ตอนที่แล้ว907 - การตื่นขึ้นของจักรพรรดิโบราณ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป909 - ยาเซียน 

908 - จักรพรรดิอสูร 


908 - จักรพรรดิอสูร

แรงสั่นสะเทือนของคัมภีร์โบราณทำให้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์สามคนถูกทำลายกลายเป็นหมอกเลือดในทันที

เมื่อเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นทุกคนที่อยู่โดยรอบบริเวณนั้นก็รีบถอยหลังด้วยความกลัว ถ้ำโบราณนี้ไม่สามารถเข้าใกล้ได้อีกแล้ว แม้กระทั่งจักรพรรดิ์เซี่ยที่ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วก็ยังไม่กล้าที่จะทำการโดยประมาท

“เจ้าจะไปไหน!”

ชายคนนั้นส่งเสียงตะโกนและวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ปลดปล่อยแสงเจิดจ้าไล่ตามผู้คนออกไปอย่างรวดเร็ว

ที่บ่อน้ำเซียนดวงตาของผังป๋อเป็นประกายและกล่าวว่า “คนเหล่านั้นวิ่งหนีนักรบที่ถูกแกะสลักมาจากก้อนหิน คนที่ทำสิ่งนี้ได้จะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้อมตะอย่างแน่นอน”

ผู้คนต่างตื่นตระหนก สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ นั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งไม่เป็นรองสิ่งมีชีวิตขนสีแดงแม้แต่น้อย

“นั่นเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ ยกเว้นชายชราผู้บ้าคลั่งและพุทธองค์บนเขาพระสุเมรุ ข้าเกรงว่าคงจะไม่มีใครที่จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของพวกมันได้!”

“ข้ารู้สึกได้ถึงพลังอันไร้ขอบเขตจากเขา ดูเหมือนคนคนนี้จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาสวรรค์ผู้เฒ่าเสียอีก”

ผู้อาวุโสจากตระกูลเจียงกระโดดลงไปในบ่อน้ำเซียนด้วยความกลัว ตอนนี้มีเพียงกระบี่ไท่หวงเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะระดับนี้ได้

“จักรพรรดิโบราณไม่ใช่ตัวตนที่พวกเจ้าจะสามารถลบหลู่ได้ พวกเจ้ารบกวนการหลับใหลของท่าน โทษเดียวที่พวกเจ้าสมควรได้รับคือความตายเท่านั้น”

สิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์เริ่มพิพากษาชีวิตของผู้คน

ในขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงที่วิ่งหลบหนีอาวุธเต๋าสุดขั้วเมื่อสักครู่ก็กลับมาอีกครั้ง

เหล่าปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญทักษะต้นกำเนิดหลายคนต่างกรีดร้องและวิ่งหนีตายกันอลหม่าน

“สัตว์ประหลาดชนิดนี้คืออะไร!” ผู้คนต่างหวาดกลัว

นักพรตมังกรแดงและราชานกยูงถือดอกบัวสีเขียวไว้ในมือ จักรพรรดิเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่เรียกกระบี่ไท่หวงไว้เหนือศีรษะ อาวุธจักรพรรดิทั้งสองส่งเสริมซึ่งกันและพยายามปราบปรามสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายทั้งสอง

คนส่วนใหญ่ต่างคุกเข่าลงบนพื้นเพราะเป็นการยากที่จะหลุดพ้นจากแรงกดดันของอาวุธจักรพรรดิโบราณได้

ดวงตาของปรามาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามเริ่มมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยภายใต้การปราบปรามนี้ แต่ทว่าเขายังคงวนเวียนอยู่รอบๆ บ่อน้ำโดยไม่คิดจะไปไหน

สถานการณ์ตอนนี้แม้แต่ผู้ที่ถืออาวุธเต๋าสุดขั้วอย่างราชานกยูงและจักรพรรดิเซี่ยก็ยังเริ่มมีสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมาบ้างแล้ว หากเกิดการต่อสู้กันขึ้นจริงๆ แม้แต่พวกเขาก็ยังยากที่จะรับรองความปลอดภัยให้กับตัวเองได้

อาวุธของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นทรงพลังมากแต่ด้วยพลังของพวกเขาสามารถใช้ได้เพียงไม่กี่ครั้ง หากการโจมตีล้มเหลวสุดท้ายพวกเขาต่างหากที่จะหมดสิ้นเรี่ยวแรงไปเอง

ผู้ฝึกตนหลายคนเริ่มถอยลงไปในส่วนลึกของบ่อน้ำโดยไม่ทราบว่านี่เป็นเจตนาของสิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงหรือไม่

“ฆ่าสัตว์ประหลาดเส้นขนสีแดงก่อน ส่วนเจ้าของรถศึกโบราณนี้ดูเหมือนจะมีเจ้านายที่แข็งแกร่งกว่าคอยคุ้มครองอยู่ เราไม่อาจตอแยเขาได้” เจ้าของกระบี่ไท่หวงคุยกับนักพรตมังกรแดง

กร๊ด!!!

ในเวลานี้ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามดูเหมือนตรวจจับการสนทนาของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองได้ ดังนั้นเขาจึงกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวทันที

ในเวลาเดียวกัน เลือดศักดิ์สิทธิ์สีทองในร่างกายของเย่ฟ่านก็เผาไหม้อีกครั้ง ชั้นของพลังที่แปลกประหลาดได้ปรากฏออกมานอกตัวของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงคำรามนี้ทำอันตรายต่อเขาได้

“เขาถูกสัตว์ประหลาดลึกลับยึดครองร่างกายไปแล้ว นี่ไม่ใช่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์อีกต่อไป?”

ผู้คนต่างตกใจมาก พวกเขาทราบดีว่าปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามตายไปแล้ว แต่สิ่งที่แย่งชิงร่างกายของเขาไปคืออะไรกันแน่?

“คนที่มีเส้นขนสีแดงล้วนเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดและผู้แสวงหาปราณมังกร เป็นไปได้ไหมว่าผู้ที่ศึกษาคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ทุกคนจะต้องเป็นเช่นนั้น” เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง

ในเวลาเดียวกัน ม้าบินที่มาพร้อมกับรถศึกโบราณปรากฏตัวบนยอดเขา ราชานกยูงและจักรพรรดิเซี่ยถอยกลับเล็กน้อย พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสองจะลงมืออย่างแท้จริงหรือไม่

“อาวุธเต่าสุดขั้วนี่เป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง จักรพรรดิของเรากำลังขาดอาวุธอยู่พอดี ดังนั้นพวกเจ้าจงส่งมันมาเดี๋ยวนี้” สิ่งมีชีวิตตัวเล็กบนรถศึกเย้ยหยัน

“หากเจ้ามีความกล้าก็เข้ามาเอา” นักพรตมังกรแดงตะโกนและหยิบดอกบัวสีเขียวออกมาจากมือราชานกยูงพร้อมกับเดินไปข้างหน้า

“นายท่านของข้าคือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นสมบัติของท่าน อาวุธของพวกเราก็เช่นกัน”

ต่อหน้ารถศึกโบราณ คนตัวเล็กแปดคนที่มีความสูงไม่ถึงครึ่งฉื่อเริ่มนั่งลงกับพื้นและพึมพำบทสวดที่สั่นสะเทือนสวรรค์พิภพ ในขณะนั้นบนความว่างเปล่าได้มีมังกรสีทองตัวเล็กๆตัวหนึ่งถูกเรียกออกมา

ด้วยการปรากฏตัวของมังกรทองนี้ภูเขาฉินหลิงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นปราณมังกรที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อตัวเป็นมังกรขนาดใหญ่พร้อมกับหลอมรวมเข้าสู่ร่างกายมังกรทองอย่างรวดเร็ว

“นี่คือหัวใจของเส้นชีพจรมังกรโบราณ!” ผู้คนต่างประหลาดใจ นี่คือเส้นโลหิตมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในจงโจว พลังนี้น่าเหลือเชื่อจริงๆ

“นี่คือการใช้รากบรรพบุรุษของจงโจว เพื่อต่อสู้กับอาวุธเต๋าสุดขั้ว!”

ผู้คนต่างตกใจ รากของบรรพบุรุษที่ทรงพลังที่สุดในจงโจวคือตัวแทนของพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่สุด ในตอนนี้มันจะมีอำนาจในการปราบปรามอาวุธเต๋าสุดขั้วหรือไม่

หากปราณมังกรอ้ายแพ้และแตกสลาย จงโจวจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นับจากนี้ไป และมีเพียงสวรรค์เท่านั้นถึงจะรู้ว่าภาคกลางจะล่มสลายทั้งดินแดนหรือเปล่า

ทั้งสองฝ่ายต่างปล่อยแรงกดดันออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้ว่าเวลาจะผ่านไปค่อนข้างนานแต่พวกเขาก็ยังไม่ลงมือเข้าหากันแต่อย่างใด

“ฮึ่ม…”

ราชานกยูงพึมพำอย่างเย็นชาและพูดว่า “พลังชีวิตคของจงโจวนั้นยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แต่ไม่แน่ว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถในการควบคุมมัน”

“ข้าอนุญาตให้เจ้ากล่าวอีกครั้ง!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นจากส่วนลึกของถ้ำมังกร บรรยากาศที่อยู่รอบๆหนาวเย็นลงอย่างฉับพลันและทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

“จักรพรรดิของเราตื่นแล้ว พวกเจ้าต้องตายแน่นอน!”

ภูติหยกส่งเสียงหัวเราะและถอยกลับไปยืนอยู่บริเวณหน้าถ้ำอย่างรวดเร็ว

“เจ้ามนุษย์ผู้โง่เขลา พวกเจ้าได้รบกวนการหลับไหลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ แม้จะชดใช้ด้วยชีวิตก็ยากที่จะลบล้างความผิดของพวกเจ้าได้ ดังนั้นจงนำอาวุธของจักรพรรดิขึ้นมาที่นี่บางทีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปล่อยพวกเจ้าไป!”

สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ยืนอยู่บนรถศึกและตะโกน

ในอีกด้านหนึ่งปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามได้นำสิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงมากกว่าสิบตัวพุ่งเข้าหาเย่ฟ่าน ในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกมันจะหมดความอดทนแล้ว

เย่ฟ่านร่ายทักษะต้นกำเนิดและประทับมันลงไปในความว่างเปล่า มันเป็นทักษะลับที่บันทึกไว้ในคัมภีต้นกำเนิดสวรรค์

ปัง!

ร่างกายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามแข็งค้าง ดวงตาที่แดงก่ำของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำเลยทันที

“ผู้อาวุโส!” เย่ฟ่านเรียก

ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขาเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด

เย่ฟ่านรู้สึกงงงวย เกิดอะไรขึ้นกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ ทำไมเขาจึงมีสีหน้าเช่นนี้ อะไรกันแน่ที่กำลังควบคุมวิญญาณของเขาอยู่?

อย่างไรก็ตามสุดท้ายดวงตาของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอีกครั้ง ความเศร้าโศกของเขาหายไปอย่างรวดเร็วในขณะที่กระโจนเข้าหาเย่ฟ่าน

เย่ฟ่านใช้ทักษะการเคลื่อนไหวของสวรรค์หลบเลี่ยงการโจมตีและไปปรากฏตัวอยู่ด้านข้างของราชานกยูง

ด้วยการคุ้มครองของอาวุธเต๋าสุดขั้ว สิ่งมีชีวิตขนสีแดงหลายสิบตัวที่ไล่ตามเย่ฟ่านมาทำได้เพียงส่งเสียงกรีดร้องโดยไม่สามารถทำอะไรเขาได้

“อา…”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามไม่สามารถจัดการเย่ฟ่านได้ดังนั้นเขาจึงหันไปลงมือต่อคนอื่นแทน

เขาเริ่มควักหัวใจของซากศพที่นอนตายอยู่บนพื้นออกมา จากนั้นก็โยนลงไปในปากของตัวเองและเคี้ยวเสียงดังจ๊อบแจ๊บ

“พวกเจ้าเห็นถึงความอ่อนแอของมนุษย์หรือยัง!” สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์บนรถศึกตะโกน

บูม!

ในขณะนั้นมีเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมาจากบ่อน้ำเซียน

จากนั้นก้อนทองเหลืองเล็กๆ ขนาดเท่ากำปั้นได้ลอยขึ้นสู่ด้านบน บนก้อนทองเหลืองนั้นมีดอกบัวสีเขียวขนาดเล็กที่ปลดปล่อยพลังชีวิตอันสดใสออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ในเวลาเพียงชั่วครู่ดอกบัวสีเขียวก็เริ่มควบแน่นกลายเป็นร่างกายที่หล่อเหลาของชายหนุ่มคนหนึ่ง

“อา…”

บนรถศึกร่างกายของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวนั้นแตกสลายกลายเป็นเพียงฝุ่นผงโดยที่ชายหนุ่มคนนั้นยังไม่ลงมือด้วยซ้ำ

“จักรพรรดิชิง”

“เป็นจักรพรรดิชิง”

“จักรพรรดิชิง เขายังมีชีวิตอยู่!”

“ถูกต้อง เป็นจักรพรรดิชิง เขายังไม่ตายจริงๆ…”

เซียงอี้เฟยร่ำร้องด้วยความเครียดแค้นอย่างถึงที่สุด เวลาเก้าพันปีที่เขาเสียไปดูเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรเลย

“บรรพชน!” เอี๋ยนหรูหยูอุทาน

“จักรพรรดิชิงยังมีชีวิตอยู่อีกหรือ!” ดวงตาของชายชราที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่เย่ฟ่านเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด