ตอนที่แล้วตอนที่ 390 ทำนองที่สี่ของขลุ่ยวิเศษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 392 แผนของถังโฉ่ว 

ตอนที่ 391 แผนรบที่หนึ่ง


กงจิ่วคิดว่าชัยชนะในการต่อสู้จะตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา  แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายศัตรูจะต่อต้านเขาได้อย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง

เฒ่าบอดซอกำศรวลก็มีพลังมากกว่าที่เขาคิดและสามารถสร้างความเสียหายให้กับอาหมิงได้ พอรุกไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็ถูกคุณชายขลุ่ยวิเศษขัดขวางอีก  แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงขุนพลวิญญาณ  แต่พลังของเขาก็ยังใช้ได้ดีทำให้น้องสี่ตายและน้องห้าบาดเจ็บ กงจิ่วยังดีใจที่คุณชายขลุ่ยวิเศษเป็นแค่เพียงขุนพลวิญญาณและไม่ใช่คนมีชีวิต

คนผู้นี้ต้องแข็งแกร่งทรงพลังมากเมื่อยามมีชีวิต

แต่กงจิ่วยังคงโกรธจัด เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนั้น

โชคดีที่อุปสรรคถูกกำจัดไปในที่สุด  ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเป็นกองกำลังที่แสดงท่าทางเข้มแข็งแต่อ่อนแอมากกว่าที่เขาคาด กงจิ่วปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันและตะโกนใส่ข้างบน  “ฆ่า!”

เมืองหย่งอันสร้างกองทัพจักรกล  แต่กงจิ่วไปตรวจสอบมาด้วยตนเองแล้ว  และในสายตาเขากองทหารที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาเป็นแค่ตัวตลก กงจิ่วแสยะยิ้มอย่างถือดี อย่างไรก็ตาม อาวุธจักรกลวิญญาณก็ดึงดูดความสนใจเขาอยู่ดี เมื่อสังเกตดูรายละเอียดเขาพบว่าถ้าเขาสามารถจับอาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านี้ได้  พลังของกลุ่มโจรสายลมก็จะเพิ่มทวีคูณ

อาวุธจักรกลวิญญาณในปัจจุบันยังอยู่ในสภาพตั้งไข่  ถ้าเขาสามารถได้มาครองก่อนคนอื่น เขาสามารถทิ้งชีวิตการเป็นโจรและกลายเป็นผู้ปกครองเผด็จการของสวรรค์วิถีได้อย่างแท้จริง

นักสู้ของกลุ่มโจรสายลมบุกเข้าหากลุ่มอาวุธจักรกลวิญญาณเหมือนคลื่นกระหน่ำใส่หน้าผา ไม่มีใครที่ไม่ถูกความกระหายเลือดต้องการฆ่าครอบงำ

ไม่มีคนอ่อนแออยู่ในกลุ่มโจรสายลม  เสียงโห่ร้องประกาศศึกของพวกเขาลดลงเมื่อเข้าสู่สนามต่อสู้

ม่อจื่อหวีพยายามข่มความวิตกกังวลของเขา จากการได้ฝึกฝนที่นี่มายาวนานนี่เป็นครั้งแรกของเขาในสนามรบใช้อาวุธจักรกลวิญญาณร่วมกับหินดวงดาวระดับหก พร้อมกับการ์ดวิทยายุทธอีกสามใบ พวกเขาเตรียมพร้อมมากขึ้นต่อสู้เพื่อชีวิตพวกเขา

“หน่วยที่หนึ่ง  เตรียมดำเนินตามกลยุทธที่หนึ่ง”

ม่อจื่อหวีตะโกนสุดเสียงจนรู้สึกเจ็บคอ เขาก็เหมือนกับนักเรียนคนอื่นเช่นกันที่ตื่นเต้น แผนรบแรกคือกลยุทธที่พวกเขาฝึกฝนด้วยกันเป็นส่วนใหญ่และพวกเขาคุ้นเคยกับการปฏิบัติการนี้ที่สุด

“ฆ่า!”

ม่อจื่อหวีตวาดลั่นเปิดศึกแรกของกลุ่มเขา

อาวุธจักรกลวิญญาณสามแถวแรกตั้งขบวนก้าวไปข้างหน้า แขนบรอนซ์มหึมาเรืองแสงระยิบระยับ

มีดบินยาวสามเมตรมากกว่าสามสิบเล่มบินตรงเข้าใส่กลุ่มโจรเหมือนกับม่านมีด

วิทยายุทธระดับหก หัตถ์มีดใหญ่

การโจมตีเป็นกลุ่มของนักสู้เพราะความหนาแน่นของพลังโจมตี และยิ่งตกใจหนักกับการผสานพลังโจมตี เป็นไปได้หรือที่คนสามสิบคนจะฝึกฝนในวิทยายุทธชนิดเดียวกัน?

รังสีเจิดจ้าจากมีดทั้งสามสิบสายมองดูละลานตา  เสียงมีดฝ่าอากาศดังหวีดหวิว

โชคดีที่พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้แบบนั้นมาก่อน   พวกที่มีวิชาตัวเบาก็หลบหลีกพลังโจมตีอย่างรวดเร็ว พวกที่ไม่มีก็เตรียมตั้งรับการโจมตีที่กำลังจะมาถึง  วิทยายุทธที่ใช้ป้องกันถูกนำมาใช้  ขณะที่คนอื่นใช้สมบัติดวงดาวป้องกัน

บึ้ม!  บึ้ม!

พลังของหัตถ์มีดใหญ่ช่างน่ากลัว ไม่มีเสียงครางเจ็บปวดจากนักสู้ผู้ซึมซับพลังโจมตีให้ได้ยิน

นักสู้คนหนึ่งที่หลบหลีกพลังโจมตีที่น่ากลัวด้วยวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม  ปล่อยให้เขาหลบหลีกอย่างช่ำชอง  เขาหลบการโจมตีสองครั้ง  แต่พลังรุนแรงมากจนเขารู้สึกว่ากระแสอากาศเฉือนแก้มของเขา

ฉัวะ!

เขารู้สึกเจ็บแปลบที่อกของเขาเลือดฉีดพุ่งออกมาจากรูขนาดกำปั้นที่อกของเขา

ใคร...

เขาดูสับสน รังสีเทาสิบสายหรือมากกว่านั้นเหมือนกับฝูงปลาที่คล่องแคล่วพุ่งเล็ดลอดมาระหว่างปลายมีดเหมือนกับนักล่าเงียบ พวกมันค่อยๆ เลือกเอาชีวิตพวกที่มันโจมตี

พวกที่หลบการโจมตีที่น่าทึ่งนี้จะไม่ได้ตั้งท่าป้องกันตัวรังสีเทาเล็ดลอดออกมาจากช่องว่างของรังสีดาบนับไม่ถ้วนไม่สามารถจะหลบหลีกได้

ฉัวะ.. โลหิตฉีดพุ่งกระจายทุกที่

นักสู้ที่โชคร้ายคนหนึ่งพยายามหลบอย่างเร่งร้อนถูกดาบฟันที่ศีรษะขาด

ฉากภาพที่น่ากลัวเช่นนั้นเกิดจากวิทยายุทธระดับหกดรรชนีลอยลม

ผู้ที่รอดชีวิตจากการโจมตีก็คือพวกที่มีวิทยายุทธป้องกันที่น่ากลัว  พวกเขายังคงยืนปักหลักกับพื้น มองดูพี่น้องที่ล้มลงของพวกเขา  มีรูจำนวนมากในร่างของพวกเขาโลหิตฉีดพุ่งออกมาจากร่าง บางคนได้รับบาดเจ็บบ้าง ไม่มีผู้ใดไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก

ทันใดนั้นม่านตาของพวกเขาหดลีบหลังจากเห็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าของพวกเขา

โดยไม่สามารถจับร่องรอยที่เกิดขึ้นอาวุธจักรกลวิญญาณกระโจนขึ้นในอากาศ แต่ละเครื่องมีรังสีหอกถืออยู่ในมือพวกเขา

มีอาวุธจักรกลวิญญาณบรอนซ์สามสิบชุด แต่ละชุดสูงสามเมตรพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าใส่เหล่านักสู้เป็นภาพที่น่าทึ่ง

รังสีหอกระดมพุ่งลงมาดุจสายฝน

ผู้เหลือรอดของกลุ่มโจรสายลมถูกหอกแทงใส่ร่างกายมากมาย

วิทยายุทธระดับหก รังสีหอกเจิดจ้า

ปัง!

อาวุธจักรกลบรอนซ์ทั้งสามสิบลงมายืนบนพื้นพร้อมกัน  พื้นที่ต่อสู้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปหมด

ม่อจื่อหวีไม่อาจทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้า  เขามองดูพวกที่ล้มลง  ทุกคนนอนหมดแรงและเลือดไหลนองในพื้นที่

อาวุธจักรกลวิญญาณหน่วยที่หนึ่งมีการ์ดระดับหกสามใบใส่ไว้คือหัตถ์มีดใหญ่, ดรรชนีลอยลมและรังสีหอกเจิดจ้า

กลยุทธที่หนึ่งความจริงก็คือการผสานวิทยายุทธที่แตกต่างกันสามวิชาและดำเนินการสอดคล้องประสานกัน

ถังโฉ่วรู้ว่าเขามีทักษะควบคุมรังสีไม่ดี ดังนั้นเขาทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการฝึกในเรื่องแผนการรบและฝึกเพลงกระบี่ของเขา  ทุกส่วนของแผนรบในหน่วย ถังโฉ่วจะใส่ใจและวิญญาณทำความเข้าใจ ใช่ว่าการ์ดวิชาฝีมือทุกรูปแบบจะสะสมกันได้ถึงร้อยใบ  และแต่ละใบจะมีคุณภาพที่คล้ายใบอื่นๆ

ความจริงถังโฉ่วมีฝีมือสร้างแผนการรบที่น่ากลัวขึ้นมาก แต่เขามีความสามารถจำกัดจึงต้องรับการ์ดวิญญาณที่มีคุณภาพระดับเดียวกัน

แม้ว่าจะเป็นเพียงการ์ดวิทยายุทธสามวิชา แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาสามารถสะสมไว้ได้มากมายขนาดนี้

ขณะที่ถังโฉ่วกำหนดสร้างกลยุทธเหล่านี้เขามักจะถูกนักเรียนถาม เนื่องจากไม่มีใครเคยทำเช่นนั้นสำเร็จมาก่อน การ์ดวิทยายุทธปกติจะใช้พัฒนาอาวุธจักรกลวิญญาณ  แม้ว่าอาวุธจักรกลวิญญาณ จะมีการ์ดวิชาใส่เข้าไปในนั้น  แต่เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะปล่อยพลังและอำนาจที่คล้ายกันขณะเปรียบเทียบพวกเขาที่ฝึกฝนการ์ดเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก

สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้นักเรียนมากยิ่งขึ้นก็คือการ์ดที่จะนำมาใช้จะถูกใช้ในการโจมตีหลัก

ทั้งม่อจื่อหวีและม่ออู๋เหว่ยไม่เข้าใจว่ากองทัพจะดำเนินการรุกแต่ทำตามแผนของถังโฉ่วได้ยังไง

ถังโฉ่วมีฝีมือที่สูงส่งเมื่อใช้ร่วมกับกลยุทธ วิธีการใช้หัตถ์มีดใหญ่เมื่อใช้ดรรชนีลอยลมจะต้องใช้กี่ครั้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกระโจนสูง

จากมุมมองตรงนี้ สามารถเห็นได้ว่าถังโฉ่วมีมาตรฐานสูงในการประสานงาน แต่ในทางกลับกันเขาไม่ได้เน้นการฝึกท่ารุกทั้งสามแบบ เขาใช้เวลาเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์สงครามให้พวกเขาฟัง

ทุกคนตกตะลึง

พวกเขาฝึกกันทุกวัน  ตราบใดที่มีช่องว่างให้โจมตี  พวกเขาต้องเริ่มโจมตีจากด้านบน

ในไม่ช้า ไม่มีใครในกลุ่มที่ตามนับจำนวนครั้งที่พวกเขาได้ฝึกรุกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ลับหลังแล้วมีนักเรียนบางคนคุยกันเกี่ยวกับเรื่องแผนรบของถังโฉ่วพวกเขากล่าวว่ากลยุทธของถังโฉ่วเชยเหมือนชื่อเขา ทั้งน่าเบื่อและน่าเกลียด

แต่...

ม่อจื่อหวีและนักเรียนหน่วยที่หนึ่งยืนอย่างหวาดกลัว  เพราะสังหารไปตามแผนรุกของถังโฉ่ว  ศพเปื้อนโลหิตเกลื่อนอยู่บนพื้น

ไม่มีใครอยากเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็น

กลศึกที่น่าเบื่อและง่ายๆ อย่างนั้นมันสามารถสร้างพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่รุนแรงได้ยังไง

สนามต่อสู้ตกอยู่ในความเงียบ

กงจิ่วยืนตะลึงด้วยความกลัว  กลุ่มโจรสายลมได้ถูกก่อตั้งและได้ยืนหยัดเคียงข้างเขาต่อสู้ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน  ระลอกพลังโจมตีที่เขาได้เห็นประจักษ์ทำให้เขาเย็นสันหลังวาบ

ทหาร!

นี่คือวิธีการต่อสู้ของกองกำลังทหารที่น่าทึ่ง

เขาสู้ศึกมานับไม่ถ้วนพิชิตศึกมาหลายเมืองหลายดวงดาว  แต่ทั้งหมดนี้เขาแพ้เพียงสองครั้งเท่านั้น  และทั้งสองครั้งเป็นการแพ้ให้กับกองทัพ  ในแต่ละครั้ง เขาจะมีทหารผู้แข็งแกร่งอยู่ใต้บังคับบัญชาในทุกครั้งกระบวนศึกของเขาจะน่ากลัวมากกว่าครั้งก่อนแต่ก็ยังเป็นการพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพ

กองทหารที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่ต่อหน้าเขาโดยรวมนั้นน่าชื่นชมทั้งความแข็งแกร่งและกลยุทธที่ใช้  ศักยภาพทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมาเต็มที่

ภาพที่เหลือในความทรงจำและภาพปัจจุบันนั้นคล้ายกันมาก

เขาหลงกล!

กงจิ่วเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งทรงพลังและรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล

เขาตะโกนขึ้นโดยไม่ลังเล “ถอย!”

กลุ่มโจรสายลมทั้งหมดถอยออกไปเหมือนกับคลื่นบนชายหาด

คุณชายผู้สังเกตการณ์รบอยู่ในที่ไกลตกตะลึงกับความแคลื่อนไหวของพวกเขา“ทำไม... ทำไมพวกเขาถึงได้ถอนกำลัง?”

พี่ชายของเขานั่งลงแล้วท่าทางที่น่าประหลาดใจบนใบหน้าของเขาหายไป เขายืนขึ้นพึมพำ “ศัตรูของพวกเขาคือกองทัพ นั่นถือว่าเป็นกองทัพอาวุธจักรกลเท่าที่เคยเห็นจริงๆ”

“กองทัพ?  กองทัพอาวุธจักรกล?”  คุณชายเจ้าสำอางตอบ จากนั้นยิ้มแล้วชี้ไปที่กลุ่มอาวุธจักรกลที่อยู่ในระยะไกล  “พี่, ท่านกำลังพูดถึงกองกำลังตุ๊กตาเหล่านั้น...”

ใบหน้าของพี่ชายเขามีท่าทางเคร่งขรึม  รอยยิ้มของคุณชายค่อยๆ จางหายไป  “พี่, เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่ไหม...”

“ข้าไม่ได้ล้อ”  พี่ชายเขาตอบขึงขัง  “ข้าต้องรายงานความสูญเสียครั้งนี้ให้ท่านพ่อทราบโดยเร็ว”

คุณชายเกออุทาน “พี่!”

สถานการณ์นี้ร้ายแรงจนต้องรายงานให้ท่านพ่อรู้ด้วยเหรอ?

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ในช่วงนี้อย่าเคลื่อนไหวสร้างปัญหาใดๆ เด็ดขาด!”  พี่ชายของเขากล่าว “ผลของการรบครั้งนี้เกินกว่าที่เราคาดหมายแน่นอน”

คุณชายเกอสิ้นหวัง

บุรุษหนุ่มชุดยาวหันไปกล่าวกับนักสู้ผมทองผู้นั่งอยู่ใกล้คุณชายเกอ  “ดูแลคุณชายให้ดี”

นักสู้ผมทองรู้ว่าคุณชายผู้พี่สั่งให้เขาจับตาดูคุณชายผู้น้อง  “ขอรับ”

แค่เพียงสะบัดแขนบุรุษหนุ่มชุดยาวก็หายและออกไปจากห้อง

ข่าวของการรบด้วยกองกำลังอาวุธจักรกลมีค่าและบุรุษชุดยาวตื่นเต้นที่ได้รับทราบข่าวนั้น

ปิงเพ่งมองความเคลื่อนไหวของกองกำลังทั้งฝ่ายของเขาและและศัตรูจากนั้นวิเคราะห์หลักสูตรการต่อสู้

เขาเตรียมพร้อมเข้าต่อสู้ทุกเมื่อ  แต่ก็ต้องชะงักเพราะพลังของกองกำลังถังโฉ่ว

เขารู้สึกทึ่งกับแผนการรบของถังโฉ่ว  นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คาดไว้ก่อน

เขาไม่เคยตระหนักเลยว่าถังโฉ่วจะสร้างผลกระทบได้ เขามีการจัดตั้งกองทัพและการฝึกฝนเป็นอย่างดี  และถังโฉ่วมีความมั่นใจพอสร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่หลังจากการแสดงฝีมือครั้งนั้น

คำพูดของผี่ผาและกลศึกของถังโฉ่วดูเหมือนจะเปิดประตูเขาเข้าสู่โลกวิชาต่อสู้

เขาเพิ่งจะได้เห็นจากคนรุ่นใหม่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด