ตอนที่แล้วตอนที่ 12-29 จัดสรรประกายศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12-31 มูบายอดฝีมือชั้นเทพ

ตอนที่ 12-30 แฮรุ


ช่วงหลายวันนี้ผ่านไปอย่างเงียบสงบสุขสบายวันแล้ววันเล่า  ในพริบตาผ่านไปครึ่งปี

แก่นของเหลววิญญาณทองถูกลินลี่ย์ดูดซับไว้หมดสิ้น ตอนนี้แม้แต่วิญญาณรูปกระบี่ของเขาจะมีขนาดใหญ่กว่าแต่ก่อนในแง่คุณภาพก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

“มิน่าเล่าพวกเทพถึงได้ต้องการรวบรวมวิญญาณหลายดวงไปกลั่น”  ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้

แต่โชคไม่ดีแม้ว่าพ่อมดผู้วิเศษจะใช้ความพยายามอย่างพิถีพิถัน แต่ในที่สุดทั้งหมดนั้นก็ตกไปเป็นผลประโยชน์คนอื่น

หลังจากดูดซับแก่นวิญญาณหมดสิ้นแล้ว  ลินลี่ย์ออกจากห้องมิติลับต้องการเดินเล่นที่ปราสาทเลือดมังกร  ขณะที่เขาเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ลินลี่ย์เห็นประกายเงาดำบินผ่านเหนืออากาศจากที่ไกล

“นายท่าน” เงาดำนั้นบินมาหาลินลี่ย์  เป็นเสือดำเมฆาแฮรุ

“แฮรุ, จะออกไปไพรทมิฬอีกแล้วหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะ

แฮรุผงกศีรษะ

ลินลี่ย์รู้ว่าแฮรุก็เหมือนกับมังกรระดับเซียนไม่คุ้นอยู่กับการใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์  ทั้งสี่จะอยู่ในปราสาทเลือดมังกรเป็นบางครั้งเวลาส่วนใหญ่พวกเขาจะบินไปไพรทมิฬ,เทือกเขาอสูรวิเศษหรือไม่ก็เทือกเขาอาทิตย์อุทัย

ที่เหล่านั้นเป็นบ้านที่แท้จริงของพวกเขา

“อืม..” ลินลี่ย์นึกขึ้นได้ทันที

“แฮรุ!เจ้าเป็นอสูรสายธาตุมืดและธาตุลมใช่ไหม?” ลินลี่ย์ถาม

“ถูกแล้วนายท่าน,มีอะไรหรือเปล่า?”  แฮรุค่อนข้างงง  ทำไมลินลี่ย์ถามเรื่องนี้กะทันหัน?

ลินลี่ย์หัวเราะและพูด “ไม่มีอะไร”  ลินลี่ย์ยังคงเดินไปข้างหน้าต่อ  แฮรุมองตามหลังลินลี่ย์อย่างงุนงง  แต่แฮรุไม่คิดอะไรมาก และเขาบินไปหาสหายทั้งสามก็คือมังกรระดับเซียนทั้งสาม

เมื่อมาถึงสนามฝึกฝนหน้าปราสาทเลือดมังกร  ลินลี่ย์เห็นวอร์ตันและอีกหลายคนกำลังฝึกฝน

“แฮรุ...สายธาตุลมจะเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน” ลินลี่ย์ไตร่ตรองถึงปัญหาว่าจะมอบประกายศักดิ์สิทธิ์ธาตุลมให้ใครมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว

เกทส์และคนอื่นแทบจะไม่มีความสัมพันธ์กับกฎธรรมชาติธาตุลมเลย แม้ว่าเซียนคนใดคนหนึ่งจะสามารถหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่จะดีที่สุดเมื่อหลอมรวมกับสายธาตุที่ตนมีทักษะอยู่  ตัวอย่างเช่น เดเลียหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ธาตุลม ขณะที่บาร์เกอร์หลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ธาตุดินและซาสเลอร์กำลังหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์สายมรณะ

และตอนนี้ลินลี่ย์หาผู้รับช่วงได้อีกหนึ่งก็คือแฮรุ

แฮรุเป็นอสูรที่มีสัมพันธ์สองสายธาตุ คือธาตุมืดและธาตุลมความจริงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขาควรจะได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์นี้ไป

“พี่ลีย์” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

ลินลี่ย์มองหา เป็นเจนน์นั่นเอง

“เจนน์” หน้าลินลี่ย์มีรอยยิ้ม เจนน์สวมชุดสีฟ้าของจอมเวทธาตุน้ำ เวลาที่ผ่านมาใบหน้าของนางไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ย้อนไปในวันเก่าก่อนเจนน์ได้ชื่อว่า ‘หญิงเหล็ก’ แห่งสำนักงานบริหารจักรวรรดิบาลุค ทุกวันนี้เจนน์ทำงานเป็นครูสอนเวทคนหนึ่งในสถาบันจอมเวท

เจนน์พากเพียรหนักมากในการฝึกเป็นจอมเวทของนาง  และนางใช้เวลาสามสิบกว่าปีฝึกปรือฝีมือนาง

ปัจจุบันนี้นางเป็นจอมเวทระดับเจ็ด  นางมีคุณสมบัติจะเป็นอาจารย์สอนเวทมากกว่า

“ฮะฮะ, เจนน์, เจ้ากลับมาแล้ว, ตั้งแต่เริ่มเป็นครูสอนเวทเจ้าก็เริ่มใช้เวลาที่นี่น้อยลงนะ” วอร์ตันและคนอื่นๆ เดินตรงมาหาเช่นกัน

ความจริง,ทุกคนในปราสาทเลือดมังกรรู้ว่าเจนน์รู้สึกยังไงต่อลินลี่ย์  เพียงแต่พวกเขาทุกคนรู้อารมณ์ความรู้สึกที่ลินลี่ย์มีต่อเจนน์เช่นกัน..พวกเขาไม่ค่อยพูด และเจนน์ก็ไม่ฝืนให้ลินลี่ย์ใช้เวลากับนางมากขึ้น  เท่าที่เจนน์รู้  ชีวิตของนางมีความสุขมากเพราะสามารถเห็นว่าคนอย่างนาง สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่นางพอใจนางเพลิดเพลินกับชีวิตสบายๆ และเติมเต็มชีวิตของนาง

“ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้ ในสถาบันมีโอกาสหยุดพักปีละสองครั้งเอง” เจนน์ยิ้มขณะพูด  “วอร์ตัน,อาร์โนลด์ไปไหนแล้ว?”

“อาร์โนลด์กำลังเล่นอยู่สวนดอกไม้หลังปราสาทกับพี่เลี้ยง”  วอร์ตันหัวเราะ

เจนน์มองลินลี่ย์ “พี่ลีย์, ข้าจะไปหาอาร์โนลด์ก่อน” ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า  เจนน์รักและตามใจอาร์โนลด์มาก ทุกคนในปราสาทรู้เรื่องนี้

ภายในห้องมิติ

กระแสพลังงานหลากสีสันปั่นป่วนอยู่ในมิติข้างนอกเยื่อใสรอยแตกของมิติสามารถเห็นได้ทุกที่ ลินลี่ย์และเดเลีย สองสามีภรรยาฝึกอยู่เงียบๆ ที่นี่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์และร่างหลักของลินลี่ย์แยกกันฝึกสัจธรรมแห่งความเร็วและสัจธรรมแห่งธาตุดิน

“เฮ้อ”ลินลี่ย์หยุดฝึก

“เดเลีย” ลินลี่ย์เรียก

“มีอะไรหรือ?” เดเลียลืมตามองดูลินลี่ย์อย่างสงสัย  “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

“เดเลีย, ตอนนี้,เรายังมีประกายศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่อีกหนึ่ง ข้าเตรียมจะมอบประกายศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับแฮรุได้หลอมรวมเจ้าคิดว่ายังไงบ้าง?” ลินลี่ย์ต้องการถามความเห็นของเดเลียก่อน เดเลียตาเป็นประกาย  “แฮรุ?  ถ้าเป็นแฮรุ..ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาคืออสูรเวทของเจ้าและตลอดหลายปีมานี้  เขากับเซียนมังกรทั้งสามก็ช่วยจัดการงานกิจการของจักรวรรดิหลายอย่างในช่วงระหว่างสู้รบนี้”

เดเลียชื่นชมแฮรุมาก

แฮรุอยู่ในปราสาทเลือดมังกรอย่างเจียมตัว  แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาขึ้น  แฮรุจะปฏิบัติหน้าที่ที่คนอื่นไม่ต้องการทำโดยไม่บ่นสักคำ

อย่างนั้นก็ลงตัว” ลินลี่ย์ตั้งใจแล้ว

หลังจากกลายเป็นเทพลินลี่ย์ไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันมากอีกต่อไป กล่าวโดยทั่วไป เขาปล่อยให้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์มุ่งอยู่กับการฝึกฝน ขณะที่ร่างหลักของเขาจะออกมาเดินเล่นที่ปราสาทเลือดมังกรเป็นครั้งคราว  ที่สำคัญคือ มีเรื่องมากกว่าการฝึก

ภายในห้องประชุมใหญ่ปราสาทเลือดมังกร

คนหลายสิบคนนั่งรายล้อมโต๊ะยาวสิบเมตรพวกเขาทานอาหารด้วยกัน และลินลี่ย์นั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน

“ครืนนน...”

ระลอกพลังงานเฉพาะแบบมาจากทางใต้  คนอื่นๆ ในห้องโถงใหญ่ไม่ได้สังเกตอะไร  แต่ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นมองไปทางทิศใต้อย่างประหลาดใจ “มีคนกลายเป็นเทพอีกคนหนึ่งแล้ว!”

ลินลี่ย์รู้สึกได้ทันทีถึงพลังธรรมชาติของกฎธรรมชาติ  เขาคุ้นเคยกับคลื่นพลังงานเช่นนั้น

แม้ว่าคลื่นพลังงานนั้นจะเดินทางไกลมากและตอนนี้ยังอ่อนมาก  แต่ลินลี่ย์ก็สามารถรู้สึกได้ชัดนั่นเป็นคลื่นพลังเฉพาะตัวพลังกฎธรรมชาติเมื่อคนผู้หนึ่งกลายเป็นเทพ

“มีคนที่อยู่ทางใต้จะกลายเป็นเทพ  ใครกัน?” ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ

ตอนนี้ทั้งถูลี่และเดลี่ก็อยู่ทางทิศใต้ของลินลี่ย์  นอกจากสองคนที่คุ้นเคยกันแล้ว ยังคงมีเซียนชั้นสูงต่างๆที่ปรากฏออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อไม่กี่ปีมานี้  เช่นเซียนสองคนในจักรวรรดิโรฮอลท์  ทั้งสองคนมีความสามารถจะเข้าถึงระดับเทพได้

แล้วเป็นใครกัน?

“เจ้ากินกันต่อไป ข้าจะเดินทางสักหน่อย” ลินลี่ย์ลุกขั้นยืน

วอร์ตัน เกทส์ และคนอื่นๆ มองดูลินลี่ย์อย่างสับสน  แต่พวกเขาไม่ถามสาเหตุ  ลินลี่ย์เดินออกนอกห้องโถงใหญ่จากนั้นเหาะขึ้นอากาศทันที

ในกลางอากาศตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกถึงระลอกพลังงานได้ชัดเจนว่ามาจากที่ใด  “ตำแหน่งมาจากทางใต้ คงไม่ใช่ถูลี่”  ลินลี่ย์ไม่แปลกใจอีกต่อไปขยายพลังจิตของเขาออกไปทันที  เมื่อเข้าถึงระดับเทพ พลังจิตนั้นต้องอธิบายด้วยคำว่า‘สำผัสเทพ’

สัมผัสเทพของลินลี่ย์ขยายออกไปทันที  ถ้าเขาไม่ได้ซึมซับแก่นดวงวิญญาณยี่สิบล้านดวงสัมผัสเทพของลินลี่ย์คงครอบคลุมพื้นที่ราวๆ พันกิโลเมตร

แต่ตอนนี้...สัมผัสเทพของลินลี่ย์สามารถครอบคลุมได้ในระยะหมื่นกิโลเมตรแต่แน่นอนนี่เป็นเพียงพิภพทวีปยูลาน ถ้าเขาอยู่พิภพอื่นที่สูงกว่าพื้นที่สัมผัสเทพของเขาจะครอบคลุมได้น้อยกว่ามาก

สัมผัสเทพของเขากระจายออกไปเหมือนกับระลอกคลื่นของน้ำและไปถึงภูเขาที่พำนักของเดลี่โดยเร็ว

“นี่เอง”ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ถึงระลอกพลังกฎธรรมชาติจากตำแหน่งนี้  ลินลี่ย์ไม่กล้าแผ่สัมผัสเทพออกไปอีก  ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือรอ  ที่สำคัญกระบวนการได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์และสร้างร่างแยกศักดิ์สิทธิ์เป็นช่วงเวลาที่สั้น

ขณะต่อมาระลอกกฎธรรมชาติก็หายไป

ลินลี่ย์ส่งสัมผัสเทพออกไปอีกครั้งและพบคนที่เพิ่งจะกลายเป็นเทพได้ทันที

“เป็นเดลี่จริงๆ” ใบหน้าของลินลี่ย์มีรอยยิ้ม

ขณะนั้น เดลี่อยู่ในห้องฝึกฝนใต้ดินในที่พำนักในภูเขา  มีคนจำนวนหนึ่งรวมตัวอยู่ที่นั่นรวมทั้งเพนสลีนฮิกกินสัน เรย์โนลและคนอื่น คนเหล่านี้พากันตื่นเต้นขณะมองดูเดลี่กลายเป็นเทพ  เดลี่เลือกวิธีที่สองแบ่งวิญญาณออกเป็นสองส่วน

“เดลี่, ขอแสดงความยินดีด้วย”เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นในใจของเดลี่

“ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์ ข้าช้าไปกว่าเจ้าครึ่งปี”  เดลี่พูดอย่างถ่อมตัวแต่ในใจของเขายินดียิ่งนัก เขาหยุดการเป็นสุดยอดเซียนที่มีระยะเวลายาวนานได้แล้ว  วันนี้เขาก็บรรลุได้ในที่สุด และเหมือนกับว่าเป็นการอาศัยความสามารถของตนเองด้วย

เทพทั้งสองอยู่ห่างกันเป็นพันๆ กิโลเมตรแต่พวกเขาพูดคุยกันทางจิต

“เดลี่, ทำไมท่านเลือกใช้วิธีแบ่งวิญญาณเล่า?”  ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย  “ท่านฝึกกฎแห่งแสงไม่ใช่หรือ?”

“ลินลี่ย์,แม้ว่ากระบวนการแยกวิญญาณนี้จะอันตรายมากต่อวิญญาณแต่เมื่อเวลาผ่านไปวิญญาณจะแก่กล้าและฟื้นฟู แต่ตอนนี้, ข้าแยกเป็นสองร่างแล้ว อย่างน้อยเมื่อข้าต่อสู้ ถ้าหนึ่งในร่างข้าถูกทำลาย ข้าก็ยังมีอีกร่างหนึ่งโดยพื้นฐานก็หมายความว่าข้ามีชีวิตที่สอง และที่สำคัญมากกว่านั้น...แม้ว่าข้าจะฝึกฝนแต่เพียงกฎธาตุแสงในปัจจุบันนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคต ข้าจะไม่สามารถฝึกกฎธาตุอื่นได้ใช่ไหม?”

ลินลี่ย์หัวเราะเช่นกัน

ความจริง คนส่วนใหญ่ผู้กลายเป็นเทพด้วยตนเอง ถ้าพวกเขารู้ความแตกต่างระหว่างทางเลือกทั้งสอง  ก็คงเลือกทางเลือกที่สองนี้

ที่สำคัญความเสียหายสำหรับวิญญาณที่เกิดจากการแยกวิญญาณมีเพียงชั่วคราว แต่สิ่งที่ได้รับมาก็คือได้เพิ่มอีกหนึ่งชีวิต  เนื่องจากความเป็นไปได้ในการฝึกฝนในอนาคตเช่นกัน!  ที่สำคัญ หลังจากกลายเป็นเทพแล้วเขาจะมีอายุขัยไม่มีจำกัด และสามารถฝึกอีกสายธาตุหนึ่งได้

ตัวอย่างเช่น ถ้าลินลี่ย์มีเวลาพอ  เขาสามารถฝึกในทางธาตุไฟหรือแม้กระทั่งวิถีทำลายล้างก็ได้

“เดลี่, ท่านเพิ่งกลายเป็นเทพ  ข้าคิดว่าท่านมีสองสามเรื่องที่จะต้องทำข้าคงไม่รบกวนต่อไปแล้ว หลังจากจัดการเสร็จแล้ว เมื่อท่านมีเวลาว่างมาเที่ยวบ้านข้าบ้างก็ได้”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“แน่นอน” เดลี่ตอบรับ

เดลี่เองก็รู้สึกถึงความผันแปรและเปลี่ยนแปลงในทวีปยูลานซึ่งกลายเป็นเรื่องคาดเดาไม่ได้  การร่วมกับลินลี่ย์จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองคนในเรื่องความสามารถในการป้องกันตัวเองของพวกเขา  ที่สำคัญพูดอย่างทั่วไปคนที่กลายเป็นเทพด้วยกำลังตัวเองจะมีพลังมากกว่า โดยมีขอบเขตพลังที่ดีกว่าคนที่กลายเป็นเทพโดยผ่านการหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์

การหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับเป็นการอ่านหนังสือและทำความเข้าใจกฎที่อยู่ในประกายศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่การกลายเป็นเทพด้วยตนเองเหมือนกับเป็นคนเขียนหนักสือเองผู้เขียนประพันธ์หนังสือย่อมมีความเข้าใจดีมากกว่าคนผู้อ่าน  เขาเข้าใจทุกส่วนของหนังสือดี  และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ง่ายเช่นกัน

ลินลี่ย์ถอนสัมผัสเทพออกมา

ลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางอากาศ และเรียกอสูรเวทของเขาโดยตรง  “แฮรุ, มาที่นี่, เร็วเข้า”  ขณะนั้นเอง, แฮรุยังอยู่ในไพรทมิฬ  แต่เมื่อได้ยินคำสั่งของลินลี่ย์เขารีบบินมาทันที เพียงแต่แฮรุอยู่ห่างไปสองสามพันกิโลเมตรจากปราสาทเลือดมังกร

ลินลี่ย์รอการมาถึงของแฮรุอยู่ในสวนดอกไม้หลังปราสาท

“ควั่บ” แฮรุลงมายืนที่พื้น

“นายท่าน”แฮรุมองดูลินลี่ย์อย่างสับสน ลินลี่ย์ไม่เคยเรียกเขาอย่างเร่งด่วนมาก่อน ที่สำคัญพลังของเขาในปราสาทเลือดมังกรก็อยู่ในระดับทั่วไป  มีไม่กี่คนเท่านั้นที่อ่อนแอกว่าเขา

“แฮรุ, อยากเป็นเทพหรือเปล่า?” ลินลี่ย์ยิ้มเต็มหน้า

แฮรุทำตาโตทันที และขนในตัวลุกชัน  เขามองลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ  “นะ..นายท่าน? ท่านว่ากระไรนะ?”  แฮรุอาศัยอยู่ในปราสาทเลือดมังกรรู้ว่าบาร์เกอร์และซาสเลอร์ทั้งคู่ได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์

เป็นไปได้ว่า...

โชคดีอย่างเดียวกันนั้นกำลังจะตกลงที่ตัวเขาแฮรุ?

แฮรุรู้สึกชาไปทั้งตัว เขาเองรู้สึกว่าภายในปราสาทเลือดมังกร เขาไม่ใช่คนสำคัญไม่เป็นที่สังเกตเห็น

“เอ้านี่.. ประกายศักดิ์สิทธิ์” ลินลี่ย์ยิ้มกว้าง

แค่เพียงพลิกมือลินลี่ย์ดึงประกายศักดิ์สิทธิ์สีดำรัศมีสีเขียวออกมาแฮรุจ้องมองประกายศักดิ์สิทธิ์จนลืมหายใจ ความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่ประกายศักดิ์สิทธิ์  โลกของอสูรเวทเป็นโลกที่แข็งแกร่งและได้รับการนับถือ

สหายที่แฮรุคบหาส่วนใหญ่ก็เป็นอสูรเวทระดับเซียนเช่นกัน

เทือกเขาอสูรวิเศษ เทือกเขาอาทิตย์อุทัย ไพรทมิฬ.. แฮรุยังพูดอสูรเวทระดับเซียนมาไม่ถึงร้อย  แต่เขาแน่ใจว่ามากกว่าห้าสิบ  อสูรเวทเหล่านี้เทิดทูนลอร์ดเบรุตและลอร์ดไดลิน  เพราะลอร์ดเบรุตและลอร์ดไดลินเป็นอสูรเวทที่ฝึกฝนมาจนถึงขั้นกลายเป็นร่างมนุษย์ได้  อสูรเวทผู้กลายเป็นเทพ!

อสูรเวทระดับเซียนเหล่านี้ทั้งหมดก็ปรารถนาจะมีวันที่พวกเขาได้เป็นเทพเช่นกัน!

อสูรเวทระดับเทพ ยืนอยู่ยอดสูงสุดของเหล่าอสูรเวททั้งปวงในโลก!

“ข้า ข้า แฮรุจะกลายเป็นเทพแล้วหรือ?” แฮรุรู้สึกมึนศีรษะ

แฮรุมักจะมีความพอใจมากอยู่แล้ว  ที่สำคัญ เสือดำเมฆาโดยทั่วไปจะมีระดับเก้า  เขาพอใจมากอยู่แล้วที่ได้กลายเป็นเซียน และต้องขอบคุณอย่างมากที่ลินลี่ย์มอบแก่นผลึกเวทระดับเซียนให้เขาทำให้เขาได้บรรลุเป็นระดับเซียน  ดังนั้น แฮรุไม่ว่าจะถูกขอร้องให้ทำอะไร  เขาไม่เคยบ่นสักคำ

“ว่าไง, เจ้าไม่ต้องการหรือ?”  ลินลี่ย์หยอกล้อ

“ข้าต้องการ!”  แฮรุรีบตอบทันที

ลินลี่ย์หัวเราะและโยนประกายศักดิ์สิทธิ์ให้ประกายศักดิ์สิทธิ์สะท้อนใต้แสงอาทิตย์ลอยเข้าหาเขา

แฮรุจ้องมองประกายศักดิ์สิทธิ์ ใจเต็มไปด้วยความคิด เขาจะคาดคิดได้ยังไงว่าอสูรเวทระดับเก้าอย่างเขาไม่เพียงแต่จะกลายเป็นเซียนได้  แต่ยังคง..ดูเหมือนเขากำลังจะกลายเป็นอสูรเวทระดับเทพที่ได้รับการเทิดทูนจากอสูรระดับเซียนตนอื่น!

“ข้า, แฮรุจะได้เป็นลอร์ดแฮรุ..กับเขาด้วยหรือนี่?” แฮรุในตอนนี้จินตนาการภาพที่สายตาที่อสูรเวทนับไม่ถ้วนมองด้วยความกริ่งเกรงและเคารพเรียกเขาเป็นลอร์ดแฮรุ  “อนาคตจะเป็นยังไง,ข้าจะเลือกเทือกเขาอาทิตย์อุทัย ข้าจะกลายเป็นราชาแห่งเทือกเขาอาทิตย์อุทัย  ข้า, แฮรุราชาแห่งเทือกเขาอาทิตย์อุทัย”

แฮรุไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด