ตอนที่ 13-2 เรื่องใหม่
เบรุตยังคงพูดต่อ “ในพิภพจองจำเกบาโดส 99% ของยอดฝีมือจะตายจากสภาพแวดล้อมหรือไม่ก็ถูกคนอื่นฆ่า แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจำนวนของยอดฝีมือในพิภพจองจำเกบาโดสก็ยังน่าทึ่งยอดฝีมือทุกคนมีความปรารถนาร่วมกัน!”
“ออกไปจากพิภพจองจำ!”
“ในพิภพหยาบอื่นๆ เมื่อเข้าถึงระดับเซียนแล้วนักสู้จะมีคุณสมบัติออกไปจากพิภพหยาบเพื่อมุ่งสู่พิภพเทพและพิภพชั้นสูง อย่างไรก็ตาม ในดินแดนจองจำต่อให้นักสู้กลายเป็นเทพชั้นสูง ก็ยังไม่มีคุณสมบัติได้ออกไป” เบรุตถอนหายใจ
ลินลี่ย์,เดลี่และโอลิเวอร์นึกย้อนกลับไปที่ฉากภาพเมื่อเขื่อนเกรทโบธาแตกระเบิดอีกครั้งหนึ่ง
“กลับมาแล้ว!”
“เรากลับมาแล้ว!!!”
เสียงร้องดีใจแทบบ้าคลั่งเหล่านั้นยังดังก้องอยู่ในหูพวกเขา จากเสียงของพวกนั้นลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและดีใจของยอดฝีมือเหล่านั้นที่เพิ่งหนีออกมาจากดินแดนจองจำได้
“ดังนั้นถ้าใครถูกจองจำเขาจะไม่มีทางออกมาได้เลยใช่ไหม?” ลินลี่ย์ถาม
“แน่นอนว่าไม่” เบรุตส่ายศีรษะ “หลังจากถูกจองจำอยู่ในพิภพจองจำเกบาโดสมีสามวิธีที่ผู้ถูกจองจำสามารถหนีออกมาได้ นอกจากนี้ตามกฎแล้ว เมื่อนักสู้หลบหนีออกมาได้แม้แต่ผู้ดูแลพิภพก็ยังไม่มีคุณสมบัติคุมขังพวกเขากลับไปอีกครั้ง”
“สามวิธี?” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ
ดังนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะหลบหนี,แต่ว่ามีสามวิธีสำหรับการทำเช่นนั้นได้!
“วิธีแรกก็คือเข้าถึงระดับเทพชั้นสูงและจากฟันช่องมิติให้เกิดช่องโหว่ในพิภพจองจำจากนั้นเข้าสู่มิติที่ยุ่งเหยิงระหว่างพิภพ เป็นเรื่องที่ขึ้นกับโชคเทพชั้นสูงสามารถมีชีวิตอยู่เป็นเวลานานได้ในมิติที่ยุ่งเหยิง ถ้าพวกเขาโชคดี พวกเขาอาจจะหนีเข้าไปในพิภพอื่นได้ แต่ถ้าพวกเขาโชคร้าย พวกเขาจะตายอยู่ภายในมิติที่ยุ่งเหยิง
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
หลังจากฝึกจนถึงระดับเทพชั้นสูงแล้ว นักสู้ยังต้องเสี่ยงโชคอยู่ในมิติยุ่งเหยิงอีกหรือ?
มิติยุ่งเหยิงคือสถานที่อันตรายที่สุดการไปที่นั่นไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตไปทิ้ง
“แต่แน่นอน แม้ว่าวิธีนี้จะง่ายที่สุด แต่มีคนไม่มากที่กล้าลองทำ” เบรุตพูดต่อ “วิธีที่สองเพราะพิภพยูลานและพิภพจองจำคือสองด้านของโลกเดียวกันนอกจากประตูมิติที่เชื่อมโยงโลกทั้งสองเข้าด้วยกันยังมีอีกสองสามที่ซึ่งทำให้สองพิภพสัมผัสโยงกันได้”
“สถานที่ซึ่งทำให้สองพิภพนี้สัมผัสโยงกันได้รู้จักกันในฐานะว่าเป็นผนังกั้นเบาบาง”
เบรุตหัวเราะ“บางมากเหมือนกับกระดาษสองแผ่นที่มีช่องว่างกันและถ้ายอดฝีมือในพิภพจองจำสามารถฉีกสร้างช่องออกมาได้ เขาจะสามารถผ่านรูชั่วคราวนั้นออกมาได้ พวกเขาจะพุ่งผ่านรูนั้นได้ทันทีและมันจะซ่อมแซมตัวเองทันทีหลังจากนั้น”
“ไดลินโบมอนต์นั้นและยอดฝีมืออื่นที่มายังพิภพยูลานเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาล้วนแต่ใช้วิธีนี้ออกมายังพิภพยูลาน
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
“ความจริงทุกๆพื้นที่ซึ่งผนังพิภพอ่อนแอจะมีการผนึกเอาไว้ พวกเขาไม่สามารถทำลายออกมาได้ง่ายนัก” เบรุตถอนหายใจ “พิภพจองจำเกบาโดสและพิภพยูลานของเราก็มี โดยรวมก็มีอยู่เก้าแห่งเก้าแห่งที่ผนังพิภพอ่อนแอ ทั้งเก้าแห่งนั้นถูกผนึกเอาไว้ แต่ลินลี่ย์...”
เบรุตมองดูลินลี่ย์ “เมื่อเจ้ายังเด็กและได้เข้าไปเทือกเขาอสูรวิเศษ เจ้าถอนกระบี่ออกมาเล่มหนึ่งไม่ใช่หรือ?”
ลินลี่ย์นึกย้อนกลับไปถึงฉากภาพที่เขาเดินทางไปที่หุบเขาสายหมอกทันที ในที่นั้น เขาปลุกเลือดมังกรในสายเลือดของเขานอกจากนี้เขายังได้พบกับกระบี่เลือดม่วง เวลานั้นเมื่อปู่เดลินเห็นวงเวทขนาดใหญ่ซึ่งมีกระบี่เลือดม่วงปักอยู่ข้างในเขาก็ตกใจเช่นกัน
วงเวทนั้นทรงพลังมากยิ่งกว่าวงเวทระดับเซียน
“ลอร์ดเบรุต ท่านกำลังจะบอกว่า..?”ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนักจ้องมองตาแทบถลน
เบรุตพยักหน้า“ถูกแล้ว เมื่อเจ้าถอนกระบี่ออกมาวงเวทซึ่งล้อมอยู่รอบกระบี่เลือดม่วงย่อมได้รับความเสียหายเป็นธรรมดา มีหลายคนในพิภพจองจำ และมีคนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้จุดผนังพิภพอ่อนแอไดลินก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน เขาเป็นเพียงเทพคนเดียวที่อยู่ใกล้ผนังนั้นมากที่สุดเขาจึงเป็นคนแรกที่พบจุดนี้ ดังนั้นเขาจึงกลับมายังทวีปยูลานได้
“เป็นข้า.. เป็นข้าจริงๆ!!!”
ใจของลินลี่ย์อยู่ในสภาพสับสนอย่างหนัก
ดังนั้นสาเหตุทำให้ให้เกิดวันหายนะโลกเป็นเพราะเขาถอนกระบี่เลือดม่วงออกมา การมาถึงของยอดฝีมือภายนอกก็ต้องเป็นเพราะเขาด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจถึงสาเหตุที่ลูกทั้งสามของไดลินราชสีห์ทองหกตาขอบคุณเขา
“พื้นที่ซึ่งมีผนังพิภพเบาบางเหล่านี้ค้นหาได้ยากมากดังนั้นต่อมาคนที่เริ่มหนีเข้ามาในทวีปยูลานจึงยังน้อย” เบรุตถอนหายใจ “เวลานั้น ข้าไม่ได้รีบเข้ามาปิดซ่อมแซม ข้ารู้สึกว่าคนที่ถูกจองจำอยู่ในพิภพเกบาโดสน่าสมเพชจะเป็นเรื่องดีถ้ามีคนได้หลบหนีออกมาได้บ้าง”
เรื่องที่สำคัญที่สุด
ในสถานที่อย่างพิภพยูลานใครจะคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้เขาได้? หลังจากพบว่าลินลี่ย์สร้างความเสียหายใหญ่ต่อวงเวทนั้นโดยบังเอิญเบรุตทำตัวเหมือนกับว่ากำลังมองดูเกมสนุกสนาน เขาต้องการเห็นหลายคนได้หลบหนี
“วิธีแรกเสี่ยงเอาชีวิตไปทิ้ง วิธีที่สองก็คือโชค” ลินลี่ย์และคนอื่นรู้สึกเศร้ากับคนที่ถูกขังอยู่ในพิภพเกบาโดส
“วิธีที่สามล่ะ?” ลินลี่ย์ถาม
เบรุตมองดูโอลิเวอร์ “วิธีที่สามก็คือ เมื่อประชากรของพิภพจองจำอยู่ในระดับสูงมากเกินไป อย่าบางครั้งวงเวทผนึกจะหยุดชะงักการทำงานชั่วคราวและเปิดประตูมิติในช่วงสั้นๆปล่อยให้คนสองสามคนได้หลบหนีไป ก่อนที่ประตูมิติจะผนึกปิดอีกครั้งจากนั้นก็ซ่อมแซมผนึกวงเวทเหมือนอย่างที่ข้าเพิ่งทำ แต่บางครั้งเรื่องอย่างนี้ก็เกิดขึ้นเพียงร้อยล้านปีต่อครั้ง”
ลินลี่ย์โอลิเวอร์ และเดลี่รู้สึกผ่อนคลายกันทุกคน
เนื่องจากคนระดับสูงคงจะเปิดประตูมิติได้ดูเหมือนว่าโอลิเวอร์ไม่ได้ก่อบาปกรรมที่ร้ายแรงเกินไป
นี่เป็นแค่การเปิดก่อนเวลาอันควรไม่ใช่หรือ?
“คนที่หนีไปได้นั้นต้องขอบคุณเจ้า” เบรุตแค่นเสียงขณะมองดูโอลิเวอร์
โอลิเวอร์ยังคงเงียบ
“ถ้าข้าต้องเปิดประตูมิติเองข้าจะต้องล้อมประตูนั่นไว้ อย่างน้อยข้าคงได้รู้รายละเอียดของทุกคนที่ออกมาและจะไม่มีใครในพวกนั้นหลบหนีไปได้เลย” เบรุตมองดูโอลิเวอร์ “เทพชั้นต้นและเทพอื่นๆ ไม่เป็นปัญหาแน่ ข้าสามารถหาพวกเขาด้วยสัมผัสเทพของข้า นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเป็นเทพชั้นระดับสูงที่ทรงพลังอย่างน่าประหลาดที่สามารถหลบซ่อนตัวไม่ให้ข้าหาพวกเขาพบเจอได้ด้วยสัมผัสเทพของข้าอย่างนั้นหลายอย่างจะกลายเป็นปัญหา”
เบรุตไม่กังวลเรื่องเทพชั้นต้นและเทพชั้นกลางอื่นๆจะก่อเรื่องยุ่งยาก
สิ่งที่เขากังวลก็คือเทพชั้นสูงจะก่อความยุ่งยากให้
“ในช่วงเวลาสั้นๆ บางที อาจไม่มีเทพชั้นสูงปรากฏอยู่ที่ประตูมิติก็เป็นได้ ไม่น่าจะบังเอิญขนาดนั้นก็ได้ใช่ไหม?” ลินลี่ย์กล่าว
“อย่างไรก็ตาม ข้าจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้กวนใจ”เบรุตแค่นเสียงเย็นชา “เมื่อโอเบรียนแคทเธอรีนและเทพอื่นๆ กลับมา ข้าจะดูว่าพวกเขาจะจัดการกับความยุ่งเหยิงนี้ได้ยังไง พวกเจ้าทั้งสามฟังให้ดี พวกเจ้าเป็นเทพชั้นต้นเท่านั้นในช่วงไม่กี่วันนี้ในทวีปจะมีคนสองสามคนที่มีพลังฆ่าพวกเจ้าได้!”
ลินลี่ย์และคนอื่นทำอะไรไม่ได้นอกจากฟัง
“กลับไปซะ” ร่างของเบรุตกระพริบจากนั้นหายไป
เหลือแต่ลินลี่ย์เดลี่และโอลิเวอร์ ทั้งสามคนยืนอยู่ในกลางอากาศ
“โอลิเวอร์, กระบี่นั้นของเจ้าทรงพลังจริงๆ เจ้าปล่อยยอดฝีมือออกไปมากมายทันทีด้วยกระบี่นั้นเชียวนะ” เดลี่ฝืนยิ้ม เขาไม่รู้สึกกดดันมากนัก เขาซ่อนตัวอยู่หมู่บ้านภายในหุบเขาเล็กๆ ตราบใดที่ไม่ล่วงเกินคนอื่นเขาก็ยังปลอดภัย
โอลิเวอร์มีสีหน้าหม่นหมอง“ลินลี่ย์, ข้าขอโทษ”
ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะ
ในสามคนนั้นเขาแย่ที่สุดโอลิเวอร์ปลดปล่อยเทพออกมามากมายถ้าบางตนที่มีความต้องการเพลิดเพลินกับอำนาจทางโลกจะมีปัญหามากมายเพียงไหนที่จักรวรรดิบาลุคจะต้องเผชิญ?
ลินลี่ย์เองไม่กล้าจะนึกถึง
“ทั้งหมดที่ข้าสามารถทำได้ก็คือไปทีละขั้นตอน” ลินลี่ย์กล่าว “สุภาพบุรุษทั้งหลาย ข้าจะกลับไปปราสาทเลือดมังกรก่อน”
“ข้าก็จะไปด้วยเช่นกัน” โอลิเวอร์กล่าว “ข้าสร้างปัญหานี้ขึ้นมาถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในจักรวรรดิบาลุค ข้าคงไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้”
“ถ้ามีพวกเราอยู่ด้วยกันเราก็พอจะคุกคามฝ่ายอื่นได้มากขึ้น” เดลี่พูดพลางหัวเราะ
ลินลี่ย์ไม่ปฏิเสธ ตอนนี้ในทวีปยูลานพวกเขาสามคนถือว่ายังเป็นกำลังที่น้อยนิด มีคนอีกมากมายที่ทรงพลังมากกว่าพวกเขา เพียงแต่ถ้าพวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มก็อาจยืนหยัดได้มากขึ้น ทั้งสามคนบินตรงไปที่ปราสาทเลือดมังกร
…………….
ในปราสาทเลือดมังกรกลุ่มผู้คนรวมกันอยู่ที่นั่นรวมทั้งเดเลียที่อยู่ในกลุ่มพวกเขากำลังกังวล เดเลียตำหนิตัวนางเองเช่นกัน “ข้าหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์มาเกินสิบปีแล้ว แต่ข้าก็ยังทำได้ไม่สำเร็จ เมื่อใดก็ตามที่มีเรื่องเกิดขึ้นมักจะเป็นลินลี่ย์ที่ไปจัดการด้วยตัวเองอยู่เสมอ”
เดเลียต้องการช่วยลินลี่ย์เหมือนกัน!
“หวังว่าลินลี่ย์จะปลอดภัย” เดเลียภาวนา
“ลอร์ดลินลี่ย์กลับมาแล้ว” เกทส์เป็นคนแรกที่ตะโกนออกมา ตาของเดเลียเป็นประกายทันที วอร์ตัน, เทย์เลอร์และคนอื่นออกมาต้อนรับเขา ลินลี่ย์ เดลี่ และโอลิเวอร์ลงมาอยู่ที่ปราสาท
“ลินลี่ย์, เจ้าทำสำเร็จไหม?” เดเลียเรียกทันทีและทุกคนพากันเงียบ
ลินลี่ย์พยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
“ฮะฮะ,ข้ารู้ว่าท่านพ่อจะต้องทำสำเร็จได้อย่างแน่นอน” เทเลอร์ตะโกนอย่างตื่นเต้น
“แต่...” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ท่านพ่อ, มีข่าวดีเพิ่มอีกด้วยหรือ?” หน้าของเทย์เลอร์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ลินลี่ย์พูดอย่างเคร่งเครียด “การเดินทางครั้งนี้ แม้ว่าเราจะฆ่าโบมอนต์ได้แต่หลังจากนั้นไม่นาน... ยอดฝีมือมากมายก็เข้าสู่ทวีปยูลาน ในบรรดายอดฝีมือเหล่านั้นมีเทพหลายคนที่สามารถฆ่าโบมอนต์ได้ด้วยนิ้วมือเดียว”
เงียบสนิท!
เทย์เลอร์,เดเลียและคนอื่นๆ ตกตะลึงมองหน้าพวกเขา ไม่สำคัญว่าโบมอนต์จะอ่อนแอแค่ไหน แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นเทพตนหนึ่ง ฆ่าโบมอนต์ด้วยนิ้วมือข้างเดียว?
“สำหรับตอนนี้ไม่มีใครออกไปไหนเลยจะดีที่สุด ทุกคนจงอยู่ที่นี่ภายในปราสาทนี้” ลินลี่ย์สั่ง
“ขอรับ”
คนของปราสาทเลือดมังกรตอนนี้รู้สึกได้ว่าทวีปยูลานในปัจจุบันนี้เพิ่งผ่านพายุร้ายลมฝนมาจึงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะปกป้องตัวเองได้
…………..
แดนน้ำแข็งขั้วโลก
ชายชราผมขาวสวมชุดสีฟ้ากำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือภูเขาน้ำแข็ง เป็นผู้ดูแลพิภพฮอดเดิลนั่นเอง
“ฮ่าฮ่ายอดฝีมือออกมากันอย่างพร้อมเพรียงมากมายหรือนี่?” หน้าของฮอดเดิลเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“เซียนและเทพทั้งหลายข้าคือฮอดเดิลผู้ดูแลการเข้าออกในพิภพ ทุกคนปรารถนาจะไปยังสี่พิภพชั้นสูงหรือพิภพมหาเทพกันบ้างไหมรีบมาที่ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลกเร็วเข้า!” เสียงของฮ็อดเดิลดังขึ้นในใจของเซียนและเทพในทวีปยูลานทุกคน
พวกเขาหลายๆคนที่หนีออกมาจากพิภพจองจำเกบาโดสเข้าสู่ทวีปยูลานต้องการจะไปยังพิภพจอมเทพ
พวกเขาติดอยู่ในสถานจองจำที่น่ารังเกียจมานานเกินไป
…………..
“พี่รอง, เจ้าจะจากไปจริงๆ น่ะหรือ?” ยอดฝีมือผมทองสองคนบินอยู่ในอากาศ อีกคนที่ผอมกว่าเล็กน้อยค่อนข้างตื่นเต้น “พี่รองแม้ว่าเราจะติดอยู่ในพิภพจองจำนั้นมาถึงร้อยล้านปี เจ้ายังต้องการไปยังพิภพอื่นอีกหรือ? หมื่นปีที่แล้วมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นที่บ้านเกิดของเรา สุสานเทพเจ้านั้นยึดเอาสมบัติภายในนั้นรวมทั้งสมบัติเทพเจ้ามากมายและแม้กระทั่งประกายศักดิ์สิทธิ์ไป! ถ้าเราไปยังพิภพอื่น เราจะไม่มีทางเชื่อมโยงได้และแม้ว่าที่นั่นจะมีสมบัติ แต่เราก็ไม่มีโอกาสเก็บมาได้”
ยอดฝีมือผมทองร่างกำยำส่ายหน้า “น้องสาม,เราโชคดีแล้วที่มีโอกาสหนีออกมาจากเกบาโดสและเจ้ายังต้องการไปสุสานเทพเจ้าอีกหรือ? มันไม่ใช่สมบัติที่จะได้รับกันง่ายๆ พอเถอะน้องสาม ข้าเตรียมตัวจะไปยังพิภพนรก เมื่อใดก็ตามที่เจ้าเสร็จเรื่องแล้ว ถ้าเจ้าต้องการไปหาข้า ก็ให้มาหาข้าที่พิภพนรก”
ยอดฝีมือผมทองไม่พูดอะไรอื่น เขาบินขึ้นเหนือโดยตรง
คนผมทองที่ผอมกว่ามองดูพี่รองจากไป เขาพึมพำ “พี่รอง คอยดูเถอะ ครั้งต่อไปที่เราพบกัน ข้าจะกลายเป็นเทพชั้นสูงแน่นอน
…………..
อีกร่างหนึ่งบินอยู่เหนืออากาศมุ่งสู่ทะเลเหนือ พวกเขารวมทั้งเทพชั้นกลางและเทพชั้นต้นแต่ส่วนใหญ่แน่นอนว่าเป็นพวกเซียน
“มีมากมายขนาดไหนกันนี่?” ในบรรดากลุ่มยอดฝีมือมีบุรุษวัยกลางคนผมทองมีสีหน้าเคร่งเครียดสวมชุดยาว จากลักษณะของเขา เห็นได้ชัดว่าเขามาจากตระกูลชั้นสูง เขาฝึกฝีมือมาเป็นเวลาร้อยปีและเพิ่งจะถึงระดับเซียนเมื่อไม่นานมานี้
“ทวีปยูลานของเรามียอดฝีมือหลายคนหรือนี่?” บุรุษวัยกลางคนรู้สึกใจสั่นสะท้าน
จำนวนยอดฝีมือที่เขาเห็นด้วยตาตนเองเกินสองร้อยคนแล้ว ในระยะไกลยังมีร่างปรากฏให้เห็นอีก นอกจากนี้รัศมีที่เปล่งออกมาจากยอดฝีมือเหล่านั้นแค่ฉายผ่านเขาในพริบตาก็ทำให้เขาใจสั่นสะท้าน
“ความเร็วขนาดนี้...” บุรุษวัยกลางคนตะลึง
ยอดฝีมือหลายคนกระพริบวาบผ่านเขาไปและหายลับไปในขอบฟ้าเหนือ เกือบทั้งหมดจะเร็วกว่าเขาถึงสิบเท่า หลายคนเป็นเทพบุรุษวัยกลางคนรู้สึกได้ถึงรูปแบบการผ่านไปของพวกเขา
“ฮ่าฮ่า, เป็นเวลาล้านปี, ในที่สุดข้าก็ได้ไปพิภพจอมเทพ”
“เป็นเวลากี่ปี่กันแล้ว? ฮ่าฮ่าในที่สุดข้าก็ทำได้สำเร็จสมใจเสียที
………….
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงสนทนาอย่างตื่นเต้นต่อเนื่อง
“ล้านปี?” บุรุษวัยกลางคนที่ฝึกฝีมือมาร้อยปีและเพิ่งกลายเป็นเทพกลืนน้ำลาย ขณะจ้องมองร่างเหล่านั้นที่ไวกว่าเขาถึงสิบเท่าเขาคิดว่า “ข้า..ข้า..ข้าอยู่ฝึกฝนในทวีปยูลานต่อเป็นดีที่สุดดินแดนจอมเทพและแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์น่ากลัวเกินไป”
บุรุษวัยกลางคนผู้นี้ตกใจมาก เขาหมุนตัวและกลับไปบ้านเกิดทันที
ไม่นานจากนี้บุรุษวัยกลางคนนี้เพิ่งจะร่ำลาครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย และสั่งคนอื่นๆ ให้พยายามอย่างหนัก