Chapter 22 : ตัวตน
“ไอ้ตัวนั้น!”
โจวเฉินตอบสนองทันควัน เขากระชับท่อนเหล็กในมือและพุ่งไปยังจุดที่เสี่ยวหลี่ล้มลงเพื่อโจมตีมือสังหารที่เขาสัมผัสถึงตัวตนได้เมื่อครู่
ยังไงก็ตามระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นมีเยอะพอสมควร แม้ว่าโจวเฉินจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแต่ก็โจมตีไม่โดนเป้าหมาย
ความสามารถในการตรวจจับที่มาพร้อมกับค่าสถานะจิตวิญญาณเป็นตัวยืนยันชั้นดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในระยะห้าเมตรรอบตัวเขาแล้ว เมื่อลองสังเกตดูจากหินที่สั่นไหวบนพื้นเขาก็คาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะหนีไปทางทางแยกที่อยู่ไกลออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มันเลิกคิดที่จะโจมตีเราแล้ว หรือมันจะรู้ว่าถ้ามันเข้ามาใกล้เราตัวตนของมันจะถูกเปิดเผย? เฮอะๆ อย่าให้ฉันจับแกได้เชียวนะ”
เมื่อมองไปยังสาวน้อยที่ต้องสิ้นชีพลงในถ้ำอันมืดมิดและเงียบเหงาแห่งนี้โจวเฉินก็รู้สึกได้ถึงเพลิงโทสะสายนึงที่ก่อตัวขึ้นในใจ
ศัตรูที่มองไม่เห็นผู้นี้ปั่นหัวเขามาแล้วสองรอบ ครั้งล่าสุดมันก็เกือบจะเอาชีวิตของเขาไปแล้วและมาครั้งนี้มันก็สังหารสาวน้อยที่มาขอให้เขาปกป้องไป แม้ว่าเขาไม่คิดจะปกป้องเธอแต่ก็รู้สึกโมโหอยู่ดีที่มันสังหารเธอไปก่อนที่เขาจะทันได้สังเกตุเห็น
โจวเฉินใช้ท่อนเหล็กในมือพลิกร่างของเสี่ยวหลี่เพื่อดูบาดแผล เขาพบว่าบาดแผลบนคอของเธอทั้งลึกและประณีตราวกับว่าเกิดจากของมีคม
“หรือไอ้ตัวล่องหนได้นี่จะเป็นมนุษย์?”
เขาคิดกับตัวเอง
“เป็นไปได้มากทีเดียว การลงมือของมันเต็มไปด้วยแผนการแตกต่างจากมอนสเตอร์ทั่วๆไป”
โจวเฉินคาดเดาตัวตนของศัตรูที่มองไม่เห็นผู้นี้และเริ่มสงสัยขึ้นมา
จากนั้นไม่นานเมื่อเขาบอกลากับศพของเสี่ยวหลี่แล้วเขาก็เดินจากมาและมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่สัมผัสได้ว่าศัตรูที่มองไม่เห็นหนีไป
เขาวางแผนว่าจะล่าเจ้าหมอนี่อีกครั้ง อีกฝ่ายลอบโจมตีเขามาหลายครั้งแล้วดังนั้นเขาไม่คิดจะปล่อยมันไปง่ายๆแน่นอน
หลังจากเดินผ่านอุโมงค์ถ้ำอันคดเคี้ยวและมาถึงทางแยกเขาก็เลือกเส้นทางมาเส้นทางนึงแล้วออกสำรวจต่อ
สัมผัสของเขาอยู่ในสภาวะตรวจจับตลอดเวลา ตราบใดที่เจ้าคนที่หายตัวอยู่ผู้นั้นกล้าโผล่มาใกล้ๆเขามันก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้แน่นอน
สิบห้านาทีผ่านไปแต่เขากลับไม่พบเจอมนุษย์เลยซักคน กลับกันเพราะเขาต้องปะทะกับมอนสเตอร์ชนิดใหม่ๆแทน
มอนสเตอร์พวกนี้มีลักษณะคล้ายค้างคาวที่มีขนาดตัวเท่ากะละมังซักผ้า เมื่อพวกมันเห็นโจวเฉินเดินมาพวกมันก็กรีดร้องและสะบัดปีกพุ่งเข้าหาเขาทันที
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีแค่สามตัวโจวเฉินจึงตัดสินใจสู้
เนื่องจากสกิลพลังช้างสารทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาขั้นใหญ่ พลังจิตและความเร็วที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงก็ทำให้เขาเป็นเลิศด้านการตรวจจับและปฏิกริยาตอบสนอง ดังนั้นการสังหารค้างคาวสามตัวนี้จึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เขาจัดการสังหารค้างคาวตัวแรกในทันทีด้วยการเหวี่ยงท่อนเหล็กใส่อย่างรุนแรง จากนั้นขณะที่หลบการโจมตีไปด้วยเขาก็สังหารมันไปได้อีกตัว ส่วนตัวสุดท้ายที่เหลือเองก็ตกตายอย่างรวดเร็วไม่ต่างกันเมื่อต้องเจอกับท่อนเหล็กในมือของเขา
[ท่านได้สังหารค้างคาวถ้ำ ได้รับรางวัล : โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิต (ทองแดงขั้นต่ำ) 1 ขวด]
หลังจากสังหารมอนสเตอร์ค้างคาวทั้งสามตัวไปโจวเฉินก็พบว่าพวกมันดรอปโพชั่นมาขวดนึง
“โชคของเราดูเหมือนดีขึ้นนะ”
เขาเปิดช่องเก็บของเพื่อตรวจสอบคำอธิบายของโพชั่นที่ได้มาในทันที
[โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิต]
[ประเภท : ไอเทมระดับทองแดงขั้นต่ำ]
[คำอธิบาย : โพชั่นนี้สามารถฟื้นฟูและรักษาอาการบาดเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลางได้ในเวลาไม่กี่นาทีและมีผลในการรักษาอาการเจ็บป่วยทั่วๆไปในระดับนึง]
[หมายเหตุ : ยิ่งดื่มมากความเร็วและประสิทธิภาพในการรักษายิ่งเพิ่มขึ้น]
“โพชั่นนี่ไม่เลวเลย ต่อให้ไม่ได้ใช้เองก็น่าจะเอาไปขายเป็นเงวินได้ ราคาเองก็ไม่น่าจะใช่ถูกๆ”
โจวเฉินได้รับบาดเจ็บบ้างเหมือนกันแต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพียงบาดแผลเล็กๆเท่านั้น ซึ่งบาดแผลพวกนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับเขาที่มีสกิลติดตัวอย่างฟื้นฟูพลังชีวิตเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงยังไม่คิดจะดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตขวดนี้
เขาเดิมสำรวจไปตามอุโมงค์ต่อ หลังจากเดินมาได้อีกซักพักเขาก็พบทางแยกเข้าอีกครั้ง พอเดินมาตามทางแยกใหม่ที่พบเจอมาเรื่อยๆเขาก็พบกับเซอร์ไวเวอร์คนนึงเข้า
เป็นสาวร่างสูวที่เรียกตัวเองว่าหลิวนั่นเอง กระบี่ในมือของเธอยังถูกชักออกมาและเสื้อผ้าเองก็เต็มไปด้วยรอยเลือด บนใบหน้าของเธอมีรอยกรีดเล็กๆปรากฏราวกับพึ่งผ่านการต่อสู้อย่างหนักหน่วงมา
เมื่อเธอเห็นโจวเฉินเธอก็มองมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชาราวกับกำลังตรวจสอบบางอย่าง
โจวเฉินเองก็กวาดตามองเธอเช่นเดียวกัน เขารู้สึกได้ว่าหญิงสาวคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีนักเนื่องจากพึ่งจะผ่านการต่อสู้มา
“เธอเองก็ถูกไอ้คนล่องหนนั่นโจมตีเหมือนกันสินะ?”
หลังจากทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ๆกันในระดับนึงแล้วโจวเฉินก็เอ่ยปากถาม
“ใช่”
สาวร่างสูงตอบกลับห้วนๆ
“รู้ตัวตนที่แท้จริงของมันรึยัง?”
โจวเฉินถามอีกครั้ง
“ยัง..แต่ไม่ใช่นายแน่นอน”
สาวร่างสูงตอบกลับ
‘ถ้าอย่างนั้น...’
“ตามการคาดเดาของฉันฉันคิดว่ามีโอกาสสูงมากที่จะเป็นไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าเสี่ยวเฉียงนั่น”
สัญชาตญาณของโจวเฉินมันฟ้องว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาคนนี้ไม่ใช่คนที่จะลอบโจมตีคนอื่น หลังจากคบคิดถึงนิสัยของเซอร์ไวเวอร์แต่ละคนในตอนเริ่มแรกและข้อมูลที่ได้มาจากเสี่ยวหลี่แล้วเขาก็เดาว่าศัตรูที่มองไม่เห็นมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นเสี่ยวเฉียง
“ไม่ใช่เขา เขาตายไปแล้ว”
ยังไงก็ตามสาวร่างสูงกลับส่ายหัว
“ตายแล้ว?”
คำตอบของอีกฝ่ายทำให้โจวเฉินประหลาดใจ
“หรือไอ้นั่นจะไม่ใช่เซอร์ไวเวอร์? หรือบางทีครั้งนี้จริงๆแล้วอาจจะมีเซอร์ไวเวอร์มากกว่า5คน?”
เขารู้สึกได้ว่าหลายๆอย่างเริ่มจะสับสนปั่นป่วนไปหมดแล้ว
“อืม...น่าจะเป็นเซอร์ไวเวอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ตั้งแต่แรกนั่นแหละ”
สาวร่างสูงพยักหน้าน้อยๆอย่างเห็นด้วย
“เอาจริงดิ?”
โจวเฉินยังไม่เชื่อเต็มร้อย
“ถ้างั้นทำไมหมอนั่นถึงหายตัวได้ตลอดเวลาล่ะ?”
“น่าจะเป็นพรสวรรค์หายากบางอย่าง...”
สาวร่างสูงขมวดคิ้ว
“ก็ฟังดูเป็นไปได้จริงๆนั่นแหละ...”
โจวเฉินรู้สึกว่าการอธิบายนี้ฟังขึ้นอยู่เหมือนกัน เขาเองยังได้พรสวรรค์ทรงพลังสุดๆอย่างช่วงชิงสกิลติดตัวมาเลยดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่คนอื่นๆจะไม่ได้พรสวรรค์พิเศษๆมาเหมือนกัน น่าจะเป็นพรสวรรค์บางอย่างที่ทรงพลังมากๆเป็นแน่
ทั้งคู่จบบทสนทนากันที่ตรงนี้
สาวร่างสูงเดินไปยังกำแพงหินและนั่งลงแต่ก็ยังคงกระชับกระบี่ในมือเอาไว้แน่น
โจวเฉินที่เห็นว่าเจ้าหล่อนเหมือนจะอยากพักผ่อนจึงรีบจากไป
หลังจากเดินผ่านอุโมงค์มาอีกแยกแล้วแยกเล่าและสังหารมอนสเตอร์ทั่วๆไปที่พบเจออย่างประปรายเขาก็เจอกับศพๆนึงใกล้ๆกับกำแพงหิน
เป็นชายหนุ่มร่างผอมสูงผู้นั้นนั่นเอง เมื่อโจวเฉินลองสังเกตดูก็พบว่าร่างของเขาเหมือนจะถูกมอนสเตอร์บางตัวกัดแทะ โจวเฉินคาดเดาว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจากบริเวณใบหน้าที่เริ่มเน่าเปื่อยและมีสีเขียวเข้ม
“ติดพิษตายสินะ? หรือหมอนี่จะไปเจอกับงูนั่นเข้า?”
โจวเฉินอยากจะลองหาลอยเขี้ยวบนร่างของเขาอยู่เหมือนกันแต่ร่างกายของอีกฝ่ายส่วนใหญ่ถูกแทะไปจนเหลือแต่เพียงกระดูกแล้วนี่สิ
“การที่มาปักใจว่านายเป็นเจ้าคนล่องหนผู้นั้นทั้งๆที่จริงๆแล้วนายอ่อนแอขนาดนี้แท้ๆฉันเองก็แย่เหมือนกันนะ...”
การตายของเซอร์ไวเวอร์ผู้นี้ค่อนข้างน่าอนาถไม่น้อย หลังจากโจวเฉินคาดเดาสาเหตุการตายของอีกฝ่ายแล้วเขาก็รีบจากไป
พลังกายของเขาถูกใช่ไปส่วนหนึ่งแล้วแต่เขากลับยังหาเจ้าคนล่องหนผู้นั้นไม่เจอ หลังจากเดินผ่านมาอีกสองทางแยกเขาก็เลือกที่จะนั่งลงบนหินเพื่อพักผ่อน
ขณะที่ยังอยู่ในภารกิจเซอร์ไววัลจะไม่สามารถเข้าถึงระบบแชท ฟอรั่ม พื้นที่แลกเปลี่ยนหรือใดๆได้ สหายเองก็สามารถติดต่อกันได้ถ้าอยู่ในดันเจี้ยนเดียวกันเท่านั้น ในตอนนี้เขาทำได้เพียงปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าๆ อย่างมากที่สุดสิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงตรวจสอบหน้าต่างตัวละครหรือช่องเก็บของของตัวเองเท่านั้น