ตอนที่ 407 บททดสอบของซีหลิน
“เขายังไม่กลับมาหรือ?” ฮั่วฝู่หมันถาม เขานั่งร่างตั้งตรง ชุดทหารของเขารีดมาอย่างดี
“ยังไม่มาเลย” บุรุษหนุ่มชุดยาวรู้สึกตัวแข็ง เขารวบรวมความกล้ากล่าว “ท่านพ่อเรามียอดฝีมือมากมาย เราสามารถส่งพวกเขาไปช่วยได้ ตวนมู่ก็แค่อันดับ 3222 เรายังมีนักสู้ที่แข็งแกร่งทรงพลังมากกว่าเขา...”
บิดาของเขาเลิกคิ้ว บุรุษหนุ่มชุดยาวรู้ว่าเขาต้องเงียบต่อไป แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าเขาผิด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมบิดาของเขาถึงเห็นแก่ตวนมู่มากนัก บางทีบิดาของเขาคงจะชราแล้วและเริ่มจำถึงอารมณ์ในอดีตกระมัง?
ฮั่วฝู่หมันคลายหัวคิ้ว สีหน้าของเขาสงบลงอีกครั้ง “ซีหลิน, เจ้าคิดว่าความแข็งแกร่งเป็นยังไง?”
“เป็นเรื่องยากจะกำหนดความแข็งแกร่งได้ แต่อันดับในรายชื่อน่าจะแจงปัญหาสักสองสามเรื่อง” ซีหลินตอบอย่างไม่สบายใจ
“อย่างนั้นหรือ?” ฮั่วฝู่หมันยิ้มแย้มออกมาทันที แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะเย็นชาก็ตาม “แต่เจ้าคิดบ้างไหมว่ามีนักสู้ระดับทองตายในเงื้อมมือของตวนมู่เท่าไหร่?”
ซีหลินชะงักสีหน้าของเขาเปลี่ยน จากนั้นถามอย่างตะกุกตะกัก “ขะ..เขา..เขาสามารถฆ่านักสู้ระดับทองได้ด้วยหรือ?”
“ห้าคน” ฮั่วฝู่หมันยกมือ รอยยิ้มหายไป และสิ่งที่เข้ามาแทนก็คืออารมณ์เฉื่อยชาไร้ความรู้สึกเหมือนงู“ อย่าเพิ่งตัดสินกับสิ่งต่างๆที่เจ้าไม่คุ้นเคย โลกนี้ใหญ่กว่าที่เจ้าคิด ยังมีคนที่มีพลังสิบส่วนแต่สามารถใช้ออกได้เพียงเจ็ดหรือแปดส่วน ขณะที่อีกพวกหนึ่งมีพลังแปดส่วนแต่ในเงื้อมมือของเขาสามารถปล่อยได้ถึงสิบสองส่วน”
ซีหลินยืนตะลึงอยู่กับที่
“คนยิ่งมีพลังมาก ก็ยิ่งหมกมุ่นอยู่กับพลังมากและไม่จำเป็นต้องใช้สมอง เพราะพวกเขาไม่ต้องการใช้ คนที่คุ้นเคยกับการใช้กำลังแก้ปัญหาเจ้าคิดหรือว่าเขาจะสามารถแก้ปัญหาได้เมื่อเขาพบกับปัญหาที่ไม่สามารถคลี่คลายด้วยกำลังได้? ใช้สมองบ้างไหม? ไร้เดียงสาจริงๆ” ฮั่วฝู่หมันยืนขึ้น “คนแบบนี้ก็แค่เพียงแข็งแกร่งลวงๆ แค่แผนง่ายๆ ก็จบชีวิตของเขาได้แล้ว เจ้ารู้ไหมว่านักสู้ระดับทองที่มีชื่อในทำเนียบฯตายอยู่ใต้แผนการของตวนมู่กี่คนแล้ว? พลังของตวนมู่อาจไม่สามารถเทียบได้กับนักสู้ระดับทอง แต่เขามีความอดทนเพียงพอ จิตใจสงบและสามารถตัดสินใจได้ดี คนแบบนั้นไม่ต้องใช้กำลังล้วนๆก็สามารถเอาชนะคนที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาได้”
“เจ้าจำเป็นต้องเป็นคนที่รู้จักใช้สมองซีหลิน!”
ประโยคสุดท้ายของฮั่วฝู่หมันไม่มีความเมตตาอยู่เลย
“ขอรับท่านพ่อ” หน้าของซีหลินเดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียว แต่ก็กลับคืนสู่ความสงบโดยเร็ว
เมื่อเห็นซีหลินสงบลงแววพอใจฉายผ่านดวงตาของฮั่วฝู่หมัน เขากล่าว “ทีนี้ถึงรอบเจ้าวิเคราะห์บ้าง”
ซีหลินสูดหายใจลึกเขาไล่ความคิดเชิงลบออกไปจากหัว ดวงตาของเขากลับคืนสู่ความสงบ เขากล่าว“ตามที่ท่านพ่อบอก ด้วยพลังของตวนมู่ก็ยังไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ก็หมายความว่าเมืองสามวิญญาณแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคาดไว้ ถ้าตวนมู่ถูกฆ่าตายก็ดีไป แต่ถ้าเขาไม่ตาย อย่างนั้นเมืองสามวิญญาณก็มีแนวโน้มว่าจะล่วงรู้ความคงอยู่ของเรา นั่นก็หมายความว่าคู่ต่อสู้ของเราไม่มีทางถอนตัว”
ฮั่วฝู่หมันตอบอย่างเฉื่อยชา“ว่าต่อไป”
“เนื่องจากไม่มีทางถอนตัว อย่างนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนต่อไป” เสียงของซีหลินเยือกเย็นเหมือนลมหนาวซึ่งมีรังสีอำมหิตแฝงอยู่ ฝ่ามือขาวของเขาฟันใส่อากาศ “เนื่องจากเราเริ่มต้นไปแล้ว เราต้องสานต่อจนจบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราจะต้องล้มเมืองสามวิญญาณให้ได้”
“ดีมาก” ฮั่วฝู่หมันผงกศีรษะ “ข้าจะปล่อยงานนี้ให้เจ้าจัดการ เจ้าจัดการได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ ตราบใดเจ้าโค่นเมืองสามวิญญาณได้ ข้าจะทูลฝ่าบาทให้แต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ปกครองดินแดน”
ตาของซีหลินเป็นประกายแห่งความสุข บิดาของเขาเป็นคนหัวโบราณและดื้อรั้นยืนกราน เมื่อเขาสัญญา เขาจะต้องทำให้เต็มที่ ดังนั้นเขาถาม “ข้าใช้กองทัพบ้างได้ไหม?”
ปากของฮั่วฝู่หมันยิ้มเยาะ “จำเป็นด้วยหรือที่เจ้าต้องใช้กองทัพ?ก็แค่ส่งคนไปจัดการพวกเขา”
ซีหลินไม่ท้อใจ เขารู้ว่าบิดาของเขาให้บททดสอบเขา ตราบใดที่เขาสอบผ่าน เขาจะได้รับอนุญาตจากบิดาของเขาอย่างแท้จริง
“ก็ได้” ซีหลินพยักหน้า
ฮั่วฝู่หมันมองดูซีหลินพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ แววยินดีปรากฏอยู่ในดวงตาเขา
นอกจากบุตรชายสองสามคนลูกชายคนที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุดที่จะแทนเขาได้ก็คือซีหลิน
ซีหลินมีความสามารถที่โดดเด่นในทุกด้าน แต่เขาอ่อนโยนมากเกินไปและยังไม่ประสบความสำเร็จ พระราชาของพวกเขามีความทะเยอทะยานสูงและเมื่อถึงเวลารีบเร่งมุ่งข้างหน้า ด้วยอารมณ์ที่สงบสุขอย่างนั้น เขาจะสามารถได้รับความเมตตาของฝ่าบาทของเขาได้อย่างไร?
อย่างนั้นเขาจะใช้เมืองสามวิญญาณทดสอบซีหลิน
เพียงแค่หล่อหลอมด้วยเลือดและโลหะ เขาจะสามารถเติบใหญ่ได้อย่างแท้จริง
****
เมืองสามวิญญาณในห้องสอบปากคำ
ตวนมู่ให้ความร่วมมืออย่างดี ทุกอย่างที่เขารู้ก็คายออกทั้งหมดเหมือนกับถั่ว ตวนมู่มองเห็นสถานการณ์ได้ชัดและไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
เซรีนตอนแรกเตรียมวิธีการไว้มากมายแต่ไม่ได้ใช้เลยสักวิธี ทำให้นางรู้สึกผิดหวัง
เมื่อใช้รายงานที่ได้รับจากตวนมู่ กลุ่มคนเริ่มเข้ามาประชุมกัน พวกเขาจำเป็นต้องกรองข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งเป็นความพิเศษของผี่ผาและเป็นสิ่งที่ถังโฉ่วยังขาดแคลน
ถึงตอนนี้ติงตังพรวดพราดเข้ามาข้างในทำให้ทุกคนหันไปมองนางพร้อมกัน
“ฮั่วฝู่หมันต้องการจะลงมือ” ติงตังอธิบายอย่างง่ายๆ “มีความเคลื่อนไหวจากซีหลินบุตรชายของเขา”
ติงตังแตกต่างไปจากเดิมมากด้วยเงินทุนที่เพียงพอ เครือข่ายข่าวกรองของนางขยายและแทรกซึมออกไปในระดับที่น่าทึ่ง นางไม่ค่อยได้เดินทางออกไปแนวหน้าบ่อยนักภายใต้คำแนะนำของผี่ผา นางได้สร้างองค์กรข่าวกรองที่เรียกว่าสหพันธ์ใต้เมฆ มองดูผิวเผินสหพันธ์ใต้เมฆเหมือนองค์กรข่าวกรองธรรมดาที่ขายข้อมูลข่าวสาร แต่ไม่มีใครรู้ว่าสหพันธ์ใต้เมฆทำงานให้กับเมืองสามวิญญาณ
เพื่อต่อสู้กับฮั่วฝู่หมันสหพันธ์ใต้เมฆใช้พลังของพวกเขาทั้งหมดรวบรวมข้อมูลด้วยกำลงทั้งหมดของมัน
“จากข้อบ่งชี้ในปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการทำการเคลื่อนไหวต่อต้านเราก็คือฮั่วฝู่หมัน แต่ไม่ใช่กลุ่มดาวคนแบกงู” คำพูดของผี่ผาทำให้ทุกคนคลายใจ
อำนาจของกลุ่มดาวคนแบกงูยิ่งใหญ่มาก และไม่ใช่สิ่งที่เมืองสามวิญญาณจะสามารถรับมือได้ ถ้าเป็นแค่ความตั้งใจของฮั่วฝู่หมัน อย่างนั้นก็น่าจะเป็นผลดีต่อพวกเขามาก
ถังโฉ่วตอบอย่างจริงจัง “ถ้าสมมติฐานนี่เป็นความจริงแล้ว อย่างนั้นความเป็นไปได้ที่ฮั่วฝู่หมันจะใช้กองทัพของเขาก็มีในระดับต่ำ”
ในกลุ่มดาวใดก็ตามการเคลื่อนกองทัพไม่ใช่เป็นเรื่องกระทำโดยส่วนตัวแน่นอน ถ้าฮั่วฝู่หมันไม่ต้องการผิดพลาด เขาคงไม่ใช้กองทัพเป็นแน่
ทุกคนถอนหายใจโล่งอกมีแต่ปิงที่ยังก้มหน้า มือของเขากำหมัดแน่น
เรายังแข็งแกร่งไม่พอ!
ความรู้สึกที่ถูกข่มโดยศัตรูเก่าในช่วงหลายปีก่อนนั้นเป็นเรื่องน่ากลัวอย่างแท้จริง
กลุ่มดาวคนแบกงูมีความสามารถเพียงพอมาพัวพันรอบๆคอของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
หน้าของปิงเขียวคล้ำ แต่เขาไม่พูดอะไรสักคำ ที่น่าโกรธก็คือตัวของเขาเอง เขารู้สึกว่าชะตากรรมของกลุ่มดาวกางเขนใต้อยู่ในมือของเขาและการถูกกลุ่มดาวคนแบกงูข่มเป็นเรื่องน่าอดสูเกินไป
แม้ว่าเขาจะมีเหตุผลนานัปประการพร่ำบอกตัวเอง ว่าเขาเพิ่งมาถึงเพียงไม่กี่ปี ขณะที่กลุ่มดาวคนแบกงูอยู่รอดมาเป็นเวลานานแล้ว
แต่ก็ยังเป็นความรู้สึกที่น่ารังเกียจอยู่ดี!
ความรู้สึกที่น่ารังเกียจที่ไม่จำเป็นต้องการเหตุผล!
เขาขบริมฝีปากแน่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
มีแต่ถังโฉ่วที่รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาดของปิง คนที่เหลือไม่เข้าใจถึงความเกลียดชังและความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกลุ่มดาวกางเขนใต้และกลุ่มดาวคนแบกงู พวกเขาไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงสงครามหมื่นปีก่อนของปิงและกลุ่มดาวคนแบกงู ในสายตาของพวกเขา กลุ่มดาวคนแบกงูเพิ่งจะตกลงไปในระดับกลุ่มตำหนักระนาบกลาง แม้ว่าจะเคยเป็นหนึ่งในตำหนักระนาบสุริยุปราคาก็ตาม แต่นั่นก็นานมากแล้ว
ทุกคนค่อยกระตือรือร้น
“ซีหลินผู้นี้อาจจะใช้นักสู้ตามรายชื่อนี้” หน้าของติงตังเหนื่อยล้าและเสียงของนางก็แหบแห้ง
สำหรับหญิงสาวผมหางม้าที่แข็งแรงและกระตือรือร้นอยู่เสมอนี้สภาพเช่นนี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ทุกคนรู้ เพราะรายชื่อนี้ ติงตังได้ทุ่มเทความพยายามไปมาก
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่เรา!” เซรีนพูดอย่างนุ่มนวล จากนั้นแค่นเสียง “ด้วยรายชื่อนี้ ถ้าเรายังพ่ายแพ้อีก ข้าจะไปซื้อเต้าหู้มาโขกหัวให้ตาย”
“นั่นน่ะสิ!”
“ติงตังไปพักก่อนเถอะ,ที่เหลือปล่อยให้พวกเราเอง”
ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน
“ไม่ต้องห่วงข้า, ข้าจะพักบนโซฟาสักนาทีเดียวก็ดีขึ้นแล้ว” ติงตังเดินไปที่โซฟาในมุมห้องขดตัวนอนเหมือนแมวและหลับอย่างรวดเร็ว
******
ซีหลินได้รับรายงานการปกป้องเมืองสามวิญญาณอย่างรวดเร็ว
“พวกเขามีกฎและการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อน” คุณชายเกอกวาดตาดูรายงานและพูดอย่างเมินเฉย “ดูเหมือนว่าพวกเขารู้ว่าท่านกำลังจะลงมือด้วย”
“ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะรู้” ซีหลินตอบอย่างใจเย็น
“ถ้าข้าต้องบอกว่าท่านผู้เฒ่ายังคงไร้เหตุผล การส่งทหารมาโดยตรงนั่นง่ายดายเหมือนกับย่ำมดแมลงไม่ใช่หรือ?” คุณชายเกอยักไหล่ “เราต้องทำเช่นนั้นจริงๆ”
“ท่านพ่อมีความคิดเป็นของท่านเอง” ซีหลินกล่าว “ครั้งนี้ข้ามาหาเจ้า หวังว่าเจ้าจะสนับสนุนข้า”
“โอวอะไรกัน พี่ข้า,ข้าได้ยินผิดหรือเปล่า?” คุณชายเกอทำท่าเกินไป ใช้น้ำเสียงที่เกินกว่าปกติไปมาก “ท่านพี่ของข้า ท่านต้องการแรงสนับสนุนจากสวะผู้นี้หรือ?”
“เจ้าไม่ต้องพูดคำอย่างนั้นออกมาหรอก”ซีหลินตอบอย่างใจเย็น “เจ้ากับข้ามีความสนใจที่เหมือนกัน ถ้าข้าไม่รับมาลงมือทำเอง เจ้าคิดว่าใครจะปล่อยให้เจ้าทำ?”
คุณชายเกอเป็นเหมือนลูกหนังที่ถูกปล่อยลมทันที “ก็ได้ๆ แล้วท่านต้องการอะไร?”
“เงิน” ซีหลินตอบ “นอกจากเงินแล้ว เจ้ามีอะไร?”
“ตกลง” คุณชายเกอผงกศีรษะ “ท่านต้องการเท่าไหร่?”
“เอาหมดเลย” ซีหลินพูดอย่างใจเย็น
“ว่าไงนะ?” คุณชายเกอคิดว่าเขาฟังผิด
“เงินทั้งหมดของเจ้า” ซีหลินพูดตามตรง “บททดสอบนี้ท่านพ่อมอบให้ข้าซึ่งข้าต้องการให้มันสำเร็จอย่างงดงาม อย่ามัวแต่เสียใจเรื่องเงินของเจ้าเลย ตราบใดที่ข้าผ่านบททดสอบได้ เจ้าสามารถทำเงินคืนได้เป็นสิบเท่า ถ้าข้าไม่ผ่าน เงินที่เจ้ามีในตอนนี้ก็ไม่ใช่ของเจ้าอยู่ดี”
คุณชายเกอตะลึง ที่พี่ชายของเขาพูดออกมานั้นทำให้เขาไม่มีทางปฏิเสธได้
“เจ้ากับข้าต้องร่วมมือกันในครั้งนี้ ในศึกนี้ เราต้องชนะ จะแพ้ไม่ได้”
ซีหลินมองดูคุณชายเกอ
เมื่อเห็นว่าดวงตาของพี่ชายของเขาเป็นประกายเยือกเย็นเขารู้ว่าพี่ชายของเขาจะลงมือเคลื่อนไหวจริงๆ
สีหน้าของคุณชายเกอกจริงจังขึ้นทันที “ตราบใดที่ท่านเอาจริง ไม่มีอะไรที่ท่านทำไม่ได้ เอางั้นก็ได้ ข้าจะให้ทุกอย่างกับท่าน! ทุกอย่างจะถูกยกให้ท่านไม่ขาดไปสักเหรียญเดียว! ท่านต้องชนะให้ได้”
ซีหลินตื่นเต้นมาก แต่เขาไม่พูดอะไรออกมาได้แต่ตบไหล่น้องชายของเขา ความต้องการรบแทบระเบิดออกมาจากอก