ตอนที่แล้วChapter 27 : สู้กับหนอนทรายใบเลื่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 29 : เหตุไม่คาดฝัน

Chapter 28 : เดินหน้าต่อ


หลังจากตรวจสอบรอบๆผ่านทางช่องว่างระหว่างเสื้อที่พันหัวจนยืนยันได้แล้วว่าไม่มีมอนสเตอร์ใดอีก โจวเฉินก็เรียกขวดน้ำดื่มที่พึ่งได้มาออกมาจากช่องเก็บของ จากนั้นเขาก็ดึงหน้ากากลงและกระดกมันลงคอ

อุณหภูมิภายในทะเลทรายแห่งนี้ค่อนข้างสูงมากและการต่อสู้เมื่อครู่เองแม้จะไม่ยากลำบากแต่ก็เปลืองพลังงานไม่ใช่ย่อย ร่างกายของโจวเฉินในตอนนี้จึงค่อนข้างต้องการน้ำแบบเร่งด่วน

หลังจากจัดการกับน้ำดื่มปริมาณ500มิลลิลิตรเสร็จสิ้นโจวเฉินก็ปิดฝาและยัดมันกลับไปไว้ในช่องเก็บของอีกครั้ง

ขวดน้ำพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยระบบ เขาจึงรู้สึกว่ามันน่าจะมีประโยชน์ในรูปแบบอื่นอีก

หลังจากปัดฝุ่นที่เกาะตามหน้าออกแล้วเขาก็ดึงหน้ากากขึ้นมาสวมอีกครั้งและเดินหน้าต่อพร้อมกับท่อนเหล็กในมือ

ขณะที่เดินหน้าต่อนั้นเขาก็ยังคงความระมัดระวังเอาไว้ในระดับสูงเช่นเดิมแม้ว่าจะจัดการกับมอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีเขาไปได้แล้วกลุ่มหนึ่งก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าข้างหน้าไม่ไกลออกไปจะไม่มีอีกเสียหน่อย

ด้านหน้าของเขามีเซอร์ไวเวอร์นำอยู่สามคนและเขาก็ไม่คิดหรอกว่าคนพวกนั้นจะหลุดรอดไม่โดนพวกมอนสเตอร์โจมตี

หลังจากนั้นห้านาทีเขาก็พบกับซากของหนอนทรายใบเลื่อยที่นอนกองอยู่ไม่ไกล หัวของพวกมันดุเหมือนจะถูกอะไรบางอย่างฟาดจนแตกเป็นเสี่ยงๆ กระทั่งว่าไกลออกไปอีกหน่อยก็ยังมีหนอนทะเลทรายใบเลื่อยที่กำลังกัดแทะบางสิ่ง ขมเคี้ยวอันแหลมคมทั้งสองข้างของมันเดี๋ยวอ้าเดี๋ยวหุบอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับของเหลวสีแดงที่สาดกระเซ็นจนเปื้อนผืนทราย

“มีคนตายแล้วงั้นหรอ?”

โจวเฉินเดาเช่นนั้น พริบตานั้นเองโล่กลมที่มีรอยข่วนบาดลึกก็ปรากฏขึ้นมาในมือซ้ายของเขาขณะที่ท่อนเหล็กก็ถูกกระชับแน่นอยู่ในมือด้านขวา ขาของโจวเฉินค่อยๆย่องเข้าไปหาหนอนทะเลทรายใบเลื่อนที่กำลังกินอาหารอย่างแผ่วเบา

หนอนทะเลทรายใบเลื่อยที่มีหน้าตาคล้ายกับตะขาบสัมผัสได้ทันทีว่ามีใครบางคนกำลังมุ่งตรงเข้ามาหามัน มันที่สัมผัสได้ดังนั้นกลับไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนแอออกมาแต่เลือกที่จะทิ้งอาหารที่กินอยู่และมุดลงไปในทรายเพื่อหาจังหวะเข้าโจมตีอีกฝ่ายแทน

โจวเฉินค่อนข้างคุ้นชินกับรูปแบบการโจมตีของมอนสเตอร์ชนิดนี้แล้ว เขากระชับท่อนเหล็กและโล่กลมในมือก่อนจะเดินต่ออย่างมั่นคงโดยไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ที่หลบลงไปซ่อนตัวในทรายเลยแม้แต่น้อย

สามวินาทีต่อมาโจวเฉินที่ครอบครองสัมผัสการรับรู้อันยอดเยี่ยมก็สามารถระบุตำแหน่งของหนอนทะเลทรายใบเลื่อนที่กำลังมุ่งเข้ามาหาเขาจากใต้ผืนทรายได้อย่างไม่ยากเย็น จากนั้นด้วยความว่องไวเป็นเลิศของเขาเขาก็สามารถหลบการโจมตีของมันได้แบบฉิวเฉียดและเหวี่ยงท่อนเหล็กในมือสวนกลับใส่หัวของอีกฝ่ายเต็มแรงจนหัวของมันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆราวกับแตงโม

หลังจากสังหารมอนสเตอร์ตัวนี้ลงได้ระบบก็ไม่ได้แจ้งเตือนอะไร นี่ก็หมายความว่าเขาไม่ได้สกิลติดตัวหรือไอเทมดรอปซักอย่างเดียว

โจวเฉินไม่สนใจเท่าไหร่นักอาจจะเพราะเขาชินแล้วก็เป็นได้ เขาเดินผ่านร่างของมอนสเตอร์ไปจนถึงจุดที่มันเคยแทะอะไรบางอย่างอยู่เมื่อซักครู่และก็พบว่ามันเป็นศพมนุษย์จริงๆดังคาด ศพนี้ถูกฟันยาวๆของหนอนทะเลทรายใบเลื่อยฉีกกระชากเป็นชิ้นๆและชิ้นส่วนเนื้อเองก็เละเทะไม่มีชิ้นดี

โจวเฉินจึงต้องคาดเดาเอาจากเสื้อผ้าที่เหลืออยู่และเดาว่าน่าศพนนี้น่าจะเป็นศพของผู้หญิงคนแรกที่เข้ามาขอโค้กกับเขา

ไม่ไกลจากศพนี้มีค้อนด้ามหนึ่งหล่นอยู่ ค้อนด้ามนี้จมลงไปในทรายเกือบครึ่งเห็นจะได้  บริเวณด้ามจับเองก็มีรอยบาดลึกประดับอยู่ซึ่งก็น่าจะเกิดจากฝีมือของหนอนทะเลทรายใบเลื่อยนี่แหละ

โจวเฉินโน้มตัวลงและหยิบค้อนอันนั้นขึ้นมา จากนั้นเขาก็ลองยัดมันใส่ในช่องเก็บของดูและพบว่าสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

“ขอโทษด้วยนะ ไม่ได้ให้เธอดื่มโค้กอึกสุดท้ายในชีวิตแท้ๆแถมยังมาเก็บของของเธอไปอีก”

โจวเฉินรู้สึกเสียใจขึ้นมา แม้ว่าท่าทีของสาวน้อยคนนี้จะดูไร้เหตุผลไปบ้างแต่เธอก็ไม่ควรจะมาตายในสภาพอเนชอนาถน่าสมเพชเช่นนี้

ยังไงก็ตามระบบนั้นเลือดเย็นเช่นนี้แลเพราะมันไม่คิดจะแม้แต่จะให้โอกาสเสียใจด้วยซ้ำ ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นมาระหว่างทำภารกิจเอาชีวิตรอด ราคาที่ท่านต้องจ่ายก็คือความตายของท่านเอง

เขาตรวจสอบบริเวณรอบๆอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีไอเทมอะไรหลงเหลืออยู่อีก จากนั้นเขาก็เดินหน้าต่อไปบนเส้นทางกระดูก

...

หลังจากเดินมาได้อีกราวๆครึ่งชั่วโมงเขาก็เห็นว่าทรายด้านหน้าค่อนข้างมีสีสว่างกว่าที่ผ่านๆมา

โจวเฉินจึงค่อยๆเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆพร้อมกับท่อนเหล็กในมือและพบว่าทราบบริเวณนี้นอกจากสว่างแล้วยังค่อนข้างอ่อนยวบอีกด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นทรายดูดไม่ผิดแน่

เมื่อเห็นดังนี้เขาจึงเลือกอ้อมไปอย่างไม่ลังเล

"พูดก็พูดเถอะ สกิลติดตัวที่เราพึ่งได้มาที่ชื่อว่า ‘กลั้นหายใจ’ เนี่ย ต่อให้เราจมลงไปในทรายดูดจริงๆก็น่าจะทนได้ซักพักล่ะมั้ง?"

โจวเฉินยังไม่ได้อ่านคำอธิบายสกิลที่เขาได้มาหลังจากสังหารมอนสเตอร์เมื่อครู่เลย คิดได้ดังนี้เขาจึงเปิดหน้าต่างตัวละครขึ้นมาและเริ่มอ่านรายละเอียดสกิลที่ได้มาเมื่อครู่

[กลั้นหายใจ (ระดับ1)]

[ประเภทสกิล : สกิลติดตัวระดับทองแดงขั้นต่ำ]

[คำอธิบาย : ร่างกายของท่านจะถูกยกระดับ ท่านสามารถคงสภาพการทำงานของอวัยวะได้เป็นเวลาสามชั่วโมงแม้แต่ในสภาพแวดล้อมที่มีอ๊อกซิเจนเบาบาง]

“สกิลนี้ช่วยให้กลั้นหายใจได้อย่างที่คิด ถ้าเรามองเห็นแล้วเคลื่อนที่ได้เร็วเวลาอยู่ในทรายก็น่าจะมุดไปมุดมาได้เหมือนกับพวกหนอนทะเลทรายใบเลื่อยเลยมั้ง”

พูดจบเขาก็ปิดหน้าต่างตัวละครลงและเดินทางต่อ

เขาเดินต่อไปบริเวณชายของของพื้นที่ทรายดูดเป็นเวลาเกือบยี่สิบนาทีจนในที่สุดก็สังเกตุเห็นว่ามีเงาร่างสองร่างกำลังเดินตามเขามา

เขาหันไปมองและพบว่าเป็นชาวต่างชาติผิวขาวทั้งสองคนนั้นนั่นเอง

ชาวต่างชาติทั้งสองคนในเวลานี้ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บมา คนหนึ่งมีรอยบาดบริเวณหน้าอกจนเผยให้เห็นแผ่นอกที่ถูกเลือดย้อมจนแดงฉาน ขณะที่อีกคนหนึ่งนั้นบริเวณแขนซ้ายเต็มไปด้วยเลือดและห้อยตกอยู่ข้างตัวราวกับหมดความรู้สึกไปแล้ว

โจวเฉินที่เห็นก็คิดจะเร่งความเร็วเพราะไม่อยากจะเข้าไปมีเอี่ยวกับคนทั้งสอง

“เฮ้! เดี๋ยวก่อนสิสหาย!”

ยังไงก็ตามในตอนที่เขาเร่งฝีเท้านั้นก็พลันได้ยินภาษาของจักรวรรดิมังกรที่ฟังดูแปร่งๆดังขึ้นมาเสียก่อน

“ชาวต่างชาติคนนี้รู้ภาษาของจักรวรรดิมังกรด้วย?”

โจวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย เขาหยุดและหันกลับไปก่อนจะหยุดรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

"สหาย! ได้โปรดให้พวกเรายืมน้ำทีเถอะ!"

ชายหนุ่มชาวต่างชาติในชุดสูทที่มีรอยบาดลึกบริเวณหน้าอกเดินเข้ามาแล้วกล่าวกับโจวเฉินด้วยน้ำเสียงกังวล

“ขอโทษด้วย บนตัวฉันไม่มีน้ำอยู่เลย”

โจวเฉินมองไปที่อีกฝ่ายและชายหนุ่มท่าทีเงียบขรึมอีกคนหนึ่งที่แขนซ้ายห้อยอยู่ข้างลำตัวก่อนจะส่ายหัว

“โพชั่นก็ได้!”

ชายหนุ่มในชุดสูทหันไปกล่าวอะไรบางอย่างด้วยภาษาต่างชาติกับชายอีกคน จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาชี้ที่หน้าอกของตัวเองกับแขนซ้ายของสหายเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าพวกเขาต้องการการรักษา

“พวกเราจะจ่ายให้อย่างงามเลย!”

เขากล่าวเน้นย้ำเสียงหนักแน่นด้วยภาษาของจักรวรรดิมังกรสำเนียงแปร่งๆนั่น

“ถึงฉันจะอยากช่วยแต่ก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ บนตัวฉันไม่มีโพชั่นอะไรอยู่เลย”

โจวเฉินยิ้มแล้วตอบกลับทันที

ในความเป็นจริงแล้วเขามีโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตอยู่ในช่องเก็บของอยู่หรอกแต่เขาไม่คิดจะให้อีกฝ่ายเพียงเพราะสัญญาลมปากเป็นแน่

“เฮ้อ! แย่จริงๆ! ถ้างั้นก็ไปด้วยกันเถอะ!”

ชายชุดสูทดูเหมือนจะไม่ได้โกรธที่โจวเฉินปฏิเสธแต่เขากลับยิ้มตอบแล้วชักชวนให้โจวเฉินเดินทางไปพร้อมกัน

“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันนำทางให้เอง”

โจวเฉินยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินหน้าต่อ

ชายหนุ่มในชุดสูทด้านหลังหันไปกล่าวอะไรบางอย่างกับชายหนุ่มอีกคนด้วยภาษาต่างประเทศก่อนจะเดินตามโจวเฉินไป

แม้โจวเฉินจะเอ่ยปากว่าจะเดินทางไปพร้อมกับคนทั้งสองแต่ความจริงแล้วเขาไม่คิดจะอำนวยความสะดวกให้คนทั้งคู่แต่อย่างใด พูดตามตรงเขาก็แค่เดินตามเส้นทางเดิมที่ตั้งใจต่อไปเท่านั้น ส่วนคนทั้งสองจะตามมาหรือเปล่าอันนั้นเขาไม่คิดจะสนใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด