม่มีพลังคุกคามใดๆจากพวกมัน เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีทักษะการใช้อาวุธลับที่ดีและรู้แต่เพียงระดับพื้นฐานเท่านั้น แต่ก็ยังแข็งแกร่งมาก
การใช้อาวุธลับทั้งสามตอบโต้กลับแข็งแกร่งทรงพลัง
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจไม่ใช่อาวุธลับของถังเทียน แต่เขาดูเหมือนจะคาดการโจมตีที่มีต่อเขาได้และปล่อยการโจมตีตอบโต้กลับได้โดยไม่ยากเย็นอะไร
เขาเป็นใคร...
เขาน่าสงสัยมาก คนผู้นี้เป็นใคร?
ถังเทียนก้มศีรษะลงเขายังคงสะท้อนความรู้สึกที่แปลกประหลาดทันที นี่คือผลของพลังสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าหรือ? ถ้าเป็นในอดีต เขาสามารถป้องกันได้ แต่คงเป็นเรื่องยากแน่นอน สัญชาตญาณของเขายังไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น
ถังเทียนค่อนข้างตื่นเต้นมาก
เขาตระหนักได้ว่าสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิดและลึกลับมาก เขาคิดย้อนไปถึงหมัดก่อนหน้านั้นอย่างระมัดระวัง แต่มันก็ยังเลือนราง ทุกอย่างผ่านไปรวดเร็ว ในช่วงเวลานั้นเขาลืมไปว่ามีคู่ต่อสู้อยู่ข้างหน้าเขาสองคน
ถังเทียนยืนอยู่กับที่เอียงศีรษะออกไปข้างหนึ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปเป็นเวลานาน
นักสู้ดาบฟันเลื่อยและนักสู้ผู้ใช้อาวุธลับกำลังรอให้ถังเทียนเอยชื่ออกมามองหน้ากันเอง หน้าของเขาแสดงอาการงงและสับสน เนื่องจากพวกเขารออยู่นาน
เขากำลังทำอะไร?
เขาจงใจทำเช่นนั้นหรือว่าพยายามจะหลอกล่อเรา?
เจ้าดูถูกเราเกินไป! แผนงี่เง่าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าเราจะถูกหลอกได้ให้พ่ายแพ้ได้หรือ?
คิดแบบนี้ได้ไง
ทั้งสองคนยืนอยู่กับที่แสดงให้เห็นความอดทนมาก ถังเทียนโจมตีได้อย่างน่าทึ่งมากวิทยายุทธพื้นฐานที่ทรงพลังโจมตีเข้าที่จุดอ่อนของพวกเขาอย่างชาญฉลาด พลังที่น่าทึ่งอย่างนั้นพวกเขาเคยเห็นมาก่อนจริงๆ หรือ?
ทั้งสองคนจำไม่ได้เลย แต่พลังที่ถังเทียนแสดงออกมาทำให้ลึกๆแล้วทั้งสองคนกลัว
ยอดฝีมือ!
พวกเขาพบกับยอดฝีมือที่แท้จริง!
เพราะยอดฝีมือจึงจะทำแบบนั้นได้ เขาต้องพยายามล่อลวงพวกเขาไม่ให้มีความคิดสู้หรือเปล่า? นั่นเป็นเรื่องตลกจะมียอดฝีมือผู้แข็งแกร่งไม่มีแก่จิตแก่ใจสู้ได้ยังไง?
ถ้าเขาเป็นแบบนั้น เขาคงตายไปเป็นร้อยครั้งแล้ว!
กับดัก!
มันต้องเป็นกลลวงแน่!
สภาพใจของพวกเขาขยายและตึงเครียดเมื่อเผชิญกับศัตรูเช่นนั้น
มือธนูที่ยืนอยู่บนกำแพงกวาดล้างอาวุธจักรกลธนูแดงของเขาทรงพลังมากและมีระดับในการทำลายล้างสูง ในช่วงเวลาสั้นๆอาวุธจักรกลเกือบทั้งหมดในเมืองสามวิญญาณถูกเขากวาดล้างเรียบ
เดี๋ยวก่อน...
เขาสังเกตถึงสถานการณ์แปลกประหลาดที่ข้างล่างทันที ทั้งสามคนยืนอยู่กับที่
เขาแข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้นเชียวหรือ เพราะเขาแค่คนเดียวก็สามารถข่มทั้งสองคนไม่ให้เคลื่อนไหวได้หรือ นั่นคือสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้
แต่ขณะที่เขากวาดตามองพื้นที่ต่อไป ทั้งสามคนยังคงยืนนิ่งเป็นท่อนไม้ไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว
เกิดอะไรขึ้น?
มือธนูไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและตะโกนลั่น “พวกเจ้าทุกคนจะยืนงงอยู่อย่างนั้นไปอีกนานถึงไหน?”
เมื่อได้ยินเสียงสหายตะโกน ทั้งสองคนมองหน้ากันเองและเริ่มขยับเข้าไปใกล้
ขณะที่ยอดฝีมือที่ใช้ดาบเลื่อยสืบเท้าเข้าใกล้ถังเทียนทุกขณะ เขาเข้าไปอยู่ในตำแหน่งระยะห่างห้าเมตร เขาหยุด นั่นคือระยะโจมตีที่ดีที่สุดของเขา
ยอดฝีมืออาวุธลับถืออาวุธลับที่มีสีแตกต่างกันสิบอย่าง เขากระตุ้นปราณแท้ใส่ในอาวุธเหล่านั้นเตรียมพร้อมจะระเบิดพลังที่รุนแรง
ขณะนั้นเองยอดฝีมือดาบฟันเลื่อยก็เคลื่อนไหว ดาบฟันเลื่อยส่งเสียงหึ่งๆเบาขณะที่รังสีมีดรูปห่วงสีเขียวปรากฏอยู่บนดาบของเขา
เขาฟันดาบไปตามแนวขวาง
รังสีดาบห่วงห้าสายพุ่งออกไปเงียบๆเหมือนยิงด้วยธนู ตรงเข้าหาถังเทียนและกักพื้นที่ไว้ทันที รังสีดาบกักถังเทียนเอาไว้
ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว
ดวงตาของยอดฝีมืออาวุธลับมีประกายเยือกเย็น มือทั้งสองปลดปล่อยปราณแท้เข้าไปในนิ้วทั้งสิบ ขณะที่อาวุธลับสิบชนิดแตกต่างพุ่งออกไปในวิถีต่างๆที่มิอาจคาดได้ตรงเข้าหาถังทียน
ขณะเดียวกัน รังสีดาบสีเขียวทั้งห้าระเบิดขึ้น
ระเบิดนั้นปลดปล่อยหมอกเขียวกลืนร่างถังเทียนไว้อย่างรวดเร็ว
ถังเทียนอยู่ในหมอกเขียวเงยหน้าขึ้นทันที