Chapter 30 : สังหาร – ลุยต่อ
ชายหนุ่มในชุดสูทผู้ที่ถูกโจวเฉินดึงหอกเอาไว้แสดงท่าทีตกตะลึงออกมา เขาไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มในจักรวรรดิมังกรที่เขามีปัญหาด้วยจะทรงพลังถึงขั้นที่ตัวเขาใช้สองมือก็ยังดึงหอกออกจากมือเดียวของอีกฝ่ายไม่ได้..
ตัวเขาที่มีพรสวรรค์อย่าง ‘ผู้ทรงพลัง’ ซึ่งเพิ่มค่าพลังกายให้เขาถึง 0.4 หน่วยทำให้เขาทรงพลังกว่าเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆส่วนใหญ่เป็นอย่างมากแต่กลับสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้
เมื่อเห็นว่าดึงหอกคืนไม่ได้แน่ๆ ในช่วงเวลาสิ้นไร้ไม้ตรอกนี้ชายในชุดสูทจึงยกขาขวาถีบเข้าใส่โจวเฉินเพื่อประสานกับชายหนุ่มผิวขาวอีกคนที่กำลังพุ่งเข้าใส่โจวเฉินจากทางด้านหลัง
โจวเฉินคงสภาวะรับรู้อันทรงพลังเอาไว้เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ตลอดเวลา เขาเพียงแค่สะบัดท่อนเหล็กในมือออกไปลวกๆเพื่อหักขาของชายหนุ่มในชุดสูทอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงดึงหอกในมือของอีกฝ่ายออกมาและหันหลังแทงหอกเข้าใส่ชายผิวขาวอีกคนจนต้องถอยล่นออกไป
ชายในชุดสูทล้มลงบนพื้นแล้วเริ่มกรีดร้องออกมา ขณะที่กรีดร้องออกมานั้นเขาก็พยายามคลานหนีออกไปให้ห่างจากเจ้าปิศาจร้ายตนนี้ให้ได้ไกลที่สุด
ยังไงก็ตามมีหรือที่โจวเฉินจะปล่อยอีกฝ่ายไป? เขาพลิกหอกในมือและแทงลงบนร่างของอีกฝ่าย เจาะทะลุหัวใจของชายในชุดสูทอย่างแม่นยำ
ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่ใช้มีดพอเขามองไปอีกทีก็พบว่าอีกฝ่ายวิ่งหนีไปตามเส้นทางกระดูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหมอนี่ค่อนข้างไวทีเดียว ในเวลาสั้นๆเพียงแค่สองวินาทีก็วิ่งไปได้เกือบ30เมตรแล้วแถมยังไม่มีทีท่าจะหันกลับมาช่วยเพื่อนเลยด้วย
โจวเฉินมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายหนีไป หลังจากเงียบอยู่ซักพักเขาก็ไม่ได้เลือกที่จะไล่ตามอีกฝ่ายไปแต่อย่างใด เขาเพียงย่อกายลงและหยิบไฟแช็กขึ้นมาเก็บเอาไว้ ไฟแช็กนี่คือไอเทมที่ดรอปมาหลังจากสังหารชายหนุ่มชุดสูทลงได้ ไม่รู้เลยว่าเจ้าหมอนี่ไปเจอภารกิจเซอร์ไววัลแบบไหนถึงได้ไอเทมแบบนี้มา
เมื่อเก็บไฟแช็กกับท่อนเหล็กกลับลงไปในช่องเก็บของแล้วเขาก็นำเอาโค้กที่เหลืออีกครึ่งขวดออกมาดื่ม
พลังกายเขาตอนนี้เหลือไม่มากนักและสภาพร่างกายเองก็ไม่ดีเท่าไหร่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงเลือกที่ไล่ล่าเจ้าต่างชาติอีกคนไปแล้ว
ไม่นานนักเสียงการเคลื่อนไหวก็ดังขึ้นมาให้ได้ยินลางๆจากทางด้านหลัง โจวเฉินรู้ว่าเป็นมอนสเตอร์แมงป่องที่เหลือที่ไล่ตามเขามาและกำลังจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่นาน แน่นอนว่าหนนี้เขาไม่เลือกที่จะหนีเพราะอีกฝ่ายเหลืออยู่ไม่ถึงร้อยตัวแล้วด้วยซ้ำ จำนวนเท่านี้เขาสามารถรับมือได้สบายมาก หลังจากสังหารพวกมันลงได้เขาอาจจะได้ไอเทมดรอปบางอย่างก็เป็นได้
หอกในมือของเขาถูกแทงออกไปอย่างรวดเร็ว ในทุกครั้งที่แทงออกมันจะเจาะทะลุเปลือกของแมงป่องอย่างแม่นยำ โจวเฉินใช้วิธีโจมตีไปพลางล่าถอยไปพลาง พอผ่านไปซักพักเขาก็จะเพิ่มการโจมตีวงกว้างอย่างกวาดหอกรอบตัวไปด้วย ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีแมงป่องทั้งหมดก็ถูกสังหารลง
[ท่านสังหารแมงป่องทะเลทรายลงได้สำเร็จ – รางวัล : น้ำดื่ม 1 ขวด (ทองแดงขั้นต่ำ)]
หลังจากสังหารพวกมันหนนี้โจวเฉินก็ยังคงไม่ได้อุปกรณ์ใดๆแต่ได้มาเพียงน้ำดื่มหนึ่งขวดเท่านั้น
“ดูเหมือนอัตราดรอปของน้ำดื่มนี่จะสูงกว่าอุปกรณ์สวมใส่แบบไม่เห็นฝุ่นเลยแฮะ”
โจวเฉินจำได้ดีว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาได้น้ำดื่มมา อ้างอิงจากตรงนี้ก็พอจะอนุมานได้ว่าอาจจะเป็นการป้องกันที่ระบบมอบให้กับเซอร์ไวเวอร์ในระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้หิวน้ำตายง่ายๆในทะเลทรายร้อนระอุแห่งนี้
โจวเฉินหยิบน้ำดื่มออกมาจากช่องเก็บของและดื่มเข้าไปหลายอึก หลังจากดื่มเขาก็รู้สึกได้เลยว่าความกระหายที่เหลือหลังจากดื่มโค้กจนหมดนั้นหายไปจนไม่มีเหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“พูดก็พูดเถอะ เราก็ฆ่าไอพวกแมงป่องทะเลทรายนี่ไปเยอะแล้วทำไมถึงไม่ได้สกิลติดตัวเลยวะ? ตามหลักเหตุผลแล้วอย่างน้อยพวกมันก็น่าจะมีสกิลติดตัวประเภทพิษสิ”
โจวเฉินปรายตามองซากศพของเหล่าแมงป่องที่กองอยู่บนพื้นและรู้สึกว่าพวกมันอาจจะแตกต่างจากแมงป่องที่เขาเข้าใจก็เป็นได้ บางทีพวกมันอาจจะไม่มีพิษ
“เจ้าตัวเล็กพวกนี้อาจจะไม่มีพิษแต่หนามที่หางของพวกมันค่อนข้างแหลม ขาของเรายังเจ็บอยู่เลยแถมพวกมันยังแทงเข้าไปซะลึกเลยด้วย”
เมื่อตอนที่โจวเฉินพยายามหลบหนีออกจากทรายดูดเมื่อครู่เขาก็ถูกแมงป่องบางตัวที่ไล่ทันเข้าโจมตี ในตอนนั้นเขายังไม่ได้รู้สึกเจ็บมากนักเพราะอะดรีนาลีนในร่างกายยังหลั่งอยู่ ตอนนี้เมื่อร่างกายกลับสู่สภาวะปกติเขาจึงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เสียดแทงอยู่ในร่างกาย
หลังจากรู้สึกปวดจนทนแทบไม่ไหวโจวเฉินจึงตัดสินใจหยิบโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตออกมาจากช่องเก็บของและจิบเข้าไปเล็กน้อย
โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตขวดนี้มีสีแดงสดใสแต่เมื่อดื่มเข้าไปกลับไร้รสชาติไม่ต่างอะไรจากการดื่มน้ำเปล่าเลย
หลังจากดื่มโพชั่นเข้าไปเล็กน้อยโจวเฉินก็รอซักพักจนรู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดที่ตกค้างอยู่บนร่างกายจางหายลงไปเยอะมาก พลังกายเองก็ฟื้นฟูขึ้นมาเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ผลของโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตขวดนี้ต้องกล่าวเลยว่าออกผลในพริบตาจริงๆ
เมื่อเห็นว่าร่างกายของตัวเองฟื้นฟูจนเกือบสมบูรณ์แล้วโจวเฉินก็เก็บโพชั่นกลับเข้าไปและออกเดินทางอีกครั้งพร้อมกับหอกในมือ
เขาพึ่งจะเดินทางบนทะเลทรายเส้นทางกระดูกแห่งนี้มาได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังต้องไปอีกไกลนัก
“หวังว่าจะจบก่อนมืดนะ”
โจวเฉินวางแผนว่าจะจบภารกิจเซอร์ไววัลนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อยากจะรั้งอยู่จนถึงกลางคืนซักเท่าไหร่เพราะเขารู้สึกได้ว่ายามกลางคืนในทะเลทรายยังไงก็ต้องอันตรายกว่ากลางวัน
ภารกิจเซอร์ไววัลหนนี้แตกต่างจากที่เคยเจอมาในอดีตมากนัก เขาเพียงแค่ต้องไปให้ถึงโอเอซิสที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของเส้นทางกระดูกก็พอแล้ว ไม่มีเวลาจำกัดใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้ระบบยังบอกเอาไว้แต่แรกอีกด้วยว่าระยะทางทั้งหมดคือห้าสิบกิโล ดังนั้นตามตรรกะแล้วภารกิจเซอร์ไววัลนี้ย่อมสามารถทำให้สำเร็จได้ในเวลาแค่วันเดียว
เอาจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะการเดินทางบนทะเลทรายมันค่อนข้างลำบากบวกกับความร้อนที่ยากจะทานทนและยังต้องคอยหลบหลีกทรายดูดกับมอนสเตอร์ต่างๆ โจวเฉินคิดว่าด้วยพลังกายของเขาตอนนี้ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็น่าจะเสร็จสิ้นการเดินทางได้ไม่ยาก
..
หลังจากเดินมาได้อีกร่วมชั่วโมงโจวเฉินก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาอีกครั้ง พลังกายของเขาลดลงต่ำและเริ่มรู้สึกร้อนและเหนื่อยขึ้นมา
“น่าจะมาได้ครึ่งทางแล้วดังนั้นก็ต้องไปต่อ หวังว่าจะได้เจอกับมอนสเตอร์เร็วๆนี้แล้วกัน”
เนื่องจากความกระหายเขาจึงดื่มโค้กกับน้ำดื่มที่เหลือจนหมดไปแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่หวังว่าจะได้เจอกับมอนสเตอร์ที่จัดการได้ง่ายๆและดรอปน้ำดื่มลงมาให้เขาบ้าง
ยังไงก็ตามระบบนั้นมักจะทำตรงกันข้ามกับความปรารถนาของเขาอยู่เสมอ ในเวลาที่โจวเฉินต้องการจะรีบก็ดันเจอเข้ากับพื้นที่ที่เป็นทรายดูดและเจอมอนสเตอร์เข้าโจมตี แต่เวลาที่เขาอยากจะเจอมอนสเตอร์เพื่อหาน้ำดื่มกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกมันเลยด้วยซ้ำ กลับกันเพราะเขากลับมองเห็นเนินทรายสูงตะหง่านสุดลูกลูกตาแทน
“ระบบนี่แมร่งไร้มนุษยธรรมชิบหาย...”
แค่ต้องเดินบนทะเลทรายที่ร้อนจัดเขาก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว ไม่คิดเลยว่าระบบจะเพิ่มความท้าทายอย่างการปีนเนินทรายให้เขาอีก
เขามองไปที่เนินทรายสูงตะหง่านและสังเกตเห็นว่าเส้นทางกระดูกตัดผ่านตรงกลางของเนินทรายอย่างพอดิบพอดี ดังนั้นการอ้อมไปจึงยากมากเขาจึงได้แต่กัดฟันเดินหน้าต่อ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็เดินมาจนถึงด้านล่างของเนินทราย
จากนั้นภายใต้เนินทรายสูงตะหง่านเขาพลันสังเกตุเห็นร่างของคนผู้หนึ่งนอนอยู่บนพื้น ครึ่งร่างของคนผู้นั้นถูกฝังอยู่ในทรายและดูเหมือนจะสู่ขิตไปแล้ว
“ช่วยด้วย...”
น้ำเสียงอ่อนแรงดังออกมาจากทางด้านหน้าทำให้โจวเฉินได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตาย