ตอนที่แล้วตอนที่ 401 - เป่ายิงฉุบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 403 - สัญชาตญาณ ความยับยั้งชั่งใจ

ตอนที่ 402 - เจ้ามีสมบัติอะไรบ้าง?


ตำหนักเพลิง ริมฝั่งแม่น้ำลาวา

โอวเกินเชื่อว่าพวกเขาคงจบชีวิตแน่นอน นักล่ามังกรผู้ชั่วร้ายมีมังกรบินแดง แม้ว่าเขาจะมีความสามารถหลบหนีเองได้ แต่เขาเกรงว่าองครักษ์เลือดเหล็กและนักผจญภัยจะพากันบาดเจ็บล้มตาย เรื่องที่น่ากังวลที่สุดก็คงเป็นสาวเอลฟ์ทองที่อยู่ต่อหน้าเขา นักล่ามังกรผู้ชั่วร้ายจะไม่ยอมปล่อยนางหลุดมือไปแน่นอน

“พวกเจ้ารีบหนีไป, ข้าจะถ่วงเวลาเขาไว้ได้อย่างน้อยก็สามนาที ไปซะ!” โอวเกินกัดฟันและตัดสินใจที่แม้แต่ตนเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน

เขาตัดสินใจใช้ร่างของเขาขวางศัตรูเอาไว้เพื่อให้แอนนาและลีนหนีพ้นเงื้อมมือนักล่ามังกรผู้ชั่วร้าย

องครักษ์เลือดเหล็กไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น และต่อให้พวกเขาสละชีวิตก็ไม่เป็นปัญหา

พวกนักผจญภัยที่ไร้ยางอายเหล่านั้น โอวเกินไม่สามารถดูแลพวกเขาได้ เขาได้แต่หวังว่า ผลที่น่าเศร้าจะไม่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา

แม้ว่าเขาไม่สามารถโจมตีหรือเรียกสัตว์อสูรของเขาได้ โอวเกินก็ยังเป็นผู้มีความแข็งแกร่งของนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับที่หนึ่ง แม้ว่าจะไม่สามารถเรียกอสูรอัญเชิญของตนได้และพลังของเขาลดลงไปมาก แต่เขาเชื่อว่าตราบเท่าที่เขายืนหยัดอยู่ได้ เขาคงหยุดมังกรบินแดง อสูรทองระดับเจ็ดได้สักชั่วขณะ ไม่ว่าเขาจะยังมีชีวิตรอดหลังจากขัดขวางศัตรูของเขาหรือไม่ก็ตาม โอวเกินไม่คิดถึงมันอีกต่อไป เขาไม่สามารถเรียกอสูรใดๆ ได้ และไม่สามารถต่อสู้โต้ตอบได้ นี่เป็นเรื่องจริง โอวเกินนำห่อผ้าออกมาจากกำไลเก็บของและมอบให้ลีนและแอนนา “ถ้าข้าไม่อาจกลับออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย ช่วยมอบสิ่งนี้ให้ผู้เฒ่าหม่าไท่แห่งสมาคมนักรบด้วย เขาจะช่วยส่งของให้ครอบครัวของข้า”

เมื่อลีนและแอนนาเห็นเช่นนี้ พวกเขารู้สึกตื้นตัน

บนหอทงเทียนชั้นหก นอกจากเพื่อนร่วมทีมของตนเองแล้ว ใครจะยอมสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับอีกฝ่าย ที่มีขนาดใหญ่มาก และเสียสละตนเองเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น?

แม้แต่หน่วยกู้ภัยที่ได้รับว่าจ้างจากสมาคมนักรบ ก็ยังคิดถึงตนเองในสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างนี้

ลุงวัยกลางคนผู้นี้เป็นคนดีจริงๆ เขามีเกียรติและมีคุณค่าเหนือนักรบธรรมดามากมายนัก

เพียงคำพูดเหล่านี้ของเขา ลีนและแอนนารู้สึกเพิ่มความเคารพเขา

แม้ว่าแอนนารู้สึกกังวลขณะที่เผชิญหน้ากับนักล่ามังกร แต่นางไม่ได้แตกตื่น นางหันไปแนะนำโอวเกิน “มังกรบินแดงแข็งแกร่งมาก ทว่าจุดอ่อนของมันเห็นได้ชัดพอๆ กับความแข็งแกร่งของมัน เราไม่ควรจะตระหนก ถ้าทุกคนร่วมมือกันต่อต้าน อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ข้าเชื่อว่าฮุยไท่หลางจะกลับมาโดยเร็ว ทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวัง”

ลีนไม่รู้ว่าเย่ว์หยางออกไปจากตำหนักเพลิงแล้วและเชื่อว่าตราบเท่าที่เย่ว์หยางยังอยู่ที่นี่ ก็จะไม่มีปัญหา

ตราบใดที่ทุกคนถ่วงเวลาและรอเย่ว์หยางกับฮุยไท่หลางกลับมา มังกรบินแดงแค่ตัวเดียวคงไม่กล้าเป็นศัตรูได้

“บึ้ม!”

องครักษ์เลือดเหล็กสิบคนยกโล่ของพวกเขาและฝืนใจป้องกันพลังไฟของมังกรบินแดง

จุดอ่อนและจุดแข็งของมังกรบินแดงอยู่ในที่เดียวกัน

ความแข็งแกร่งของมันนับว่า แข็งแกร่งกว่ามังกรบินธรรมดาและความสามารถในการพ่นไฟ ก็คล้ายกับมังกรลาวาและอาจนับได้ว่าเป็นมังกรบินที่แข็งแกร่งที่สุด มังกรบินแดงเร็วกว่ามังกรลาวา แต่รูปร่างของมันค่อนข้างด้อยกว่าและอยู่ในลาวาไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น มันชอบอยู่กันเป็นกลุ่มและพ่นไฟล่าเหยื่อซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่พวกมันชอบ นอกจากเป็นอสูรสายธาตุไฟที่มีภูมิคุ้มกันไฟ ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่สามารถป้องกันการโจมตีของฝูงมังกรบินแดงกลุ่มใหญ่ได้

อย่างไรก็ตาม มังกรบินแดงตัวเดียวยังไม่ถึงกับน่ากลัว

เปลวเพลิงที่มันพ่นออกมามักเดินเป็นแนวตรงแนวเดียว ดังนั้นจึงสามารถหลบเลี่ยงได้ง่ายดาย

ที่สำคัญที่สุดก็คือกรงเล็บและฟันของมันไม่แข็งแรงเท่ามังกรบินธรรมดา เนื่องจากรูปร่างขนาดเล็กของพวกมันจึงทำให้มีไฟไม่มากและนิสัยที่อยู่กันเป็นกลุ่ม มังกรบินแดงไม่เคยต้องต่อสู้ระยะประชิด กรงเล็บและเขี้ยวของมันจึงค่อยๆ หดลงในหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นพวกมันจึงสูญเสียความสามารถและพลังต่อสู้เหมือนกับมังกรตามปกติ

ทุกคนรู้ว่ามังกรบินแดงไม่ถนัดใช้กรงเล็บและเขี้ยว มันแตกต่างจากมังกรศึกและมังกรพิษโดยสิ้นเชิง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตราบใดที่มันสูญเสียความสามารถในการบินและตกลงพื้น พลังต่อสู้ของมันจะลดลงฮวบฮาบ

ถ้าทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันป้องกันมังกรบินแดงได้ อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถถ่วงเวลาได้ระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกนักผจญภัยเหล่านั้นเห็นมังกรบินแดง พวกเขาก็แตกฮือหลบหนีไปคนละทิศทันที ในกรณีนี้ นักล่ามังกรไม่จับตามองพวกเขา เขาแค่จับตามององครักษ์เลือดเหล็กของสมาคมนักรบและเอลฟ์ทองทั้งสอง ถ้ามีบางคนเต็มใจก้าวออกมาและยอมสละชีวิต อย่างนั้นพวกเขาจะไม่เข้าไปขัดขวางธุระของคนอื่น และแยกย้ายกันอย่างเร็ว

องครักษ์เลือดเหล็กพวกนั้นรู้ว่าถ้าพวกเขาวิ่งหนี ชีวิตของพวกเขาจะสูญสิ้น พวกเขาใช้ตัวเองป้องกันและยอมตายต่อหน้าโอวเกิน

พวกเขาทำงานเพื่อเป้าหมายทั่วไปและยกโล่เพื่อปกป้องคนอื่น

“พ่นไฟต่อไป และย่างเจ้าพวกกลุ่มเต่าเหล็กนี่ซะ” นักล่ามังกรผู้นั้นยังคงรู้ว่าร่างของมังกรบินแดงของเขาไม่ค่อยทนนัก มันต้องอยู่ในอากาศและพ่นไฟอย่างต่อเนื่อง ใช้ไฟเพื่อฆ่าศัตรู ขณะเดียวกัน มันสร้างความแตกตื่นให้กับศัตรูได้ทีละคนให้กระจัดกระจาย จากนั้นเขาจะสามารถฆ่าศัตรูของเขาได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะใช้เวลานานเพียงใด เขาไม่กังวล เจ้าหมาป่าฮุยไท่หลางจากไปแล้ว และบางทียังไม่กลับมาในช่วงนี้ต

“ป้องกัน!” โอวเกินชักดาบหนักบนหลังออกมา ยืนอยู่ข้างหน้าแล้วตะโกน

สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือเดิมพันสู้และป้องกันจนกว่าจะตาย

ถ้าอสูรหมาป่ากลับมา ทุกคนจะปลอดภัยและโล่งใจ ถ้ามันสายเกินไป อย่างนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็จะตาย…

นักล่ามังกรแค่นเสียงและหัวเราะลั่น “เจ้าต้องการตายจริงๆ!”

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ก็มีดาวตกจากท้องฟ้ากระแทกใส่ดังบึ้ม มันกระแทกเข้าใส่นักล่ามังกรผู้โอหังเต็มที่จนทำให้เขาคะมำกับพื้น แม้ว่านักล่ามังกรจะไม่ตายทันที แต่ทั่วทั้งร่างของเขาบาดเจ็บเสียหายหนัก นักล่ามังกรปัดอุกกาบาตออกไป และพยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซตลอดทาง เขาพบว่ามีเด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่หน้าเขา คนหนึ่งใบหน้าเย็นเยือกดุจน้ำแข็ง เขายืนเอามือไพล่หลังและไม่ยอมแม้แต่จะมองนักล่ามังกร อีกคนหนึ่งเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามมากจนคนอื่นรู้สึกอิจฉา บุรุษหนุ่มรูปงามแค่นเสียงเหยียดหยาม “ไม่เลวนี่ เจ้ามีมังกรบินแดง แต่ว่าแค่นี้ยังไม่คู่ควรให้เจ้าหยิ่ง”

“บัดซบ!” เมื่อโชคดีของนักล่ามังกรกลับกลายเป็นโชคร้าย เขาจึงต้องพบกับชะตาที่อับเฉาเช่นนี้

“กรรร..” มังกรบินแดงที่ต้องการจะเข้ามาปกป้องเจ้านายของมันโฉบลงมาและพ่นไฟใส่บุรุษทั้งสองคน

แต่ก่อนที่ไฟของมังกรบินแดงจะพ่นมาถึงตัวบุรุษหนุ่มรูปงาม เขาปล่อยความร้อนที่รุนแรงทันที เป็นเพลิงฟ้าที่ทรงพลังกว่าเพลิงมังกร

เพลิงสวรรค์ของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากเพลิงมังกร

อย่างไรก็ตาม คนที่น่ากลัวกว่ากลับเป็นบุรุษน้ำแข็งรูปงาม แม้ว่าจะมองเห็นไม่ชัด แต่เมื่อใดก็ตามที่เขารับการโจมตี ร่างของเขาจะปล่อยพลังเยือกแข็งออกไปโดยเร็ว

เปลวไฟที่มังกรบินแดงพ่นออกมาถูกบุรุษน้ำแข็งทำให้เป็นแท่งน้ำแข็งทันที

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพื้นที่นี้จำกัดความสามารถของเขาไว้ บุรุษน้ำแข็งนี้อาจฆ่ามังกรบินแดงคาที่ไปแล้ว

“ทันหลาง, องค์ชาย, พวกท่านหรือนั่น?” แอนนาและลีนร้องเรียกด้วยความประหลาดใจ

“ให้ข้าสังหารเจ้าโง่นี่ก่อน จากนั้นค่อยคุยกัน” เป็นเรื่องที่ยากมากที่องค์ชายเทียนหลัวจะหาโอกาสดีๆ แสดงฝีมือที่ยิ่งใหญ่ของเขา เขารีบอัญเชิญอสูรสายธาตุเฉพาะของเขา ดาวตกเพลิงฟ้า

นักล่ามังกรหวาดกลัวจัดจนถึงกับหันหลังวิ่งหนีทันที สัญชาตญาณของเขาบอกตัวเองว่าเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่จัดการได้ง่าย ถ้าเขาไม่หนี เขาคงต้องตาย

อย่างไรก็ตาม สายเกินไปเสียแล้ว

ดาวตกเพลิงฟ้าขององค์ชายเทียนหลัว แต่เดิมก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังจากเย่ว์หยางได้สอนวิชาโทเท่มศึกและได้ฝึกฝีมือกับฮุยไท่หลาง จุดอ่อนแต่เดิมซึ่งควบคุมยากและอัญเชิญได้ช้าก็ได้รับการแก้ไข ระดับของอสูรสายธาตุไฟที่อยู่ภายใน ถ้ามีการพัฒนาสำหรับอสูรที่ไม่มีภูมิปัญญา ดาวตกเพลิงฟ้านับเป็นอันดับหนึ่งได้

ถ้านักล่ามังกรไม่อยู่ภายในตำหนักเพลิงและอยู่นอกพื้นที่ผนึกนี้ บางทีเขาอาจมีโอกาสหลบหนี

ตอนนี้ นักล่ามังกรได้แต่รับความพ่ายแพ้โดยมิอาจต่อต้านตอบโต้ได้

ภายใต้คำสั่งขององค์ชายเทียนหลัว ดาวตกเพลิงฟ้าในอากาศยิงลงมาจากอากาศทันที มันเลี้ยวกลางอากาศอย่างชาญฉลาดและกระแทกใส่นักล่ามังกรที่กำลังหลบอยู่ ต่อให้นักล่ามังกรจะมีพลังพอต้านได้ แต่เขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของดาวตกเพลิงฟ้าครั้งที่สองได้ เขาตายคาที่ มังกรบินแดงก็ตายในกลางอากาศเนื่องจากความตายของเจ้านายมัน ผลึกเวทของมันลอยละลิ่วในอากาศร่วงลงในมือของเสวี่ยทันหลาง

องค์ชายเทียนหลัวรีบตรงไปดูว่านักล่ามังกรที่ตายมีสมบัติใดบ้าง

พวกเขาได้ตัวอย่างไม่ดี จากคนอย่างเย่ว์หยาง เมื่อใดก็ตามที่ศัตรูตาย พวกเขาก็จะตรวจค้นสมบัติ พวกเขารวมตัวกันฆ่าศัตรูเพื่อยกระดับและรวบรวมสมบัติไปด้วย

เมื่อโอวเกินเห็นเช่นนี้ เขาได้แต่เหงื่อตกพูดไม่ออก

ยิ่งดูพวกหนุ่มสาวในวันนี้แล้ว เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจพวกเขาเลย

ในตำหนักไม้ เจ้าอ้วนไห่ยืนอยู่หน้าปีศาจไม้หมื่นปีและเถียงกับมันดังลั่น “เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือคุณชายไห่จากตระกูลไห่ในทวีปมังกรทะยาน เจ้ารู้จักตระกูลไห่บ้างไหม? เห็นว่าเจ้าไม่รู้และขาดประสบการณ์ ข้าสามารถบอกได้เลยว่าเจ้าคงไม่เคยได้ยินเรื่องของพวกเรามาก่อน ตระกูลไห่เราเป็นตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในทวีปมังกรทะยาน! อะไรนะ? เจ้าพูดถึงเงินน่ะหรือ? ของอย่างนั้นข้ามีเยอะแยะ แต่ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีสมบัติอะไร.. ไม่มีเหรอ? งั้นนี่ก็ไม่มีอะไรต้องทำ ข้าเกลียดพวกยาจกที่ไม่มีสมบัติ ปกติข้าจะไม่คุยกับยาจก เจ้าเข้าใจไหม? นี่คือธรรมเนียมที่ดีของคุณชายผู้ร่ำรวย ถ้าเจ้ามีของอย่างหัวใจไม้หรืออะไรพรรค์นั้น ข้าจะควักเงินออกมาเอง เจ้าว่าถึงรากไม้ปีศาจเหรอ? ของอย่างนี้ใช้ทำอะไรได้? มันสามารถเรียกนักรบไม้ปีศาจหรือ? ไม่มีประโยชน์ ข้าไม่ต้องการ คุณชายผู้นี้ไม่ต้องการของไร้ประโยชน์ของเจ้า ถ้าเจ้าต้องการขายจริงๆ ข้าก็ใจดีและใจกว้างพอจะซื้อสักร้อยเหรียญทองก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการรู้นะ ปกติข้าจะเก็บไว้ทำบุญกับขอทาน เจ้ากล้าพูดว่าเจ้าไม่ต้องการขายมันจริงๆ หรือ? โง่แท้ๆ เจ้ารู้ราคาที่เขาขายกันข้างนอกหรือเปล่า? ทันทีที่เจ้าได้ยิน เจ้าอาจจะต้องร้องไห้ก็ได้ ของแบบนี้มันไร้ค่า อสูรสายพฤกษาล้าสมัยไปแล้ว และไม่มีใครต้องการมัน! เจ้าคิดว่าทุกคนจะโง่เหมือนไตตันหรือ? เขาเป็นคนมีเงินก็จริง แต่ไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหน นอกจากนี้เขายังอกหักและผิดหวังในชีวิต เจ้าเคยเห็นคนโง่ที่ไหนขายของทั้งหมดเพียงเพื่อดอกไม้หักๆ พังเพียงดอกเดียว? ไม่หรือ? บางทีเขาคงต้องการเอาดอกไม้ไปให้อีหนู, ถ้าไม่ใช่ดอกไม้หักๆ ของเจ้าเป็นของไร้ค่านะ รากไม้ปีศาจของเจ้าข้าให้เต็มที่สองร้อยเหรียญทอง มากกว่านั้นข้าไม่ต้องการ เจ้าน่ะโลภมากเกินไป เจ้าว่าจะเอาห้าร้อยหรือ? บังอาจล่วงเกินข้า.. เจ้ายังมีหน้ามาบอกว่าราคาห้าร้อยเหรียญทองสำหรับรากไม้พังๆ นี่น่ะหรือ?”

เขาเจอเย่ว์หยางไปแล้วและตอนก็ยังต้องมาพบเจ้าอ้วนไห่

ปีศาจไม้หมื่นปีต้องประสบโศกนาฏกรรมอีกครั้ง

แน่นอนว่า มันคิดว่าจะทำเงินก้อนโตได้อย่างน่าพอใจ เพื่อทองห้าร้อยเหรียญทอง มันยอมขายรากไม้ปีศาจให้อีกสิบราก

เจ้าอ้วนไห่ทำหน้าเหมือนเศร้าโศกเสียดายราวกับว่าจะมีอีกคนคอยเฉือนเนื้อของเขา อย่างไรก็ตาม ใจของเขาเบิกบานเหมือนดอกไม้ ขณะที่เขารีดเอาของดีๆ ของปีศาจไม้หมื่นปี เขามุ่งหน้าสู่ตำหนักต่อไป นกนางนวลสายลมที่ไม่ได้ทำสัญญายังติดตามอยู่ด้านหลังของเขา

ไม่ใช่เพราะเจ้าอ้วนไห่ล้มเหลวในการทำสัญญากับมัน แต่เป็นเพราะนกน้อยฉลาดเกินไป

เมื่อใดก็ตามที่ทำสัญญาสำเร็จ มันจะหักหลังเขาทันที

เจ้าอ้วนไห่ไม่มีม้วนสัญญากับมันอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม นกนางนวลสายลมก็ยังติดตามเขาต่อไป เมื่อใดก็ตามที่มันไม่พอใจ มันจะใช้มีดสายลมเล่นงานเจ้าอ้วนไห่

“เป่า..ยิ้ง..ฉุบ… จ้าวปฐพี เจ้าแพ้อีกแล้วนะ นี่เจ้าแพ้ 1008 ครั้งแล้วนะ เจ้ายังมีหมาป่าดินและแมงมุมทรายอยู่อีกหรือ? ถ้าเจ้าไม่มีอะไรอื่นมาวางเดิมพัน อย่างนั้นเราเลิกเล่นพนันที่ไร้ความหมายที่เถอะ! เจ้ายังแพ้ต่อไปโดยไม่มีโอกาสชนะสักครั้ง กลายเป็นข้าได้อยู่ข้างเดียว ไม่เห็นจะมีความตื่นเต้นอะไร ยิ่งกว่านั้นพนันด้วยของพนันเล็กน้อยแค่นี้อาจทำให้เจ้าสนุกได้บ้าง แต่วางเดิมพันมากเกินไปจะเป็นอันตรายกับเจ้าได้นะ เจ้าไม่ควรถลำลึกเล่นหนักเกินไป ควรหยุดซะในขณะที่ยังทำได้” เย่ว์หยางวิจารณ์จ้าวปฐพีล้มเหลวในการคาดหวัง เย่ว์หยางทำตัวเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่วิจารณ์จ้าวปฐพีเหมือนกับเป็นเด็ก

“….” เย่คงและคนอื่นๆ ตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาทั้งชีวิตและไม่กล้าเชื่อ

“เรามาเดิมพันกันครั้งสุดท้าย ข้าไม่มีหมาป่าดินและแมงมุมทรายอีกต่อไปแล้ว ข้าจะใช้สมบัติข้าพนันกับเจ้า” จ้าวปฐพีอ้อนวอนอย่างนอบน้อม มันรู้สึกเหมือนกับว่าต้องชนะมนุษย์นี้ให้ได้สักรอบ ไม่งั้นจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต เขาไม่ชนะเลยแม้แต่ตาเดียวและไม่อาจยอมรับความจริงเช่นนี้ได้

ตราบใดที่สามารถชนะได้สักครั้ง อย่างนั้นมันจะเลิกเล่นพนันแน่นอน

มันมีความรู้เพียงพอและรู้ว่า มันไม่ใช่คู่มือของมนุษย์ผู้ฉลาดผิดธรรมดาผู้นี้ อย่างไรก็ตามมันไม่อาจยอมรับได้ มันต้องชนะ

ครั้งเดียวก็ยังดี

เย่ว์หยางบ่นตรงๆ “ก็ได้ เห็นว่าเจ้าพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพช และร่ำๆ ว่าจะร้องไห้ ข้าไม่อาจปฏิเสธความปรารถนาของเจ้าได้จริงๆ อย่างนั้น เรามาวางเดินพันสุดท้ายให้โอกาสเจ้าได้กู้คืนสถานการณ์ จ้าวแผ่นดิน! ท่านมีสมบัติอะไรบ้าง?”

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด