ตอนที่ 13-6 ตำนาน
“มูบา, เชิญพูดต่อ” ลินลี่ย์ฟังอย่างระมัดระวัง
มูบาพูดทั้งที่ยิ้ม “เจ้าเมืองปกครองเมืองบลูไฟร์ก็คือลอร์ดบลูไฟร์หนึ่งในห้าราชันย์! ลอร์ดบลูไฟร์เป็นคนที่ลึกลับมาก พลังของเขามากมายมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัยและเขาแทบไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมา ในความเป็นจริง ไม่มีใครแน่ใจว่าเขายังอยู่ในเมืองบลูไฟร์หรือไม่ ในเมืองบลูไฟร์คนที่มีสถานะและพลังรองจากลอร์ดบลูไฟร์ก็คือลอร์ดแอดกินส์ มีพลังระดับเทพชั้นสูง!”
“เทพชั้นสูง?”
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน เขาอดลอบถอนหายใจไม่ได้ “โอลิเวอร์ เจ้าต้องการจะล้างแค้นให้น้องชายเจ้าแต่ดูเหมือนจะยากเสียเหลือเกิน”
ยอดฝีมือที่ทำลายภูเขาเทพสงครามนำโดยแอดกินส์ผู้นี้
โอลิเวอร์จะฆ่าแอดกินส์? ยังไงเล่า?
“ลินลี่ย์,ยังมีความแตกต่างในระหว่างเทพชั้นสูงด้วยเหมือนกัน มีความแตกต่างใหญ่ในเรื่อพลังระหว่างคนที่กลายเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายศักดิ์สิทธิ์และผู้ที่รู้กฎธรรมชาติแต่ไม่รู้วิธีใช้กฎธรรมชาติ และคนที่กลายเป็นเทพชั้นสูงด้วยความเพียรพยายามของตนเอง ในพิภพจองจำเกบาโดสคนที่อ่อนแอในทุกระดับจะถูกทำลาย”
มูบากล่าว “ลอร์ดแอดกินส์มีชื่อเสียงมาเป็นหมื่นล้านปีแล้ว แม้แต่ในพิภพจองจำเกบาโดสเขาเป็นเทพชั้นสูงที่ทรงพลังอำนาจมาก
“ข้าเข้าใจ เราไม่กล้าไปตอแยแอดกินส์ผู้นั้นแน่” ลินลี่ย์พูดเยาะเย้ยตนเอง
เมื่อรู้ว่าศัตรูทรงพลังเพียงไหนตอนนี้ลินลี่ย์รู้ว่าเขาควรจะทำยังไงต่อพวกเขา
“มีอะไรอื่นอีก? ทวีปยูลานคงเป็นไปไม่ได้ที่มียอดฝีมืออยู่ไม่กี่คนใช่ไหม?” ลินลี่ย์ถาม
มูบาพยักหน้า “จักรวรรดิโรฮอลท์ หลังจากประสบภัยพิบัติคนสาบสูญไปถึงร้อยล้านคนและพลเมืองหนีออกไปเกือบหมดแล้ว ตอนนี้ไม่เหลือใครในจักรวรรดิแล้วย่อมไม่นับด้วยเป็นธรรมดา ปัจจุบันนี้จักรวรรดิไรน์ ยูลาน และบาลุคทั้งหมดถูกเทพชั้นกลางชิงไปหมดขณะที่จักรวรรดิโอเบรียนถูกยึดครองโดยลอร์ดแอนกินส์”
“เทพทั้งนั้นหรือ?” โอลิเวอร์รู้สึกระทมใจ
โอลิเวอร์ปลดปล่อยยอดฝีมือไม่กี่คนด้วยพลังกระบี่นั้นของเขาแต่ก็มีเทพหลายคนรวมอยู่ในนั้น
“ข้ารู้จักเทพที่ควบคุมจักรวรรดิยูลานเขาชื่อเอิร์ฟ สำหรับคนที่ควบคุมจักรวรรดิไรน์ ข้าไม่แน่ใจเช่นกันขณะที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์และพันธมิตรมืด ข้าไม่คุ้นเคยกับพื้นที่นั้นดังนั้นข้าไม่แน่ใจเช่นกัน” มูบากล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับสองพันธมิตรด้านตะวันตกของเทือกเขาอสูรวิเศษเท่านั้นสี่จักรวรรดิด้านตะวันออกของเทือกเขาอสูรวิเศษก็ถูกยึดครองไปด้วย
“มูบา” จู่ๆ ลินลี่ย์มีความคิดประหลาดใจ
ลินลี่ย์รีบถามทันที “ท่านบอกว่าเจ้าเมืองบลูไฟร์ก็คือบลูไฟร์ใช่ไหมหนึ่งในห้าราชันย์พิภพจองจำเกบาโดส เมื่อประตูมิติเปิดในครั้งนี้ท่านคิดว่าลอร์ดบลูไฟร์จะหนีเข้ามาในพิภพยูลานด้วยหรือไม่?”
มูบาตะลึง
“นี่...ข้าก็ไม่รู้” มูบาถอนหายใจชื่นชม “ถ้าลอร์ดบลูไฟร์มาถึงในพิภพยูลานอย่างนั้นก็คงจะเหลือเชื่อจริงๆ มีแนวโน้มว่าแม้แต่คนอย่างลอร์ดเบรุตที่เป็นทูตของมหาเทพอาจจะไม่ได้เหนือกว่าลอร์ดบลูไฟร์ก็เป็นได้
เมื่อรู้ประวัติศาสตร์ของพิภพจองจำเกบาโดสลินลี่ย์ลอบพยักหน้าเหมือนกัน
“ห้าราชันย์...”
ลินลี่ย์รู้สึกทึ่งอยู่ในใจ
ราชันย์!
พิภพจองจำเกบาโดสถูกสร้างเมื่อจักรวาลก่อตัวขึ้น จำนวนยอดฝีมือที่ถูกจองจำภายในนั้นมีมากมายสำหรับคนที่สามารถถึงระดับพลังชั้นสูงในหมู่ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนและกลายเป็นห้าราชันย์ของทั่วพิภพเกบาโดสได้..อย่างนี้จะเป็นหนึ่งในเทพชั้นสูงที่ทรงพลังอำนาจสูงแน่นอน
“แต่ลอร์ดบลูไฟร์ยากจะปรากฏตัวเองในเมืองบลูไฟร์ มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจไม่อยู่ในเมืองบลูไฟร์ตอนนั้นก็ได้” มูบากล่าว
“มูบา, ข้าสับสนเรื่องบางอย่างมากจริงๆ” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
“เชิญบอกได้” ความคิดของมูบาเป็นมิตรมาก
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย “ข้ามักสงสัยว่าข้าสามารถเข้าใจเหตุผลที่เทพชั้นต้นและเทพอื่นๆ รั้งอยู่ในทวีปยูลาน ที่สำคัญพวกเขาต้องการได้ประกายศักดิ์สิทธิ์ในสุสานเทพเจ้า แต่.. ลอร์ดแอดกินส์นั้นเป็นเทพชั้นสูง ทำไมเขายังรั้งอยู่ในพิภพยูลานด้วยเล่า? เขาเป็นเทพชั้นสูงไปแล้วหรือว่าสุสานเทพเจ้าจะมีประกายมหาเทพอยู่?” ลินลี่ย์กล่าวแฝงอารมณ์ขัน
ลินลี่ย์รู้ดีว่าจำนวนของมหาเทพถูกจำกัดไว้แล้วดิน ไฟ น้ำ ลม สายฟ้า แสง ความมืด เจ็ดธาตุใหญ่ก็มีมหาเทพทั้งเจ็ด ในพิภพนับไม่ถ้วน จำนวนของเทพผู้เพิ่มขึ้นมาในช่วงเวลานับไม่ถ้วนนับว่าน่าทึ่งจริงๆ
แค่มองไปที่พิภพจองจำเกบาโดส และนั่นแค่พิภพเดียวเท่านั้น
ถ้าเพิ่มพิภพนับไม่ถ้วนล่ะ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิภพสูงของจอมเทพทั้งสี่และพิภพมหาเทพ... จำนวนน่าประหลาดใจ เกินกว่าจะคิดคำนวณได้
แต่มหาเทพ?
สายธาตุดินเป็นเพียงหนึ่งในเจ็ดนั้น! เพียงแต่เมื่อหนึ่งในนั้นลดลงเทพชั้นสูงอื่นจะสามารถได้รับประกายมหาเทพและรับตำแหน่งมหาเทพได้ แต่เทพนั้นจะทรงพลังอำนาจมากเท่ากับมหาเทพที่ตายไปได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นสุสานเทพเจ้าไม่มีอะไรมากไปกว่าการละเล่นของมหาเทพ
แล้วมหาเทพจะวางประกายมหาเทพไว้ภายในหรือ?
ต่อให้มหาเทพต้องการทำมหาเทพนั่นแหละคงต้องการได้ประกายมหาเทพก่อน
“ไม่เลย”
มูบาส่ายศีรษะ “ลินลี่ย์, เจ้าไม่รู้เรื่องนี้ แต่สุสานเทพเจ้ามีสมบัติมหาเทพอยู่ข้างใน”
“สมบัติมหาเทพ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจเช่นกัน “แม้แต่มหาเทพก็ยังมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ไว้มาเป็นเวลานับปีไม่ถ้วนก่อนจะสามารถสร้างสมบัติมหาเทพได้ เป็นไปได้ว่ามหาเทพผู้สร้างสุสานเทพเจ้ายินดีจะเก็บสมบัติมหาเทพไว้ภายในสุสานหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่แค่สมบัติมหาเทพ...”
มูบาพูดอย่างลึกลับ “ตามตำนานบอกว่าในชั้นที่สิบแปดของสุสานเทพเจ้ามีประกายมหาเทพ!”
“ตลกเป็นบ้า ตลกจริงๆ” ลินลี่ย์หัวเราะลั่น
“ไม่จำเป็น” มูบาพูดอย่างเคร่งขรึม “ลินลี่ย์ เจ้าไม่รู้เรื่องนี้ แต่คนเกือบทั้งหมดที่ติดอยู่ในพิภพจองจำเกบาโดสเป็นยอดฝีมือที่ผ่านประวัติศาสตร์พิภพยูลานมาแล้ว เมื่อหมื่นปีที่แล้วและห้าพันปีที่แล้ว พวกที่ถูกจองจำรุ่นใหม่ทั้งหมดเป็นพวกยอดฝีมือจากภายนอก และอะไรเป็นสาเหตุให้ยอดฝีมือหลายคนจากพิภพอื่นเดินทางมาที่นี่?”
“สุสานเทพเจ้า?” ลินลี่ย์ถาม
มูบาหัวเราะและกล่าว “ที่สำคัญยิ่งกว่าไม่ใช่แค่เทพธรรมดาที่ลงมายังพิภพยูลาน ยังมีเทพระดับสูงด้วยเช่นกัน! เทพระดับสูงที่ทรงพลังมาก,พวกระดับตำนานจากพิภพนรก อสูรเลือดม่วง และเวลานั้นอสูรเลือดม่วงไม่ใช่เป็นเพียงเทพชั้นสูงที่ลงมา
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้านทันที
เขาคิดถึงกระบี่เลือดม่วงของเขา
“บอกข้าหน่อยได้ไหมทำไมเทพชั้นสูงที่ทรงพลังมากเหล่านั้นจึงต้องมา? แค่เพื่อสมบัติเทพธรรมดาและประกายศักดิ์สิทธิ์หรือ? คิดดูสิ มันเป็นไปไม่ได้” มูบาหัวเราะ “นั่นคือเหตุผลที่ข้าแน่ใจว่าสุสานมหาเทพต้องมีสมบัติมหาเทพอยู่ภายใน ไม่ว่าจะมีประกายมหาเทพอยู่หรือไม่ ข้าไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตามในพิภพจองจำเกบาโดสมีข่าวลือเรื่องประกายมหาเทพในสุสานเทพเจ้าอย่างต่อเนื่อง”
ลินลี่ย์ถอนหายใจไม่หยุดหย่อน
มิน่าเล่าแอดกินส์ถึงยังรั้งอยู่ในพิภพยูลาน
ลินลี่ย์กับมูบาคุยกันเป็นเวลานานจากนั้นหลังจากพวกเขาร่วมทานอาหารมื้อกลางวันด้วยกัน มูบาก็ลาจากมา ส่วนลินลี่ย์กลับเข้าไปฝึกต่อมากกว่าเดิม เวลาผ่านไป ในพริบตาผ่านไปอีกเดือน อีกเพียงไม่กี่วันก่อนที่เทพสงครามและมหาพรตจะกลับมา
ภายในคฤหาสน์ที่งดงามจักรวรรดิบาลุค
บุรุษวัยกลางคนชุดขาวหยิ่งยโสนั่งอยู่ภายในศาลาดื่มเหล้าเพลิดเพลินกับความงามในสวนเขาคือโอจวินเทพผู้ทำลายวังหลวงนั่นเอง
“ท่านพ่อ” บุรุษหนุ่มผมทองเดินเข้ามาหา
“หืม?” โอจวินชำเลืองมองเด็กหนุ่ม ในอดีต เมื่อเขาเริ่มถูกขังอยู่ในพิภพจองจำเกบาโดส เขาเป็นแค่เซียนชั้นสูงขณะที่บุตรชายของเขาเพิ่งถึงระดับเซียน
ช่วงเวลาหลายปีนับไม่ถ้วนภายในพิภพจองจำเกบาโดสโอจวินพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องลูกชายของเขา หลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างขมขื่น เขาเข้าถึงระดับเทพได้ขณะที่ลูกชายของเขาถึงระดับเทียมเทพ (เทพชั้นต้น)
ในที่สุดสองพ่อลูกก็หลบหนีออกมาจากพิภพจองจำเกบาโดสออกมาได้
“ท่านพ่อ, แม้ว่าเขตต่างๆของจักรวรรดิบาลุคจะจำนนได้โดยง่าย แต่พลเมืองของจักรวรรดิยังศรัทธาต่อลินลี่ย์อย่างเต็มที่มันน่าหงุดหงิดนัก” บุรุษผมทองขุ่นเคือง“เปลี่ยนศรัทธาของผู้คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย”
จะฆ่าพลเมืองหรือ? นั่นเป็นการกระทำของคนโง่
แผ่นดินเกิดของโอจวินก็คือพิภพยูลานเช่นกัน เขาไม่ใจร้อนทำเรื่องเช่นนั้น
“นั่นง่ายมาก” โอวจวินยิ้มมุมปาก
“โอว?”บุรุษหนุ่มผมทองมองหน้าบิดาของเขาด้วยความสงสัย
“พวกเขาเทิดทูนลินลี่ย์ใช่ไหม? ข้าได้ยินว่าปราสาทเลือดมังกรเป็นตำแหน่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในจักรวรรดิบาลุคทั้งหมดอย่างนั้น....พรุ่งนี้เราจะออกไปทำลายปราสาทเลือดมังกรให้ราบเป็นหน้ากลอง ขณะเดียวกันเราจะฆ่าลินลี่ย์ผู้นั้นด้วย เมื่อเวลามาถึงเราจะแขวนศพลินลี่ย์ประจานที่กำแพงเมืองหลวง”
“และในเวลาเดียวกัน เราจะสร้างเรื่องให้ตื่นเต้นขึ้นอีกนิด”
โอจวินมองดูลูกชายของเขา “การจัดการเรื่องนี้ทำได้ง่ายทั้งหมดที่เราต้องทำก็คือทำให้เขาดูแย่ จากนั้นค่อยฆ่าเขา ขณะที่หลังจากนั้นค่อสร้างปาฏิหาริย์ด้วยตัวเราเอง จากนั้นไม่นานคนทั่วไปก็จะเปลี่ยนศรัทธาของพวกเขาเอง”
ภายในปราสาทเลือดมังกร
“พี่, อีกสองสามวันลอร์ดไดลินและคนอื่นๆก็จะกลับมา ถึงตอนนั้นสถานการณ์คงจะดีขึ้นบ้าง” รีเบ็คกาและลีน่าพี่สาวของนางเดินคู่กันในสวนด้านหลัง พวกนางชะเง้อมอง “ข้าหวังจริงๆว่าเทพสงครามและมหาพรตจะมาถึงตอนนี้ได้ก็ยิ่งดี”
ลีน่าหัวเราะ“อย่าเพิ่งเร่งร้อน อีกไม่นานเลย”
“เจ้าก็เร่งรัดเองด้วยไม่ใช่หรือ?” ทันใดนั้นรีเบ็คกาถลึงตามอง“เฮ้, ใครบางคนกำลังบินเข้ามา! หรือว่าจะเป็นเทพสงครามและคนอื่น? เอ๊ะ..ทำไมพวกเขามาจากทิศเหนือ?”
ลีน่าเงยหน้าขึ้นเช่นกัน
ขอบฟ้าทิศเหนือมีคนมากมายบินเข้ามาในตำแหน่งพวกนาง แต่ในไม่ช้าพวกนางสามารถบอกได้ว่าไม่ใช่แค่คนหลายคน แต่เป็นคนกลุ่มใหญ่อย่างน้อยเป็นยอดฝีมือ 50 –60 คน
“แย่แล้ว” ลีน่าสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
มีเพียงฝ่ายเดียวจากทิศเหนือที่สามารถส่งยอดฝีมือมนุษย์มาหลายคนได้!
“เร็วเข้า รีบไปแจ้งลอร์ดลินลี่ย์ทันที”
ลีน่าและรีเบ็คกาวิ่งไปยังที่ฝึกฝนของลินลี่ย์ทันที
อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกนางจะมาถึง ลินลี่ย์เองสังเกตเห็นร่างมนุษย์หลายคนในอากาศได้แล้ว เขาอดเปลี่ยนสีหน้าไม่ได้ และส่งสัมผัสเทพออกไปทันที “วอร์ตัน เร็วเข้า พาอาร์โนลด์และคนอื่นๆเข้าไปในห้องมิติเดี๋ยวนี้”
แม้ว่าประตูห้องมิติจะโจมตีคนอื่นแต่ตราบใดที่มีเซียนใช้รัศมีคุ้มกันให้ พวกเขาจะช่วยป้องกันการโจมตีช่วงเวลาสั้นๆ ได้ นอกจากนี้..ร่างหลังของลินลี่ย์อยู่ในห้องมิติเช่นกัน
“เข้าใจแล้ว พี่ใหญ่” วอร์ตันเห็นท้องฟ้าด้านเหนือเต็มไปด้วยผู้คนก็รู้ว่าสถานการณ์เลวร้าย
“เร็วเข้า นีน่า ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น”วอร์ตันอุ้มอาร์โนลด์และรีบเข้าไปในห้องมิติทันที
พวกเขาไม่มีเวลาหนีพวกเขาจึงต้องหนีเข้าไปในห้องมิติทันที แม้ว่าคนอื่นจะทำลายปราสาทเลือดมังกรเหมือนที่ทำกับภูเขาเทพสงครามและวังหลวง อย่างน้อยวอร์ตันเดเลียและคนอื่นจะไม่ได้รับอันตราย
ร่างเดิมของลินลี่ย์เรียกโอลิเวอร์และเดลี่ให้ตื่นขึ้นทันที “เร็วเข้า คนของโอจวินมาแล้ว!” โอลิเวอร์และเดลี่ตกใจอย่างหนัก พวกเขารีบออกจากห้องมิติเข้าไปในชั้นล่างทันที
“ลินลี่ย์, ออกมา!!!”
เสียงทุ้มลึกสั่นสะเทือนไปทั้งปราสาทเลือดมังกร
“เขามาหาข้าจริงๆ” ลินลี่ย์เงยหน้าจ้องมองคนกลุ่มใหญ่ที่ชะงักอยู่ในกลางอากาศ มีคนเกือบหกสิบ ผู้นำเป็นบุรุษวัยกลางคนสวมชุดยาวสีน้ำเงิน ผมทองของเขาเป็นประกายอยู่ภายใต้แสงดูแพรวพราว
ลินลี่ย์โอลิเวอร์และเดลี่ชำเลืองมองกันเอง จากนั้นบินขึ้นไปในอากาศด้วยกัน
“ฮ่าฮ่า นับว่าเจ้ายังมีความกล้าจริงๆ” ผู้นำวัยกลางคนหัวเราะและจากนั้นกวาดสายตามองดูกลุ่มลินลี่ย์ “คนไหนคือลินลี่ย์?”
“โอจวิน, เจ้าไม่รู้จักข้าแต่ยังอุตส่าห์ตามหาข้างั้นหรือ?” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างสงบขณะมองดูเขา
“โอว, เจ้ารู้สึกชื่อข้าด้วย, ไม่เลว”บุรุษวัยกลางคนมองดูเขาและพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามาบ้าง เจ้านับได้ว่ามีพรสวรรค์มาก ข้าไม่ต้องการฆ่าเจ้า แต่พลเมืองของเจ้าบูชาเทิดทูนเจ้า วิธีดีที่สุดเพื่อเปลี่ยนศรัทธาของประชาชนก็คือทำลายเทพเจ้าที่พวกเขาบูชา”
“เจ้าควรจะรู้ว่าข้ามาที่นี่ในตอนนี้เพราะเรื่องอะไรใช่ไหม?” โอจวินยิ้มขณะที่เขามองดูลินลี่ย์และพูดอย่างสุภาพ
ก่อนจะฆ่าคนเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ร่าเริงขณะพูดกับผู้นั้นว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
นี่เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากจริงๆ
“แน่นอน อีกสองคน ข้าไม่ต้องจะฆ่าเข้าแค่ต้องการฆ่าเจ้าเท่านั้น ลินลี่ย์” โอจวินมองดูเดลี่ย์และโอลิเวอร์ “เจ้าทั้งสองคนไปได้”