ตอนที่แล้วตอนที่ 12-33 คลื่นผู้อพยพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12-35 เขี้ยวเล็บ

ตอนที่ 12-34 รับภาระหนัก


การเดินทางอย่างกะทันหันทำให้กลุ่มคนในปราสาทเลือดมังกรรู้สึกค่อนข้างกังวล

“ท่านพ่อ, เหตุผลที่ท่านลุงเพิ่งออกไป เพราะเขากำลังจะไปหา...? ซีนาพูดเสียงเบา

แม้ว่าเขายังพูดไม่จบก็ตามแต่ทุกคนในหอโถงใหญ่ก็เข้าใจ พวกเขาสงสัยเหมือนกันว่าตัวการที่อยู่เบื้องหลังการปรากฏขึ้นของเมืองมรณะเป็นวงกว้างในจักรวรรดิโรฮอลท์ก็คือเทพ  ถ้าลินลี่ย์ต้องสู้กับเทพอีกตนหนึ่งผลจะเป็นยังไง?

“ตอนนี้อารมณ์ของพี่ใหญ่ยังดีอยู่มาก”  วอร์ตันขมวดคิ้ว “แม้ว่าเขาจะไม่อยากพัวพันหลายเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเขา  แต่เขาจะไม่ละเลยความรับผิดชอบของเขาเป็นแน่”

ตอนนี้ มันคือความรับผิดชอบของลินลี่ย์!

ทุกคนในห้องโถงใหญ่รวมทั้งเดเลียพยักหน้าเล็กน้อย

ตอนนี้นอกจากเทพฝ่ายมนุษย์จะอยู่ในสุสานเทพเจ้าแล้วมีเทพมนุษย์ที่เหลืออยู่ในทวีปยูลานก็คือลินลี่ย์และเดลี่ ลินลี่ย์และเดลี่ในฐานะเทพยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมนุษยชาติในพิภพนี้

สำหรับลินลี่ย์และเดลี่ ทวีปยูลานคือรากและพื้นฐานของพวกเขา!

แผ่นดินเกิดของพวกเขา!

เทพจากพิภพอื่นลงมายังมาตุภูมิของพวกเขาและเริ่มเข่นฆ่ามนุษย์ตามอำเภอใจ

ในเวลาอย่างนี้ ในฐานะเทพ, ลินลี่ย์และเดลี่ต้องออกรับถ้าแม้พวกเขาจะซ่อนตัวและเอาแต่ปกป้องตัวพวกเขาเอง...อย่างนั้นก็หมายความว่ามนุษย์ของทวีปยูลานจะต้องถูกยอดฝีมือที่หนีมาจากพิภพจองจำเกบาโดสฆ่าตายเปล่าๆมิใช่หรือ?

“เวลาอย่างนี้ทั้งหมดที่เราทำได้ก็คือพึ่งพาท่านลินลี่ย์และท่านเดลี่”ซีนาพูดอย่างอ่อนโยน

ต่อหน้าเทพ แม้แต่เซียนก็ต้องก้มหัวให้มีแต่เทพอื่นอย่างลินลี่ย์และเดลี่จึงจะสามารถขัดขวางพวกเขาได้

ภายในหมู่บ้านภูเขาที่เงียบสงัดที่เดลี่อาศัยอยู่

การมาถึงอย่างเร่งด่วนฉับพลันของลินลี่ย์สร้างความดีใจให้กับคนของเดลี่,เรย์โนลด์ก็เช่นกัน เขาไม่ได้พบกับลินลี่ย์มานานมากแล้วเขาต้องการจะสนทนากับลินลี่ย์ แต่ครั้งนี้ลินลี่ย์มาด้วยภารกิจสำคัญไม่มีใครกล้ารบกวนปล่อยให้ลินลี่ย์และเดลี่คุยรายละเอียดกันเอง

ภายในที่พำนักในภูเขา

ได้ยินเสียงพ่นของน้ำพุตลอดลินลี่ย์และเดลี่นั่งหันหน้าคุยกัน

ทั้งสองคนในตอนนี้เป็นมนุษย์ที่ทรงพลังที่สุดของทวีปยูลาน

“อะไรนะ!!!” เดลีพรวดพรวดลุกขึ้นลินลี่ย์เพิ่งจะเริ่มพูด แต่เดลีก็ตกใจเสียแล้ว

หน้าของลินลี่ย์หนักแน่นและพยักหน้า  “ใช่แล้ว พลเมืองในจักรวรรดิโรฮอลท์ถูกสังหารและหลายเมืองในตอนนี้กลายเป็นเมืองมรณะ ท่านควรจะรู้ว่าเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นในจักรวรรดิบาลุคมาก่อน  แต่ครั้งนี้มีเมืองมรณะมากเกินไป  ในช่วงเวลาสั้นๆ จำนวนคนตายเกินร้อยล้านคน!”

ตาของเดลี่เต็มไปด้วยอาการตกใจ  “ร้อยล้านคน ถ้าพวกเขาต้องถูกฆ่าในครั้งเดียวนั่นต้องใช้เวลาขนาดไหน?”

ร้อยล้าน!

จำนวนนี้พูดกันง่ายๆ เมืองหนึ่งปกติจะมีคนราวหมื่นคนในนั้นนี่ปรากฏว่าเป็นเมืองน้อยนับหมื่นเมือง

“ลินลี่ย์, เจ้าคิดว่าเราควรทำอย่างไร?”  เดลีมองดูลินลี่ย์

ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน ตาของเขาดูเหมือนกับมีเปลวไฟเสียงของเขาดังฟังชัด “เราควรจะทำยังไง? เดลี,ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทวีปยูลาน นี่ก็เป็นเรื่องของทวีปยูลานเรา!  เป็นเรื่องภายในทวีปเรา!”

“ทวีปยูลานคือรากเหง้าของเรา! ข้าจะไม่ยอมให้พวกเทพจากพิภพอื่นเหล่านั้นร่วมสังหารหมู่ในวงกว้างที่นี่   พวกเขาจะใช้ที่ของเราทำอะไร?เพื่อการฆ่าน่ะหรือ?”

หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธ

ลินลี่ย์มองเดลี่ “เดลี, ท่านตั้งใจจะเอาแต่หลบอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”

สายตาของเดลี่เปลี่ยนเป็นคมกล้าและดุร้ายเช่นกัน  “ลินลี่ย์, เจ้าคิดยังไงถึงได้พูดอย่างนั้น?ตอนนี้,  โอเบรียนและคนอื่นๆอยู่ในสุสานเทพเจ้า  บรรดาเทพชาวมนุษย์ของทวีปยูลานตอนนี้เหลืออยู่แต่เราเท่านั้น เจ้าคิดว่าข้าจะหลบซ่อนตัวในเวลาอย่างนี้หรือ?”

“ในเวลานี้มีคนเสียชีวิตไปเป็นร้อยล้านใครจะรู้กันว่าครั้งต่อไปจะมีคนตายเพิ่มอีกเท่าใด? ร้อยล้าน? พันล้าน?  ทั่วทั้งทวีปยูลานมีประชากรเพียงสองสามพันล้านเป็นไปได้ว่าภายในไม่กี่ทศวรรษทั้งทวีปยูลานจะกลายเป็นดินแดนปราศจากมนุษย์ที่มีชีวิตอีกต่อไป”  เดลีพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและรุนแรง  “ลินลี่ย์, มีบางเรื่องที่จำเป็นต้องทำมีชีวิตยืนยาวนานเกินไปไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องดี”

“ทวีปยูลานคือฐานของพวกเขา เป็นธรรมดาที่ข้าจะต้องยืนหยัดป้องกัน”

เสียงของเดลีมั่นคง

หน้าของลินลี่ย์มีรอยยิ้ม เดลี่หัวเราะเช่นกัน

ทั้งสองยอดฝีมือเข้าใจกันแล้วว่าแต่ละคนคิดอะไรอยู่

ความจริงทั้งสองคนไม่กลัวตาย  สิ่งที่พวกเขากลัวก็คือความตายเหมือนกับผักปลาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

เพื่อให้สามารถฝึกในกฎธาตุจนถึงขั้นกลายเป็นเทพก็หมายความว่าทั้งลินลี่ย์และเดลี่ทั้งคู่มีความปรารถนาที่กล้าแข็งมาก  ถ้าพวกเขาตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างต่อให้พวกเขาตาย พวกเขาก็จะทำให้สำเร็จ ถ้ามีผู้คนล้มตายในแผ่นดินเกิดของเขากกลายเป็นดินแดนประหัตประหารอย่างนั้นโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้  อย่างนั้นก็คงเป็นเรื่องที่แย่ยิ่งกว่าตาย

แสงแดดฉายลงมาต้องร่างพวกผู้ลี้ภัยบนถนนรกร้างทำให้เงาของพวกเขายืดขยายออกไป  เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งและใบหน้าที่สกปรกซูบซีดเต็มไปด้วยความกลัวขณะที่พวกเขายังมีความหวังถึงอนาคต พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อเดินทางขึ้นเหนือ

ในกลางอากาศ

ลินลี่ย์และเดลี่เคียงไหล่ชะงักงันตอนนี้ลินลี่ย์กับเดลี่เข้ามาในชายแดนจักรวรรดิโรฮอลท์

“ลงไปดูกันเถอะ ไปถามผู้อพยพเหล่านั้น  บางทีเราอาจทำความเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น”เดลี่กล่าว ตั้งแต่พวกเขาตัดเข้ามาในจักรวรรดิโรฮอลท์ หน้าของลินลี่ย์และเดลี่ก็ไม่มีรอยยิ้มอีกเลย  สีหน้าของพวกเขาเคร่งเครียดมาก

จักรวรรดิโรฮอลท์ตกอยู่ในสภาพวุ่นวายที่สุด

สายลมพัดวูบแล้วหายไปลินลี่ย์และเดลี่ปรากฏตัวในท่ามกลางดงหญ้าข้างถนนรกร้าง  จากนั้นเดินออกจากดงหญ้าขึ้นไปบนถนน  บนถนนสายนี้มีผู้ลี้ภัยหนีออกไปจำนวนมากไม่มีใครให้ความสนใจลินลี่ย์และเดลี่

“พวกเขาต้องทนทุกข์หนักมากมายเพียงไหน?”  เดลี่มองดูหม่นหมองแววตาหวาดผวาในดวงตาของผู้ลี้ภัยเหล่านั้นทำให้เขาถอนหายใจพูดพลาง

ลินลี่ย์มีความรู้สึกในใจอย่างเดียวกับเขา

ทันใดนั้นสายตาของลินลี่ย์มองเห็นบุรุษหนุ่มร่างกายกำยำ  สายตาของบุรุษหนุ่มนั้นแน่วแน่และบนหลังของเขาแบกหญิงชราผมหงอกคนหนึ่ง   ในคนเป็นร้อยที่เห็นลินลี่ย์รู้สึกว่าบุรุษหนุ่มดูเหมือนจะค่อนข้างมีน้ำใจและลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นนักรบระดับห้า

ลินลี่ย์เดินเข้าไปทันทีและเดลี่เดินตามเขา

เมื่อเห็นลินลี่ย์และเดลี่เดินเข้ามาหาบุรุษหนุ่มมองดูทั้งสองคนด้วยความระมัดระวังทันที “ใต้เท้า ท่านต้องการสิ่งใดหรือขอรับ?” เด็กหนุ่มร่างกำยำมีประสบการณ์มาบ้าง และเขารู้สึกได้ว่าสองคนที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ธรรมดา

“สหาย, ข้าอยากจะถามข้อสงสัย  เกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงทำให้พวกเจ้าต้องหนีออกมาอย่างนี้?” ท่าทีของลินลี่ย์ดูสุภาพมาก

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เด็กหนุ่มร่างกำยำงงเล็กน้อย “พลเมืองของจักรวรรดิโรฮอลท์เราถูกสังหารไปมากมายขอรับ ใต้เท้า,ข้าคิดว่าผู้ลี้ภัยทุกคนก็รู้เรื่องนั้น ทำไมพวกท่านถึงถามข้าเล่า?”

“ข้าก็รู้มาว่าพลเมืองหลายคนถูกฆ่าตายเช่นกัน  และนั่นเป็นจำนวนที่มากมายนัก ข้าก็แค่งงเพราะคนมากมายขนาดนั้นถูกสังหาร นี่ไม่น่าจะใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน  ทำไมพวกเจ้าถึงมาหนีเอาตอนนี้เล่าหลังจากที่ผู้คนถูกฆ่าตายไปหลายคน?”

ลินลี่ย์สงสัยเรื่องนี้มาตลอด

คนร้อยล้านคน

เซียนคนหนึ่ง ต่อให้ฆ่าคนได้หลายแสนในแต่ละวันก็ยังต้องใช้เวลาฆ่าหลายเดือน ข่าวเรื่องเหตุการณ์เมืองมรณะควรจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว   พลเมืองรอให้มีคนตายเกินร้อยล้านคนได้ยังไงก่อนที่จะมีการหนีลี้ภัยกันเป็นวงกว้าง

เขาถามซีน่าก่อนหน้านี้ แต่ทั้งหมดที่ซีน่ากล่าวก็มีแค่ว่าพวกเขายังไม่มีโอกาสสืบสวน

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้บุรุษร่างกำยำอดฝืนยิ้มไม่ได้  “ใต้เท้า,ถ้าท่านถามคนธรรมดา บางทีพวกเขาอาจไม่รู้คำตอบ” ขณะที่เขาพูดบุรุษหนุ่มร่างกำยำถอนหายใจยาว ลินลี่ย์และเดลี่อดจับตามมองดูไม่ได้

เห็นได้ชัดว่า เด็กหนุ่มร่างกำยำนี้รู้ความลับ

“โปรดบอกให้เราทราบด้วย” เดลี่กล่าว

เด็กหนุ่มร่างกำยำไม่รู้ว่าสองคนที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นเทพ  สายตาของเขาเต็มไปด้วยแววเจ็บปวดและจนใจ  “นี่ไม่ใช่เรื่องความลับใหญ่อะไร  เมื่อข้าประจำการอยู่ในกองพลบาร์โรว มีหลายคนที่รู้เรื่องนี้กันทั้งนั้น”

กองพลบาร์โรว?

ยอดฝีมือเร้นกายอย่างลินลี่ย์กับเดลี่จะให้ความสนใจกองพลของจักรวรรดิได้ยังไง?

“ราวๆ สามปีก่อน กองพลบาร์โรวของเรากองพลที่มีกำลังพลถึงสามแสนคนถูกแบ่งเป็นหน่วยย่อยหลายหน่วย  เราถูกส่งไปยังทางแยกต่างๆที่จะนำเข้ามาถึงจักรวรรดิ คำสั่งที่เราได้รับก็คือให้ประจำการอยู่ที่นั่น และว่าไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้ามา  ใครก็ตามที่กล้าผ่านเข้ามาจะต้องถูกฆ่า

เดลี่และลินลี่ย์ลอบตกใจ

พวกเขาเข้าใจแล้วในตอนนี้

นี่คือสาเหตุที่การเข่นฆ่าหมู่ถูกกล่าวอ้างว่าเสียชีวิตผู้คนไปนับร้อยล้านชีวิตก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความสับสน

“ตอนแรก, เราไม่เข้าใจเลย แม้ว่าจะมีคนสองสามคนที่ต้องการผ่านทางแยกที่เราควบคุมและพวกเขาพูดกันเรื่อง ‘เมืองมรณะ’ เราเหล่าทหารให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามคำสั่ง  เมื่อพวกเขาพยายามจะผ่านไปให้ได้เราก็ฆ่าพวกเขาทันที”

“ตอนแรกเมื่อเราฆ่าสองคนแรก เราไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ต่อมาคนแล้วคนเล่าที่ต้องการจะหนีผ่านจุดทางแยกของเราเป็นสหายของผู้บัญชาการของเราเพื่อประโยชน์แก่ผู้บัญชาการอาวุโสของเรา เราไม่ได้ฆ่าเขาทันที  แต่ใครจะคิดกันว่าคนผู้นี้บอกเราว่ามีหลายเมืองของภูมิภาคใต้ของจักรวรรดิถูกสังหารหมู่  ในบ้านเกิดของขุนพลอาวุโสของเรามีเพียงผู้รอดตายก็คือสหายผู้นั้น เหตุผลที่เขารอดตายก็เพียงเพราะว่าวันนั้นเขาไปล่าหมูป่าในภูเขาดังนั้นเขาจึงหลีกหนีภัยพิบัติครั้งนั้นได้”

ขณะที่บุรุษหนุ่มร่างกำยำพูด เสียงของเขาสั่น

“ตอนนั้นเราประจำการอยู่สองเดือนเต็ม”  บุรุษหนุ่มร่างกำยำพูดอย่างขมขื่น  “เวลานั้นเราตกตะลึงกันไปทั้งหน่วย  ขุนพลอาวุโสส่งคนไปสืบดูในเมืองที่ใกล้เคียงทันทีและผลก็คือ... พวกท่านน่าจะรู้”

บุรุษร่างกำยำส่ายศีรษะ “เราเตรียมจะแจ้งหน่วยอื่น แต่เราก็พบว่าเราไม่ใช่หน่วยแรกที่พบเจอเรื่องนี้  หน่วยอื่นพบเจอเรื่องนี้ก่อนเราเสียอีก”

ตอนนี้ ลินลี่ย์และเดลี่เข้าใจแล้ว

เมื่อพวกเซียนเคลื่อนไหวเพื่อเข่นฆ่าทั้งเมืองเมื่อพวกเขาแผ่กระจายพลังจิตครอบคลุมทั้งสถานที่กล่าวโดยทั่วไปไม่มีใครหลบหนีพ้นจากการสังเกตของพวกเขาได้  ผู้โชคดีรอดชีวิตโดยทั่วไปก็เหมือนกับบุรุษที่ออกไปล่าหมูป่าตอนกลางคืนต่อเมื่อพวกเขากลับมายังเมืองจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ดังนั้น จำนวนคนหลบหนีได้จึงต่ำมาก

แต่มีความเป็นไปได้มากมายในการหลบหนี  กองพลหนึ่งมีหลายหน่วยย่อย  พวกเขาทั้งหมดถูกส่งไปประจำการที่ทางแยกและมีแนวโน้มว่าจะได้พบกับผู้โชคดีรอดตาย แต่ผู้โชคดีรอดตายเหล่านั้นทั้งหมดจะถูกสังหาร

ที่สำคัญ ทุกคนเชื่อฟังคำสั่งเป็นหลัก

“หลังจากรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง พี่น้องในหน่วยของข้าทุกคนกลายเป็นปฏิปักษ์  พ่อแม่ของเรา คู่ครองของเราหรือลูกๆ ตายกันหมดผู้คนในบ้านเกิดของเราล้วนตายกันหมด จะมีประโยชน์อะไรที่พวกเราจะอยู่ในกองทัพต่อไป?”  บุรุษหนุ่มร่างกำยำก็โกรธเช่นกัน  “เทียบกับพี่น้องของข้าเหล่านั้นโชคของข้ายังดีอยู่บ้างเล็กน้อย บ้านเกิดของข้าไม่ได้อยู่ในภาคใต้ดังนั้นสมาชิกครอบครัวของเขาจึงหลบหนีภัยพิบัตินี้ได้”

บุรุษร่างกำยำหันไปมองดูสตรีชราบนหลังของเขา  สีหน้าของเขามีแววกังวล

“ขอบคุณ” ลินลี่ย์พูดอย่างจริงใจ

ครั้งนี้ลินลี่ย์กับเดลี่รู้สึกหนาวยะเยือก  พวกเขาเดาได้ว่าเรื่องเป็นมาแบบนี้ได้ยังไง

หลายเมืองถูกสังหารหมู่และแทบจะคล้ายกันคือมีเซียนหลายคนบินขึ้นไปในอากาศ ไล่ไปทีละเมืองฆ่าคนผู้โชคดีหนีรอดเหล่านั้นได้ คนที่หนีมาทางค่ายทหารมีน้อยมาก แต่เรื่องอย่างอย่างนี้ไม่สามารถปกปิดได้ตลอดไป

“จากสิ่งที่เด็กหนุ่มนี้พูดการสังหารครั้งนี้ดูเหมือนคงอยู่อย่างนี้มาเป็นเวลาสองเดือน”  ลินลี่ย์ตั้งสมมติฐาน

ลินลี่ย์และเดลี่มองหน้ากันเอง  ทั้งสองคนกลับเข้าไปในพงหญ้าข้างทางเงียบๆจากนั้นทั้งสองเหาะขึ้นไปในอากาศมุ่งหน้าสู่ทิศใต้ด้วยความเร็วสูง  ลินลี่ย์และเดลี่มีเป้าหมายใหม่ทั้งคู่

“สิ่งที่เราต้องทำก็คือหาเซียนที่ประจำอยู่ในจักรวรรดิโรฮอลท์” ลินลี่ย์มั่นใจว่าเซียนที่อยู่ในจักรวรรดิโรฮอลท์จะต้องรู้เหตุการณ์ใหญ่อย่างนี้

ความจริง...

เหตุการณ์เหล่านี้คงจะเป็นฝีมือของพวกเซียน

ที่สำคัญ ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าเทพตนหนึ่งจะเดินทางไปทีละเมืองเพื่อฆ่าผู้คน ลินลี่ย์คาดว่าเทพตนหนึ่งคงจะควบคุมและสั่งการพวกเซียนให้ทำเรื่องเช่นนี้สิ่งที่พวกเขาต้องการทำก็คือหาข้อมูลเกี่ยวกับเทพนี้จากเซียนพวกนั้น

รู้เขารู้เราแล้วค่อยลงมือย่อมชนะได้ทุกศึก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด