ตอนที่แล้วChapter 29 : เหตุไม่คาดฝัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 31 : ชายวัยกลางคน – สู้

Chapter 30 : สังหาร – ลุยต่อ


ชายหนุ่มในชุดสูทผู้ที่ถูกโจวเฉินดึงหอกเอาไว้แสดงท่าทีตกตะลึงออกมา เขาไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มในจักรวรรดิมังกรที่เขามีปัญหาด้วยจะทรงพลังถึงขั้นที่ตัวเขาใช้สองมือก็ยังดึงหอกออกจากมือเดียวของอีกฝ่ายไม่ได้..

ตัวเขาที่มีพรสวรรค์อย่าง ‘ผู้ทรงพลัง’ ซึ่งเพิ่มค่าพลังกายให้เขาถึง 0.4 หน่วยทำให้เขาทรงพลังกว่าเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆส่วนใหญ่เป็นอย่างมากแต่กลับสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

เมื่อเห็นว่าดึงหอกคืนไม่ได้แน่ๆ ในช่วงเวลาสิ้นไร้ไม้ตรอกนี้ชายในชุดสูทจึงยกขาขวาถีบเข้าใส่โจวเฉินเพื่อประสานกับชายหนุ่มผิวขาวอีกคนที่กำลังพุ่งเข้าใส่โจวเฉินจากทางด้านหลัง

โจวเฉินคงสภาวะรับรู้อันทรงพลังเอาไว้เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ตลอดเวลา เขาเพียงแค่สะบัดท่อนเหล็กในมือออกไปลวกๆเพื่อหักขาของชายหนุ่มในชุดสูทอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงดึงหอกในมือของอีกฝ่ายออกมาและหันหลังแทงหอกเข้าใส่ชายผิวขาวอีกคนจนต้องถอยล่นออกไป

ชายในชุดสูทล้มลงบนพื้นแล้วเริ่มกรีดร้องออกมา ขณะที่กรีดร้องออกมานั้นเขาก็พยายามคลานหนีออกไปให้ห่างจากเจ้าปิศาจร้ายตนนี้ให้ได้ไกลที่สุด

ยังไงก็ตามมีหรือที่โจวเฉินจะปล่อยอีกฝ่ายไป? เขาพลิกหอกในมือและแทงลงบนร่างของอีกฝ่าย เจาะทะลุหัวใจของชายในชุดสูทอย่างแม่นยำ

ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่ใช้มีดพอเขามองไปอีกทีก็พบว่าอีกฝ่ายวิ่งหนีไปตามเส้นทางกระดูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหมอนี่ค่อนข้างไวทีเดียว ในเวลาสั้นๆเพียงแค่สองวินาทีก็วิ่งไปได้เกือบ30เมตรแล้วแถมยังไม่มีทีท่าจะหันกลับมาช่วยเพื่อนเลยด้วย

โจวเฉินมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายหนีไป หลังจากเงียบอยู่ซักพักเขาก็ไม่ได้เลือกที่จะไล่ตามอีกฝ่ายไปแต่อย่างใด เขาเพียงย่อกายลงและหยิบไฟแช็กขึ้นมาเก็บเอาไว้ ไฟแช็กนี่คือไอเทมที่ดรอปมาหลังจากสังหารชายหนุ่มชุดสูทลงได้ ไม่รู้เลยว่าเจ้าหมอนี่ไปเจอภารกิจเซอร์ไววัลแบบไหนถึงได้ไอเทมแบบนี้มา

เมื่อเก็บไฟแช็กกับท่อนเหล็กกลับลงไปในช่องเก็บของแล้วเขาก็นำเอาโค้กที่เหลืออีกครึ่งขวดออกมาดื่ม

พลังกายเขาตอนนี้เหลือไม่มากนักและสภาพร่างกายเองก็ไม่ดีเท่าไหร่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงเลือกที่ไล่ล่าเจ้าต่างชาติอีกคนไปแล้ว

ไม่นานนักเสียงการเคลื่อนไหวก็ดังขึ้นมาให้ได้ยินลางๆจากทางด้านหลัง โจวเฉินรู้ว่าเป็นมอนสเตอร์แมงป่องที่เหลือที่ไล่ตามเขามาและกำลังจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่นาน แน่นอนว่าหนนี้เขาไม่เลือกที่จะหนีเพราะอีกฝ่ายเหลืออยู่ไม่ถึงร้อยตัวแล้วด้วยซ้ำ จำนวนเท่านี้เขาสามารถรับมือได้สบายมาก หลังจากสังหารพวกมันลงได้เขาอาจจะได้ไอเทมดรอปบางอย่างก็เป็นได้

หอกในมือของเขาถูกแทงออกไปอย่างรวดเร็ว ในทุกครั้งที่แทงออกมันจะเจาะทะลุเปลือกของแมงป่องอย่างแม่นยำ โจวเฉินใช้วิธีโจมตีไปพลางล่าถอยไปพลาง พอผ่านไปซักพักเขาก็จะเพิ่มการโจมตีวงกว้างอย่างกวาดหอกรอบตัวไปด้วย ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีแมงป่องทั้งหมดก็ถูกสังหารลง

[ท่านสังหารแมงป่องทะเลทรายลงได้สำเร็จ – รางวัล : น้ำดื่ม 1 ขวด (ทองแดงขั้นต่ำ)]

หลังจากสังหารพวกมันหนนี้โจวเฉินก็ยังคงไม่ได้อุปกรณ์ใดๆแต่ได้มาเพียงน้ำดื่มหนึ่งขวดเท่านั้น

“ดูเหมือนอัตราดรอปของน้ำดื่มนี่จะสูงกว่าอุปกรณ์สวมใส่แบบไม่เห็นฝุ่นเลยแฮะ”

โจวเฉินจำได้ดีว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาได้น้ำดื่มมา อ้างอิงจากตรงนี้ก็พอจะอนุมานได้ว่าอาจจะเป็นการป้องกันที่ระบบมอบให้กับเซอร์ไวเวอร์ในระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้หิวน้ำตายง่ายๆในทะเลทรายร้อนระอุแห่งนี้

โจวเฉินหยิบน้ำดื่มออกมาจากช่องเก็บของและดื่มเข้าไปหลายอึก หลังจากดื่มเขาก็รู้สึกได้เลยว่าความกระหายที่เหลือหลังจากดื่มโค้กจนหมดนั้นหายไปจนไม่มีเหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“พูดก็พูดเถอะ เราก็ฆ่าไอพวกแมงป่องทะเลทรายนี่ไปเยอะแล้วทำไมถึงไม่ได้สกิลติดตัวเลยวะ? ตามหลักเหตุผลแล้วอย่างน้อยพวกมันก็น่าจะมีสกิลติดตัวประเภทพิษสิ”

โจวเฉินปรายตามองซากศพของเหล่าแมงป่องที่กองอยู่บนพื้นและรู้สึกว่าพวกมันอาจจะแตกต่างจากแมงป่องที่เขาเข้าใจก็เป็นได้ บางทีพวกมันอาจจะไม่มีพิษ

“เจ้าตัวเล็กพวกนี้อาจจะไม่มีพิษแต่หนามที่หางของพวกมันค่อนข้างแหลม ขาของเรายังเจ็บอยู่เลยแถมพวกมันยังแทงเข้าไปซะลึกเลยด้วย”

เมื่อตอนที่โจวเฉินพยายามหลบหนีออกจากทรายดูดเมื่อครู่เขาก็ถูกแมงป่องบางตัวที่ไล่ทันเข้าโจมตี ในตอนนั้นเขายังไม่ได้รู้สึกเจ็บมากนักเพราะอะดรีนาลีนในร่างกายยังหลั่งอยู่ ตอนนี้เมื่อร่างกายกลับสู่สภาวะปกติเขาจึงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เสียดแทงอยู่ในร่างกาย

หลังจากรู้สึกปวดจนทนแทบไม่ไหวโจวเฉินจึงตัดสินใจหยิบโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตออกมาจากช่องเก็บของและจิบเข้าไปเล็กน้อย

โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตขวดนี้มีสีแดงสดใสแต่เมื่อดื่มเข้าไปกลับไร้รสชาติไม่ต่างอะไรจากการดื่มน้ำเปล่าเลย

หลังจากดื่มโพชั่นเข้าไปเล็กน้อยโจวเฉินก็รอซักพักจนรู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดที่ตกค้างอยู่บนร่างกายจางหายลงไปเยอะมาก พลังกายเองก็ฟื้นฟูขึ้นมาเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ผลของโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตขวดนี้ต้องกล่าวเลยว่าออกผลในพริบตาจริงๆ

เมื่อเห็นว่าร่างกายของตัวเองฟื้นฟูจนเกือบสมบูรณ์แล้วโจวเฉินก็เก็บโพชั่นกลับเข้าไปและออกเดินทางอีกครั้งพร้อมกับหอกในมือ

เขาพึ่งจะเดินทางบนทะเลทรายเส้นทางกระดูกแห่งนี้มาได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังต้องไปอีกไกลนัก

“หวังว่าจะจบก่อนมืดนะ”

โจวเฉินวางแผนว่าจะจบภารกิจเซอร์ไววัลนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อยากจะรั้งอยู่จนถึงกลางคืนซักเท่าไหร่เพราะเขารู้สึกได้ว่ายามกลางคืนในทะเลทรายยังไงก็ต้องอันตรายกว่ากลางวัน

ภารกิจเซอร์ไววัลหนนี้แตกต่างจากที่เคยเจอมาในอดีตมากนัก เขาเพียงแค่ต้องไปให้ถึงโอเอซิสที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของเส้นทางกระดูกก็พอแล้ว ไม่มีเวลาจำกัดใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้ระบบยังบอกเอาไว้แต่แรกอีกด้วยว่าระยะทางทั้งหมดคือห้าสิบกิโล ดังนั้นตามตรรกะแล้วภารกิจเซอร์ไววัลนี้ย่อมสามารถทำให้สำเร็จได้ในเวลาแค่วันเดียว

เอาจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะการเดินทางบนทะเลทรายมันค่อนข้างลำบากบวกกับความร้อนที่ยากจะทานทนและยังต้องคอยหลบหลีกทรายดูดกับมอนสเตอร์ต่างๆ โจวเฉินคิดว่าด้วยพลังกายของเขาตอนนี้ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็น่าจะเสร็จสิ้นการเดินทางได้ไม่ยาก

..

หลังจากเดินมาได้อีกร่วมชั่วโมงโจวเฉินก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาอีกครั้ง พลังกายของเขาลดลงต่ำและเริ่มรู้สึกร้อนและเหนื่อยขึ้นมา

“น่าจะมาได้ครึ่งทางแล้วดังนั้นก็ต้องไปต่อ หวังว่าจะได้เจอกับมอนสเตอร์เร็วๆนี้แล้วกัน”

เนื่องจากความกระหายเขาจึงดื่มโค้กกับน้ำดื่มที่เหลือจนหมดไปแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่หวังว่าจะได้เจอกับมอนสเตอร์ที่จัดการได้ง่ายๆและดรอปน้ำดื่มลงมาให้เขาบ้าง

ยังไงก็ตามระบบนั้นมักจะทำตรงกันข้ามกับความปรารถนาของเขาอยู่เสมอ ในเวลาที่โจวเฉินต้องการจะรีบก็ดันเจอเข้ากับพื้นที่ที่เป็นทรายดูดและเจอมอนสเตอร์เข้าโจมตี แต่เวลาที่เขาอยากจะเจอมอนสเตอร์เพื่อหาน้ำดื่มกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกมันเลยด้วยซ้ำ กลับกันเพราะเขากลับมองเห็นเนินทรายสูงตะหง่านสุดลูกลูกตาแทน

“ระบบนี่แมร่งไร้มนุษยธรรมชิบหาย...”

แค่ต้องเดินบนทะเลทรายที่ร้อนจัดเขาก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว ไม่คิดเลยว่าระบบจะเพิ่มความท้าทายอย่างการปีนเนินทรายให้เขาอีก

เขามองไปที่เนินทรายสูงตะหง่านและสังเกตเห็นว่าเส้นทางกระดูกตัดผ่านตรงกลางของเนินทรายอย่างพอดิบพอดี ดังนั้นการอ้อมไปจึงยากมากเขาจึงได้แต่กัดฟันเดินหน้าต่อ

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็เดินมาจนถึงด้านล่างของเนินทราย

จากนั้นภายใต้เนินทรายสูงตะหง่านเขาพลันสังเกตุเห็นร่างของคนผู้หนึ่งนอนอยู่บนพื้น ครึ่งร่างของคนผู้นั้นถูกฝังอยู่ในทรายและดูเหมือนจะสู่ขิตไปแล้ว

“ช่วยด้วย...”

น้ำเสียงอ่อนแรงดังออกมาจากทางด้านหน้าทำให้โจวเฉินได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด