ตอนที่ 393 - วงแหวนผนึกโบราณ
หลังจากต่อสู้เสร็จแล้ว อาหมันและภูตควันไฟกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ สำหรับนางพญาดอกหนามมงกุฏทองกลับเข้าไปหลังจากใช้เถาต้นดอกหนามบดขยี้และกลืนเยาถงลงไป ส่วนตั๊กแตนมัจจุราชยังคงอยู่กับเจ้านาย
การต่อสู้ระหว่างนักสู้ปราณก่อกำเนิดสองคนจบลงแล้ว
แต่การต่อสู้ระหว่างนักสู้ธรรมดาเพิ่งเริ่มขึ้น
บริวารของซานเซียวและเซวี่ยเหอตรงเข้าต่อสู้กับบริวารของเยาถงอย่างเหี้ยมหาญ เป็นการต่อสู้นองเลือดของทั้งสองฝ่าย
ขวัญและกำลังใจของบริวารเยาถงตกต่ำ ขณะที่ทุกคนคิดแต่จะออกไปจากป้อมสายฟ้า สมกับคำกล่าวที่ว่าเมื่อไม้ใหญ่ล้ม ฝูงลิงกระจัดกระจาย ตอนนี้เยาถงเจ้านายของพวกเขาถูกฆ่าตาย พวกเขารู้ว่าไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ใดๆจากการอยู่ในป้อมสายฟ้าต่อไปได้อีก แต่ซานเซียว, เซวี่ยเหอและคนของพวกเขาจะปล่อยให้พวกเขาไปได้ง่ายๆ ยังไง? เรื่องผู้มีอำนาจคนใหม่ พี่น้องไตตันที่เข้าแทนที่เยาถงในป้อมสายฟ้า นี่คงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่พวกเขาจะแสดงความสามารถและเอาชนะใจของพี่น้องไตตัน
ยิ่งกว่านั้น คนของเซวี่ยเหอและซานเซียวก็มีพอๆ กับคนของเยาถง
พวกเขาต้องการสั่งสอนอีกฝ่ายหนึ่งมาโดยตลอด
“ไสหัวไปซะ” การต่อสู้อีกด้านหนึ่ง เซี่ยอีกับหญิงสาวกรงเล็บดำต่างก็อาบเลือดต่อสู้กันจนบอบช้ำทั้งคู่ พูดถึงในเรื่องพลัง หญิงสาวกรงเล็บดำยังเหนือกว่าเซี่ยอีอยู่มาก แต่สิ่งที่ทำให้นางพ่ายแพ้คือความตั้งใจของนาง และตอนนี้ ด้วยพลังแข็งแกร่งที่เซี่ยอีเพิ่งจะค้นพบและแรงสนับสนุนจากภริยาของหม่าหลง, พ่อบ้านเหยียนเจิ้งและคนอื่นๆ นางก็ยิ่งมีความฮึกเหิมและห้าวหาญ ขณะที่นางปล่อยพลังจนเกินศักยภาพปกติของนางไปมากและสู้กับหญิงสาวกรงเล็บดำได้ด้วยพลังทั้งหมดของนาง หญิงสาวกรงเล็บดำถึงกับรับมือเซี่ยอีไม่ได้ ฉากเช่นนี้ทำให้เจ้าอ้วนจั๊ดด์ที่ถูกหญิงสาวกรงเล็บดำเตะปลิว ถึงกับปากอ้าตาค้างด้วยความตกใจ
“เจ้าฝันหวานไปเถอะ!” เซี่ยอียืนหยัดแน่วแน่
นางไม่แน่ใจว่านางสามารถต่อกรกับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้อย่างไรกัน
ด้วยพลังดั้งเดิมของนาง นางคงถูกหญิงสาวกรงเล็บดำพิชิตพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่เรื่องที่แปลกก็คือเซี่ยอีรู้สึกว่าแค่อ่อนแอกว่าหญิงสาวกรงเล็บดำเพียงเล็กน้อย และยังสามารถต่อสู้กันต่อไปได้สามวันสามคืนโดยไม่มีผู้ใดได้ชัยชนะ
แต่เพราะเซี่ยอีไม่มีเวลาคิดให้ลึกซึ้ง ขณะที่นางกัดฟันสู้ต่อไป นางสาบานว่าต้องเอาชนะศัตรูให้ได้
หญิงสาวกรงเล็บดำสร้างบาดแผลให้กับเซี่ยอีอยู่หลายแห่ง แต่นางอดทนไม่ตะโกนออกมา เซี่ยอียังคงรับมือนางต่อไป
มีดสังหารปีศาจของนางสามารถสร้างบาดแผลได้มากกว่าสิบแห่งทำร้ายผิวและเนื้อของหญิงสาวกรงเล็บดำ
ผู้ที่หวาดกลัวเกินไป พลังย่อมลดลงอย่างมาก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งห้าวหาญ พลังต่อสู้ของนางกลับเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ด้วยการชดเชยการได้เปรียบเสียเปรียบเหล่านี้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ยันกันอยู่ได้
การต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดที่ชะงักค้าง
หญิงสาวกรงเล็บดำทั้งโกรธและกลัวไม่สามารถอดทนต่อแรงกดดันทางจิตใจได้อีกต่อไป
เมื่อนางเห็นเยาถงล้มลงตายกับพื้น นางตัดสินใจเลิกต่อสู้และปล่อยหมอกไอพิษบดบังทัศนวิสัยเซี่ยอี จากนั้นนางแปลงเป็นงูหลามเงินขนาดยักษ์ กระแทกเหยียนเจิ้งและภรรยาของหม่าหลงผู้ขวางทางมิให้นางออกไป
พอเห็นหญิงสาวกรงเล็บดำพยายามหลบหนี เงาดำสายหนึ่งพุ่งวาบเข้ามาในอากาศ
ตั๊กแตนมัจจุราชปรากฏตัวและพุ่งเข้าหานาง
ก่อนนี้ สาเหตุที่การต่อสู้ชะงักงันเป็นเพราะมันต่อสู้อยู่กับมังกรยักษ์สองหัว ไม่ใช่เพราะมันทรงพลัง แต่เป็นเพราะมันเป็นอสูรแพลตตินัมระดับเก้า ความจริงเป็นเรื่องชัดเจนอยู่แล้วว่าตั๊กแตนมัจจุราชกับมันแตกต่างกันมาก ทั้งในเรื่องระดับ, ขนาดและพลัง แม้ว่าตั๊กแตนมัจจุราชกำลังเติบใหญ่ แต่มันยังไม่เติบโตจนเต็มศักยภาพสูงสุดของมัน ว่ากันในเรื่องขนาด มันยังตัวเล็กกว่าแม่ของมันอยู่มาก
แม้ว่ามันยังไม่สามารถโค่นล้มมังกรสองหัวได้ทันที แต่นี่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่สามารถจัดการสตรีกรงเล็บดำได้
ฉวยโอกาสเช่นนี้ ตั๊กแตนมัจจุราชพุ่งลงมาราวกับประกายไฟ ใช้แขนเคียวของมันเกี่ยวหัวงูหลามเงินยักษ์ไว้ได้ จากนั้นมันกัดกินหัวของนางด้วยฟันที่แหลมคมและฉีกเอาผลึกเวทในหัวของนางออกมากิน
งูหลามเงินบิดม้วนร่างอย่างหวาดกลัว ขณะที่มันพยายามทำให้ตั๊กแตนมัจจุราชหายใจไม่ออก
แต่สำหรับตั๊กแตนมัจจุราช การทำเช่นนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลก เพียงแค่มันกระพือปีก ก็เปลี่ยนสถานการณ์ได้ทั้งหมด
มันหลีกเลี่ยงพลังบีบรัดคอของงูหลามเงินได้ และพยายามเขย่าศีรษะงูหลามเงินอย่างรุนแรง
แขนเคียวที่ทรงพลังของมันเจาะเข้าที่กระดูกสันหลังของงูหลามเงิน
พอแทงผ่านกระดูกสันหลัง มันตัดเข้าที่ข้อต่อของงูหลามเงิน
จุดอ่อนของงูอยู่ในกระดูกสันหลังและจุดรวมปราณของมัน ทันทีที่พื้นที่บริเวณนี้ถูกโจมตี งูจะอ่อนแรงและไร้กำลัง
งูหลามเงินม้วนกลิ้งกับพื้นอย่างรุนแรงในตอนแรก แต่ต่อมาจนถึงที่สุด คอของมันก็ชา และเหลือแต่เพียงหางที่ยังขยับได้ จากนั้นแม้แต่หางของมันก็เริ่มขยับช้าลงและในที่สุดก็แน่นิ่งอยู่กับพื้นไม่ขยับอีกต่อไป แม้ว่ามันจะยังไม่ตาย แต่ก็อ่อนแอเกินกว่าจะดิ้นรนต่อสู้ตั๊กแตนมัจจุราช ขณะที่ตั๊กแตนมัจจุราชเริ่มกินนาง พอเห็นเช่นนี้ เซี่ยอีจึงเริ่มผ่อนคลายและทรุดตัวลงกับพื้น จมกองเลือด
ภรรยาของหม่าหลงอุ้มประคองนางไว้ทันที “ยินดีด้วย, น้องเรา เจ้าเอาชนะศัตรูแข็งแกร่งได้สำเร็จ ถ้าเจ้าไม่ว่ากระไร ข้าจะช่วยรักษาแผลให้เจ้า”
เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์มีหัวคิดไว เขาได้เรียกหมอที่ดีที่สุดมารออยู่แล้ว
เกี่ยวกับเรื่องจัดการความยุ่งยาก เย่ว์หยางไม่ต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย
มีบางคนช่วยจัดการให้เขา
เซวี่ยเหอ, ซานเซียวและหม่าหลงทุกคนกระตือรือร้นที่จะติดต่อข้องเกี่ยวกับนักสู้ปราณก่อกำเนิดอย่างเย่ว์หยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขารู้ว่าทั้งสองพี่น้องมีพลังเท่าเทียมกัน เซวี่ยเหอเชิญให้เย่ว์หยางไปเยือนวังเซวี่ยเหอของเขาและบอกเขาว่า เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินของเยาถงปล่อยให้คนของเขาจัดการก็ได้ ทรัพย์สินทุกอย่างทุกอีแปะจะส่งผ่านถึงมือเย่ว์หยางไม่ตกหล่นในที่สุด แน่นอนว่าเย่ว์หยางไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับจำนวนเงินอยู่แล้ว สมบัติที่ดีที่สุดต้องซ่อนอยู่ในแหวนเก็บของแพลตตินัมเขาเยาถง, เหมืองของเขา, ร้านของเขาและวังเยาถงที่เขาอาศัยอยู่ เย่ว์หยางแค่สั่งให้จั๊ดด์และพ่อบ้านเหยียนเจิ้งรับมอบทรัพย์สินทั้งหมด
“พี่ชายข้าและข้าแค่แวะผ่านมาที่ป้อมสายฟ้า จึงตัดสินใจจะพักอยู่ชั่วคราว เพราะที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์เข้มงวดมากนัก หลังจากนั้นเราจะย้ายไปที่หอทงเทียนชั้นเจ็ด” เย่ว์หยางบ่งบอกความตั้งใจของเขา ไม่คิดอยู่รั้งอยู่ในที่เล็กน้อยอย่างป้อมสายฟ้า และเรื่องเช่นนั้น ทำให้ซานเซียว, เซวี่ยเหอและหม่าหลงยินดีอย่างยิ่ง
“ชื่อเสียงของพี่น้องไตตันจะต้องโด่งดังไปทั่วหอทงเทียนแน่นอน แม้ว่าป้อมสายฟ้าจะเป็นที่เล็กน้อย แต่เรายินดีสนับสนุนท่านทุกเมื่อ” เซวี่ยเหอตอบรับอย่างรวดเร็ว
“ถ้าท่านต้องการสิ่งใด โปรดบอกพวกเราได้” ซานเซียวก็มีทักษะสร้างสัมพันธ์กับผู้คนได้มากเช่นกัน
“พวกเราจะไม่ฉลองโอกาสที่น่ายินดีนี้ได้ยังไง สุราก็มีแล้ว วันนี้ข้ามีสุราจากทวีปฉีหลานมาขวดหนึ่ง มาร่วมดื่มฉลองกับข้าหน่อยเป็นไร” หม่าหลงเจ้าเมืองใต้พิภพหยิบเหล้าจากทวีปฉีหลานออกมาขวดหนึ่ง เป็นเหล้าที่เขาเก็บเอาไว้นานแล้ว สุราที่ล้ำค่านี้เป็นของขวัญจากแอนตันในอดีต กล่าวกันว่าสุราฉีหลานปรุงโดยเซียนสุราคนหนึ่ง และมีอยู่เพียงสิบขวดพบอยู่ในทวีปฉีหลานเท่านั้น มันถูกผนึกเก็บไว้นานพันปีตามนาฬิกาทรายและมีมูลค่านับหมื่นเหรียญทอง มีเงินก็จับจ่ายซื้อหาอะไรก็ได้ง่ายๆ แต่สุราดียากจะหาได้ หม่าหลงแม้จะไม่เต็มใจเตรียมมอบให้ราชาฉงนี่ ทว่า ขณะที่หม่าหลงรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีส่วนสำคัญในวันนี้ และเพื่อสร้างความพอใจให้เย่ว์หยาง เขาตัดสินใช้สุรานี้ร่วมฉลอง
“พี่หม่าหลง ทำไมท่านไม่เอาสุราดีๆ อย่างนั้นออกมาให้เร็วกว่านี้? ฮ่าฮ่า มันคือผลผลิตของเซียนสุราและนับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่า” เซวี่ยเหอและซานเซียวพอได้ยินเท่านั้นหนอนสุรากำเริบทันที ขณะที่สุราฉีหลานเป็นของที่ไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน
กระบวนยึดทรัพย์ของเยาถงทั้งหมดไม่อาจทำได้เร็วนัก
คฤหาสน์ใต้ดินของแอนตันไม่อาจเทียบได้กับวังของเยาถง
เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ใช้คนของพวกเขาทั้งหมดจัดการปลดเครื่องหมายของเยาถงตามที่ต่างๆ ในวังของเขาและใส่เครื่องหมายเจมินีของเย่ว์หยางแทน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง เมื่อจั๊ดด์งานยุ่ง และพวกสาวใช้ก็ช่วยกันจัดความเรียบร้อยในวังของเยาถง มันอาจเปลี่ยนไปเป็นวังของพี่น้องไตตันก็ได้
ขณะที่ทาสของเยาถง บ้างก็หลบหนี หรือไม่ก็ถูกจับ
ทาสหญิงของเขาถูกจับขังในที่ห่างออกไป รอคอยให้พ่อบ้านเหยียนเจิ้งตัดสินใจดูว่าผู้ใดซื่อสัตย์ ก็สามารถให้ทำงานรับใช้ต่อไปได้
หลังจากเย่ว์หยางเดินออกมาจากวังของเซวี่ยเหอและเข้าไปยังที่พักใหม่วังไตตัน เขาพบว่าคนจำนวนมากกำลังวุ่นวายกับการจัดสถานที่และพวกทาสจากเหมืองก็ทาสีผนังห้องอย่างมีความสุข โดยเฉพาะผู้เฒ่าพิพพินมีหน้าบานเหมือนดอกไม้ พี่น้องเซี่ยผู่กำลังเหงื่อโชกขณะที่พวกเขาปลดเครื่องหมายของเยาถงที่ทนทานอย่างเต็มความสามารถ เซี่ยอีที่เพิ่งจะฟื้นจากอาการบาดเจ็บหลับอยู่ที่บันไดประตูทางเข้าข้างนอก
ทาสหญิง 2-3 คนคอยคุ้มกันนาง แต่พวกนางไม่กล้าเกลี้ยกล่อมให้นางไปพักผ่อนข้างใน ขณะที่พวกนางรู้สึกว่านางอาจกำลังคอยไตตันน้อย เจ้านายนาง
พวกทาสทั้งหมดที่ผ่านเซี่ยอีไปจะค้อมศีรษะให้นางเล็กน้อย
พี่น้องไตตันเป็นเจ้านายที่ดี นั่นเป็นเรื่องแน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นางเซี่ยอีเรียกร้องสิทธิให้พวกทาส ท่านไตตันน้อยคงจะไม่ได้ให้อะไรพวกเขามากนัก อย่างน้อยก็ไม่เร็วมาก เพราะพวกเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้มีสถานะสูงส่ง พวกเขาคงไม่สนใจความเป็นอยู่ของพวกทาส
เป็นเพราะเซี่ยอีบอกความต้องการของพวกทาสให้พวกเขาทราบ
“ให้คนพานางไปพักผ่อนเถอะ จะให้นางพักอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” เย่ว์หยางถอดชุดนอกคลุมตัวเซี่ยอี
แม้ว่าเป็นแค่เพียงเสื้อคลุมนอก แต่ก็สร้างความปลาบปลื้มให้ทาสทุกคน
ในโลกนี้ คงไม่มีเจ้านายที่ดีกว่านี้แล้ว มีแต่ท่านไตตันน้อยที่ใส่ใจกับพวกทาสมาก ถ้าเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนอื่น พวกเขาอาจไม่ชำเลืองตามองดูด้วยซ้ำ
สาวลูกครึ่งเอลฟ์ยังคงวุ่นวายกับการจัดเตรียมห้องนอนใหม่ให้เจ้านาย นางไม่เลือกห้องนอนหรูหราขนาดใหญ่ที่เยาถงเคยเป็นเจ้าของ เพราะจมูกนางอ่อนไหวเรื่องกลิ่น นางรู้สึกว่าห้องมีกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเน่าแปลกๆ แม้ว่าจะผ่านไปเป็นเวลานานแล้ว นางก็รู้สึกว่าเหมือนเป็นการดูถูกหากจะให้เจ้านายนางอยู่ในห้องอย่างนั้น ดังนั้น นางตัดสินใจว่าให้เย่ว์หยางพักห้องเล็กสุดหรูที่อยู่ใกล้ห้องโถงจุดชมทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้น
เย่ว์หยางเอาอาหารค่ำที่สาวลูกครึ่งเอลฟ์จัดเตรียมกลับไปที่โลกในคัมภีร์หลังจากลูบศีรษะนางแล้ว
หลังจากพักหนึ่งคืน ขณะที่สมบัติในที่เก็บอยู่ในแหวนแพลตตินัมของเยาถงมีมากมายจริงๆ เย่ว์หยางชมดูสมบัติเหล่านั้นจนมึนงง ดังนั้นเขาตัดสินใจปล่อยเอาไว้ชั่วคราวก่อน สำหรับมารมังกรฟ้า เขายึดสมบัติในคัมภีร์ของเขาทั้งหมด ดังนั้นเย่ว์หยางต้องเก็บออกมาให้เต็มความสามารถ
คนที่อยู่ด้านนอกยังคงยุ่งอยู่กับงาน มีแต่เย่ว์หยางที่ว่างงานเดินเตร่ไปมา
พวกทาสที่เขาผ่านไปเยี่ยมดูก็มีขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่พวกเขาร่วมมือกันทำงานแข็งขัน
แต่เย่ว์หยางรู้สึกเบื่อ
เขาไม่ได้มีนิสัยช่างตรวจสอบเหมือนเป็นผู้นำ
ในที่สุด เขาตัดสินใจไปรับรางวัลที่สมาคมนักรบก่อน
การฆ่าเยาถงจะทำให้เขามีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาควรยอมสละผลปัญญาและรับน้ำพุอมตะจากสมาคมนักรบแทน ถ้าเป็นสมบัติระดับแปดที่ไม่อาจหาซื้อได้ด้วยเงินและสามารถช่วยในการหล่อโลหะเพื่อสร้างเครื่องมือและทำยา และเพิ่มพลังให้สัตว์อสูร ที่สำคัญที่สุด น้ำพุอมตะมีผลช่วยเสริมพลังเป็นอย่างมาก ถ้ามันถูกปรุงร่วมกับของกินได้อย่างอื่น ก็มีโอกาสสูงที่ของเหล่านี้จะกลายเป็นสภาพถาวร ถ้าเงาปีศาจยักษ์ถูกเรียกออกมาและอยู่ได้ถาวร และแต่ละตัวซ้อนทับร่างของเย่ว์หยางได้ เขาคงสามารถเอาชนะแม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว
แน่นอนว่าน้ำพุอมตะยากที่จะหามาได้ เย่ว์หยางไม่มั่นใจว่าสมาคมนักรบยินดีจะให้เขาเป็นรางวัลหรือไม่
แม้ว่าพวกเขาจะมีเงื่อนไขให้รางวัล แต่ก็คงมีไม่มาก
สำหรับความตายของมารมังกรฟ้า เย่ว์หยางตัดสินใจปกปิดความจริงไว้ชั่วคราว เพราะเขาสังหารหนึ่งในสิบมารฟ้าแห่งวังมารนั่นเอง มารสัมฤทธิ์ฟ้าและมารฟ้าที่เหลือจะทำอะไรบ้างไหมหากพวกเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้น?
ในกรณีเช่นนี้ รางวัลฆ่ามารมังกรฟ้าก็คงไม่ถึงกับเล็กน้อย หากเขาจะเลือกรับเอาในภายหลัง
หลังจากเทเลพอร์ตไปที่ลานกว้างหอทงเทียนชั้นหก เย่ว์หยางเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็พบเป่าเอ๋อวิ่งตรงมาที่เขาตะโกนลั่นว่า “พ่อครัว” เย่ว์หยางยินดียิ่งนัก แต่คิดว่าจะถูกต้องมากกว่าถ้านางเรียกเขาว่า “ยอดรัก” แทน.. พอเห็นเด็กสาวเอลฟ์มีเหงื่อท่วมตัวกระทั่งปลายจมูกก็ยังมีเหงื่อ และร่างนางก็มีกลิ่นพรหมจรรย์ที่ไม่เหมือนใคร เย่ว์หยางเดินตรงไปหาและเสียดสีนางเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการกระทำของเขากลับแตกต่างเป็นอย่างอื่น “แม่หนูน้อย ปล่อยข้าเถอะ ข้าไม่รู้จักเจ้า”
“เราพบวงเวทผนึกโบราณในป่าหยกคราม พวกเราทุกคนไม่อาจระบุได้ และพี่แอนนาและพี่ชายบอกว่ามันคือวงเวทผนึกเมื่อนานมาแล้ว ทุกคนพยายามปลดผนึกและพี่ชายขอให้ข้ามาตามท่านกลับไปดูด้วย” เป่าเอ๋อคุยฟุ้งด้วยความภูมิใจ ขณะที่นางพูดเหมือนกับว่านางเป็นคนพบผนึกเสียเอง
“พระเจ้า, ใครขอให้พวกเจ้าทุกคนไปยุ่งกับมัน? มันคือสิ่งที่พวกเจ้าจะเล่นได้หรือ?”
ผนึกโบราณใช้ผนึกอะไรอยู่กันแน่?
สิ่งที่ถูกผนึกไว้ภายในอาจเป็นอสูรจอมทำลายล้าง หรือสัตว์ประหลาดที่ไร้สำนึกมโนธรรม หรืออาจเป็นคำสาปที่น่ากลัวก็เป็นได้
เขาแบกเป่าเอ๋อขี่หลังวิ่งไปที่สมาคมนักรบ เขาไม่ยอมเสียเวลาขอแลกน้ำพุอมตะขณะที่พุ่งเข้าไปในห้องเทเลพอร์ต “ป่าหยกเขียว เรื่องเร่งด่วน ดำเนินการเทเลพอร์ตเดี๋ยวนี้!”
*************