ตอนที่ 408 เยี่ยนถู
“พวกเขาไปแล้วหรือ?” อูเซี่ยถามอย่างเหลือเชื่อ
อาเดรียนนักล่าจู่ๆ ก็กล่าวคำอำลาแอนเดรียนากระทันหัน
“ใช่แล้ว พวกเขาจากไปจริงๆ”ตาของเก่อรั่วเป็นประกายและพูดอย่างตื่นเต้น “ประตูดวงดาวระหว่างกลุ่มดาวอันโดรเมดากับกลุ่มดาวนายพรานได้รับความเดือดร้อนจากสงครามหลายครั้งแล้วและนักสู้หลายคนที่ไม่มีภูมิหลังก็ปรากฏตัวอยู่ใกล้ประตูดวงดาวและต่อสู้อย่างรุนแรงกับนักสู้ของกลุ่มดาวนายพรานข้าได้ยินมาว่าสถานการณ์ตึงเครียดมาก ซากศพมีอยู่ทั่วทุกที่ ต้องมีความเกี่ยวข้องกับการจากไปของอาเดรียนแน่”
อูเซี่ยสีหน้าเข้ม การคาดเดาของเก่อรั่วมีเหตุผลและไม่มีข้อสงสัย เทียบกับสมบัติกลุ่มดาวอันโดรเมดาแล้วประตูดวงดาวอันโดรเมดาและดาวนายพรานต้องสำคัญมากกว่า ถ้าพวกเขาสูญเสียประตูดวงดาวไปและปล่อยให้ตกอยู่ในความครอบครองของสมาพันธ์ชาวยุทธ นั่นจะนำพาหายนะมาให้อย่างแน่นอน
อาเดรียนรีบร้อนไปที่ประตูดวงดาวโดยไม่สนใจว่าใครจะมองยังไงนั่นก็เป็นเรื่องที่มีเหตุผล
แต่อูเซี่ยรู้สึกว่ายังมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
อาเดรียนนับได้ว่าเป็นนักล่าและจากนั้นมีความจริงว่าคนทั้งหลายกล่าวว่าเขายังมีนัยน์ตาของนักล่านั่นหมายความว่าเขาเป็นนักล่าที่เจ้าเล่ห์และอดทน ความสำเร็จที่เหลือเชื่อของเขาทำให้อูเซี่ยที่มักจะมั่นใจในตนเองเสมอถึงกับกังวลมาก
ทันใดนั้นบริวารคนหนึ่งรีบเข้ามาหาเขาโดยตรงและกระซิบที่หูของอูเซี่ย
หน้าของอูเซี่ยเปลี่ยนไปทันที เขาพรวดพราดลุกขึ้นยืนและออกไปจากห้องทันที
มีคนสามคนยืนอยู่ที่ประตู
อูเซี่ยทักทายด้วยความเคารพ “ถวายบังคมฝ่าบาท”
“อูเซี่ย, ไม่ต้องมากมารยาท” บุรุษหนุ่มในท่ามกลางบุรุษสามคนยิ้มผิวของเขาสีแทน ลักษณะของเขามองดูเรียบง่ายซื่อสัตย์ เหมือนกับหมีน้ำตาลที่บึกบึนเขาคือว่าที่เจ้าปกครองกลุ่มดาวหมีใหญ่ในอนาคต เยี่ยนถู
อูเซี่ยไม่กล้าเสียมารยาท เยียนถูมองดูเรียบง่ายและสัตย์ซื่อก็จริง แต่ก็ฉลาดและมั่นคงด้วย ถ้าเขายังถูกหลอกจากลักษณะที่เห็นภายนอก อย่างนั้นเขาก็คงเป็นเจ้าโง่ที่ไม่รู้ว่าคำว่าตายสะกดกันยังไงแน่
อย่าได้ถูกหลอกเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของฝ่าบาท การทำตัวเหมือนว่าเขาไม่มีความคิดคำนวณ อูเซี่ยรู้ ฝ่าบาทมารยาทจัดมาก ถ้าพลาดพลั้งแม้เล็กน้อย ก็อาจทำให้ฝ่าบาทไม่สบายใจได้
เขาตอบด้วยความเคารพทันที “รีบเข้ามาเถิด ฝ่าบาท นี่เป็นเรื่องเล็กจริงๆฝ่าบาทถึงกับมาด้วยตนเอง ทำให้ข้าพระบาทปลาบปลื้มดีใจและคลายกังวลไปได้มาก”
เขาเป็นคนเจ้าสำบัดสำนวนอยู่แล้วและรู้จักวิธีพูดให้ถูกกาลเทศะ
เยียนถูหัวเราะไม่ได้ปฏิเสธและนั่งลง “ปากของท่านอูช่างเจรจานักสามารถบรรยายจนคนตายกลายเป็นคนมีชีวิตได้ มิน่าเล่าคนจำนวนมากไม่ยินดีแยกไปจากท่านอู ท่านทำให้ข้าอิจฉาจริงๆ”
อูเซี่ยผงกศีรษะ “ข้าพระบาทแค่มั่นใจเพียงจุดนี้เท่านั้น ต้องขอบพระทัยฝ่าบาทที่ชื่นชม”
“ต้องขอบคุณข้าทำไม?” เยียนถูถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ
อูเซี่ยยืดตัวตรงและพูดต่อ“เพราะฝ่าบาทไม่ทำลายชามข้าวนี้ของข้าพระบาทไป มิฉะนั้นถ้าเป็นฝ่าบาทลงมือเอง ด้วยฝีมือจัดการเรื่องราวภายในวังของฝ่าบาท ข้าพระบาทมีหวังได้ตกงาน ทนหม่นหมองทุกวันจนอาจตรอมใจตายก็ได้?”
ทุกคนเริ่มหัวเราะลั่น
เยียนถูหัวเราะไม่หยุด “นับว่าข้าได้ประสบการณ์ฝีปากช่างเจรจาของท่านอูแล้ว”
จากนั้นสีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและกล่าว “ข้ามาครั้งนี้ก็เพื่อเปลี่ยนแผน”
สีหน้าทุกคนชะงักค้างและทุกคนยืนตรงกันหมด
“แผนเดิมของเราก็คือจับตามองสมบัติกลุ่มดาวอันโดรเมดาทั้งหมด แต่แม้ว่าแผนงานอันโดรเมดาของแอนเดรียนาจะทำให้เราหยุดนิ่ง แต่สำหรับเรา นี่นับว่าเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง”
ทันใดนั้นเยียนถูโบกมือทันที “นอกจากท่านอูแล้ว ทุกคนออกไปได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนออกไปกันทั้งหมด ไม่มีคนอื่นเหลืออยู่ เว้นแต่พวกเขาทั้งสอง
อูเซี่ยรู้จักนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท ดังนั้นต้องเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างแน่นอน
เยียนถูพูดช้าๆ “สมาพันธ์ชาวยุทธจะเข้ามาที่ประตูดวงดาวของเรา”
อูเซี่ยตะลึง หน้าของเขาเปลี่ยนและอดพูดไม่ได้ “ฝ่าบาทตัดสินใจกรีฑาพลแล้วใช่ไหม?มันจะไม่เหมาะสมในขณะนี้กระมัง”
การสู้รบระหว่างสมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวราชสีห์เพิ่งเริ่ม ความห่วงใยว่าจะเข้าร่วมในการรบจะยังไม่ให้ประโยชน์อะไร
หน้าของเยี่ยนถูมีรอยยิ้มทันที “ข้าบอกแล้วว่าท่านอูสมควรได้รับมอบหมายงานใหญ่จริงๆ! เราไม่มีแผนเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสมาพันธ์ชาวยุทธ”
อูเซี่ยสะดุ้ง “อย่างนั้น....”
เยี่ยนถูพูดต่อ “คำขอของสมาพันธ์ชาวยุทธง่ายมาก พวกเขาหวังว่าเราจะสามารถยึดประตูดวงดาวของกลุ่มดาวอันโดรเมดาไว้ให้มากหรือดีที่สุดก็ควบคุมเอาไว้ให้ได้”
“จับหมาป่าเพื่อกินเสืองั้นหรือ?” อูเซี่ยเข้าใจขึ้นมาบ้างจากนั้นก็ขมวดคิ้ว “พวกเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?”
เยี่ยนถูมองดูเขาอย่างยกย่อง เขารู้ว่าอูเซี่ยมีชื่อเสียง แต่เขาไม่ได้มอบหมายงานให้อูเซี่ยตรงๆ ความหลักแหลมของอูเซี่ยทำให้เขาพอใจ
เยี่ยนถูกล่าว “สมาพันธ์ชาวยุทธใช้คนมากคนคอยจับตาดูที่ประตูดวงดาว แต่ล้มเหลว ในช่วงเวลาอย่างนี้ เราจำเป็นต้องควบคุมกลุ่มดาวอันโดรเมดา”
อูเซี่ยได้กลิ่นแผนการภายใต้คำทั้งหมดนั้น “หลังจากนั้นเล่า?”
“หลังจากนั้นพวกเขาจะเข้ากลุ่มดาวนายพรานจากทิศทางอื่นและเริ่มต้นการโจมตีอย่างดุดัน” เยี่ยนถูกล่าว “การโจมตีครั้งนี้จะต้องรุนแรงมาก และพวกเขามั่นใจว่าในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาจะเข้าไปคุกคามได้ถึงวังของกษัตริย์กลุ่มดาวนายพราน!”
อูเซี่ยตกใจ เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? กลุ่มดาวนายพรานอาจจะไม่สามารถเทียบได้กับกลุ่มดาวราชสีห์ แต่พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในสิบกลุ่มดาวระนาบกลาง สมาพันธ์ชาวยุทธจะล้มพวกเขาได้ง่ายๆ ยังไงกัน?”
“ข้าเองก็เหมือนกัน, ข้าไม่เชื่อว่าพวกเขาจะทำได้” เยี่ยนถูกล่าว “แต่พวกเขาแสดงบางอย่างให้พระบิดาข้าดู เขาจึงยอมเชื่อในพวกเขา”
อูเซี่ยพยายามสงบใจจากอาการแตกตื่น ใจของเขาตื่นเต้นและคิดอย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจฝ่าบาทเป็นอย่างดี สามารถทำให้ฝ่าบาทเชื่อใจพวกเขาได้ อย่างนั้นสมาพันธ์ชาวยุทธต้องมีไม้ตายที่รุนแรงเป็นแน่
“ในตอนนั้นกองทัพป้องกันประตูดวงดาวจะเร่งรีบเข้าไปช่วยเหลือและเมื่อประตูดวงดาวเปิด เราก็กวาดเข้าไปใช่ไหม?” อูเซี่ยพูดอย่างเยือกเย็น
“ถูกแล้ว!” เยี่ยนถูพยักหน้า
“จะมีอะไรดีสำหรับเรา?” อูเซี่ยนพูดตามตรง
เยี่ยนถูสูดหายใจลึกจากนั้นกล่าว “กลุ่มดาวนายพราน!”
อูเซี่ยโน้มตัวลง ในที่สุดเขาก็เข้าใจเหตุผลที่ฝ่าบาทยินยอมเห็นพ้องด้วยเงื่อนไขพื้นฐานที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ กลุ่มดาวหมีใหญ่ในฐานะเป็นหนึ่งในห้าดินแดนขั้วขอบฟ้ามีการปกครองดูแลที่ดีและมีอำนาจที่แข็งแกร่งและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นกลุ่มดาวหนึ่งที่คู่ควรเข้าร่วมอยู่ในระดับเดียวกับสิบตำหนักระนาบกลาง แต่กลุ่มดาวหมีใหญ่ในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว แต่พวกเขายังไม่สามารถก้าวหน้าได้ต่อไปอีก
ยกระดับเทียบเท่าสิบตำหนักระนาบกลางเป็นความทะเยอทะยานที่ไม่เปิดเผยของฝ่าบาท แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงรู้กันทุกคนและยังเป็นข้อเรียกร้องของพวกเขา
หลังจากมีความสุขสงบมาเป็นเวลานานทำให้ฝ่าบาทกดดันมากขึ้นและเป้าหมายของเขารุนแรงขึ้น
ถ้ามีโอกาสที่ดีขนาดนั้นในการกินรวบกลุ่มดาวนายพราน ทำไมฝ่าบาทจะต้องปฏิเสธด้วยเล่า?ไม่เพียงแต่ฝ่าบาทไม่ปฏิเสธเท่านั้น แต่ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็จะไม่ปฏิเสธด้วย
“สมาพันธ์ชาวยุทธไม่มีความสนใจในกลุ่มดาวนายพราน” เยี่ยนถูเลียริมฝีปากพูดอย่างตื่นเต้น “ตราบใดที่เราโจมตีกลุ่มดาวนายพรานเราสามารถเชื่อมกลุ่มดาวหมีใหญ่ อันโดรเมดาและกลุ่มดาวนายพรานเข้าด้วยกันสร้างเป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่ ด้วยกลุ่มดาวขนาดนั้นจะทำให้เรากลายเป็นกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบตำหนักระนาบกลาง”
อารมณ์ของอูเซี่ยปั่นป่วนเช่นกัน กลุ่มดาวหมีใหญ่รอโอกาสเช่นนั้นมานานมาก แต่เขาข่มความตื่นเต้นและกล่าว “การโจมตีตอบโต้ของกลุ่มดาวราชสีห์ก็จะรุนแรงเช่นกัน”
“กลุ่มดาวราชสีห์?” เยี่ยนถูแค่นเสียง “ทำไมพวกเขาต้องมาเสียเรี่ยวแรงกับเราด้วย? กลุ่มดาวนายพรานอยู่เบื้องหลังกลุ่มดาวราชสีห์ ถ้าสมาพันธ์ชาวยุทธไม่ใช้โอกาสโจมตี อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สมควรเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธอีกต่อไป”
“อย่างนั้นเรามีงานอะไรจะต้องทำในตอนนี้?” อูเซี่ยไม่ต้องการถามคำถามเดิมต่อไป เขาเชื่อในการตัดสินใจที่เด็ดขาดของฝ่าบาทและเขาจะไม่ก่อให้เกิดข้อผิดพลาด
“ใช้การต่อสู้เพื่อแย่งชิงประตูดวงดาวบังหน้า เราจะลอบควบคุมกลุ่มดาวอันโดรเมดา” เยี่ยนถูกล่าว “เราจะไม่ส่งกองทัพเข้าไป มันจะทำให้ผู้คนแตกตื่นได้”
อูเซี่ยผงกศีรษะเห็นด้วย “ถ้าเป็นเช่นนั้น อย่างนั้นเราแค่ต้องควบคุมแอนเดรียนา ทาร์ตันคือบิดาของแอนเดรียนา ถ้าธิดาของเขาตกมาอยู่ในเงื้อมมือของเรา เขาต้องยอมประนีประนอมอย่างแน่นอน”
“นั่นดีมาก” เยี่ยนถูโล่งใจ
แค่เพียงกลุ่มดาวอันโดรเมดาไม่มีอะไรสำหรับเขาอยู่แล้ว กลุ่มดาวหมีใหญ่ถูกยกย่องว่าเป็นเผด็จการของสิบตำหนักระนาบกลาง ดังนั้นกลุ่มดาวฟากฟ้าเหนือจะทำอะไรได้? ในสายตาของเขา พวกนั้นไม่มีอะไร สำหรับเขาการจะยึดเรื่องนี้ไม่ต้องใช้พลังอะไรมาก
อูเซี่ยส่ายศีรษะ “ก่อนอื่นเราต้องแก้ปัญหาคนของกลุ่มดาวหมาป่าก่อน”
“กลุ่มดาวหมาป่า?” เยี่ยนถูขมวดคิ้ว “เจ้าหมายถึงถังเทียนแห่งกลุ่มดาวหมาป่าน่ะหรือ?”
“ถูกแล้วฝ่าบาท” อูเซี่ยตอบ “กลุ่มดาวหมาป่าพบทางน้ำสายหนึ่ง นั่นคือทางน้ำโบราณจี้ชิว แอนเดรียนาไม่มีพลังของตัวนางเองจึงได้เป็นพันธมิตรกับถังเทียนและยกพื้นที่รอบๆ ทางเข้าให้กับเขา ถังเทียนก่อสร้างฐานทัพหมาป่าที่นั่น ถ้าเราไม่จัดการถังเทียนและคนของเขาก่อน ตราบใดที่พวกเขาตระหนักว่าเราควบคุมแอนเดรียนาได้ก็จะต้องสร้างความสงสัยให้กับกลุ่มดาวนายพรานแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเยี่ยนถูพยักหน้า “ดูเหมือนท่านอูก็มีแผนการอยู่แล้ว”
“เพียงแต่เราต้องจัดการแก้ไขทางด้านถังเทียนก่อน” ตาของอูเซี่ยมีประกายรุนแรงและเขากล่าวอย่างเย็นชา “ตราบใดที่เรากำจัดถังเทียนได้ กลุ่มดาวหมาป่าก็ไม่มีอะไร ถ้าราสามารถลักพาตัวถังเทียนได้ นั่นจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า กองทัพหมาป่าภายใต้บริวารของเขาเป็นทหารฝีมือดี”
เยี่ยนถูประหลาดใจ “ขนาดท่านอูยังมีมุมมองต่อพวกเขาว่าเป็นทหารฝีมือดี นั่นมันอะไรกัน”
“พวกเขาแข็งแกร่งจริง” อูเซี่ยไม่ปิดบังเรื่องนี้ไว้ “ถ้าเราเอาพวกเขาเข้ามาได้ พลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่ของเราจะกลายเป็นสุดยอดกองทัพ”
“ดีมาก” เยี่ยนถูพูดทันที “อย่างนั้นเราจะลักพาตัวเขา”
“แต่ฝีมือของถังเทียนแข็งแกร่งมาก และข้างตัวของเขา...” อูเซี่ยตะลึง
เยี่ยนถูหัวเราะลั่น “ท่านอูไม่ต้องกังวล พระบิดาเรารู้ความสำคัญของเรื่องนี้ และเขาส่งยอดฝีมือองครักษ์หมีใหญ่มาช่วยเรา”
อาการตะลึงของหายไปจากสีหน้าของอูเซี่ย ขณะที่เขาหัวเราะ “อย่างนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน”
นักสู้องครักษ์หมีใหญ่เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มดาวหมีใหญ่ มีอยู่เพียงเจ็ดคน พวกเขาเป็นราชองครักษ์ประจำพระองค์ และยากที่จะออกมา พวกเขาลึกลับมาก ทุกคนมีพลังสุดหยั่งคาดและทุกคนใช้พลังคู่กับสุดยอดอาวุธสมบัติ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วอูเซี่ยตระหนักได้ว่ามีคนสองคนอยู่เคียงข้างเยี่ยนถูเขาลอบหัวเราะตัวเองที่เขาไม่เคยตระหนักรู้อะไรเลย
เป็นไปตามคาดองครักษ์หมีใหญ่ พวกเขาสามารถปกปิดปราณได้อย่างสมบูรณ์
ถึงเวลานั้นเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม!
ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องลักพาตัวถังเทียน แม้กระทั่งโจมตีและยืดกลุ่มดาวอันโดรเมดาทั้งหมดก็ยังไม่ใช่ปัญหา แค่เยี่ยนถูก็ได้รับยกย่องว่าเป็นนักสู้รุ่นเยาว์โดดเด่นที่สุด แสดงให้เห็นว่าเขาคาดหวังในตัวอูเซี่ยมากมายเพียงไหน
พลังของเขายังคงแข็งแกร่งมาก
อูเซี่ยคิดเรื่องข่าวลือทันทีทำให้เขาหัวใจเขาตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง