ตอนที่แล้วตอนที่ 396 ถังเทียนเปิดประตู  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 398 ชัยชนะที่ด้อยค่า 

ตอนที่ 397 ซุ่มโจมตี


ภายในห้อง บรรยากาศมืดสลัว

ทาร์ตันขมวดคิ้ว  “เจ้าคิดว่าแบบนี้ดีแล้วหรือ?”

แอนเดรียนามีสีหน้าสงบ  “เราได้ตรวจสอบจุดแข็งของพวกเขาดูแล้ว ถ้าพวกเขาไม่แข็งแกร่งพอจะกลายเป็นพันธมิตรของพวกเรา  อย่างนั้นสมบัติทั้งร้อยชุดของเราก็เป็นแค่เพียงของไว้ใช้ต่อรองเท่านั้น”

ทาร์ตันเงียบ แอนเดรียนาพูดถูก  สถานการณ์ยุ่งเหยิงมากขึ้นทุกที กับการเข้ามามีส่วนร่วมของกลุ่มดาวหมีใหญ่และกลุ่มดาวนายพราน  แสดงแน่ชัดว่าพวกเขาคงไม่สามารถเก็บสมบัติทั้งร้อยชุดไว้ได้ ดังนั้นพวกเขาจะใช้สมบัติให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มดาวอันโดรเมดาได้อย่างไรและนั่นเป็นเรื่องที่พวกเขาจำเป็นต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบ

เพียงแต่ว่าทาร์ตันไม่ชอบแผนเช่นนั้นเลย  เขาต้องการอยู่ในสนามเพื่อต่อสู้  เขามองดูแอนเดรียนา ใบหน้าของนางไม่มีท่าทีบ่งบอกว่านางไม่กล้าตัดสินใจแต่อย่างใดและยังคงสงบมากขึ้น

นางเติบใหญ่แล้ว

ลึกๆ แล้วทาร์ตันตื่นเต้น  แต่ไม่มีความสุขแม้แต่น้อย  ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากได้เด็กหญิงที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเฝ้ารอของขวัญจากบิดาของนาง

แต่แอนเดรียนาคนปัจจุบันนี้คือผู้ที่กลุ่มดาวอันโดรเมดาต้องการ

ราวสามกิโลเมตรห่างจากจุดที่ถังเทียนและสหายอยู่ มีโกดังเก่าทรุดโทรมซึ่งเป็นของครอบครัวผู้ค้าเล็กๆ  ตอนนี้ถูกอาคันตุกะลึกลับเช่าอยู่

แม้ว่าจะมีการพัฒนาฟื้นฟูธุรกิจในนครเทพสตรี  แต่ตลาดทรุดโทรมมากกว่าแต่ก่อน และเพราะโกดังที่ว่างเปล่าถูกเช่าในราคามหาศาล  เจ้าของกิจการจึงมีความพอใจมาก  ถ้าโกดังอยู่ใกล้คฤหาสน์ของท่านถังเทียนนั่นจะสามารถเช่าได้ราคาที่ดีกว่าแน่นอน แต่ตำแหน่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ก็คือแถวๆ ที่พักท่านอาเดรียนและตามมาด้วยคฤหาสน์ของถังเทียน

ร้านเหล้าและบ้านพักที่อยู่ใกล้สถานที่ของทั้งสองคนเต็มไปด้วยผู้คน

น่าเสียดายที่โกดังของเขาอยู่ห่างจากคฤหาสน์ของถังเทียนเกินไป  ดังนั้นเขาพอใจกับค่าเช่าที่ได้รับ

ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงจากความมืดมิดในภายนอก ภายในโกดังกลับสว่างไสว

ถ้าหัวหน้ากลุ่มหอการค้าเล็กๆเห็นภายในโกดัง  พวกเขาคงตกตะลึงอย่างแน่นอน  ภายในโกดังสินค้าใหญ่  ในนั้นเต็มไปด้วยม้าศึกและผู้คน ราวกับว่ามีการจัดเรียงรายไว้อย่างดีนักสู้ทุกคนนั่งอยู่ข้างม้าของพวกเขาและพักผ่อน ขณะที่ม้าฝีเท้าเพลิงยังคงสงบใจเย็น เนื่องจากพวกมันกำลังหลับ

ไม่มีใครติดต่อใคร  ไม่มีใครสนทนากัน  ภายในคลังสินค้าเงียบสงบ

ทันใดนั้น เสียงหึ่งๆคล้ายกับผึ้งกระพือปีกดังออกมา นักสู้ทุกคนที่กำลังนั่งพักหลับตาอยู่พลันลืมตาพร้อมกันทุกคน  ใบหน้าของทุกคนมีแววตื่นเต้นและกระตือรือร้นจนบรรยายไม่ถูก

“ทุกคน...เตรียมพร้อม!”

เสียงตะโกนของถังอี้ดังกรอกหูทุกคนราวกับเสียงฟ้าร้อง

ฮูลา

เป็นเสียงที่ดังออกมาพร้อมกัน  มันคือเสียงที่นักสู้ทุกคนลุกขึ้นขี่ม้าทหารที่ตอนแรกดูเหมือนทหารม้าที่ยุ่งเหยิงกลับกลายเป็นเข้มงวดจริงจัง

ถังอี้มีสีหน้าไร้ความรู้สึก  แต่หัวใจของเขาลอบยินดีอยู่ภายใน  หลังจากตั้งหน้าฝึกฝนอย่างยากลำบากในที่สุดพวกเขาจะได้มีพื้นที่สำหรับกองทัพที่แท้จริง

โกดังสินค้าเปิดออกอย่างเงียบงันปล่อยให้เสียงครึกครื้นจากด้านนอกถนนแว่วเข้ามาสำหรับชาวนครเทพสตรีผู้ใช้ชีวิตคุ้นเคยกับแสงสียามราตรีนั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของชีวิตยามราตรี

“เคลื่อนขบวน!”

ถังอี้เป็นคนแรกที่วิ่งออกมาจากโกดังสินค้า  ทหารม้าที่ตามมาเบื้องหลังของเขาพรั่งพรูออกมาจากโกดังสินค้าเหมือนกับสายน้ำไหล

โกดังสินค้าไม่ได้อยู่ที่ถนนใหญ่  และอยู่ไกลจากข้างถนน เสียงม้าควบดังมาจากด้านข้างถนนเหมือนสายน้ำหลาก

ขณะที่ถังอี้ควบม้าขึ้นถนนใหญ่คนเดินถนนตกใจยืนอยู่กับที่ทุกคน หน้าของพวกเขาตกตะลึงขณะมองดูกองทหารม้าที่ปรากฏออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย

เมื่อออกมาจากซอยเล็ก  สีหน้าของถังอี้เยือกเย็น ม้าฝีเท้าเพลิงตะกุยพื้นและส่งเสียงร้องทันที

ม้าฝีเท้าเพลิงที่ถังอี้ขับขี่เป็นจ่าฝูงม้าฝีเท้าเพลิงระดับเจ็ดที่เห็นได้ยาก  ตลอดทั้งร่างของมันสีแดงดังโลหิต  ความกระตือรือร้นของมันมีมากเป็นพิเศษ  เสียงม้าร้องดังผ่านอากาศแสดงออกว่ามันตั้งใจสู้

ทุกคนมองดูขบวนม้าที่พรั่งพรูออกมาจากซอยเล็กอย่างตกใจ

ในพริบตา กองทหารที่หนาแน่นปรากฏอยู่ต่อหน้าของทุกคน

“เดินหน้า”

ถังอี้มุ่งไปข้างหน้าด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก ราชันย์ม้าฝีเท้าเพลิงควบไปข้างหน้าเหมือนกับเงาแดงเลือนลาง  ทหารม้าที่ตามหลังไม่มีท่าทีลังเลและควบตามไปข้างหน้าเช่นกัน

ม้าฝีเท้าเพลิงทั้งสองร้อยตัวเคลื่อนไปข้างหน้าในถนนที่เงียบสงัด

ถนนกว้างที่สร้างขึ้น  จากที่เห็นเหมาะสมที่สุดกับการบุกตะลุยสำหรับทหารม้า

เสียงกีบเท้าม้าย่ำพื้นหนักหน่วงและทรงพลังกดกระทบพื้นหินที่แข็งและหนักเกิดประกายไฟและเสียงดัง  เมื่อทหารม้าทั้งสองร้อยรวมตัวด้วยกัน  ก็เหมือนสายลาวาที่ไม่อาจหยุดยั้งได้  ทุกคนที่อยู่บนถนนชะงักค้างตัวสั่น  คนเดินถนนพากันตกใจทั้งหมดและก้าวหลบเปิดทางให้

ในความมืดเสียงกีบเท้ามาดังเหมือนกับเสียงฟ้าคำรามกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเหมือนกับพวกเขากำลังเข้าสู่ศึกสงคราม เสียงนั้นดังกังวาลกว้างไกล

บนหลังม้าหน้าของถังอี้ยังคงสงบเหมือนสายน้ำ เขานึกสรรเสริญและนับถือแผนการของท่านอาเฮ่อ  เป็นไปตามคาด คุณชายอาเฮ่อมีสติปัญญาไม่เป็นรองใคร

เมื่อทาร์ตันส่งคนให้นำสมบัติที่สร้างสำเร็จแล้วไปให้ที่คฤหาสน์  อาเฮ่อและหลิงซิ่วก็สังหรณ์ว่าจะมีอันตรายเข้ามาถึงตัว ดังนั้นอาเฮ่อจึงลอบส่งข่าวให้ถังอี้ตอนกลางคืนขอให้ทางค่ายทหารคอยสนับสนุนและกำหนดแผนการเช่นนั้นขึ้นมา

เพื่อป้องกันไม่ให้คนค้นพบ  อาเฮ่อเลือกตำแหน่งไกลออกไปจากคฤหาสน์ เมื่อเข้าไปในเมืองถังอี้และบริวารของเขาทำตัวเหมือนเป็นพ่อค้าซึ่งหลิงซิ่วจะให้คำแนะนำสองสามอย่าง  เนื่องจากเขาเคยเดินทางไปกับผู้ค้าขายที่ขอบฟ้าใต้มาระยะเวลาหนึ่ง  และรู้สายสนกลในพวกเขา  คนทั้งสองร้อยกระจายกลุ่มและเข้ามาเป็นขบวนที่ต่างกัน

กระบวนการนี้ราบรื่นมากกว่าที่พวกเขาคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนครเทพสตรีตกอยู่ในช่วงสับสนวุ่นวาย แม้ว่ากองกำลังทหารราบจะคอยปกป้องนครเทพสตรี  แต่การป้องกันในแต่ละวันไม่เกวดขันเท่าใดนักเนื่องจากหน่วยลาดตระเวนยังรักษาการยังบาดเจ็บหนักอยู่นอกจากนี้ยังคงมีนักสู้หลั่งไหลเข้ามาในเมืองไม่ขาดสายนักสู้ที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมากมักจะอารมณ์ไม่ดีอาจเกิดการต่อสู้ได้ทุกเมื่อ  หน่วยลาดตระเวนที่ไม่แข็งแกร่งพอย่อมไม่สามารถต่อสู้ได้ และเนื่องจากไม่มีทางเลือกพวกเขาจึงต้องแกล้งทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไร  เนื่องจากพวกเขาไม่กล้าหาเรื่องยุ่งยากใส่ตัว

แม้ว่าโกดังสินค้าจะค่อนข้างอยู่ไกล  แต่ระยะสามกิโลเมตรยังถือว่าไม่ไกลสำหรับม้าฝีเท้าเพลิง  พวกมันมาถึงในเวลาสั้นๆ

ด้วยพลังของท่านอาเฮ่อและท่านหลิงซิ่วคงไม่มีปัญหาในการต้านรับศัตรู

และพวกเขามีงานเพียงอย่างเดียวก็คือทำให้ศัตรูทุกคนชะงักงันเหมือนถูกฟ้าผ่าและคุกคามพวกเขา

ไฟต่อสู้ลุกโหมอยู่ในอกของถังอี้  ตาเล็กแคบของเขาสะท้อนแสงริบหรี่ รัศมีรอบตัวแปรเปลี่ยนอย่างเงียบงัน

ในฐานะที่เป็นทหารที่มีเจตนารมณ์กล้า การเปลี่ยนแปลงของถังอี้ส่งผลต่อทหารม้าทั้งสองร้อยเบื้องหลังเขาทันทีไฟนักสู้ของพวกเขาลุกโหม

ทหารม้าทั้งสองร้อยคนสวมเกราะเรียบร้อยจากนั้นควบตะลุยไปข้างหน้าเหมือนเป็นร่างเดียวกัน

คฤหาสน์ตกอยู่ในความเงียบ  ขณะที่ทุกคนตะลึงกับการแสดงพลังฝีมือของถังเทียน  มือของเขาก็สร้างความตื่นตะลึงได้เช่นกัน เมื่อมองเห็นอาวุธลับทั้งหมดสารพัดขนาดตกอยู่แทบเท้าถังเทียนทั้งหมดนั้นมีจำนวนมาก และหลากหลายรูปแบบ แค่เพียงชำเลืองมองดูก็บอกได้ว่ามีประมาณร้อย

ธนูเงินและหมอกโจมตีที่หุ่นกระบอกดำส่งออกมาถูกทำลาย

ในท่ามกลางความมืด นิ้วมือที่สร้างประกายไฟและไฟหายวับไปจากท้องฟ้าจะเป็นฉากภาพที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของทุกคน

เจ้าผู้นี้....

ก่อนหน้านี้ ทุกคนสามารถคาดเดาและทำนายว่าถังเทียนจะเป็นเหมือนอะไร แต่ฉันพลันนั้นมีแต่ความกลัวที่เหลืออยู่ในใจพวกเขา

ในท่ามกลางความเงียบมีเสียงม้าควบดังราวกับฟ้าคำรามใกล้เข้ามา ทำให้ทุกคนตื่นขึ้นจากอาการมึนงง  ทุกคนไม่สนใจสังเกต เนื่องจากการมีส่วนร่วมของทหารราบเป็นเรื่องธรรมดามาก และพวกเขาเชื่อว่ากองพลทหารราบจะไม่ลงมือกับพวกเขา

ทุกคนมีเบื้องหลังที่ลึกซึ้งและทรงพลังซึ่งกองพลทหารราบไม่มีทางต่อกรได้ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาทำก็มีแค่เพียงป้องกันถังเทียนและสหายของเขา

ทุกคนคิดว่าการต่อสู้จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า ไม่มีใครคิดว่าเพียงคืนแรกจะมีผลออกมาถึงตาย  เนื่องจากทุกคนสืบดูมามากแล้วและพวกเขาต้องการเวลาเพื่อคิดผลของการต่อสู้

ทุกคนตระหนักว่าพวกเขาจำเป็นต้องประเมินพลังของถังเทียน

นั่นคือสิ่งที่ทุกคนกำลังคิดอยู่ในปัจจุบัน  หลายๆ คนตัดสินใจหันหลังและออกไปจากสนามต่อสู้

ติง!

ขณะที่อาวุธลับชิ้นสุดท้ายร่วงลงจากมือของถังเทียน  เขาถึงค่อยรู้สึกตัว เอ๋..ข้าถูกโจมตีหรือนี่?  เอ่..ไม่ชอบมาพากลนะ..ที่ข้าถูกคนโจมตี!

ในประวัติของหนุ่มชาวฟ้ามีแต่รังแกคนอื่น  แล้วนี่หนุ่มชาวกลับกลายเป็นถูกเขารังแกตั้งแต่เมื่อใด?

ใจของถังเทียนยิ่งโกรธมากขึ้นทุกที  ตาของเขากลายเป็นสีแดง ขณะที่เขาตะโกน  “พวกเจ้าทุกคนบังอาจทำร้ายข้า!  วอนตายเสียแล้ว!”

“ก่อนที่คำว่าตายจะจบลงกำแพงก็ระเบิดทันที

ปัง!

เสียงดังสนั่น ขณะที่ฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศ

ในความมืด หลายๆ คนเบ้ปากกองพลทหารราบมีอำนาจแค่น้อยนิดยังคิดจะร่วมสนุก แต่ครู่ต่อมาทุกคนต้องตะลึง

ไม่ใช่กองพลทหารราบ

ทหารม้าสวมเกราะที่ไม่คุ้นเคยกำลังตรงรี่เข้ามา  ความเร็วของพวกเขาสูงมากเพียงชั่วเวลาที่กำแพงพังทลายลง ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทุกที่ขณะที่สถานที่เหมือนติดอยู่ในพายุหมุน ทุกสิ่งทุกอย่างหายไป

ถังอี้เห็นถังเทียนกำลังโกรธตาที่แคบยาวพลังเบิกโพลง รังสีฆ่าฟันกระจายออก

รังสีอำมหิตครอบคลุมไปทั้งพื้นที่

“ฆ่า!!”

กองทัพหมาป่ากระจายกำลังทันทีก่อตั้งขบวนกลุ่มเล็กๆกลุ่มละยี่สิบเหมือนกับธนูแหลมคมยี่สิบดอกพุ่งเข้าหาคนในบริเวณคฤหาสน์ทันที

กองทัพหมาป่า!

ตาของหลิวจงกวงหรี่แคบขณะที่คำว่าลอบจู่โจมผุดขึ้นมาในใจของเขา เวลาที่กองทัพหมาป่าใช้โจมตีตั้งแต่เริ่มแรกสามารถบอกได้ว่าเล็กน้อย แต่พลังที่กองทัพหมาป่าแสดงออกมาสร้างความประหลาดใจให้กับเขา

กองทัพของพวกเขาเข้ากันได้ดีเกินไปจนเขาไม่อยากเชื่อตาตนเอง

กลุ่มเล็กๆทุกกลุ่มวิ่งเป็นเส้นตรงขนานกันจนสามารถใช้ไม้บรรทัดวัดจากด้านข้างพวกเขาได้  เมื่อพวกเขาบุกทะลวงเข้ามา  พวกเขาเป็นเหมือนทวนแหลมคมเล่มยาว

นี่เป็นครั้งแรกที่หลิวจงกวงเห็นกองทัพเช่นนั้นด้วยตาตัวเอง  นอกจากพลังของทหารแต่ละคนแล้ว  กองทหารมีลักษณะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  นั่นไม่ใช่สิ่งที่กองทัพใดๆ สามารถทำได้

แม้ว่าหลิวจงกวงจะทึ่งกับความสามารถของกองทัพหมาป่า  แต่การโจมตีที่จะตามมาไม่มีคำเตือนอะไร  คนสิบคนกลุ่มเล็กๆ บุกทะลวงเข้ามาสามารถเอาชนะนักสู้ธรรมดาคนหนึ่งได้ แต่สำหรับยอดฝีมือยังถือว่าไม่เพียงพอ

กองทัพที่สามารถสร้างความประทับใจได้เช่นนั้น  ถังเทียนคงต้องการอวดพลังของเขาเอง...

หลิงจงกวงรู้สึกว่าเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบในการแสดงพลังของเขาและสิ่งที่ตามมาจะทำให้เขาอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบมากขึ้น

เป็นไปตามคาด เขาชอบวางแผนการ

หลิวจงกวงเชื่อคำของอาซิ่ว

“ฆ่า!!”

กลุ่มคนทั้งยี่สิบคนตะโกนพร้อมกัน  ขณะที่พวกเขาปกคลุมไปด้วยพลัง

หลิวจงกวงตกตะลึง  เสียงโห่ร้องเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน  และดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ข่มกัน

ในสายตาของเขาพวกนักสู้ชาวหมาป่าชูดาบสูงพร้อมกัน

หลิวจงกวงสับสน ม่านตาของเขาขยาย

ดาบโค้งเหมือนวงพระจันทร์รังสีแสงขาวเหมือนหิมะ

ดาบทั้งสองร้อยเล่มเหมือนเชื่อมโยงกันด้วยด้ายที่มองไม่เห็น

รังสีดาบทั้งสิบ รวมตัวเป็นหนึ่งรังสีดาบเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหอก

ทันใดนั้นแสงรังสีละลานตาสะท้อนจนสีหน้าของหลิวจงกวงชะงักค้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด