ตอนที่ 12-26 แหวนมังกรขนด
ยามราตรีเยือกเย็นเหมือนน้ำ สายลมพัดแผ่วเบา เพียงเท่านี้ร่างของลินลี่ย์ก็เดินทางไปได้หลายสิบกิโลเมตร แม้ว่าหุบเขาของหอการค้าดอว์สันจะอยู่ห่างจากปราสาทเลือดมังกรหลายพันกิโลเมตรแต่สำหรับลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้ ระยะทางขนาดนั้นไม่นับว่ามีอะไร
สายลมชะงัก และร่างของลินลี่ย์ปรากฎชัดเจน
ขณะจ้องลงมาที่เทือกเขาโดยเฉพาะที่หุบเขานั้น เขาเห็นว่าภายในใจกลางหุบเขาเป็นสาขาสำคัญของหอการค้าดอว์สันแค่อาศัยความรู้สึกจากสายลม ลินลี่ย์ก็สามารถแยกแยะได้ว่ามีคนจำนวนมากอยู่ภายในหุบเขา
“ทาสเหล่านี้ถูกส่งมาที่นี่หรอกหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะเยือกเย็น
ตอนนี้เขารู้ว่าเหตุผลที่หอการค้าดอว์สันซื้อทาสไว้มากมายก็เพื่อให้เทพตนนั้นได้ใช้กลั่นวิญญาณ
“แม้ว่าแหวนมังกรขนดจะเป็นเพียงสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณที่ได้รับความเสียหายก็ตาม แต่อย่างน้อยทั้งหมดที่ข้าต้องทำตอนนี้ก็คือป้องกันรอยโหว่นั้น” หลังจากฝึกฝนมาทั้งวันแล้ว รอยอุดที่เขาใช้พลังปิดช่องว่างที่น่ากลัวนั้นชั้นเยื่อใสกลายสภาพเป็นมั่นคงแล้ว
เขามองดูข้างล่าง และด้วยสายลมกระโชกร่างทั้งหมดของลินลี่ย์หลอมรวมกับสายลมและพุ่งลงข้างล่าง
ภายในหุบเขาในห้องประหารที่น่าหวาดหวั่นขวัญผวา
พื้นของห้องประหารนี้ดำคล้ำไปด้วยเลือดแห้งเกรอะกรังบุรุษหัวล้านเปลือยอกอยู่ในนั้นมีดแล่เนื้ออยู่มือเขา ด้านหลังของเขามีแก้วผลึกลูกหนึ่งห้อยอยู่บนกำแพง แก้วผลึกนี้เต็มไปด้วยหมอกหนาแน่น
ทาสที่ถูกผูกตาและมัดถูกยามผลักเข้ามาในห้อง
“ฉัวะ” บุรุษหัวโล้นแทงมีดใส่หัวใจทาสอย่างไม่ปราณี“อ๊าคคคค” เสียงร้องแหบแห้งดังขึ้นชั่วขณะและจางหายไป
รวดเร็ว แม่นยำ และอำมหิต!
เขาฆ่าทาสคนหนึ่งในทันที ทาสนั้นหลังจากส่งเสียงร้องและตายไปก็ถูกยามลากออกไปทันที
หมอกหนาในแก้วผลึกสั่นสะเทือนชั่วครู่วิญญาณอีกดวงหนึ่งถูกกักอยู่ภายใน
“ต่อไป” บุรุษหัวโล้นเลียเลือดบนมีดแล่เนื้อและตื่นเต้นมากขึ้น
บุรุษหัวโล้นชอบงานนี้ ตั้งแต่เขาถูกจัดส่งมาทำหน้าที่นี้ได้หกปี เขาหลงรักความรู้สึกได้ฆ่าคนอื่น ในหกปีที่ผ่านมา ตัวเขาเองจำไม่ได้ว่าได้ฆ่าคนไปกี่คนแล้ว
“อย่างน้อยก็ล้านคน” นั่นคือสิ่งที่บุรุษโล้นคาดไว้
ในช่วงหกปีที่ผ่านมาของการฆ่า, ทุกวัน, เขาฆ่าคนไปหลายร้อยคน
บางครั้งก็มากถึงพันคน เกินหกปี จำนวนของคนที่เขาฆ่าก็มากกว่าล้านคน ภายในหุบเขามีน้อยคนที่อยู่ในสายงานแบบเขา แม้ว่าบุรุษโล้นจะไม่แน่ใจว่าจำนวนเท่าใด แต่เขาเองรู้ว่าอย่างน้อยยังมีเพชฌฆาตอีกหกคน
“หมอกในแก้วผลึกนี้น่าจะหนาแน่นพอแล้ว” บุรุษศีรษะล้านหันไปมองดู
เขามีประสบการณ์มามาก หลังจากฆ่าคนไปมากมายในแต่ละวัน เขารู้ว่าหมอกจะหนาแน่นขึ้นเท่าใดกันแน่ แต่เมื่อเขาหันไปดู ทันใดนั้นเขาพบว่า....
แก้วผลึกกลายเป็นแก้วใสอย่างสิ้นเชิง ไม่มีหมอกอยู่ภายในเลย
“อ๋า?”บุรุษหัวโล้นตกใจหนักจนหน้าผากและหลังหลั่งเหงื่อโชก “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมไม่มีอะไร? เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆที่นี่”
วิญญาณในแก้วผลึกหายไปหมด
ไม่ใช่แค่ห้องประหารของบุรุษหัวโล้นเท่านั้น วิญญาณทั้งหมดในห้องประหารทุกห้องก็หายไปเช่นกัน
ลินลี่ย์ลงมาในหุบเขาและยืนอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่
“นี่...นี่...อะไรกันนี่?” ลินลี่ย์ตกใจ สำหรับแหวนมังกรขนดของเขา เขาสามารถรู้สึกได้ว่าภายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร มีอยู่ยี่สิบแห่งที่มีวิญญาณปริมาณมากรวมอยู่ด้วยกัน ใช่แล้วเขารู้สึกถึงมันได้ผ่านแหวนมังกรขนด
“ทำไมถึงมีวิญญาณมากมายที่นี่?”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว เขาเข้าใจ วิญญาณเหล่านี้เป็นผลมาจากแผนการของเทพตนนั้น ฆ่าทันทีและรวบรวมวิญญาณไว้ทันที
“ฮื่ม.. เขาฆ่าคนมากมายในทุกๆ วัน หลังจากผ่านไปหลายปี มีคนตายไปเท่าใด?” ลินลี่ย์รู้สึกตกใจเมื่อคิดถึงจำนวนคนที่เกี่ยวข้อง “เทพตนนี้..ใช้วิธีอะไร..ถึงต้องรวบรวมวิญญาณไว้มากมาย?”
ความจริงลินลี่ย์ไม่รู้ ผู้วิเศษไม่ได้แค่ส่งองครักษ์ชุดเงินเก้าคนเหล่านั้นไปรวบรวมวิญญาณเท่านั้น เขายังควบคุมสมาคมการค้าใหญ่ทั้งสามของทวีปยูลานให้ร่วมกันทำงานส่งทาสให้เขาอย่างต่อเนื่องสังหารพวกเขาและเก็บเกี่ยววิญญาณพวกเขาไว้
ที่สำคัญมีทาสมากมายในทวีปยูลาน
ด้วยการร่วมมือของสามสมาคมการค้าใหญ่ไม่มีอะไรยากที่พวกเขาจะรวบรวมทาสได้หลายสิบล้านในช่วงเวลาหกปี
“เอ๋?” ทันใดนั้นลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าแหวนมังกรขนดมีพลังแปลกที่มัดวิญญาณเหล่านั้นที่อยู่ในแก้วผลึกทั้งยี่สิบกว่าลูกนั้นได้ เขารู้สึกเหมือนกับมีความคิดว่าเขาสามารถจับวิญญาณเหล่านั้นทั้งหมดแล้วดึงเข้ามาไว้ในแหวนมังกรขนด
ลินลี่ย์ลองทดสอบ
ในทันใดนั้น!
วิญญาณหลายดวงที่อยู่ในแก้วผลึกได้หายไปทั้งหมดและมาปรากฏอยู่ในแหวนมังกรขนด
“วิญญาณมากมายนัก? มีมากกว่าหมื่นดวง” จำนวนรวมวิญญาณในแก้วผลึกทั้งยี่สิบลูกมีมากกว่าหมื่นดวงแน่นอน แต่วิญญาณเหล่านี้ถูกแหวนมังกรขนดกลืนโดยตรง สิ่งที่ทำให้ลินลี่ย์ประหลาดใจที่สุดก็คือ..... หลังจากกลืนวิญญาณแล้วแหวนมังกรขนดก็เริ่มปรับเปลี่ยนวิญญาณเหล่านั้น
วิญญาณนับไม่ถ้วนถูกเปลี่ยนไปเป็นหมอกพลังงานสีทอง
หมอกพลังงานสีทองนี้มีอาการสนองตอบพลังจิตของลินลี่ย์แทบจะทันทีและเริ่มถูกวิญญาณลินลี่ย์สูบกลืน
“ครืนนน...” กระแสพลังงานทองปริมาณมากไหลผ่านพลังจิตวิญญาณเข้าไปในโลกวิญญาณของลินลี่ย์
“ซาสเลอร์บอกไว้ว่าทันทีที่คนเรามีระดับความเข้าใจวิญญาณในระดับหนึ่ง คนผู้นั้นสามารถกลั่นวิญญาณและจากนั้นดูดกลืนวิญญาณพวกเขามาเสริมพลังวิญญาณตนเองได้” เมื่อเห็นอย่างนี้ ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ “ดังนั้นแหวนมังกรขนดนี้ก็สามารถลากวิญญาณและกลั่นแปลงได้ตามธรรมชาติได้”
เมื่อหมอกพลังงานสีทองเข้าไปใกล้วิญญาณรูปกระบี่ วิญญาณรูปกระบี่จะกลืนกินหมอกสีทองเหมือนกับว่ามันกำลังดื่มน้ำ
“ความจริง...” ลินลี่ย์สามารถรู้สึกสบายขึ้นมาก วิญญาณของเขาค่อยๆ เติบโตขึ้น ในไม่ช้าวิญญาณหมื่นดวงที่ถูกกลั่นเป็นหมอกทองก็ถูกวิญญาณรูปกระบี่ของลินลี่ย์กลืนไปหมด แต่วิญญาณรูปกระบี่คงโตขึ้นเพียงเล็กน้อย
แต่แม้จะเป็นวิญญาณจำนวนน้อยแค่นั้นก็ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกสบายขึ้นมาก
“แหวน.มังกร..ขนด..วงนี้....” ลินลี่ย์ประหลาดใจอย่างหนัก
การกลั่นวิญญาณเป็นกระบวนการที่ละเอียดซับซ้อนมาก มีเพียงเทพชั้นต้นไม่กี่คนที่สามารถทำได้และแม้แต่เทพชั้นกลางก็ไม่สามารถทำได้เหมือนกัน จำเป็นต้องได้คนที่มีความเข้าใจธรรมชาติของวิญญาณ แม้แต่ผู้วิเศษเองก็ต้องระมัดระวังขณะกลั่นแปลงวิญญาณ
“ความสามารถเช่นนี้ทำให้แหวนสมกับที่ได้ชื่อว่าสมบัติมหาเทพแม้จะได้รับความเสียหายก็ตาม
เขาหยิบแหวนมาดูใกล้ๆ และสัมผัสได้ว่าแหวนมังกรขนดนี้เพียงแต่สามารถดูดกลืนวิญญาณเหล่านั้นที่ไม่มีร่างกายปกป้องแล้ว ถ้าคนยังมีชีวิตวิญญาณของเขาจะถูกจับได้ยากมาก แต่พลังที่ผูกมัดวิญญาณของแก้วผลึกที่มีต่อวิญญาณเห็นได้ชัดว่ามีระดับพลังด้อยกว่าแหวนมังกรขนด
ความสามารถในการยึดจับเหนือกว่าพลังผูกมัด ดังนั้นวิญญาณในแก้วผลึกจึงถูกชิงไปหมด
“รัศมีแค่ราวๆ หนึ่งกิโลเมตร นอกพื้นที่หนึ่งกิโลเมตรข้าไม่สามารถรู้สึกถึงอะไรได้” ลินลี่ย์พบว่าเมื่อเขาบินลงมาในหุบเขาและเข้ามาถึงในระยะหนึ่งกิโลเมตร เขาสามารถรู้สึกได้ถึงการรวบรวมวิญญาณ
เขาสูดหายใจลึก และสงบใจ
“เมื่อเราแผ่พลังจิตไปหาเทพตนนั้น เราต้องฆ่าเขาในเวลาสั้นๆ ให้เป็นไปได้” แค่เพียงพลิกมือลินลี่ย์ก็ดึงกระบี่เลือดม่วงออกมา ลินลี่ย์รู้ดีว่าทันทีที่พลังจิตของเขาตรวจพบฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามเขาก็จะตระหนักว่าเขาอยู่ที่นี่
เขาต้องโจมตีในช่วงเวลาให้สั้นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จะไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้มีเวลาเตรียมตัว
“เริ่มกันได้”
สายตาลินลี่ย์คมกล้าทันที
ภายในห้องลับสลัว
ผู้วิเศษคลุมตัวอยู่ในชุดสีดำกำลังจ้องมองแก้วผลึกทั้งแปด เขาดึงออกมาจากแหวนมิติเก็บของรวมทั้งลูกที่อยู่ข้างหน้าเขา มีแก้วผลึกรวมเก้าลูก แก้วผลึกเก้าลูกนี้เต็มไปด้วยพลังงานหมอกทุกลูกภายในนั้นมีของเหลวสีทอง
ผู้วิเศษเหยียดมือเปล่าทั้งสองข้างออก แก้วผลึกทั้งเก้าลูกเริ่มลอยมาที่ผู้วิเศษทันที
“แครก แครก...”
ของเหลวสีทองในลูกแก้วผนึกทั้งแปดลอยออกเข้าหาแก้วผลึกดวงกลางซึ่งเป็นลูกสำคัญที่สุด ของเหลวทองเปล่งประกายหมอกสีทองทำให้ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยหมอกมหาศาลหมอกก็คือวิญญาณบริสุทธิ์หลายดวง
ถ้าคนธรรมดาอยู่ที่นี่ ถ้าเขาแค่สูดหายใจลึกๆ เขาอาจหายใจเอาวิญญาณสองสามดวงไปโดยไม่ตั้งใจก็ได้
กระแสของเหลวสีทองลอยผ่านในอากาศ ขณะที่พวกมันกำลังไหลไปทางลูกแก้วผลึก ของเหลวทั้งหมดจะปล่อยแกนวิญญาณเกินร้อยให้กลายเป็นหมอก แต่ผู้วิเศษนี้ไม่สนใจกับการสูญเสียแกนวิญญาณแค่จำนวนเล็กน้อย เพราะของเหลวสีทองเป็นสิ่งที่สำคัญ
ในที่สุด ของเหลวสีทองทั้งหมดก็รวมอยู่ในแก้วผลึกลูกที่เก้า
“ฮ่าฮ่า...” เสียงแหบแห้งของพ่อมดผู้วิเศษหัวเราะ“อีกสามวัน แค่อีกสามวันแก่นวิญญาณทั้งยี่สิบล้านจะกลายเป็นมุกวิญญาณทองอีกลูกหนึ่ง” พ่อมดผู้วิเศษรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาเผชิญกับสภาพแวดล้อมในพิภพจองจำเกบาโดสอย่างนั้นมาแล้วจะเป็นยังไงได้?
ในพิภพจองจำเกบาโดส ระดับพลังของเขานับได้ว่าทั่วไปเท่านั้น
มุกวิญญาณทองสองลูก แทนดวงวิญญาณสี่สิบดวง!
หกปีที่ผ่านมา แม้แต่สามสมาคมการค้าใหญ่และเก้าองครักษ์ชุดเงิน,ผู้วิเศษจึงรวบรวมวิญญาณได้มากเกิน ความจริงสามสมาคมการค้าใหญ่มีส่วนร่วมมากที่สุด สามสมาคมการค้าฝังรากลึกในทวีปยูลาน และพวกเขาลอบวางกำลังคนไว้ทุกเมือง
หลังจากผ่านไปหกปีทาสที่พวกเขานำมาจากพ่อค้าทาส ไม่ใช่ว่างานรวบรวมดวงวิญญาณสี่สิบล้านดวงของพวกเขาจะเป็นไปไม่ได้
“การกลั่นวิญญาณนั้นยากมากและการดูดกลืนวิญญาณเหล่านั้นก็ช้าเช่นกัน มีแนวโน้มว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนก่อนที่ข้าจะสามารถดูดกลืนมุกวิญญาณทองนี้สำเร็จ” ผู้วิเศษถอนหายใจ แต่คำพูดของเขาซ่อนความหมายอยู่ภายใน มุกวิญญาณทองไม่เพียงแต่ช่วยให้เขารักษาวิญญาณของเขาได้สำเร็จเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้วิญญาณของเขามีพลังเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
ถ้าเขาต้องอาศัยแค่เฉพาะแต่การฝึกฝน ใครจะรู้กันเล่าจะต้องใช้เวลาอีกกี่หมื่นปีจึงจะมีความสำเร็จระดับนี้
“หือ? ใครบางคนมาที่นี่!” ตาสีเขียวของผู้วิเศษมองขึ้นด้านบนทันที เขารู้สึกได้ชัดถึงพลังจิตที่กวาดผ่านตัวเขาไปทันที “เทพ”
ไม่ใช่มูบา“ จากพลังจิต ผู้วิเศษสามารถบอกได้ทันทีว่าผู้นี้ไม่ใช่คนที่เขาคุ้นเคย ”เป็นเทพตนใดกันแน่?” ผู้วิเศษกำลังไตร่ตรองขณะดึงเคียวดำมาถือไว้ในมือขวาขณะที่เขาเก็บแก้วผลึกที่มีวิญญาณยี่สิบล้านดวงเตรียมเก็บไว้ในแหวนเก็บสมบัติ
อย่างไรก็ตาม....
“อะไรกัน?!” หน้าของผู้วิเศษเปลี่ยนไปทันที ตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ก่อนนี้ภายในแก้วผลึกยังมีแก่นวิญญาณถึงยี่สิบล้านดวงในรูปของเหลวสีทอง แต่ในพริบตาเดียวแก้วผลึกว่างเปล่าทันที แก้วผลึกทั้งดวงในตอนนี้ใสบริสุทธิ์
“แกนวิญญาณหายไปไหน? เป็นไปไม่ได้, เป็นไปไม่ได้!” ผู้วิเศษรู้สึกว่านี่แปลกประหลาดเกินไป
แม้ว่าเขาจะกลั่นมุกวิญญาณทองลูกหนึ่งแล้ว,แต่แก่นวิญญาณที่จู่ๆ ก็หายไปนั้นมาจากวิญญาณเกินยี่สิบล้านดวงใช้เวลามากมายรวบรวมและกลั่นมาหลายปี เป็นไปได้ยังไงว่าเพียงพริบตาเดียวจะหายไปได้ทั้งหมด?
ก่อนที่เขาจะสามารถค้นหาสาเหตุเจอ เขาได้ยินเสียงครางหึ่งๆ ของกระบี่
เสียงกระบี่ร้องนั้นไพเราะน่าฟัง เมื่อได้ยินแล้ว ผู้วิเศษรู้สึกพอใจ แต่แทบจะทันทีพ่อมดผู้วิเศษมีทักษะในการวิเคราะห์วิญญาณก็เข้าใจได้ทันที “พลังโจมตีวิญญาณรูปแบบหนึ่ง”
ผู้วิเศษไม่ให้ความสนใจต่อการหายไปอย่างกะทันหันของวิญญาณทั้งยี่สิบล้านด้วง เขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้
ด้วยเสียงกระบี่ที่ครางกระหึ่มประกายสีม่วงชั่วร้ายปรากฏขึ้นทันที ไม่ว่าแสงสีม่วงฉายไปในที่ใด มิติจะกระเพื่อมเป็นเป็นริ้วขาดจากกัน...แสงสีม่วงแฝงไปด้วยพลังรังสีที่น่ากลัวทำให้ผู้วิเศษตะลึง เขาเลือกถอยอย่างไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย “มันเป็นใครกัน? หรือว่าจะเป็นเทพสงครามโอเบรียน?”
แม้ว่านี้เป็นสิ่งที่เขาคาดเดาขณะถอยแต่ผู้วิเศษเริ่มปล่อยคลื่นหมอกสีเทาพุ่งหาลินลี่ย์