ตอนที่ 409 ศัตรูมาถึง!
ถังเทียนลืมตา
“เป็นยังไงบ้าง,เป็นไงบ้าง?” ผู้เฒ่าเฟ่ยถามอย่างกังวล หน้าของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง หยดเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าที่มีความบริสุทธิ์ถึง92%คือความสำเร็จของพวกเขาและเป็นระดับที่บริสุทธิ์สูงสุดของสายเลือดโบราณ
ระดับที่บริสุทธิ์สูงขนาดนั้นหาพบในตลาดได้ยาก ความจริงไม่เคยปรากฏให้พวกเขาเห็นเลย สำหรับมหาอำนาจที่แข็งแกร่งพลังสายเลือดแบบนั้นมีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าสมบัติระดับทอง
และสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้านี้ จำเป็นต้องใช้ความพยายามและเวลาของผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือด ต้องจัดการกับตัวอย่างสายเลือดเกินกว่าหมื่นตัวอย่าง ดังนั้นหลังจากสร้างสำเร็จแล้วจึงไม่มีใครคิดจะขายออกไป
มันมีมูลค่าอย่างน้อยห้าพันล้านเหรียญ หรืออาจจะมากกว่า
แม้แต่องค์การวิญญาณมืดผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดก็ยังไม่สามารถได้สายเลือดที่บริสุทธิ์ระดับนั้นได้ ถ้าพวกเขาสามารถแปลงมันได้ก็จะมีเป็นจำนวนมหาศาล
“รู้สึกแปลกๆ” ถังเทียนไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกที่เขามีอย่างไรดี
“มาตรงนี้” ผู้เฒ่าเฟ่ยกล่าวทันที “เรามีการฝึกฝนรูปแบบพิเศษสำหรับทดสอบพลังสายเลือด พลังสายเลือดมากมาย เมื่อตอนดูดซับในตอนแรกจะถูกละเลย เหมือนกับนกที่ไม่รู้วิธีบิน มันเป็นความสามารถตามธรรมชาติที่จะทำเช่นนั้น แต่เราไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของการทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าเมื่อมีความรู้สึกคุ้นเคยซึ่งยังไม่มากพอ เราก็จะละเลยมัน ในอดีต เรามักจะปล่อยให้นักสู้ประสบกับความรู้สึกเอง ในอดีตหลังจากนักสู้ดูดซับพลังสายเลือด หลังจากนั้นสิบปีพวกเขาจึงจะรู้สึกถึงพลังสายเลือด แต่ตอนนี้ด้วยการศึกษาพิเศษนี้นี่เป็นพื้นที่วิจัยสำหรับผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดของเรา”
“นั่นก็ใช่แล้ว หลายอย่างรู้สึกแปลกและไม่คุ้นเคย และข้าไม่มีทางแจกแจงออกมาได้” ถังเทียนผงกหัว
ด้วยการนำของผู้เฒ่าเฟ่ย ทุกคนมาถึงห้องฝึกฝน ภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือมากมาย
ชายชราผมขาวและร่างกายแข็งแรงกำลังรอทุกคนอยู่ข้างใน เขาสวมชุดนักสู้รัดรูปสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยพลัง
“นี่คือหวังซวนผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดในภาคสนามนี้” ผู้เฒ่าเฟ่ยแนะนำเขาให้ถังเทียนรู้จัก “เขาเคยอยู่ในภาคสนามขององค์การวิญญาณมืด แต่น่าเสียดาย เขาต่อต้านระดับสูงบางพวก จึงไม่มีใครกล้าจ้างเขาอีกต่อไป ดังนั้นข้าจึงพาเขามาที่นี่”
หวังซวนหัวเราะ รู้สึกตื่นเต้น เขาเคยอยู่ในองค์การวิญญาณมืดและผู้เฒ่าเฟ่ยมีตำแหน่งให้เขา แค่ได้พบเขายังเป็นเรื่องยากเลยอย่าว่าแต่ชักชวนเขาเข้ามา
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอยู่ในสภาพตกอับ เขาคงไม่มีทางยอมรับเป็นแน่
แต่หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง เขาเข้ามาร่วมและคุ้นเคยกับเมืองสามวิญญาณแล้ว จึงเริ่มจะชอบที่นั่น ทุกคนสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการและมีสังคมที่ใหญ่มาก แม้ว่าอารมณ์ของทุกคนจะแปลกประหลาดบ้าง และช่วงประชุมจะมีการตบโต๊ะถกเถียงวิวาทกันเป็นเรื่องธรรมดา เขาได้เห็นผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดสตรีสองสามคนมีซ้อมฝีมือกับบุรุษไม่มีความยุ่งยากในเรื่องพลังการต่อสู้ ไม่มีความสับสนในเรื่องความสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องใครจะรุกราน ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องทนทุกข์จากการล้างแค้นเมื่อคนถูกตำหนิเพราะความผิดพลาดของเขา
เป็นสถานที่ดีต่อการอยู่อาศัย บรรยากาศดีกว่าองค์การวิญญาณมืดมาก
สายตาของหวังซวนจับอยู่ที่ถังเทียน เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับเจ้าของค่ายที่แท้จริง
อายุเยาว์มาก!
หวังซวนชื่นชมเขาในใจ เป็นมืออาชีพทั้งที่วัยขนาดนั้น ถ้าเขาอยู่ในองค์การวิญญาณมืด เขาจะต้องเป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์คนหนึ่งเป็นแน่
“ตามข้ามา”
หวังซวนแสดงท่าทางต้อนรับอย่างเป็นมิตรและพาถังเทียนไปอยู่ข้างๆอุปกรณ์
“สายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าเป็นสายเลือดโบราณที่หาได้ยาก และมีข้อมูลที่เกี่ยวกับมันเหลืออยู่ไม่กี่ชิ้น” สีหน้าของหวังซวนเคร่งขรึมจริงจังและตัวเขามั่นคง “แต่นับแต่เราประสบผลสำเร็จได้หยดพลังสายเลือด เราได้เพิ่มการศึกษาเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น เราได้เก็บรวบรวมสถานการณ์ของการต่อสู้ของนักสู้ด้วยพลังสายเลือดมนุษย์หมาป่าและเรายังได้ศึกษาสายเลือดน้อสาวของมันและในที่สุดก็ได้ข้อสันนิษฐานสองสามข้อ วันนี้เราต้องให้เจ้านายลองสักสองสามอย่าง และมันอาจค่อนข้างเป็นภาระ”
“ไม่ไม่ ตายสบายเลย” ถังเทียนกล่าว “บอกมาเลย จะให้ข้าทำอะไร”
หวังซวนพยักหน้าและแอบชื่นชม ถังเทียนไม่ถือตัวหรือหยิ่งถือว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ
“อย่างนั้นเรามาเริ่มกัน..”
ก่อนที่หวังซวนจะพูดจบ เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นมาจากด้านนอก
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน
ถังเทียนวิ่งออกมาก่อนโดยไม่คิดอะไร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้มิได้ชักช้าเลย พวกเขาติดตามมาข้างหลังอย่างกระชั้นชิดในพริบตาพวกเขาก็หายไปหมด
ในห้องเหลืออยู่แต่เพียงหวังซวนและผู้เฒ่าเฟ่ยที่ได้แต่มองหน้ากันเอง
เมื่อถังเทียนวิ่งออกมา สถานการณ์ในสนามรบที่รุนแรงปรากฏเข้ามาในสายตาของเขาทันที คนที่ตามมาด้านหลังเขา เมื่อเห็นเข้า ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนแปลง
“รุนแรงมาก!”
ใครบางคนตะโกน ทุกคนมีความรู้สึกเหมือนๆ กัน
ศัตรูมีไม่กี่คน มีเพียงสี่เท่านั้น เพียงแต่พวกเขาแต่ละคนมีพลังแข็งแกร่งมาก วิธีการครั้งก่อนที่เคยใช้จับตวนมู่ถูกทำลายเสียหายและแม้ว่าทั้งสี่คนจะไม่ค่อยประสานงานกันได้ดี แต่พวกเขาทุกคนแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมากและมีช่องว่างตรงไหนจะถูกพวกเขาใช้ประโยชน์ทันที
พวกเขาทำลายและพังทุกสิ่งอย่างง่ายดาย จักรกลทั้งหมดระเกะระกะอยู่บนพื้น
มือธนูร่างผอมยืนอยู่บนกำแพงค่ายถือธนูของเขาไว้ในมือกำลังเหนี่ยวสายธนู ในสายธนูนั้นไม่มีลูกธนูแต่อย่างใด!
สายธนูถูกเหนี่ยวมีประกายจุดสีแดงเรืองแสงขนาดเท่าเม็ดถั่ว
วูบบบ!
เขาปล่อยสายธนูจุดแสงสีแดงในมือของเขาเปลี่ยนสภาพเป็นธนูแสง ยิงใส่รังร่มในท้องฟ้า
ปัง!
รังร่มกลายเป็นควัน
ความเคลื่อนไหวของมือธนูรวดเร็วมาก ลูกศรแสงสีแดงเป็นเหมือนสายฝน ในพริบตารังร่มในท้องฟ้าก็เหลืออยู่แต่ควัน
นักสู้ศีรษะโล้นอยู่ข้างหน้าควงพลองบรอนซ์หนาและแข็งซึ่งมีแสงรังสีหมุนตามรอบๆ มันคือสมบัติดวงดาวอย่างแน่นอนเขาเหี้ยมหาญและดุร้าย หลังจากทำลายกำแพงเมือง เขาลุยเข้าไปในทะเลมนุษย์บรอนซ์ทันที
พลองบรอนซ์ในมือของเขาสว่างวาบด้วยรังสีแพรวพราว มนุษย์บรอนซ์ทั้งหมดที่สัมผัสกับรังสีแสงของพลองบรอนซ์ ก็แตกกระจายเป็นชิ้นเหลือแต่ซากขยะ
นักสู้อีกคนหนึ่งใช้ดาบฟันเลื่อยคู่หนึ่งที่มีรังสีเขียวครอบคลุมและการโจมตีของเขารวดเร็วมาก เมื่อรังสีดาบสัมผัสกับมนุษย์บรอนซ์พวกมันจะถูกตัดขาดครึ่งได้อย่างง่ายดายเหมือนเต้าหู้ ไม่มีอะไรขัดขวางหรือต่อต้านได้
อีกคนหนึ่งเป็นนักฆ่าชุดยาวสีดำเป็นปรมาจารย์ด้านการใช้อาวุธลับ
เขาซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอีกสองคนอาวุธลับในมือของเขาพุ่งออกมาอย่างจับเค้าไม่ได้ อาวุธลับของเขาไม่มีรัศมี มันเงียบทั้งหมด ในสภาพสับสนวุ่นวายไม่มีใครสามารถป้องกันได้
เซรีนซึ่งอยู่ในห้องใต้ดินหน้าคล้ำดวงตาของนางแทบมีไฟพวยพุ่ง
พลังของคนทั้งสี่แปลกประหลาดเกินไป ถ้าเป็นเพียงคนเดียว นางคงมีโอกาส แต่นี่กลับมีถึงสี่คนนางไม่สามารถทำอะไรได้
“พวกเขาทั้งสี่คนเป็นนักสู้ระดับทอง”
ตวนมู่ที่ถูกมัดกล่าว เขาถูกมัดอย่างดีแต่ปากของเขายังสามารถพูดได้อย่างอิสระ เซรีนกังวลว่าเขาจะถูกศัตรูช่วยไปผลที่ตามมาจะยุ่งยาก ตวนมู่แข็งแกร่งและถ้าเขาร่วมอยู่ในระดับของพวกเขา พลังคุกคามอาจใหญ่หลวงเกินไป
คำพูดของตวนมู่ทำให้วิศวกรจักรกลรอบๆมีสีหน้ากังวล
มิน่าเล่าพวกเขาถึงได้แข็งแกร่งทรงพลังมาก พวกเขาทุกคนเป็นนักสู้ระดับทองนั่นเอง!
แต่โดยรวดเร็ว สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
นักสู้ระดับทอง!
ถ้าไม่ต้องคำนึงถึงกลุ่มอิทธิพลอำนาจแล้ว นักสู้ระดับทองย่อมแข็งแกร่งที่สุด พวกเขาเป็นสุดยอดพีรามิดห่วงโซ่อาหารของนักสู้ ตำแหน่งที่คนนับไม่ถ้วนไขว่คว้าไล่ล่าอย่างรุนแรง
“เจ้าเป็นนักสู้ระดับทองด้วยหรือเปล่า?” เซรีนถามทันที
“ไม่” ตวนมู่ส่ายศีรษะ
หน้าของเซรีนเปลี่ยนไปมาก สำหรับนาง พลังของตวนมู่แข็งแกร่งเพียงพอ แต่เขาก็ยังไม่ใช่นักสู้ระดับทอง! ยอดฝีมือคนเดียว ก็น่ากลัวมากพอแล้ว แต่คราวนี้มาถึงสี่คน
ติงตังขบริมฝีปากนาง หน้าของนางเขียวคล้ำมาก
สองในสี่คนมีชื่ออยู่ในบัญชีของนาง แต่อีกสองคนกลับไม่ใช่
แย่จริง!
ผี่ผาปลอบใจนางทันที “ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่คนจากรุ่นของเรา มักจะมีคนที่เล็ดลอดเราจะไปคาดถูกทั้งหมดได้อย่างไร?
นักสู้ระดับทองสี่คนทำให้บรรยากาศในฐานหม่นหมองมาก
“ดูสิทหารจักรกลของเรา
ทันใดนั้นใครบางคนตะโกนด้วยความยินดีกระตุ้นความสนใจของทุกคน
หน่วยของม่อจื่อหวีและม่ออู๋เว่ยพากันเข้าไปในพื้นที่จุดหมาย ในการรบความได้เปรียบในการป้องกันมักจะเป็นความได้เปรียบที่เพียงพอเสมอ พื้นที่ซึ่งทั้งสองหน่วยได้ปรับใช้หลังจากวางแผนมาอย่างพิถีพิถัน โชคดีที่ทั้งสองหน่วยดำเนินการได้อย่างสอดคล้องเนื่องจากพวกเขาสามารถร่วมมือกันตรึงผู้บุกรุกภายในฐานได้
นักสู้ระดับทองทั้งสี่คนไม่กลัว นักสู้ศีรษะโล้นถือพลองบรอนซ์วิ่งเข้าใส่ทันที นักสู้ที่ถือดาบฟันเลื่อยวิ่งตามมา
“หน่วยที่หนึ่งเตรียมตัวตั้งกระบวนที่หนึ่ง!
“หน่วยที่สองเตรียมตัวใช้กระบวนที่สาม!”
ม่อจื่อหวีและม่ออู๋เว่ยคำรามพร้อมกัน
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
นักเรียนทุกคนตวาดลั่นพร้อมกัน
ทันใดนั้น ทุกคนสว่างวาบด้วยรังสีแสงครอบคลุมราวกับว่ามีการจุดพลุอยู่ทั่วบริเวณ
นักสู้ศีรษะโล้นมีสีหน้าชั่วร้าย รังสีบนพลองบรอนซ์ระเบิดออกเตรียมรับรังสีแสงดาบทั้งสามสิบขนาดมหึมาที่กำลังเข้ามา เขาใช้ปราณที่เด็ดขาดของเขากวาดใส่ข้างหน้าเขา
อากาศรอบตัวเป็นระลอกขยายออกไปเหมือนน้ำ ดูเหมือนระลอกอ่อนจะขยายออกไปรังสีแสงดาบทั้งสามสิบสายปะทะเข้ากับระลอกคลื่น และไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้
บุรุษโล้นร่างใหญ่หมุนตัว หน้าของเขาค่อยๆแดงเข้ม
หน้าของม่อจื่อหวีเปลี่ยน
กระบวนพยุหะส่วนใหญ่ศัตรูเลือกหลบได้
ม่อจื่อหวีมั่นใจมากในกลยุทธของเขา แต่เขาไม่เชื่อเลยว่ายังจะมีคนโง่เลือกที่จะไม่หลบพลังโจมตีข้างหน้าแต่ป้องกันเอาไว้แทน
แต่สิ่งที่เหลือเชื่อกลับเกิดขึ้นอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา
ชี่ ชี่ ชี่!
คลื่นรังสีดาบลูกที่สองเข้ามาถึง และนักสู้โล้นมีท่าทีตะลึง
แต่ไม่มีใครคาดเลยว่ารังสีพลองของเขาจะถูกทำลายในลำดับต่อไป ปฏิกิริยาสนองตอบของเขารวดเร็วมาก เขาถอยอย่างรวดเร็ว จากนั้นหวดพลองบรอนซ์เบาๆ เขาก็กลับเข้าไปประจำตำแหน่งของเขา
ติง ติง ติง!
รังสีคลื่นลูกที่สองกระแทกเข้ากับพลองบรอนซ์และหายไป
วิชาพลองของนักสู้โล้นมีพลังสูงล้ำมาก รังสีอาวุธทั้งหมดที่คาดการณ์ไม่ได้วิ่งเข้ามาเหมือนตาข่ายถูกพลองบรอนซ์ของเขากวาดออกไปทั้งหมด เขาผ่อนหายใจอย่างสบายแต่ยังไม่วางใจ กลับหรี่ตาแคบ
รังสีที่กล้าแข็งสิบสายมีพลังแฝงที่น่ากลัวถูกยิงออกมา
หน้าของนักสู้โล้นเปลี่ยนแววตาที่ดุร้ายฉายผ่านนัยน์ตาเขา เขายกพลองขึ้นแล้วใช้หวดฟาดใส่รังสีหอกที่กำลังพุ่งเข้ามาถึง