908 - จักรพรรดิอสูร
908 - จักรพรรดิอสูร
แรงสั่นสะเทือนของคัมภีร์โบราณทำให้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์สามคนถูกทำลายกลายเป็นหมอกเลือดในทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นทุกคนที่อยู่โดยรอบบริเวณนั้นก็รีบถอยหลังด้วยความกลัว ถ้ำโบราณนี้ไม่สามารถเข้าใกล้ได้อีกแล้ว แม้กระทั่งจักรพรรดิ์เซี่ยที่ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วก็ยังไม่กล้าที่จะทำการโดยประมาท
“เจ้าจะไปไหน!”
ชายคนนั้นส่งเสียงตะโกนและวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ปลดปล่อยแสงเจิดจ้าไล่ตามผู้คนออกไปอย่างรวดเร็ว
ที่บ่อน้ำเซียนดวงตาของผังป๋อเป็นประกายและกล่าวว่า “คนเหล่านั้นวิ่งหนีนักรบที่ถูกแกะสลักมาจากก้อนหิน คนที่ทำสิ่งนี้ได้จะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้อมตะอย่างแน่นอน”
ผู้คนต่างตื่นตระหนก สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ นั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งไม่เป็นรองสิ่งมีชีวิตขนสีแดงแม้แต่น้อย
“นั่นเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ ยกเว้นชายชราผู้บ้าคลั่งและพุทธองค์บนเขาพระสุเมรุ ข้าเกรงว่าคงจะไม่มีใครที่จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของพวกมันได้!”
“ข้ารู้สึกได้ถึงพลังอันไร้ขอบเขตจากเขา ดูเหมือนคนคนนี้จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาสวรรค์ผู้เฒ่าเสียอีก”
ผู้อาวุโสจากตระกูลเจียงกระโดดลงไปในบ่อน้ำเซียนด้วยความกลัว ตอนนี้มีเพียงกระบี่ไท่หวงเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะระดับนี้ได้
“จักรพรรดิโบราณไม่ใช่ตัวตนที่พวกเจ้าจะสามารถลบหลู่ได้ พวกเจ้ารบกวนการหลับใหลของท่าน โทษเดียวที่พวกเจ้าสมควรได้รับคือความตายเท่านั้น”
สิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์เริ่มพิพากษาชีวิตของผู้คน
ในขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงที่วิ่งหลบหนีอาวุธเต๋าสุดขั้วเมื่อสักครู่ก็กลับมาอีกครั้ง
เหล่าปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญทักษะต้นกำเนิดหลายคนต่างกรีดร้องและวิ่งหนีตายกันอลหม่าน
“สัตว์ประหลาดชนิดนี้คืออะไร!” ผู้คนต่างหวาดกลัว
นักพรตมังกรแดงและราชานกยูงถือดอกบัวสีเขียวไว้ในมือ จักรพรรดิเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่เรียกกระบี่ไท่หวงไว้เหนือศีรษะ อาวุธจักรพรรดิทั้งสองส่งเสริมซึ่งกันและพยายามปราบปรามสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายทั้งสอง
คนส่วนใหญ่ต่างคุกเข่าลงบนพื้นเพราะเป็นการยากที่จะหลุดพ้นจากแรงกดดันของอาวุธจักรพรรดิโบราณได้
ดวงตาของปรามาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามเริ่มมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยภายใต้การปราบปรามนี้ แต่ทว่าเขายังคงวนเวียนอยู่รอบๆ บ่อน้ำโดยไม่คิดจะไปไหน
สถานการณ์ตอนนี้แม้แต่ผู้ที่ถืออาวุธเต๋าสุดขั้วอย่างราชานกยูงและจักรพรรดิเซี่ยก็ยังเริ่มมีสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมาบ้างแล้ว หากเกิดการต่อสู้กันขึ้นจริงๆ แม้แต่พวกเขาก็ยังยากที่จะรับรองความปลอดภัยให้กับตัวเองได้
อาวุธของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นทรงพลังมากแต่ด้วยพลังของพวกเขาสามารถใช้ได้เพียงไม่กี่ครั้ง หากการโจมตีล้มเหลวสุดท้ายพวกเขาต่างหากที่จะหมดสิ้นเรี่ยวแรงไปเอง
ผู้ฝึกตนหลายคนเริ่มถอยลงไปในส่วนลึกของบ่อน้ำโดยไม่ทราบว่านี่เป็นเจตนาของสิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงหรือไม่
“ฆ่าสัตว์ประหลาดเส้นขนสีแดงก่อน ส่วนเจ้าของรถศึกโบราณนี้ดูเหมือนจะมีเจ้านายที่แข็งแกร่งกว่าคอยคุ้มครองอยู่ เราไม่อาจตอแยเขาได้” เจ้าของกระบี่ไท่หวงคุยกับนักพรตมังกรแดง
กร๊ด!!!
ในเวลานี้ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามดูเหมือนตรวจจับการสนทนาของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองได้ ดังนั้นเขาจึงกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวทันที
ในเวลาเดียวกัน เลือดศักดิ์สิทธิ์สีทองในร่างกายของเย่ฟ่านก็เผาไหม้อีกครั้ง ชั้นของพลังที่แปลกประหลาดได้ปรากฏออกมานอกตัวของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงคำรามนี้ทำอันตรายต่อเขาได้
“เขาถูกสัตว์ประหลาดลึกลับยึดครองร่างกายไปแล้ว นี่ไม่ใช่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์อีกต่อไป?”
ผู้คนต่างตกใจมาก พวกเขาทราบดีว่าปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามตายไปแล้ว แต่สิ่งที่แย่งชิงร่างกายของเขาไปคืออะไรกันแน่?
“คนที่มีเส้นขนสีแดงล้วนเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดและผู้แสวงหาปราณมังกร เป็นไปได้ไหมว่าผู้ที่ศึกษาคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ทุกคนจะต้องเป็นเช่นนั้น” เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน ม้าบินที่มาพร้อมกับรถศึกโบราณปรากฏตัวบนยอดเขา ราชานกยูงและจักรพรรดิเซี่ยถอยกลับเล็กน้อย พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสองจะลงมืออย่างแท้จริงหรือไม่
“อาวุธเต่าสุดขั้วนี่เป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง จักรพรรดิของเรากำลังขาดอาวุธอยู่พอดี ดังนั้นพวกเจ้าจงส่งมันมาเดี๋ยวนี้” สิ่งมีชีวิตตัวเล็กบนรถศึกเย้ยหยัน
“หากเจ้ามีความกล้าก็เข้ามาเอา” นักพรตมังกรแดงตะโกนและหยิบดอกบัวสีเขียวออกมาจากมือราชานกยูงพร้อมกับเดินไปข้างหน้า
“นายท่านของข้าคือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นสมบัติของท่าน อาวุธของพวกเราก็เช่นกัน”
ต่อหน้ารถศึกโบราณ คนตัวเล็กแปดคนที่มีความสูงไม่ถึงครึ่งฉื่อเริ่มนั่งลงกับพื้นและพึมพำบทสวดที่สั่นสะเทือนสวรรค์พิภพ ในขณะนั้นบนความว่างเปล่าได้มีมังกรสีทองตัวเล็กๆตัวหนึ่งถูกเรียกออกมา
ด้วยการปรากฏตัวของมังกรทองนี้ภูเขาฉินหลิงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นปราณมังกรที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อตัวเป็นมังกรขนาดใหญ่พร้อมกับหลอมรวมเข้าสู่ร่างกายมังกรทองอย่างรวดเร็ว
“นี่คือหัวใจของเส้นชีพจรมังกรโบราณ!” ผู้คนต่างประหลาดใจ นี่คือเส้นโลหิตมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในจงโจว พลังนี้น่าเหลือเชื่อจริงๆ
“นี่คือการใช้รากบรรพบุรุษของจงโจว เพื่อต่อสู้กับอาวุธเต๋าสุดขั้ว!”
ผู้คนต่างตกใจ รากของบรรพบุรุษที่ทรงพลังที่สุดในจงโจวคือตัวแทนของพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่สุด ในตอนนี้มันจะมีอำนาจในการปราบปรามอาวุธเต๋าสุดขั้วหรือไม่
หากปราณมังกรอ้ายแพ้และแตกสลาย จงโจวจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นับจากนี้ไป และมีเพียงสวรรค์เท่านั้นถึงจะรู้ว่าภาคกลางจะล่มสลายทั้งดินแดนหรือเปล่า
ทั้งสองฝ่ายต่างปล่อยแรงกดดันออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้ว่าเวลาจะผ่านไปค่อนข้างนานแต่พวกเขาก็ยังไม่ลงมือเข้าหากันแต่อย่างใด
“ฮึ่ม…”
ราชานกยูงพึมพำอย่างเย็นชาและพูดว่า “พลังชีวิตคของจงโจวนั้นยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แต่ไม่แน่ว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถในการควบคุมมัน”
“ข้าอนุญาตให้เจ้ากล่าวอีกครั้ง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นจากส่วนลึกของถ้ำมังกร บรรยากาศที่อยู่รอบๆหนาวเย็นลงอย่างฉับพลันและทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“จักรพรรดิของเราตื่นแล้ว พวกเจ้าต้องตายแน่นอน!”
ภูติหยกส่งเสียงหัวเราะและถอยกลับไปยืนอยู่บริเวณหน้าถ้ำอย่างรวดเร็ว
“เจ้ามนุษย์ผู้โง่เขลา พวกเจ้าได้รบกวนการหลับไหลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ แม้จะชดใช้ด้วยชีวิตก็ยากที่จะลบล้างความผิดของพวกเจ้าได้ ดังนั้นจงนำอาวุธของจักรพรรดิขึ้นมาที่นี่บางทีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปล่อยพวกเจ้าไป!”
สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ยืนอยู่บนรถศึกและตะโกน
ในอีกด้านหนึ่งปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามได้นำสิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงมากกว่าสิบตัวพุ่งเข้าหาเย่ฟ่าน ในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกมันจะหมดความอดทนแล้ว
เย่ฟ่านร่ายทักษะต้นกำเนิดและประทับมันลงไปในความว่างเปล่า มันเป็นทักษะลับที่บันทึกไว้ในคัมภีต้นกำเนิดสวรรค์
ปัง!
ร่างกายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามแข็งค้าง ดวงตาที่แดงก่ำของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำเลยทันที
“ผู้อาวุโส!” เย่ฟ่านเรียก
ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขาเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด
เย่ฟ่านรู้สึกงงงวย เกิดอะไรขึ้นกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ ทำไมเขาจึงมีสีหน้าเช่นนี้ อะไรกันแน่ที่กำลังควบคุมวิญญาณของเขาอยู่?
อย่างไรก็ตามสุดท้ายดวงตาของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอีกครั้ง ความเศร้าโศกของเขาหายไปอย่างรวดเร็วในขณะที่กระโจนเข้าหาเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านใช้ทักษะการเคลื่อนไหวของสวรรค์หลบเลี่ยงการโจมตีและไปปรากฏตัวอยู่ด้านข้างของราชานกยูง
ด้วยการคุ้มครองของอาวุธเต๋าสุดขั้ว สิ่งมีชีวิตขนสีแดงหลายสิบตัวที่ไล่ตามเย่ฟ่านมาทำได้เพียงส่งเสียงกรีดร้องโดยไม่สามารถทำอะไรเขาได้
“อา…”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามไม่สามารถจัดการเย่ฟ่านได้ดังนั้นเขาจึงหันไปลงมือต่อคนอื่นแทน
เขาเริ่มควักหัวใจของซากศพที่นอนตายอยู่บนพื้นออกมา จากนั้นก็โยนลงไปในปากของตัวเองและเคี้ยวเสียงดังจ๊อบแจ๊บ
“พวกเจ้าเห็นถึงความอ่อนแอของมนุษย์หรือยัง!” สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์บนรถศึกตะโกน
บูม!
ในขณะนั้นมีเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมาจากบ่อน้ำเซียน
จากนั้นก้อนทองเหลืองเล็กๆ ขนาดเท่ากำปั้นได้ลอยขึ้นสู่ด้านบน บนก้อนทองเหลืองนั้นมีดอกบัวสีเขียวขนาดเล็กที่ปลดปล่อยพลังชีวิตอันสดใสออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ในเวลาเพียงชั่วครู่ดอกบัวสีเขียวก็เริ่มควบแน่นกลายเป็นร่างกายที่หล่อเหลาของชายหนุ่มคนหนึ่ง
“อา…”
บนรถศึกร่างกายของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวนั้นแตกสลายกลายเป็นเพียงฝุ่นผงโดยที่ชายหนุ่มคนนั้นยังไม่ลงมือด้วยซ้ำ
“จักรพรรดิชิง”
“เป็นจักรพรรดิชิง”
“จักรพรรดิชิง เขายังมีชีวิตอยู่!”
“ถูกต้อง เป็นจักรพรรดิชิง เขายังไม่ตายจริงๆ…”
เซียงอี้เฟยร่ำร้องด้วยความเครียดแค้นอย่างถึงที่สุด เวลาเก้าพันปีที่เขาเสียไปดูเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรเลย
“บรรพชน!” เอี๋ยนหรูหยูอุทาน
“จักรพรรดิชิงยังมีชีวิตอยู่อีกหรือ!” ดวงตาของชายชราที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่เย่ฟ่านเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง