ตอนที่แล้วตอนที่ 395 - เด็กติดพ่อ หรือคนชอบเด็ก?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 397 - เทพเหล็กไหลดาวตก

ตอนที่ 396 - อย่าดีใจเร็วเกินไป!


ขณะที่เย่ว์หยางกำลังจะผ่านตำหนักทอง หนึ่งในวังเบญจธาตุนั้น พี่น้องตระกูลหลี่คอยคุ้มกันประตูเทเลพอร์ตอยู่ด้านนอกสังเกตเห็นกลุ่มคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ตั้งแต่ระยะไกล

พวกเขาเป็นนักผจญภัยที่มาตามแสงสว่างที่ปรากฏ

ตอนแรก พวกเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้พวกเขาและยืนปรึกษากันอยู่ห่างๆ

หลังจากผ่านไปไม่นาน มีบางคนทำลายศิลาเทเลพอร์ต ดูเหมือนพวกเขาจะเทเลพอร์ตไปตามพรรคพวก ถ้าเป็นอย่างนี้ ความลับประตูเทเลพอร์ตคงถูกเปิดเผย พวกเขายังลังเลใจว่าจะฆ่าคนพวกนั้นหรือไม่ ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มีนักสู้ระดับเจ็ดไม่กี่คนทำให้พี่น้องตระกูลหลี่กลัวว่าคิดจะฆ่าพวกเขาทันทีคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้ามีบางคนหลบหนีไปได้ พวกเขาอาจสร้างความแค้นลึกล้ำให้อีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นได้ และจะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก พี่น้องตระกูลหลี่ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี จึงชักอาวุธออกมาก่อน พวกเขาตัดสินใจเลิกคิดเรื่องอื่นไว้ชั่วคราว และปกป้องประตูเทเลพอร์ตไว้ก่อน

จู่ๆ ก็มีเสียงโห่ร้องและกองร้อยองครักษ์เลือดเหล็กนำโดยโอวเกินวิ่งเข้ามาหาทันที

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ไตตันและเอลฟ์ทองสหายร่วมกลุ่มของพวกเจ้าล่ะ? เขาเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตหรือ?” โอวเกินมีความทรงจำที่ดี เขาจำได้ว่าพี่น้องตระกูลหลี่เป็นเพื่อนร่วมทีมของเย่ว์หยางจึงถามคำถามพวกเขาทันที

โอวเกินไม่ใช่เพิ่งจะมาเอางานเอาการในตอนนี้ แต่เป็นผู้เฒ่าหม่าไท่บอกเขาว่าเด็กหนุ่มไตตันและเอลฟ์ทองเทเลพอร์ตเข้าไปในป่าหยกคราม พวกเขาอาจจะเผชิญหน้ากับนักล่ามังกร เนื่องจากโอวเกินไม่อาจทนเห็นเด็กหนุ่มไตตันต้องพินาศขณะที่ยังอยู่ในวัยขนาดนั้น เขารวบรวมนักรบเลือดเหล็กไปเพื่อช่วยขับไล่นักล่ามังกรให้หนีไป อย่างไรก็ตาม พวกเขายังหาพวกนักล่ามังกรไม่พบ พอเห็นพี่น้องฝาแฝดตระกูลหลี่คุ้มครองอยู่หน้าประตูเทเลพอร์ต โอวเกินก็พอจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทันที

ฝาแฝดหลี่ผู้พี่พยักหน้า แต่ก็ยังแจ้งเตือน แม้ว่าอีกกลุ่มหนึ่งจะมาจากสมาคมนักรบ เขาก็ยังไม่เชื่อโดยสนิทใจนัก

นายกองของนักรบเลือดเหล็กคนหนึ่งขมวดคิ้ว “โอวเกิน, วงแหวนผนึกนี่ดูเก่าแก่มากจริงๆ เราไม่เคยเห็นว่ามันมีอยู่มาก่อน แต่วันนี้จู่ๆ มันก็ทำงาน อาจมีอสูรร้ายเกิดขึ้นและทำลายผนึกออกมาก็ได้

ทันทีที่เขาพูด สีหน้าของโอวเกินปรากฏรอยหม่นหมอง “ถ้าเป็นอย่างนั้น คนที่เข้าไปข้างในอาจตกอยู่ในอันตราย”

หลี่เกอรีบโบกมือ “ไม่, นี่เป็นผนึกที่ถูกพวกเราเปิดออกมา ไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่มีสัตว์อสูรเข้าไปในประตูเทเลพอร์ต ตามกฎของสมาคม ทันทีที่เราพบพื้นที่มิติใหม่ ดินแดนใหม่ หรือเขตใหม่ๆ เรามีสิทธิ์สำรวจตรวจสอบ เราไม่ได้ใช้มันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เราต้องการสนุกกับการใช้สิทธิ์สำรวจก่อน ข้าเชื่อว่ากฎนี้ถูกเขียนขึ้นโดยพันธมิตรนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ใครๆ ไม่อาจปฏิเสธได้ ใครก็ตามที่ต้องการผ่านตรงนี้ไปให้ได้ ก็ต้องถามอาวุธในมือของพวกเราก่อน”

นายกององครักษ์เลือดเหล็กแค่นเสียงเย็นชา “ใครเขาต้องการชิงสมบัติของพวกเจ้ากันเล่า? เรามาที่นี่มีเจตนาดี ต้องการช่วยพวกเจ้า ถ้าเจ้าไม่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างนั้นก็ช่างเถอะ”

โอวเกินต้องรีบไกล่เกลี่ยให้ทุกคน “ทุกคน ไม่จำเป็นต้องลำบากใจเกินไป บางทีอันตรายอาจจะอยู่รอบๆ ตัวเราก็ได้ ไตตันกับพวกเข้าไปสำรวจนี่นับเป็นเรื่องที่ดี สมาคมนักรบต้องการข้อมูลของพวกเขา”

“ตราบใดที่พวกท่านไม่เข้าไป ข้าจะขอให้ผู้นำกลุ่มของเราแบ่งปันข้อมูลกับสมาคมนักรบทีหลัง” หลี่ชิวพยักหน้าจริงจัง

“ไตตันเข้าไปในนั้นนานแค่ไหนแล้ว?” โอวเกินถาม

“ชั่วโมงหนึ่ง” พี่น้องตระกูลหลี่ไม่พูดความจริง ความจริงเจ้าอ้วนไห่และคนที่เหลือเข้าไปอยู่ข้างในนานราวๆ สามชั่วโมง

“มีสัตว์ประหลาดออกมาจากข้างในบ้างไหม..” นักผจญภัยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในครึ่งชั่วโมง ก็มีนักผจญภัยมากกว่าสองร้อยคนมาถึง เป็นเพราะพวกเขายังเกรงกลัวพลังของสมาคมนักรบ ทำให้พวกเขายังไม่เริ่มโจมตี ถ้ามีแค่เพียงพี่น้องตระกูลหลี่ พวกเขาคงจู่โจมไปแล้ว ขณะที่จำนวนคนเพิ่มขึ้น สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้าย ทันใดนั้น แสงจากประตูเทเลพอร์ตกระพริบ และสว่างวาบ ขณะที่ขุนพลเพลิงอสูรทองระดับ 10 ปรากฏตัวออกมาจากประตูเทเลพอร์ต เปลวเพลิงปกคลุมตัวของมันตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า และเริ่มแผ่ขยายต่อหน้าต่อตาของนักผจญภัย

“โอไม่นะ!” หน้าของโอวเกินซีดขาวทันที มีสัตว์ประหลาดออกมาจริงๆ ด้วย ที่สำคัญที่สุด มันเป็นสัตว์ประหลาดชั้นทองระดับ 10 ที่ทรงพลัง ชะตาของไตตันและคนอื่นๆ คงดูริบหรี่

“ฆ่าขุนพลไฟซะก่อนค่อยเข้าไปช่วยคนอื่นๆ” แม้ว่าจะไม่พอใจเหตุผลของที่น้องตระกูลหลี่ที่ปิดบังกองกำลังองครักษ์เลือดเหล็กไว้ แต่นายกองขององครักษ์เลือดเหล็กก็ตอบสนองได้ทันทีสั่งบริวารของเขาให้รายล้อมขุนพลไฟและพุ่งเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตเพื่อช่วยเหลือคนอื่น พี่น้องตะกูลหลี่กำลังจิตใจว้าวุ่น ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาเชื่อมั่นเย่ว์หยาง พวกเขาคงถูกอัดกระแทกอย่างสิ้นหวังไปแล้ว สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวออกมาจากประตูเทเลพอร์ตนี่ หมายความว่ายังไง? ทุกคนที่เข้าไปประสบความพ่ายแพ้หมดแล้วกระนั้นหรือ? ตอนนี้ พวกเขาเพียงแต่หวังว่าเย่ว์หยางจะปกป้องทุกคนและสหายของพวกเขาก็น่าจะปลอดภัย

“ดูสิ, พวกเจ้ายังจะอ้างสิทธิ์สำรวจต่อไป แต่ควรปล่อยให้เราไปช่วยพวกเขา ตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน เงินและสมบัติเป็นแค่ทรัพย์สินนอกตัว ชีวิตของมนุษย์สำคัญยิ่งกว่า” โอวเกินพยายามกดดันพี่น้องตระกูลหลี่ ขณะที่สั่งให้นักรบเลือดเหล็กกลับไปที่สมาคมนักรบเพื่อรายงานและขอกำลังสนับสนุน

“บึ้ม!”

ขุนพลไฟ อสูรทองระดับสิบ แข็งแกร่ง แต่มีองครักษ์เลือดเหล็กอยู่เป็นร้อย

พอถูกล้อมไว้ ขุนพลไฟจึงเครียดและต่อสู้ด้วย ในที่สุดมันก็ถูกโอวเกินสังหารทันทีก่อนที่จะได้หลบหนีกลับเข้าไปในประตูเทเลพอร์

นายกองขององครักษ์เลือดเหล็กสั่งบริวารของตนให้เข้าไป อย่างไรก็ตามหลังจากเขาพิจารณาดูแล้วก็เปลี่ยนความคิดโอวเกิน เขาตัดสินใจเหลือนักรบเลือดเหล็กไว้ยี่สิบคน ขณะที่ให้นักรบเลือดเหล็กอีกแปดสิบคนเข้าไปในที่สุด เขายังกล่าวเสริมขณะมองดูพี่น้องตระกูลหลี่ “พวกเจ้าอยู่ที่นี่เถอะ ในนั้นอันตราย พวกเจ้าแข็งแกร่งก็จริง แต่ยังไม่เข้าใจวิธีการต่อสู้ของพวกเรา ดังนั้นพวกเจ้าคงช่วยอะไรไม่ได้”

พี่น้องตระกูลหลี่จะไม่เข้าไปได้ยังไง? พวกเขาไม่เพียงแต่กังวลถึงความปลอดภัยของคนอื่นๆ แต่พวกเขายังคงต้องการแจ้งให้เย่ว์หยางทราบว่าคนจำนวนมากกำลังเข้าไปในนั้น เพื่อที่ว่าเขาจะได้เตรียมการเท่าที่จำเป็น

โดยไม่ทันได้พูดอะไร พวกเขาพุ่งเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตทันที

หัวหน้านักรบเลือดเหล็กกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “เหลวไหลจริงๆ เจ้าสองนั้นไม่รักชีวิตตนเอง ห่วงแต่ความมั่งคั่งเท่านั้น”

โอวเกินกลับตรงกันข้าม เขารีบยิ้ม “พวกผู้เยาว์ก็เป็นอย่างนี้แหละ เมื่อเจ้ากับข้าอายุราวๆ พวกเขา แม้จะเป็นแค่กวางเขาอ่อนระดับ 3 ก็ไม่ยอมให้คนอื่นๆ ได้แตะต้องมัน ปล่อยพวกเขาเถอะ ใครเล่าไม่เคยอายุเยาว์มาก่อน? ไปกันเถอะ ตอนนี้เราต้องไปช่วยกันจริงๆ แล้ว ทันทีที่พวกผู้เยาว์สูญเสียพ่ายแพ้ พวกเขาก็จะค่อยๆ เติบใหญ่เอง”

องครักษ์เลือดเหล็กโห่ร้องพลางมุ่งหน้าเข้าประตูเทเลพอร์ต และเหลือกำลังพลไว้ข้างนอกยี่สิบนาย

แม้ว่าจะมีเพียงเล็กน้อย แต่องครักษ์เลือดเหล็กขึ้นชื่อในเรื่องการต่อสู้สามารถยันนักผจญภัย 2-3 ร้อยคนได้อยู่ ที่สำคัญที่สุด การเป็นศัตรูกับสมาคมเลือดเหล็กหมายความว่าพวกเขาต้องต่อสู้กับสมาคมนักรบด้วย เรื่องนี้หลายคนไม่กล้าทำแน่

ในฝูงกลุ่มคน มีบางส่วนก็ส่งเสียงด่าทอ สาปแช่ง ขณะที่บางส่วนถอนหายใจด้วยความผิดหวังที่พวกเขาไม่มีโชคในเรื่องการแสวงหาสมบัติ

นักผจญภัยยังคงรวมตัวตัวกัน ในที่สุดก็มีจำนวนเกินห้าร้อย มีกลุ่มหนึ่งเป็นพวกนักรบวิบัติของนักล่ามังกร พวกเขามีรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมและพุ่งเข้าหากลุ่มองครักษ์เลือดเหล็ก

มีนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่งอยู่ในกลุ่มของนักล่ามังกร องครักษ์เลือดเหล็กไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา และถูกบีบให้ถอยหลังทีละก้าวๆ …. นักผจญภัยจำนวน 2-3 ร้อยคนได้โอกาสและเดินหน้ากดดันคนแล้วคนเล่า บางส่วนเข้าร่วมในการสังหารครั้งนี้ด้วยและบางส่วนลอบเข้าประตูเทเลพอร์ต มีบางส่วนช่วยต่อต้านนักรบเลือดเหล็ก เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้หลบหนีไปได้… พวกนักล่ามังกร ไม่ได้พยายามกำจัดองครักษ์เลือดเหล็ก แต่เฮโลเข้าประตูเทเลพอร์ตไปภายใต้การนำของนักรบปราณก่อกำเนิดผู้นั้น

แน่นอนว่า ทันทีที่พวกเขาเข้าไป ชะตากรรมที่น่าอนาถก็ถูกผนึกทันที

บางส่วนตกลงไปในป่าไม้กินคนของตำหนักไม้, เถาวัลย์กินคนนับไม่ถ้วนตวัดรัดต้อนรับการมาเยือนของพวกเขา บางพวกตกลงไปในตำหนักเพลิงเต็มไปด้วยลาวา และนักผจญภัยที่อ่อนแอซึ่งตกลงไปในแม่น้ำลาวาถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน พวกที่ตกอยู่ในพื้นที่ว่างตรงแม่น้ำร้องด้วยความหวาดกลัว ขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดธาตุไฟจำนวนเป็นพันเป็นล้าน

เสียงร้องโหยหวนสะท้อนก้องไปทั้งตำหนักไม้และตำหนักเพลิง และยังดังก้องมาจากกับดักทรายดูดของตำหนักทราย, และจากท่ามกลางคลื่นยักษ์ด้วยฝีมือของปีศาจไซเรนแห่งตำหนักวารีและจากตำหนักทองของพวกทหารหุ่น

คนเหล่านั้นพยายามดิ้นรนต่อสู้ อย่างไรก็ตามเนื่องจาก ข้อจำกัดต่างๆ ทำให้พวกเขาต้องก้มหน้ารับเคราะห์

การถูกจำกัดจากการใช้อสูรสายธาตุเฉพาะและอสูรเสริมพลัง ทำให้พวกเขาไม่สามารถรวบรวมพลังได้เต็มที่ อสูรที่ไม่เหมือนใครจะถูกทำให้อ่อนแอ, ความแข็งแกร่งของอสูรสายนักรบจะลดลงครึ่งหนึ่ง เงื่อนไขนี้ส่งผลให้ความสามารถของนักผจญภัยลดลง สัตว์ประหลาดจัดการบดขยี้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่ปล่อยโอกาสให้พวกเขาได้ซ่อนตัว หัวหน้านักรบเลือดเหล็กกำลังแค้นจนคลั่งเมื่อเขาเห็นบริวารของเขาถูกหมาป่าโคโยตี้ที่อ่อนแอฉีกทึ้งเป็นชิ้น “ไปซะ รีบไป, เราต้องออกไปจากที่นี่ทันที… นี่มันกับดักชั่วร้าย.. ไม่, ช่วยเหลือ… , เพื่อคุณธรรม เราได้ทำไปแล้ว” เขาคำราม

ตอนแรกเขาต้องการช่วยผู้มีชีวิตที่ถูกแมงมุมทรายลากลงไปในบ่อทรายดูด แต่ต่อมาก็พบว่าไม่มีประโยชน์อะไร ฝูงแมงมุมทะเลทรายรุมล้อมพวกเขาไว้

ชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว อาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ย่อยยับ

องครักษ์เลือดเหล็กเกินกว่าสิบคนที่อยู่ข้างๆ เขาเคยเผชิญกับแมงมุมทะเลทรายเป็นพันเป็นล้านและหมาป่าโคโยตี้มาอย่างไม่กลัวเกรงมาแล้ว แต่ในตอนนี้หัวหน้านักรบเลือดเหล็กผู้กล้าทำได้แต่เพียงหนี เพราะเขาใช้อสูรเสริมพลังแบบพิเศษ

โอวเกินมีสายตาที่สั่นสะท้าน มีองครักษ์เลือดเหล็กสิบสองคนและนักผจญภัยหลายร้อยคนอยู่รอบตัวเขา พ่ายแพ้กระจัดกระจาย อสูรเพลิงชั้นทองระดับสิบในแม่น้ำลาวามีความอยู่ยงคงกระพัน ยิ่งกว่านั้น อสูรของนักผจญภัยส่วนใหญ่แทบจะไร้ประโยชน์ อสูรที่เหลือเพียงหยิบมือถูกท่วมทับโดยพลังโจมตีของอสูรเปลวเพลิง

พวกเขาไม่สามารถดำเนินการสู้ต่อไปได้ เพราะเท่ากับว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

ขณะเดียวกัน เย่ว์หยางเพิ่งหยุดการทำงานของวงแหวนผนึกอักษรรูนได้

รังสีแสงเป็นประกายและส่องแสงออกมา

แสงสว่างทวีความเจิดจ้าและพุ่งวาบออกมาจากใจกลางวงเวทอักษรรูนและผนังตรงผนึก

ผนังหินมีรอยผนึก.. ในท่ามกลางวงเวทอักษรรูน ปรากฏถ้ำมืดมิด มันทอดลึกเข้าไปข้างในดูลึกลับ

เย่ว์หยางหยุดทันที เขาไม่ได้ปีนเข้าไปอย่างเบิกบานใจเต็มที่ ต่างจากสิ่งที่คนธรรมดาทำกัน เขากับยืนรอข้างนอกเป็นเวลานาน มีเสียงล่องลอยมาจากข้างใน เหมือนกับเสียงละเมอพูดว่า “พ่อหนุ่มผู้ฉลาด เจ้ารู้ว่ามีคนอยู่ข้างในหรือ? ขอบคุณที่เจ้าหยุดการทำงานของผนึกพันปีสำหรับข้า ข้าอยากจะตอบแทนเจ้าด้วยสมบัติที่ดีที่สุดซึ่งข้าเคยมี ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำคือ ช่วยทำให้ข้าพอใจสักเล็กน้อย”

“อะไรคือความพอใจล่ะ?” ลึกลงไปในดวงตาเย่ว์หยาง ประกายแสงในดวงตาวาววับ เหมือนกับแสดงความกระหายเลือด ทั้งเยาะเย้ยเจ้าของเสียง”

“เจ้าอาจไม่รู้ แต่ที่นี่คือวังเบญจธาตุ จงไปที่ตำหนักวารีและเอาแจกันมาให้ข้าใบหนึ่ง ทันทีที่เจ้าให้ข้า ข้าจะให้สมบัติที่ดีที่สุดที่ข้ามี อาจเป็นสมบัติที่เจ้าหามานานก็ได้” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความยั่วยุ, ดึงดูดให้เย่ว์หยางปลดปล่อยตนให้เป็นอิสระ

“ท่านเป็นใคร? ทำไมถึงถูกผนึกไว้ในนี้ และทำไมต้องเป็นแจกันจากตำหนักวารี?”

“ชื่อของข้าเก่าแก่มาก, ข้าแน่ใจว่าเจ้าไม่เคยได้ยินมา สำหรับแจกัน มันมีสุราทิพย์ที่มีราคาสูงมาก สามารถช่วยให้ข้าฟื้นคืนพลังได้ เอามาให้ข้า จากนั้นเจ้าจะได้สมบัติไป เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำอันตรายเจ้า สาบานในนามพระเจ้าได้ ถ้าข้าทำให้เจ้าและสหายของเจ้าเป็นอันตรายแม้แต่น้อย ขอให้ข้าถูกจองจำอยู่ที่นี่ตลอดไป เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าทนมาตลอดเพื่ออิสรภาพ ข้าแค่ต้องการออกไปจากที่นี่ ทำไมข้าจะต้องทำร้ายเจ้า? เจ้าน่าจะรู้แล้วว่าอสูรสายธาตุเฉพาะและอสูรสายเสริมพลังใช้ไม่ได้ในที่นี่ อสูรของข้าทั้งหมดเป็นอสูรสายธาตุเฉพาะ, ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย วาสนาของเราผูกพันกัน ทำไมเราไม่เป็นมิตรต่อกันเล่า? เราทั้งสองก็ได้สิ่งที่ตนต้องการ เจ้าต้องการสมบัติ ข้าต้องการสุราทิพย์” เสียงโน้มน้าวเต็มไปด้วยอารมณ์และแรงจูงใจ แม้แต่เย่ว์หยางเองก็อดไม่ได้ที่จะหาทางช่วยเหลือเขา

“ก็ได้ แต่ข้าหวังว่าเจ้าสามารถให้กล่องที่อยู่ข้างๆ ตัวเจ้าได้ นั่นคือสมบัติจากตำหนักทอง มันคือเป้าหมายของข้า” เย่ว์หยางยื่นเงื่อนไขของเขา

“ทำไมจะไม่ได้เล่า? สำหรับข้าแล้ว ของนี้เป็นอันตรายมากกว่าดี” ก่อนที่เขาจะพูดจบ กล่องทองเล็กก็พุ่งออกมา

เย่ว์หยางเห็นและยื่นมือออกไปรับมันไว้

ทันใดนั้น มือทองขนาดยักษ์หลุดออกมาจากกล่องและกลายเป็นกรงเล็บปีศาจ มันตะกุยใส่เย่ว์หยางอย่างชั่วร้ายด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง เย่ว์หยางแบกเป่าเอ๋อที่ยังหลับอยู่ไม่สามารถหลบหนีได้รวดเร็ว

เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา และกางโล่พลังปกป้องกันพลังระเบิดที่รุนแรงนี้

อย่างไรก็ตาม กรงเล็บปีศาจทองค่อยๆ เจาะทะลุโล่ปกป้องและเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ใกล้จะกระทบถูกเย่ว์หยาง

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่สามารถต่อต้านเพื่อจะขอกล่องทองใบนี้ได้ ไม่มีใครต่อต้านความโลภในสมบัติได้ ข้าใช้เวลาพันปีเปลี่ยนวิญญาณข้าเป็นมัน ก็เพียงเพื่อวันนี้ เจ้ารู้ไหม? ทันทีที่มีคนขอมัน ข้อจำกัดที่นี่ก็จะไม่อาจจำกัดข้าได้อีกต่อไป หึหึ หลังจากข้ายึดร่างกายเจ้าแล้ว หอทงเทียนทั้งหมดจะต้องสั่นสะเทือนเมื่อข้ากลับไป” เสียงเยาะเย้ยเย็นชาดังขึ้น

“อย่าอวดดีนักนะ แม้ว่าเจ้าจะมีลูกเล่นเล็กน้อยอยู่ในแขนเสื้อเจ้า ก็อย่านึกว่าคนอื่นเขาโง่” นัยน์ตาของเย่ว์หยางเป็นประกายแวววาวด้วยความกระหายเลือด

เหมือนกับทิพยดุริยางค์ดังขึ้น เสียงร้องของหงส์ตัวหนึ่งดังก้องในอากาศ

เพลิงอมฤตลุกโชนพาดผ่านอากาศ

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด