907 - การตื่นขึ้นของจักรพรรดิโบราณ
907 - การตื่นขึ้นของจักรพรรดิโบราณ
นัยน์ตาของสิ่งมีชีวิตผมแดงที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์เปล่งประกายด้วยเลือด การปรากฏตัวของมันเพียงพอจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตายได้
ไม่มีใครคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์นั้นจะมีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ซุกซ่อนตัวอยู่ภายใน
“มันเป็นบรรพบุรุษของตระกูลไช่ ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามของตงหวง ว่ากันว่ากระดูกของเขาถูกฝังอยู่ในภูเขาฉินหลิงมาหลายปีแล้ว แล้วเขาฟื้นคืนชีพได้อย่างไร!” คนที่รู้ความลับตะโกนออกมาด้วยความกลัว
“มาสู้ไปด้วยกัน ไม่อย่างนั้นทุกคนจะต้องตาย!”
แม้แต่ปรมาจารย์ศักสิทธิ์นิกายของทุกฝ่ายก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ พวกเขาคำรามพร้อมกันก่อนจะเริ่มเรียกอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองออกมา
“เคร้ง”
เสียงระฆังดังขึ้น และระฆังสีทองขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้าหาสิ่งมีชีวิตเส้นขนสีแดงรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“บูม”
ไฟสวรรค์โหมกระหน่ำ
เสียงดังก้อง
หินโม่สีดำขนาดใหญ่กำลังหมุนราวกับหล่อจากทองคำศักดิ์สิทธิ์ มันไม่เปิดโอกาสให้สิ่งมีชีวิตเส้นขนสีแดงตั้งตัวแม้แต่น้อย พลังการโจมตีของมันเพียงพอที่จะสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพ
ปรมาจารย์ศักสิทธิ์นิกายหลักทั้งหมดส่งเสียงคำรามและไม่ลังเลที่จะเผาผลาญแก่นแท้แห่งชีวิตของตัวเองเพื่อเรียกพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมา เพราะหากพวกเขาล้มเหลวทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องตายอย่างไม่อาจละเว้น
สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงนั้นดุร้ายจริงๆ มันกลายเป็นลำแสงสีเลือดและเขย่าอาวุธต่างๆ ทุกทิศทาง ภายในลมหายใจเดียวยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลาย 10 คนก็ถูกบดขยี้เป็นหมอกเลือด
ระฆังสีทองขนาดใหญ่แตกออกเป็นหลายสิบชิ้น เตาไฟสวรรค์ที่ลุกโชนถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด และหินโม่สีดำขนาดใหญ่ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น!
“อา…”
“ฮ่า”
สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงหันกลับมาและกางนิ้วทั้งห้าเข้าออกพร้อมกับฉีกทึ้งศีรษะของชายชราคนหนึ่ง ของเหลวที่เกิดจากสมองไหลทะลักออกมาจากง่ามนิ้วของเขาทำให้คนหวาดกลัวจับใจ
ดูเหมือนว่าปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามได้กลายเป็นปีศาจที่หลุดออกจากขุมนรกไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะผ่านหน้าใครทุกคนต้องตายอย่างอนาถโดยไม่ละเว้น
“ถ้าเซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่มา ก็ไม่มีใครต่อสู้กับเขาได้!” มีคนล้มลง และชายผู้ทรงพลังคนหนึ่งก็ตะโกนด้วยความกลัว
“ในโลกนี้มีเซียนเพียงสองคน คนหนึ่งอยู่ในตงหวงและอีกคนอยู่บนเขาพระสุเมรุ ไม่มีทางที่พวกเขาจะให้ความช่วยเหลือได้!”
ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้ง ขนของราชานกยูงปลิวสยายและนักพรตมังกรแดงก็คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ทั้งสองคนหยิบอาวุธจากมือของเอี๋ยนหรูหยูออกมาและฟาดฟันเข้าหาสิ่งมีชีวิตเช่นคนสีแดงโดยไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย
รัศมีของจักรพรรดิโบราณแผ่ซ่านไปทั่วอากาศ เป็นคลื่นที่น่ากลัวเหมือนการล่มสลายของสวรรค์ และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆหมอกก็กระจ่างสดใสทันที!
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิชิงฟื้นคืนชีพกลับมาพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาปะทุขึ้นอีกครั้งทำให้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายสิบคนสั่นสะเทือนด้วยความกลัวทันที
หลังจากเวลาผ่านไปอย่างไม่สิ้นสุดในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสได้ทราบว่าอาวุธเต๋าสุดขั้วชิ้นนี้คืออะไร?
มันเป็นดอกบัวสีเขียว มีใบเก้าใบที่ค้ำจุนสวรรค์และพิภพ นี่เป็นเหมือนร่างกายของจักรพรรดิอสูรในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะมันถูกสร้างขึ้นจากร่างกายของเขา!
ทันทีที่อาวุธของจักรพรรดิถูกใช้ออกมาร่างที่ทรงพลังบางหลายคนต่างก็ต้องคุกเข่าลงด้วยความกลัว
สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงหวาดกลัวอย่างยิ่ง มันกรีดร้องและหยุดการไล่ล่ามนุษย์พร้อมกับถอยกลับอย่างต่อเนื่อง
นี่คือพลังของจักรพรรดิอสูร จักรพรรดิสูงสุดคนเดียวที่พิสูจน์เต๋า ได้สำเร็จในรอบหลายหมื่นปี นี่คือผู้ยิ่งใหญ่เพียงคนเดียวหลังจากยุคโบราณ!
“ครืน”
ในขณะนี้มีกระบี่อีกเล่มพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เป็นพลังโจมตีที่ไม่มีใครเทียบได้!
ด้ามกระบี่ถูกสร้างขึ้นเป็นลักษณะของหัวมังกร โดยที่ปลายหางของมันคือลำตัวของกระบี่ และแสงที่ถูกสะท้อนออกมาของมันยังรุนแรงมากกว่าดวงอาทิตย์ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่านี่คือกระบี่ไท่หวงซึ่งเป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วที่มีอายุไม่ต่ำกว่าแสนปี อาวุธทั้งสองเป็นเหมือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่ส่องสว่างพร้อมกัน
“แค่ก”
ปรมาจารย์หลายคนกระอักเลือด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ปกครองโลกในปัจจุบัน แต่พวกเขาก็เป็นเพียงบุคคลระดับเต๋ามนุษย์เท่านั้น ด้วยอาวุธระดับเต๋าอมตะมันไม่มีทางที่พวกเขาจะต่อต้านได้
สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงนั้นทรงพลังมาก มันมีความสามารถในการฆ่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนโดยไม่ขมวดคิ้วด้วยซ้ำ
แต่ในเวลานี้ มันมีความตั้งใจที่จะล่าถอย ไม่ว่ามันจะทรงพลังเพียงใดก็ไม่มีทางที่มันจะต่อสู้กับอาวุธของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้
“มันจบแล้ว!”
ที่ด้านข้างของบ่อน้ำเซียน สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นขนสีแดงพุ่งขึ้นไปบนภูเขาโดยต้องการจะหลบเลี่ยงออกจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด
“เจ้าจะไปไหน!”
นักพรตมังกรแดงและราชานกยูงตะโกนจากด้านหลัง ดอกบัวสีเขียวของพวกเขาหมุนวนทำให้สวรรค์พิภพเกิดความปั่นป่วนและแสงสีเขียวได้ไล่ล่าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นไป
จักรพรรดิเซี่ยปล่อยกระบี่ไท่หวงให้แขวนอยู่บนศีรษะในรูปลักษณ์ของมังกรทอง เขาเพียงปกป้องตัวเองเท่านั้นและไม่คิดจะไล่ตามสิ่งมีชีวิตตัวนั้นไป
“อา…”
ภายใต้การปราบปรามของอาวุธศักดิ์สิทธิ์เย่ฟ่านรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะระเบิด ในช่วงเวลาวิกฤต เลือดศักดิ์สิทธิ์สีทองลุกโชน และเขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้คุกเข่าให้กับอาวุธเต๋าสุดขั้ว
“ตาย”
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำโบราณมันเป็นเสียงคำรามที่เหมือนการสั่นสะเทือนของมหาสมุทร
รถศึกโบราณพุ่งออกไป บนรถศึกโบราณมีสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์สูงประมาณสองฝ่ามือมีร่างกายสดใสเหมือนกับเทพ ศีรษะของเขาถูกล้อมรอบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีทอง
“ผู้ใดกล้ารบกวนการนอนของจักรพรรดิโบราณ!”
“จักรพรรดิ!?”
“จักรพรรดิโบราณยังมีชีวิตอยู่!”
ทุกคนตกตะลึง นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน?!
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในยุคโบราณล้วนตายไปหมดแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย แต่มันก็ไม่มีทางที่คนเหล่านี้จะอยู่ยงคงกระพันเป็นหมื่นปีได้
เนิ่นนานตั้งแต่ยุคโบราณ มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เพียงไม่กี่คนของเผ่าพันธุ์มนุษย์และแต่ละคนได้ทิ้งมรดกของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไว้มากมาย
หลังสิ้นสุดยุคโบราณจักรพรรดิชิงเป็นคนเดียวที่พิสูจน์เต๋าและกลายเป็นจักรพรรดิ หลังจากนั้นเขาได้หายไปจากการรับรู้ของผู้คนเป็นเวลาหนึ่งหมื่นปี
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จะปรากฏตัวขึ้นที่นี่อีกครั้งหรือไม่?
ข่าวนี้สะเทือนจิตใจของผู้คนทั่วทั้งโลกอำพรางสวรรค์
สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้มีสีสันที่แปลกประหลาดแต่ละตัวมีความโปร่งแสงและสดใสดุจผลึก ทุกคนล้วนมีร่างกายเล็กกะจิ๋วหลิวแตกต่างจากมนุษย์และเผ่าพันธุ์โบราณ
พวกเขาเป็นเหมือนกับภูติผู้พิทักษ์พงไพร รูปร่างเล็กเหมือนแกะสลักมาจากหยกขาว แต่พลังที่อยู่ในร่างกายของพวกเขานั้นเห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งไม่เป็นรองครึ่งเซียนที่ทรงพลังที่สุดอย่างแน่นอน
รถศึกโบราณที่ปลดปล่อยแรงกดดันอย่างรุนแรงราวกับจะบดขยี้โลกทั้งใบ มันถูกสร้างมาจากหินแกะสลักให้เป็นรูปร่างรถศึกนี้สูงเพียงหนึ่งฉื่อ โดยมีม้าศึกสีม่วงทำหน้าที่ลากรถออกจากถ้ำ
“ผู้ใดบังอาจรบกวนการหลับใหลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!”
บนรถศึกโบราณสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายสูงราวๆ หนึ่งฉื่อ ส่งเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์พิภพ
เขาโบกมือปัดผ่านอากาศเพียงเบาๆคัมภีร์ที่ขาดรุ่งริ่งฉบับหนึ่งก็ถูกดึงออกมาจากความว่างเปล่าและพุ่งไปข้างหน้า
เสียงกรีดร้องที่ตัดผ่านอากาศเต็มไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้ผู้คนมากมายต้องการเลือดโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง เสียงนี้เป็นตัวตนดั้งเดิมของเต๋า และทุกครั้งที่มันดังออกมาก็แปรสภาพเป็นพลังของเต๋าชนิดหนึ่ง
