ตอนที่ 12-38 ยิ้มอ่อนโยน
เขื่อนเกรทโบธาทอดตัวยาวจากฝั่งแม่น้ำยูลานเข้าไปใจกลาง
ตอนนี้เขื่อนเกรทโบธาแปลกประหลาดมากเหมือนกับท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ พูดให้ชัดก็คือมันยืดขยายตลอดจนถึงตรงใจกลางหลายพันปีที่ถูกคลื่นแม่น้ำยูลานซัดใส่สามารถเซาะจนภูเขาพังทลายลงได้
อย่างไรก็ตามเขื่อนเกรทโบธายังคงอยู่มาได้เกินหมื่นปีโดยไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
นี่คือเรื่องที่แปลกประหลาดมากแน่นอน
เพราะเป็นเรื่องแปลกประหลาดเขื่อนเกรทโบธาจึงมีชื่อเสียงไปทั้งทวีปยูลาน
วันที่ 16 มกราคม ศักราชยูลานที่ 10044ที่แม่น้ำยูลานจุดที่กั้นจักรวรรดิโรฮอลท์และจักรวรรดิยูลานออกจากกัน เขื่อนเกรทโบธาตามปกติจะเป็นสถานที่น่าเกรงขามมาก แต่วันนี้ไม่มีแม้แต่คนเดียวเฉียดเข้าไปใกล้เขื่อนเกรทโบธา
เพราะ...
เซียนเกินกว่าสิบยืนคุ้มกันสถานที่นี้ไว้และออกกฎเหล็กว่าห้ามทุกคนเข้ามาใกล้
ริมฝั่งแม่น้ำ มีผู้คนมารวมตัวกันมองดู
“เซียนเกินกว่าสิบคน ข้าไม่เคยเห็นเซียนมากมายอย่างนั้นในชีวิตมาก่อน” คนวัยกลางคนร่างกำยำตื่นเต้นมาก ตาของเขาเป็นประกาย เขายังคงจ้องมองเขื่อนเกรทโบธาที่อยู่ระยะไกล “วันนี้เกิดอะไรขึ้น? จะมีอะไรเกิดขึ้น?”
“เฮ้, คนพวกนั้นเป็นเซียนหรือ? ไม่มีทาง” ผู้ชมเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆพวกที่มาถึงทีหลังไม่อยากเชื่อ
“พวกเจ้าจะรู้อะไร? ข้าเห็นเซียนเหล่านั้นลอยตัวลงมาจากท้องฟ้ากับตาตัวเองและบังคับให้ทุกคนกลับไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปที่เขื่อนเกรทโบธา” ใครบางคนที่มาถึงเขื่อนเกรทโบธาเร็ว ทันมองเห็นเซียนบินลงมา
“งั้นเซียนก็มีหลายคน พวกเขาจะทำอะไร?และคนศีรษะโล้นที่นั่งอยู่บนเขื่อนเกรทโบธาเป็นใคร?”
คนดูเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่เขื่อนเกรทโบธา มีเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ...เป็นคนหัวโล้นตัวสูงร่างกายกำยำสวมชุดยาวดำ เขาไม่ได้คลุมหน้า ด้านหน้าของบุรุษศีรษะโล้นร่างใหญ่นี้เป็นโต๊ะกลมตัวหนึ่งวางเหล้าชั้นดีไว้ด้านบน
“แต่ว่ามีเซียนมาถึงอีกคนแล้ว” กลุ่มผู้คนส่งเสียงพึมพำด้วยความแปลกใจ
ผู้ชมหลายคนมองดู ขณะที่ร่างทั้งสามบินมาจากทิศเหนือร่างทั้งสามนี้ชะลอความเร็วลงขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เขื่อนเกรทโบธา ในที่สุดก็ลงมายืนอยู่บนเขื่อนทั้งสามคนเดินเคียงไหล่เข้ามาหาบุรุษศีรษะโล้น ไม่กี่วินาทีพวกเขาก็มาถึงโต๊ะกลม
“ข้าไม่รู้เลยว่าพวกเจ้ามีกันสามคน อา..ต้องขอโทษที” บุรุษศีรษะโล้นอยู่ในชุดยาวสีดำใบหน้ามีเนื้อแน่น แต่เขายังฉีกยิ้มได้“ข้าเตรียมเก้าอี้ไว้เพียงสองตัวเท่านั้นเอง”
ทันใดนั้นบุรุษศีรษะโล้นชำเลืองมองด้านข้างเห็นได้ชัดว่าเขาส่งข้อความทางใจ เซียนคนหนึ่งไม่ทราบว่านำเก้าอี้มาจากที่ใดบินเข้ามาจัดตั้งเก้าอี้ให้ด้วยความเคารพทันที ก่อนจะถอยออกไปอย่างนอบน้อมอีกครั้ง
“นั่นไม่ใช่ความผิดของท่าน, ท่านโบมอนต์” เดลี่พูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์ เดลี่และโอลิเวอร์นั่งลงทั้งหมด เดิมทีลินลี่ย์สั่งบลูมไว้ว่ามีเทพอยู่สองคนเท่านั้น โบมอนต์ค่อนข้างประหลาดใจที่มีเทพปรากฏออกมาสามเพียงแต่โบมอนต์ไม่สนใจแม้แต่น้อย
“ดูเหมือนว่าจะมีคนเพิ่งกลายเป็นเทพไม่กี่วันนี้อยู่ฝ่ายพวกเขา” โบมอนต์ลอบบอกกับตัวเอง “เพิ่งจะกลายเป็นเทพ?ฮึ่ม.. ระดับเทพชั้นต้นใหม่ ข้าสามารถสู้กับพวกเขาได้ครั้งละสิบคนก็ยังได้”
โบมอนต์กวาดสายตาไปทางลินลี่ย์ ในสามคนนี้คนเดียวที่เขากังวลก็คือลินลี่ย์ที่สำคัญเมื่อสามปีที่แล้วลินลี่ย์ฆ่าพ่อมดผู้วิเศษได้ “ลินลี่ย์ผู้นี้ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อมดผู้วิเศษได้เท่านั้น เขายังสามารถรอดพ้นจากไม้ตายสูงสุดของพ่อมดผู้วิเศษได้”
ลินลี่ย์ เดลี่และโอลิเวอร์ เพียงแต่มองดูโบมอนต์
“ฮ่าฮ่า..” โบมอนต์หัวเราะอย่างสบายใจ “ท่านลินลี่ย์,เนื่องจากท่านต้องการพบกับข้า ข้าย่อมไม่กล้าปฏิเสธเป็นธรรมดา ข้าไม่รู้ว่าทำไมท่านทั้งสามถึงมาหาข้า ท่านลินลี่ย์? ท่านต้องการอะไรจากข้า..โบมอนต์ผู้นี้? ถ้ามี..โปรดบอกข้าได้ตามสบายข้า..โบมอนต์เป็นคนง่ายๆ อยู่แล้ว”
เสียงของโบมอนต์ดังมาก
แต่คนดูที่อยู่ห่างไกลไม่ได้ยินเพราะโบมอนต์ใช้สนามพลังเทพของเขา
สนามพลังเทพนี้สร้างขึ้นจากการควบคุมพลังธาตุของโบมอนต์ ลินลี่ย์ เดลี่และโอลิเวอร์ล้วนเป็นเทพทุกคนเป็นธรรมดาที่พวกเขาไม่สนใจการใช้สนามพลังเทพง่ายๆ อย่างนั้น ต่อให้โบมอนต์ใช้สนามพลังเทพเต็มกำลังก็ไม่มีผลคุกคามอะไรมาก
สนามพลังเทพคือสิ่งที่ทำให้เทพกับเซียนต่างกันแต่เมื่อกลายเป็นเทพ ในเวลาไม่นานจะมีผลต่อท่าน
“ท่านโบมอนต์ท่านควรจะรู้ว่าเรามาที่นี่ทำไม” ลินลี่ย์จ้องมองเขา
โบมอนต์ประหลาดใจเล็กน้อย แต่จากนั้นหัวเราะลั่น “ท่านลินลี่ย์, เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆถ้าเจ้าไม่บอกข้า แล้วข้าจะรู้ได้ยังไง?”
โอลิเวอร์ที่อยู่ใกล้ๆ พูดอย่างเย็นชา “คนร้อยล้านตายในจักรวรรดิโรฮอลท์ ร้อยล้านคนโบมอนต์ เจ้าอำมหิตจริงๆ เจ้าจะทำอะไรกับทวีปยูลานของเรา? เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถฆ่าคนได้มากมายตามอำเภอใจอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านโบมอนต์ เราทุกคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องทำเป็นโง่”ลินลี่ย์พูดเช่นกัน
โบมอนต์หัวเราะอย่างอึดอัดใจ “คนที่ตายในจักรวรรดิโรฮอลท์ ก็ได้..ข้ายอมรับข้าเป็นคนทำให้คนทั้งร้อยล้านคนถูกฆ่า แล้วยังไงเล่า? ลินลี่ย์, เจ้าสามคนกลายเป็นเทพแล้วเจ้ายังสนใจคนธรรมดาทั่วไปอย่างนั้นด้วยหรือ?” โบมอนต์ทำสีหน้าประหลาดใจ
“เจ้ากำลังล้อเล่นหรือเปล่า?” ลินลี่ย์ทำหน้าไม่พอใจ
เดลี่พูดขึ้นบ้าง “โบมอนต์, ทวีปยูลานคือบ้านเกิดของเรา ถ้าเรายอมให้เจ้าฆ่าคนตามอำเภอใจ คนในบ้านเกิดของเราคงจะตายกันหมด เราสามคนคงจะรู้สึกขายหน้าถ้ายังจะบากหน้ามีชีวิตต่อไปหลังจากนั้น โบมอนต์, พูดมาเลย จะคลี่คลายปัญหานี้ยังไง?”
จะคลี่คลายปัญหานี้ยังไง?
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ โบมอนต์ลอบหัวเราะ “ความจริงพวกเขาไม่ต้องการสู้กับข้า อย่างนั้นเรื่องนี้รับมือได้ง่าย”
โอลิเวอร์แค่นเสียงเย็นชาจากด้านข้าง
“นี่ ก็.. ข้าเสียใจจริงๆกับเรื่องนี้” โบมอนต์ถอนหายใจ “เอาอย่างนี้เป็นไงพวกเจ้าห่วงว่าทุกคนในบ้านเกิดของพวกเจ้าจะตายใช่ไหม? อย่างนั้นข้าสัญญาหลังจากฆ่าอีกร้อยร้อยล้านแล้ว ข้าจะหยุด เป็นยังไงบ้าง? อีกร้อยล้านคน สำหรับทวีปยูลานคงไม่มีอะไรเลย”
ฆ่าคนอีกร้อยล้าน?
หัวใจของลินลี่ย์ เดลี่และโอลิเวอร์เต็มไปด้วยความโกรธและสีหน้าของพวกเขาเย็นชาทันที
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น โบมอนต์อดหัวเราะมได้ “ฮ่าฮ่า, แค่ล้อเล่น, ล้อเล่นน่า, ลินลี่ย์,พวกเจ้าถูกหยอกล้อไม่ได้หรือไง ข้าจะไม่ฆ่าต่อไปแล้ว ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ฆ่าพลเมืองยูลานอีกต่อไป,แค่นี้ดีพอหรือยัง?”
หน้าของโอลิเวอร์เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง หน้าของเดลี่ยังคงบิดเบี้ยวเช่นกัน
ลินลี่ย์มีสีหน้าเย็นชา “โบมอนต์ เราจะไม่เสียเวลาพูด ข้อตกลงสองข้อนี้จะต้องได้รับการปฏิบัติตาม”
“พูดไป” สีหน้าที่ดูดุร้ายของโบมอนต์ยังคงมีรอยยิ้ม
“ประการแรกตั้งแต่วันนี้ไปพวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าชาวยูลานแม้แต่คนเดียว นอกจากนี้วิญญาณพลเมืองชาวยูลานที่เจ้ารวบรวมเก็บไป ไม่ว่าจะกลั่นแล้วหรือไม่ทั้งหมดต้องส่งคืนให้เรา” ลินลี่ย์พูดอย่างเย็นชา
รอยยิ้มของโบมอนต์หายไปทันที
“ข้อตกลงประการที่สอง เมื่อเราเสร็จเรื่องนี้เขา เจ้าต้องออกไปจากพิภพยูลาน พิภพยูลานไม่ต้อนรับเจ้าที่นี่” ลินลี่ย์พูดจบ
หน้าของโบมอนต์เคร่งเครียดทันที
“ออกไปจากพิภพยูลานน่ะหรือ?” โบมอนต์กล่าว “นี่..ไม่ใช่ข้อขอร้อง แต่เจ้าไม่ต้องรีบร้อน เจ้าต้องให้เวลาข้าบ้าง”
เดลี่พูดเช่นกัน “โบมอนต์, เจ้ารวบรวมวิญญาณพลเมืองทวีปยูลานอยู่ จงรีบวางมือเป็นดีที่สุดไม่ว่าพวกเขาจะถูกกลั่นแก่นวิญญาณหรือไม่ก็ตาม ทั้งหมดจะต้องถูกปล่อยวาง! ปล่อยพวกเขาซะ เจ้าไม่มีคุณสมบัติใช้พวกเขา”
“ข้าไม่มี, วิญญาณไปยมโลกกันหมดแล้ว”โบมอนต์พูดโพล่งออกมา “ข้าก็ไม่สามารถกลั่นวิญญาณได้ทำไมข้าต้องการวิญญาณพวกนั้นด้วย?”
หัวใจของโบมอนต์เริ่มเต็มไปด้วยความโกรธเช่นกัน
แม้แต่มูบาและพ่อมดผู้วิเศษก็ยังไม่กล้ากระทำอย่างนี้ต่อหน้าเขา เมื่อเขาสั่งให้พ่อมดผู้วิเศษกลั่นมุกวิญญาณทอง,พ่อมดผู้วิเศษก็ยังไม่กล้าปฏิเสธเขาโดยเปิดเผย ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขารู้เรื่องของลินลี่ย์มาบ้าง เขา..โบมอนต์จะยอมลดตัวมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?
เมื่อพ่อมดผู้วิเศษตาย โบมอนต์ตกใจมากและเขาพยายามสืบดูเรื่องของลินลี่ย์
หลังจากนั้นเมื่อเขาจับศิษย์ของวิทยาลัยเทพสงครามได้คนหนึ่งเขาจึงรู้ว่าลินลี่ย์มีความสัมพันธ์กับเบรุต นี่คือเหตุผลที่ตลอดหลายปีมานี้โบมอนต์ไม่เคยตามหาตัวลินลี่ย์มาล้างแค้น
เขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับลินลี่ย์
โบมอนต์จำจนวันตาย เขาจะไม่มีทางลืมว่าเบรุตนั้นน่ากลัวเพียงไหน
“ไปยมโลก? ตลกน่ะ!!!”โอลิเวอร์ยืนขึ้นทันที
“โบมอนต์,เจ้ากำลังโกหก” ลินลี่ย์และเดลี่ยืนขึ้นเช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองคนโกรธ โบมอนต์ผู้นี้สังหารผู้คนไปร้อยล้านคนจากนั้นทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ เขาแค่ต้องการบอกว่า “ช่างเถอะ ข้าจะไม่ทำอีกต่อไป” เขาไม่ยินดีจะคืนวิญญาณและไม่ยอมไปจากทวีปยูลาน
เมื่อหลายอย่างมาถึงขั้นนี้ ก็ไม่มีอะไรค้องพูดคุย
“โกหก? ข้าจะโกหกได้ยังไง?” โบมอนต์ยืนขึ้นเช่นกัน
“เรารู้แล้วว่าเจ้ารวบรวมวิญญาณเก็บไว้ เจ้าคิดหรือว่าเราไม่รู้ว่าเจ้าต้องการวิญญาณเหล่านั้นไปทำอะไร?” เดลี่พูดอย่างเย็นชา
ทันใดนั้นโบมอนต์หันไปจ้องมองบลูมอย่างดุดัน “บลูม...”
บลูมคุกเข่าอย่างหวาดผวา แต่ร่างของเขาลอยขึ้นด้วยสนามพลังเทพ เขาไม่สามารถขยับร่างได้เลยแม้แต่น้อย
“ตาย” โบมอนต์โบกมือและรัศมีแสงเทพสีเทาพุ่งเข้าไปในร่างของบลูม บลูมมองดูพลังเทพสายมรณะที่เข้าไปในร่างของเขาอย่างหวาดผวา แต่เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ พลังเทพสายมรณะพันรอบตัวเขาจากนั้นเปลี่ยนร่างเขาเป็นกองฝุ่นทันที
ลินลี่ย์โอลิเวอร์และเดลี่มองดูอย่างระมัดระวังเตรียมตัวพร้อมไว้ทุกเมื่อ
โบมอนต์หันหน้ามาจ้องมองลินลี่ย์และคนอื่น “ลินลี่ย์, ข้า..โบมอนต์จะตกลงกับเจ้าให้ชัดเจนกันในวันนี้เลย ข้าจะเห็นแก่หน้าเจ้าไม่ฆ่าชาวทวีปยูลานอีกต่อไป! เจ้าก็ต้องเห็นแก่หน้าข้าด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ก็จบลงได้ ถ้าเจ้ายังไม่พอใจอีก.. อย่างนั้นข้าก็ไม่ว่าคงต้องสั่งสอนเจ้าแทนลอร์ดเบรุตสักครา”
“นี่พูดเรื่องอะไรกันนี่?” ลินลี่ย์หัวเราะเย็นชา “โบมอนต์, เจ้าฆ่าคนไปร้อยล้านคน, ร้อยล้านคน!!! ตอนนี้, เจ้าเพิ่งจะพูดว่าเจ้าจะไม่ฆ่าอีกต่อไป โดยไม่รับการลงโทษเลยแม้แต่น้อย แค่นั้นเรื่องก็จบแล้วหรือ? และเจ้ายังบอกว่าเห็นแก่หน้าข้าอีกหรือ?”
ลินลี่ย์รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าขันจริงๆ
โบมอนต์ผู้นี้เอาแต่ใจตัวเองเกินไป
“โอว, ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ต้องการเห็นแก่หน้าข้าสินะ”โบมอนต์หน้าเครียด
เขาทำใจไว้เรียบร้อยแล้ว “ลินลี่ย์ผู้นี้และลอร์ดเบรุตมีความเชื่อมโยงกัน ข้าไม่สามารถฆ่าเขาได้ตอนนี้ แต่ข้ายังให้บทเรียนอย่างหนึ่งได้สำหรับอีกสองคนข้างตัวเขา ... ข้าจะฆ่าพวกเขา นี่จะทำให้ลินลี่ย์กลัวเช่นกันอย่านึกว่าข้าอ่อนแอเหมือนพ่อมดนั่น”
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยินดีเห็นแก่หน้าเจ้าเป็นเจ้าต่างหากที่ผยองตัวเองและเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป” หัวใจลินลี่ย์เริ่มเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันด้วยเช่นกัน
ร่างของโอลิเวอร์และเดลี่ค่อยๆ มีพลังเทพคลุมตัวช้าๆ
“พวกเจ้ากวนโมโหจริงๆ .. ข้า..โบมอนต์ยอมยิ้มนอบน้อมทั้งวันในวันนี้เพราะเห็นแก่หน้าลินลี่ย์เจ้า แต่เจ้าไม่ต้องการรับไว้” โบมอนต์ตบโต๊ะอย่างรุนแรง เสียงบึ้มดังขึ้นโต๊ะระเบิดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และด้วยความโกรธของโบมอนต์หน้าดุร้ายของเขากระตุกทันที “ก็ได้ ถ้างั้นนี่ไม่ใช่ความผิดของข้า ลอร์ดเบรุต, วันนี้,ข้าจะสั่งสอนลินลี่ย์แทนท่าน” ดาบสีน้ำเงินเข้มปรากฏในมือของโบมอนต์
“วืด วืด วืด!!!”
ลินลี่ย์ เดลี่ โอลิเวอร์ถอยกลับมาในอากาศพร้อมกัน ในมือของลินลี่ย์ถือกระบี่เลือดม่วง ในมือของเดลี่ถือกระยาวบางขณะที่มีในมือโอลิเวอร์ถือกระบี่น้ำแข็งลึกลับ
“โบมอนต์ นี่เจ้าเรียกว่ารอยยิ้มหรือ?”
ลินลี่ย์โกรธจัด จนหัวเราะลั่น “เจ้าเรียกว่านี่เห็นแก่หน้าข้า? เจ้าฆ่าคนร้อยล้านในทวีปยูลานของข้าแต่ไม่ยินดีจะชดใช้อะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วเจ้าเรียกว่าเห็นแก่หน้าข้าอย่างนั้นหรือ? และนั่นเจ้ากำลังจะให้บทเรียนข้าแทนลอร์ดเบรุตใช่ไหม? เจ้าเป็นคนแบบไหนกันแน่?มีปัญญาทำอะไรในนามลอร์ดเบรุตได้?”
“และยิ่งกว่านั้นเจ้าคิดว่าพลังเขาเจ้าสามารถสั่งสอนข้าได้?” ลินลี่ย์เสริมพลังเทพเข้าไปในกระบี่เลือดม่วง
เวลานี้กระบี่เลือดม่วงไม่ได้ส่งเสียงอะไรแม้แต่น้อย
“เจ้าผู้นี้เลวทรามต่ำช้าจริงๆ”เดลี่โกรธจนหัวเราะออกมา เดลี่เป็นคนที่รักษาอารมณ์ได้ดีที่สุดในสามคนนี้ก็ยังโกรธต่อโบมอนต์เช่นกัน”
โบมอนต์ถือดาบยาวสีน้ำเงินแสยะยิ้ม
“ตาย!!!” โบมอนต์คำรามพร้อมกับความโกรธเกรี้ยวเสียงของเขายังคงก้องสะท้อนอยู่ในอากาศ แต่เขาพุ่งเข้าหาโอลิเวอร์ โบมอนต์ตัดสินใจแล้วว่าเขาเลือกฆ่าเดลี่และโอลิเวอร์ก่อน และจากนั้นค่อยสั่งสอนลินลี่ย์